เหลียนเซวียนหันข้าง ดวงตามิได้จดจ้องไปด้านหน้า แต่ใช้ประสาทหูที่ว่องไวจับความเร็ว รวมถึงประเมินระยะห่างระหว่างหมูป่าที่กำลังตะบึงเข้ามากับพวกเขา
"หนึ่ง สอง... " เขานับจำนวนอยู่ในใจ โคจรพลังไปที่แขนขวาก่อนซัดมีดออกไป
"อ๋าว...." เสียงกรีดร้องโหยหวนดังกึกก้องไปทั่ว
หมูป่าซึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วล้มลงเกลือกกลิ้งไปมาอยู่กับพื้น อยู่เบื้องหน้าห่างจากพวกเขาไม่ไกล
เสียงร้องแหลมบาดหู ดังจนขี้หูยังะเื เซวียเสี่ยวหรั่นตั้งสติมองออกไป
มีดสีเงินเล่มเล็กปักเข้าที่เบ้าตาซ้ายของหมูป่า เืพุ่งกระฉูดจากดวงตาของมัน หมูป่าดิ้นพล่านไปทั่ว โลหิตแดงฉานไหลหยดเต็มพื้น
เซวียเสี่ยวหรั่นมองแผ่นหลังของเรือนร่างผ่ายผอมทว่าผึ่งผายงามสง่าตรงหน้า หัวใจเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมเลื่อมใส
อาเหลยปีนขึ้นไปบนต้นไม้ั้แ่เห็นหมูป่าวิ่งพุ่งตรงเข้ามาแล้ว เสียงของหมูป่าดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้มันใจนตัวสั่น
สีหน้าของเหลียนเซวียนกลับเริ่มซีด เขาปล่อยมือเซวียเสี่ยวหรั่น ก้มลงเก็บไม้เท้าที่โยนทิ้งไปเมื่อครู่นี้ขึ้นมา ขาข้างหนึ่งค่อยๆ เลื่อนถอยไปด้านหลัง ตั้งเป็จุดศูนย์ถ่วง สองมือกุมปลายไม้เท้าด้านหนึ่งชูขึ้น
เซวียเสี่ยวหรั่นอ้าปากค้างตกตะลึง เขาตั้งท่าเหมือนจะตีเบสบอลแบบนี้ หรือว่าคิดจะจัดการกับหมูป่า?
"อ๋าว..." ฝ่ายหมูป่าซึ่งเ็ปปานจะขาดใจก็เดือดดาลเป็ที่สุด หลังจากดิ้นเร่าอยู่สองสามรอบ ก็โซซัดโซเซพุ่งเข้าหาพวกเขาอีก
เหลียนเซวียนรวบรวมกำลังภายในเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงไม้เท้าออกไปสุดแรง
เสียง "ปึก" ดังกึกก้อง ไม้เท้าฟาดกลางแสกหน้าหมูป่าตัวนั้นพอดี
หลังจากเสียงร้องโหยหวนอีกระลอกสิ้นสุดลง ทิศทางที่พุ่งชนของมันเริ่มสะเปะสะปะ จนในที่สุดก็ลมโครม น้ำลายฟูมปากชักตาตั้ง
เซวียเสี่ยวหรั่นมองไปบนหัวของหมูป่า กะโหลกของมันยุบลงไปเป็หลุมใหญ่
"เหลียนเซวียน ท่านร้ายกาจจริงๆ"
หลังจากพ้นอันตรายมาได้แล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็กรีดร้องด้วยความดีใจอย่างไม่อาจสะกดกลั้น
แต่เหลียนเซวียนที่อยู่ด้านหน้ากลับคว้าไม้เท้าแล้วค่อยๆ นั่งลง อย่าว่าแต่ใบหน้าที่ซีดเผือด ยังมีเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผากทั้งที่เป็ฤดูหนาว
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นเช่นนั้นก็ใจนหน้าถอดสี ย่อตัวลงมาข้างกายเขาอย่างวิตกกังวล "เหลียนเซวียน ท่านเป็อย่างไรบ้าง"
เหลียนเซวียนพยายามส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็ไร แต่มือที่กุมไม้เท้ากลับสั่นระริก แล้วเซวียเสี่ยวหรั่นจะวางใจอย่างไร
"ใช้พลังมากเกินไปใช่หรือไม่ ปรกติท่านออกไปล่าสัตว์ ปามีดครั้งเดียวยังต้องพักครึ่งวัน วันนี้ใช้พลังไปตั้งเยอะ ต้องหมดแรงแล้วแน่ๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงเื่นี้ได้ "ท่านดันทุรังเกินไป ปามีดใส่หมูป่าไปแล้ว ให้ข้าพ่นพริกใส่มันอีกทีก็ได้ มันต้องตาบอดจนหาทิศไม่เจอแน่นอน"
