สวี่ต้าซานก้มหน้าไม่กล้าพูด
ส่วนกู่ซิ่วไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ กลัวไฟลามมาถึงตัว
คุณปู่สวี่ทำหน้าบึ้งไม่พอใจแล้วบอกให้สวี่ฮุ่ยขึ้นมากินข้าว สวี่ฮุ่ยยัดหมั่นโถวคำสุดท้ายเข้าปาก “หนูกินอิ่มแล้วค่ะ ไว้คราวหน้าแล้วกันนะคะ”
สวี่เยว่กลอกตาไปมา พูดเสียงอ่อนหวาน “วันนี้แม่ทำอาหารอร่อย ๆ พวกนี้ให้พี่ทั้งนั้น พี่กลับไม่กินสักคำ...”
สวี่ต้าซานและสวี่รั่วเฉินมองสวี่เยว่เป็ตาเดียว
ทว่าสวี่เยว่กลับทำท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “หนูพูดผิดเหรอคะ?”
เธอมั่นใจว่าพ่อกับพี่ชายไม่มีทางเปิดโปงคำโกหกของเธอ
พ่อลูกบ้านสวี่ไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าก้มตากินข้าว
สวี่ฮุ่ยมองสวี่เยว่แล้วหัวเราะ “อาหารอร่อย ๆ พวกนี้แม่ทำให้เธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงโบ้ยมาให้ฉันล่ะ?”
สวี่เยว่กล่าวด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน “พี่ พี่อย่าพูดโกหกตาใสสิ!”
“ฉันพูดโกหก?” สวี่ฮุ่ยหันไปถามสวี่รั่วเฉิน “นายเป็คนตรงไปตรงมาที่สุด บอกคุณปู่คุณย่าสิว่าใครกันแน่ที่พูดโกหก?”
สวี่รั่วเฉินมองสวี่เยว่อยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้า ผ่านไปครู่หนึ่งค่อยพูดกับสวี่ฮุ่ยว่า “เื่แค่นี้เอง ต้องทำให้วุ่นวายด้วยเหรอ!”
ดวงตาสวี่เยว่ฉายแววเย้ยหยันออกมาแวบหนึ่งแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
สวี่ฮุ่ยหัวเราะ “ฉันว่าแล้ว ถุงเท้าข้างหนึ่งเหม็น อีกข้างจะหอมได้ยังไง”
“สวี่เยว่ใส่ร้ายฉัน นายก็ต้องเข้าข้างเธอแล้วปรักปรำฉันแน่!”
“ฉันเป็อะไรในสายตานายกัน? ก็แค่ตัวรับะุที่ถูกสังเวยได้ทุกเมื่อล่ะมั้ง”
“พวกคุณแอบกินของอร่อยกัน แต่กลัวจะโดนคุณปู่คุณย่าจะตำหนิ เลยโยนความผิดมาให้ฉัน พวกคุณยังจะหน้าด้านไร้ยางอายไปมากกว่านี้ได้อีกมั้ย!”
สวี่ฮุ่ยพูดไปพลางน้ำตาแห่งความน้อยใจและเสียใจก็ไหลออกมา
สวี่รั่วเฉินยังพอมีความละอายใจอยู่บ้าง จึงก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด
สวี่ต้าซานกำลังจะพูดอะไรที่เป็ธรรม ก็ถูกคุณย่าสวี่พูดแทรกขึ้นมาก่อน
คุณย่าสวี่ปลอบสวี่ฮุ่ย “ฮุ่ยฮุ่ย อย่าเสียใจไปเลย ย่ากับปู่รู้ดีว่าเยว่เยว่เป็คนยังไง ใจคอโเี้ยิ่งกว่างูพิษ แถมยังชอบประจบสอพลอ เอาใจพ่อของหนูจนรักหัวปักหัวปำ ย่ากับปู่ไม่ได้โง่ ไม่หลงกลยัยเด็กเหลือขอนั่นหรอก!”