เหลียนเซวียนตวัดสายตามาที่เซวียเสี่ยวหรั่นอย่างไร้เรี่ยวแรง ตัวกะเปี๊ยกอย่างนาง ถูกหมูป่าขวิดทีเดียวก็ชีวิตก็หาไม่แล้ว ใครกันแน่ที่ดันทุรัง
พอรู้ว่าเขาแค่หมดแรง เซวียเสี่ยวหรั่นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก "ท่านพักครู่หนึ่งก่อน ข้าจะไปดูหน่อยว่าหมูป่าตายสนิทรึยัง"
หมูป่าล้มหงายหลังชักกระตุกอยู่นาน ตอนนี้ไม่ขยับแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นตื่นเต้นจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ หมูป่าตัวใหญ่ขนาดนี้ พอเป็อาหารให้พวกเขาได้เกือบทั้งฤดูหนาว
ครานี้เหลียนเซวียนไม่ขัดขวาง หมูป่าถ้ายังไม่ตายก็ร่อแร่เต็มทน
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบท่อนไม้มาเขี่ยหมูป่าอยู่ไกลๆ เห็นไม่มีความเคลื่อนไหว ถึงกล้าเข้าไปใกล้อีกนิด
หมูป่าเืออกเจ็ดทวาร เห็นชัดว่าจบเห่โดยสิ้นเชิง ถูกไม้เท้าของเหลียนเซวียนทุบจนหัวแบะ เืยังไหลออกจากหู จมูก และปากไม่หยุด
"เป็หมูป่าที่ใหญ่มากจริงๆ " ดวงตาของเซวียเสี่ยวหรั่นทอประกายวิบวับมองสำรวจรอบตัวมัน "ไม่สองร้อยชั่งก็ใกล้เคียงล่ะน่า ว่าแต่จะเอากลับไปยังไงดีล่ะ"
ปัญหาข้อแรกที่เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงก็คือ จะขนมันกลับไปอย่างไร
"จะลากไปทั้งตัว ข้าไม่มีเรี่ยวแรงเยอะขนาดนั้น ดูท่าคงต้องชำแหละก่อน แล้วแบ่งออกเป็สองสามส่วนค่อยขนกลับไป เสียดายก็แต่เืหมูนี่แหละ" เซวียเสี่ยวหรั่นปวดใจเสียดายอยู่บ้าง เืหมูป่าทั้งตัวน่าจะได้หนึ่งถังใหญ่เชียวนะ
เหลียนเซวียนนึกเหยียดหยันในใจ ก่อนเริ่มนั่งขัดสมาธิ ฟื้นฟูกำลังภายใน ปรกติแล้วหมูป่าจะอยู่รวมกันเป็ฝูง มีตัวหนึ่งมาที่นี่ หมูป่าตัวอื่นก็คงอยู่ไม่ไกลนัก ตรงนี้อันตรายเกินไป
เซวียเสี่ยวหรั่นก็ตระหนักปัญหาข้อนี้ ดังนั้นขณะที่ปากบ่นงึมงำ มือก็เริ่มปฏิบัติงาน
การชำแหละหมูป่าทั้งตัว ไม่ใช่เื่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้เงื่อนไขที่อุปกรณ์ไม่ครบมือ ใช้ได้แค่มีดเล็กๆ ในการผ่าถลกหนังหมูป่าตัวอ้วนพี
อาเหลยสังเกตบนต้นไม้อยู่นาน จนแน่ใจว่าไม่มีอันตรายแล้ว ถึงะโลงมา
แต่ต่อมาเมื่อเห็นเซวียเสี่ยวหรั่นตัวมีแต่กลิ่นคาวเืกำลังชำแหละหมูป่าก็ใจนตัวสั่น วิ่งไปหลบด้านหลังเหลียนเซวียน
เซวียเสี่ยวหรั่นกำลังจัดการหมูป่า ไม่มีเวลาสนใจมัน
ไม่มีมีดเล่มใหญ่ จึงต้องแล่เนื้อส่วนใหญ่ออกมาเป็ชิ้นๆ กระดูกที่เหลือก็ใช้วิธีเดียวกับครั้งก่อน คือใช้หินก้อนใหญ่ทุบให้หัก
เืหมูป่าสาดกระจายเต็มพื้น เซวียเสี่ยวหรั่นเองเห็นแล้วก็ยังผวา
พอเห็นอาเหลยตัวสั่นงันงกหลบอยู่ข้างหลังของเหลียนเซวียน เธอก็รีบเปล่งเสียงปลอบประโลม "ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว อาเหลย นี่คือหมูป่า เป็ตัวกินล้างกินผลาญ ดุร้ายมาก เมื่อครู่เ้าไม่เห็นหรือว่ามันร้ายกาจแค่ไหน หากไม่จัดการมัน คนเคราะห์ร้ายก็คือพวกเราเอง เข้าใจไหม?"