คุณย่าสวี่อ้าปากก็ ‘ยัยเด็กเหลือขอ’ ที ‘ยัยขยะ’ ทีจนสวี่เยว่ไม่ได้หน้าแดงก่ำคนเดียว แม้แต่สวี่ต้าซานและคนอื่น ๆ ก็หน้าเสียไปเช่นกัน
ไม่นาน สวี่ต้าซานและคนอื่น ๆ ก็ทานอาหารกลางวันเสร็จ
สวี่เยว่วางตะเกียบแล้วพูดกับสวี่ฮุ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่ พี่บอกว่าจะเอาเงินรางวัลสามพันหยวนที่ทางมณฑลให้มาให้คุณย่า งั้นพี่ก็ไปหยิบมาให้คุณย่าสิ”
สวี่ฮุ่ยทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ “เธอกลัวว่าฉันจะไม่ให้คุณย่าเหรอ ฉันจะไปเอาให้เดี๋ยวนี้แหละ” พูดจบก็เดินไปที่ห้องตัวเอง
สวี่เยว่ถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง
สวี่ฮุ่ยหวงเงินของเธอมาก สวี่เยว่นึกว่าเธอจะไม่ยอมเอาเงินรางวัลสามพันหยวนมาให้ยัยแก่นั่นแน่ ๆ ไม่คิดว่าสวี่ฮุ่ยจะไม่ลังเลเลยสักนิด
เห็นได้ชัดว่าสวี่ฮุ่ยไม่ได้เสียดายเงินสามพันหยวน แต่แค่ไม่อยากเอาเงินมาใช้รักษาเธอเท่านั้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สวี่เยว่ก็ลอบกัดฟันกรอด ๆ
สวี่ฮุ่ยไม่ได้คิดจะเอาเงินรางวัลสามพันหยวนให้คุณย่าสวี่หรอก ชาติที่แล้วคุณย่าสวี่ก็ไม่ได้ดีกับเธอสักหน่อย
ชาติที่แล้ว กู่ซิ่วให้เธอแต่งงานกับพ่อม่ายเพื่อแลกเงินสินสอด คุณย่าสวี่กับคุณปู่สวี่ต่างก็รู้เื่นี้ดี
ก่อนจะเกิดเื่ก็ไม่ได้ช่วยห้ามอะไร พอเกิดเื่แล้วก็เอาเงินสกปรกมาแบ่งกัน ย่าแบบนี้เธอจะกตัญญูไปทำไม?
เธอแค่แสร้งทำเป็เข้าไปเอาเงินในห้องเท่านั้น
สวี่ฮุ่ยค้นหาตามตู้ในห้องอยู่นาน ทันใดนั้นก็วิ่งตาตื่นออกมาแล้วพูดกับคุณย่าสวี่ “คุณย่าคะ! เงินสามพันหยวนของหนูหายไปแล้ว!”
ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็มองไปที่กู่ซิ่วเป็คนแรก
กู่ซิ่วโพล่งขึ้นอย่างโมโห “พวกคุณมองฉันแบบนี้หมายความว่าไง? ฉันทำงานที่หน่วยงานตลอดทั้งเช้า เงินของฮุ่ยฮุ่ยหายไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
สายตาของสวี่ฮุ่ยจับจ้องไปที่สวี่เยว่ เอ่ยน้ำเสียงแฝงนัย “สวี่เยว่อยู่บ้านตลอดทั้งเช้า”
สวี่รั่วเฉินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด “เธอหมายความว่าไง? สงสัยว่าเยว่เยว่ขโมยเงินของเธอเหรอ?”
สวี่ฮุ่ยพูดประชดประชัน “โอ้โห! นายนี่มันเที่ยงธรรมจริง ๆ เลยนะ ออกมาปกป้องเยว่เยว่ด้วย!”
สวี่เยว่พูดปนสะอึกสะอื้นด้วยความน้อยใจทันที “พี่ พี่ไม่ยอมเอาเงินสามพันหยวนออกมาเอง ก็ไม่ควรใส่ร้ายฉันว่าขโมยเงินสิ พี่จะบีบคั้นฉันให้ตายเลยรึไง!”
ก็อยากบีบคั้นให้ตายจริง ๆ นั่นแหละ!
สวี่ฮุ่ยพูดเสียงเอื่อย “ฉันเนี่ยนะอยากบีบคั้นเธอ? ขนาดยืมมือคนอื่นฆ่าฉันเธอยังทำลง ใครกันแน่ที่อยากให้ใครตาย?”
สวี่เยว่หน้าซีดเผือด
สวี่ต้าซานเห็นสวี่ฮุ่ยสร้างเื่ต่อหน้าพ่อแม่เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขารู้สึกขายหน้า
ยิ่งคิดถึงลูกสาวคนเล็กที่นอนปางตายอยู่ในห้องไอซียูหลายวัน เขาก็อดจะลำเอียง ตะคอกใส่สวี่ฮุ่ยไม่ได้ “พอได้แล้ว! ห้ามพูดเื่นี้อีก! ทำไมลูกถึงเป็เด็กเ้าคิดเ้าแค้นแบบนี้นะ!”
“หนูเ้าคิดเ้าแค้นไม่เท่าแม่หรอก! แม่พูดกับหนูมาเกือบสิบเก้าปีว่าเป็เพราะหนูแย่งสารอาหารในท้อง ทำให้ร่างกายของสวี่เยว่อ่อนแอ หนูแบกรับข้อกล่าวหาไร้มูลความจริงนี้มาเกือบสิบเก้าปี ทำไมพ่อไม่ว่าแม่สักคำ?”
สวี่ต้าซานพูดไม่ออก
คุณปู่สวี่ถลึงตาใส่สวี่ต้าซาน “ไอ้ลูกไร้ประโยชน์ โดนเมียจูงจมูก!”
หลี่เซียงเหมยภรรยาของลูกชายคนเล็กสกุลสวี่ถามสวี่ฮุ่ยด้วยความสนใจว่าเื่ยืมมือคนอื่นฆ่าเป็มายังไง
สวี่ฮุ่ยยักไหล่ “หนูไม่กล้าพูดหรอก เดี๋ยวพ่อจะด่าว่าหนูเ้าคิดเ้าแค้นอีก พวกคุณไปถามสวี่เยว่เถอะ เื่ที่เธอลงมือทำเอง ย่อมเล่าได้ละเอียดกว่าฉัน”
สวี่เยว่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าพูด
คุณปู่สวี่พูดกับสวี่ฮุ่ยอย่างอ่อนโยน “หนูพูดมาให้หมดเถอะ ถ้าพ่อหนูกล้าด่าแม้แต่คำเดียว ปู่จะเอาพื้นรองเท้าตบปากให้!”
สวี่ฮุ่ยถึงแสร้งทำท่าทางไม่เต็มใจ เล่าเื่ที่สวี่เยว่ยืมมือคนอื่นมาฆ่าเธอให้คุณปู่สวี่และคนอื่น ๆ ฟังอย่างละเอียด
และถือโอกาสเล่าเื่ที่สวี่เยว่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เพราะใส่ร้ายเธอ แล้วใจนอาการทรุดหนัก ต้องเข้ารับการรักษาเร่งด่วน แต่สวี่ต้าซานกับกู่ซิ่วกลับโยนความผิดมาให้เธอด้วย
คุณปู่สวี่โกรธมาก ด่าสวี่ต้าซานยกใหญ่ บอกว่าเขาเอาสวะมาเป็แก้วตาดวงใจ เอานักเรียนดีเด่นไปเหยียบย่ำ สมองคงมีแต่ขี้เลื่อย
ด่าจนสวี่ต้าซานแทบจะเอาหน้าซุกหว่างขา ส่วนสวี่เยว่ก็ร้องไห้เป็เผาเต่า
เธอรู้อยู่แล้วว่า ‘สวะ’ ที่คุณปู่สวี่พูดถึงหมายถึงเธอ!
คุณย่าสวี่เห็นสวี่เยว่ยังมีหน้ามาร้องไห้ ก็มองเธอด้วยสายตาชิงชังและรังเกียจ “อย่ามาร้องห่มร้องไห้เหมือนพ่อแม่ตายแถวนี้ เอาเงินที่ขโมยมาคืนฉันมาซะ!”
“ฉันไม่ใช่พ่อแม่ของแกที่จะตามใจแกเพราะแกป่วย”
“เด็กใจคออำมหิตแบบแก ควรปล่อยให้ป่วยตายไปซะ!”