"เนื้อหมูป่าสามารถเอามาต้มกินได้ เหมือนกับกระดูกที่เ้ากินเป็ประจำนั่นแหละ เข้าใจหรือยัง"
เซวียเสี่ยวหรั่นชี้ไปที่กระดูกกองโตแล้วเปรียบเทียบ
แม้อาเหลยจะดูเหมือนยังไม่เข้าใจ แต่การปลอบโยนของเซวียเสี่ยวหรั่นได้ผล มันไม่หวาดผวาอีกต่อไป
เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยโล่งใจ เธอกลัวว่าเื่นี้จะทำให้อาเหลยหวาดกลัวจนห่างเหินกับตนเอง
"เหลียนเซวียน ข้าจะขนของกลับไปทีละหน่อย ท่านอยู่ที่นี่ระวังตัวด้วยล่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นยังกังวลอยู่บ้าง เธอไปริมธารล้างมีดให้สะอาด แล้วเอากลับมาวางให้เหลียนเซวียนใช้ป้องกันตัว "มีดวางอยู่ข้างมือขวาของท่าน"
"อาเหลย เ้ารอที่นี่นะ ถ้ามีอันตราย ก็ปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้ เข้าใจไหม"
เซวียเสี่ยวหรั่นชี้ไปบนต้นไม้ที่มันเพิ่งปีนลงมา หลังจากกำชับจนเข้าใจแล้ว ก็แบกหัวเฝิ่นเฮ่อวิ่งกลับไป
เธอต้องเร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก
แถวริมธารแห่งนั้นอันตรายมาก พวกเหลียนเซวียนไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นั่นนานเกินไป
เธอวิ่งมาตลอดทาง พอมาถึงทางแยกเหลือบมองปลาตะกร้าใหญ่ที่วางอยู่ตรงนั้น ก็โอดครวญในใจ ของที่ต้องย้ายยังมีอีกเยอะเลย
เธอแทบจะกลั้นใจวิ่งมุ่งตรงกลับถ้ำสุดชีวิต
วิ่งไปมาสองรอบ เอาเถาเฮ่อกับปลาโยนไว้ปากถ้ำ แล้วฉวยตะกร้าเปล่าวิ่งกลับไปหาเหลียนเซวียนอีกรอบ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าขาเริ่มจะลากแล้ว
แต่เธอหยุดไม่ได้ หมูป่าตัวหนึ่ง ไม่เอาเืกับหัว ลำพังแค่เนื้อกับกระดูกก็หนักร้อยกว่าชั่งแล้ว เธอหิ้วกลับมารอบละสามสิบชั่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องวิ่งสี่ห้ารอบ สองชั่วโมงก็อาจยังขนไม่หมด
โอ้ว มาย ก็อด.... เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกได้ว่าตะคริวมาเยือนถึงต้นขาแล้ว
เหลียนเซวียนซึ่งนั่งอยู่ได้ยินเสียงกระหืดกระหอบของเธอก็ลืมตาขึ้น
"เหลียนเซวียน ข้าจะประคองท่านขึ้นไปนั่งบนโขดหิน" เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกว่าเธออาจต้องเสียเวลาอีกนาน "นี่เป็หมูป่าตัวผู้ น่าจะมีหมูตัวเมียกับลูกของมันอยู่แถวนี้ ถ้าหมูตัวเมียเกิดตามมา ท่านรออยู่บนโขดหิน พวกมันก็ปีนขึ้นมาไม่ได้ ปลอดภัยกว่าเยอะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าไปประคองเขา แต่เหลียนเซวียนกลับส่ายหน้าบอกว่าไม่จำเป็
"ไม่ได้ ต้องขึ้นไป ตอนนี้สภาพร่างกายของท่านไม่ดี เนื้อกับกระดูกเหล่านี้เยอะเกินไป อีกครู่ใหญ่ก็คงยังขนไม่หมด ถ้าพวกหมูตัวเมียตามมา ท่านจัดการกับหมูป่าเยอะขนาดนั้นไม่ไหวหรอก"
เซวียเสี่ยวหรั่นยืนกราน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาอวดเก่ง
เหลียนเซวียนยังคงส่ายหน้า
เซวียเสี่ยวหรั่นเริ่มโมโห
บรรยากาศตึงเครียดไปชั่วขณะ