สวี่เยว่ยิ่งรู้สึกน้อยใจ เดินน้ำตาร่วงเผาะไปเปิดประตูห้องออกกว้าง
ทำท่าทางบริสุทธิ์ใจ “คุณย่าอยากจะค้นก็เชิญเลยค่ะ ถ้าค้นในห้องหนูแล้วไม่เจอเงินที่ว่า คุณย่าต้องให้พี่สาวขอโทษหนูด้วยนะคะ!”
คุณย่าสวี่พูด “แน่นอนอยู่แล้ว” พูดจบก็เดินไปที่ห้องของสวี่เยว่
สวี่ฮุ่ยรีบพูด “คุณย่า ไม่ต้องไปค้นห้องสวี่เยว่หรอกค่ะ ไปค้นห้องแม่ก็พอแล้วล่ะค่ะ”
เธอเห็นคุณย่าสวี่มองเธอด้วยความไม่เข้าใจ จึงอธิบายว่า “สวี่เยว่แสร้งทำตัวเป็เด็กดีอยู่ เธอขโมยเงินของหนูไปแล้ว เธอต้องเอาไปให้แม่ ไม่มีทางเก็บเงินไว้ในห้องตัวเองแน่ ๆ ค่ะ ถ้าเื่ยังไม่แดง แม่ก็จะช่วยเก็บเงินไว้ให้ ถ้าเื่แดงขึ้นมา แม่ก็จะรับผิดแทนเธอ”
กู่ซิ่วและสวี่เยว่ต่างตื่นตระหนกจนเก็บสีหน้าแทบไม่อยู่
ในห้องของกู่ซิ่วเต็มไปด้วยของขวัญจากตระกูลลู่ รวมถึงเงินสามพันหยวนนั่นด้วย
หากคุณย่าสวี่เห็นของพวกนั้น แล้วค้นเจอเงินสามพันหยวน พวกเธอสองแม่ลูกคงแก้ตัวไม่ได้ และพูดความจริงออกมาไม่ได้ด้วย
กู่ซิ่วร้อนใจจนหน้าแดงก่ำ ะโเสียงดังด้วยความหวาดกลัวว่า “ฮุ่ยฮุ่ย แกอย่าพ่นเืใส่คนอื่น[1] !”
สวี่ฮุ่ยแค่นเสียงดูถูก “หนูได้พ่นเืใส่คนอื่นจริงหรือไม่ ให้ย่าไปค้นห้องแม่ก็รู้แล้วไหม? แม่จะะโทำไม? หรือว่ากินปูนร้องท้องคะ?”
ั้แ่สวี่ฮุ่ยสงสัยว่าสวี่เยว่แอบอ้างเอาความดีความชอบของเธอไป เธอก็เริ่มวางแผนเอาคืน
คุณย่าสวี่คือเครื่องมือในการเอาคืนของเธอนั่นเอง
ตราบใดที่คุณย่าสวี่เห็นของขวัญราคาแพงที่หญิงชราที่เธอเคยช่วยชีวิตไว้ให้มาอยู่ในห้องของสองสามีภรรยาคู่นี้ กู่ซิ่วก็จะต้องรับผิดโดยที่เลี่ยงไม่ได้
และต่อให้ไม่เจอเงินสามพันหยวนในห้องของกู่ซิ่ว คุณย่าสวี่ก็จะปักใจเชื่อว่ากู่ซิ่วเอาเงินสามพันหยวนนั้นไปอยู่ดี ถึงตอนนั้นกู่ซิ่วคงจะลำบาก
กู่ซิ่วพูดอย่างโกรธเคือง “ถ้าค้นแล้วไม่เจอเงินในห้องฉัน แกจะทำยังไง?”
สวี่ฮุ่ยพูดอย่างใจเย็น “ไม่ใช่ว่าแม่กับสวี่เยว่อยากได้คะแนนสอบของหนูนักเหรอ? ถ้าค้นแล้วไม่เจอเงินในห้องแม่ หนูจะให้สวี่เยว่ลูกสุดที่รักของแม่สวมรอยไปเรียนมหาวิทยาลัยแทนหนู”
[1] พ่นเืใส่คนอื่น หมายถึง ใส่ร้ายป้ายสี พูดจาให้คนอื่นดูแย่