“พิษเหรอ?” ฉันมองอักษรจีนตัวเต็มตัวนี้อย่างงงวย สายตาแฝงไปด้วยความครุ่นคิด อักษรตัวนี้้าจะบอกอะไรฉันกันแน่ หรือว่าซูหย่าเสพยาเหรอ? แต่เหมือนว่าซูหย่าไม่ได้มีประวัติการเสพยา โดยเฉพาะรูปร่างของเธอไม่ว่าจะมองยังไง ก็ไม่เหมือนคนเสพยา
ฉะนั้นอักษรตัวนี้แสดงถึงอะไรล่ะ ฉันครุ่นคิดอย่างหนักอยู่นาน ยังคงหาคำตอบไม่ได้ ในที่สุดฉันก็ทำได้แค่เอนนอนลงบนเตียงแล้วมองฝ้าเพดานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เวลานี้ ทันใดนั้นในกลุ่มได้มีข้อความของเฉินเฟิงเตือนขึ้นมาทันที
การแข่งขันเป่ายิ้งฉุบแห่งความตายได้เข้าสู่รอบสุดท้ายแล้ว สถานการณ์ตอนนี้คือ ตวนมู่เซวียนมี 3 ชีวิต ซูหย่ามี 3 ชีวิต หวางเจิ้งมี 3 ชีวิต มี่เสี่ยวหยู่มี 1 ชีวิต จางเว่ยมี 2 ชีวิต หยางย่าซินมี 0 ชีวิต
ฉันรีบลุกจากเตียง มองโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าท่าทางใ ดูแล้วการแข่งในรอบสุดท้ายของหวางเจิ้งกับมี่เสี่ยวหยู่ จะรู้ผลแพ้ชนะแล้ว หวางเจิ้งได้รับชัยชนะในที่สุด เช่นนั้นตอนนี้ทางออกเพียงหนึ่งเดียวของฉันก็คือจะต้องแข่งรอบสุดท้ายกับมี่เสี่ยวหยู่
มีเพียงแค่ 2 ชีวิตของฉันบวกกับ 1 ชีวิตของมี่เสี่ยวหยู่ ในพวกเราถึงจะมีคนชนะ นึกถึงจุดนี้แล้ว ฉันรีบส่งข้อความให้กับมีเสี่ยวว่า “มี่เสี่ยวหยู่ แข่งกับฉันเถอะ นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของพวกเราแล้ว”
มี่เสี่ยวหยู่ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ขอโทษด้วย ฉันจะไม่แข่งกับใครทั้งนั้นแล้ว ให้มันสิ้นสุดอย่างนี้เถอะ”
ฉันใจนหน้าซีด คิดไม่ถึงว่ามี่เสี่ยวหยู่จะปล่อยวางแล้ว นี่ก็น่าแปลก เธอเหลือแค่ 1 ชีวิตแล้ว นอกจากว่าจะชนะติดกัน 2 รอบ มิฉะนั้นแล้วไม่อาจจะชนะออกมาได้ และฉันก็้าชนะอีกแค่ครั้งเดียวก็ได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้ ในเวลานี้ มีเสี่ยวหยู่ก็ไม่อยากจะแข่งกับฉันแล้ว
“มี่เสี่ยวหยู่ ทำไมไม่แข่งกับฉันล่ะ? เธอก็น่าจะรู้ นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของพวกเราแล้ว หากแพ้แล้ว พวกเราจะต้องตายแน่นอน” ฉันรีบพูดใน QQ
มี่เสี่ยวหยู่ตอบคำถามฉันใน QQ อย่างรวดเร็วว่า “จางเว่ย นายอย่าเข้าใจว่าฉันไม่รู้ว่านายเก่งมากแค่ไหน ฉันรู้ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาย ในเมื่อเป็เช่นนี้ ทุกคนก็ตายด้วยกันเถอะ!”
“น่ารังเกียจ!” หลังจากที่ฉันเห็นข้อความนี้ ะโด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น แต่ทว่าฉันยังคงพูดโน้มน้าวใน QQ ด้วยความอดทนว่า “เธอน่าจะแข่งกับฉันนะ เป่ายิ้งฉุบของพันนี้ ล้วนแล้วแต่อาศัยโชคชะตา ไม่ใช่ว่าเธอจะต้องแพ้ให้ฉันแน่นอน”
“เห้อ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายเอาชนะติดกันมาหลายคนแล้ว นอกจากซูหย่าแล้ว นายยังเอาชนะหยางย่าซิน รอบแรกหากบอกว่าเป็เพราะโชคช่วย แล้วครั้งที่ 2 ล่ะ? สิ่งเหล่านี้ซูหย่าล้วนบอกฉันหมดแล้ว” มีเสี่ยวหยู่พูดใน QQ
“เป็ซูหย่าจริงๆ ด้วย” ฉันกัดฟันพูด ดูแล้วซูหย่ามีเจตนา้าให้ฉันตาย ด้วยเหตุนี้จึงพูดกับมี่เสี่ยวหยู่เช่นนี้ ตอนนี้มี่เสี่ยวหยู่มีเพียงแค่ชีวิตเดียว แน่นอนว่าจะต้องระวังเป็อย่างยิ่ง จึงไม่ยอมแข่งกับฉัน
ตอนนี้มีแค่มี่เสี่ยวหยู่ที่ยังมี 1 ชีวิต หากเธอไม่ยอมแข่งกับฉัน เช่นนั้นหากถึงพรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่ พวกเราทั้งหมดก็ต้องตาย นึกถึงตรงนี้แล้ว ในใจฉันเริ่มดิ้นรนอย่างยิ่ง
“มี่เสี่ยวหยู่ อย่างนี้ดีไหม ฉันตั้งใจแพ้ให้เธอ 1 รอบ หลังจากนั้นก็แข่งกับเธออีก เช่นนี้พวกเราก็ไม่ติดค้างกันแล้ว” ฉันพูดใน QQ
“เฮอเฮอ นายอย่าคิดที่จะหลอกฉัน ซูหย่าบอกกับฉันไว้แล้ว ยังไงฉันก็จะไม่แข่ง หากนายอยากจะแข่งกับฉัน นอกจากว่าจะตั้งใจแพ้ให้ฉัน” มี่เสี่ยวหยู่พูด
“ฝันไปเถอะ!” ฉันพูดใน QQ อย่างรุนแรง ในใจไม่เพียงแค่โกรธแค้นซูหย่า ยังเกิดความเคียดแค้นต่อมี่เสี่ยวหยู่ มี่เสี่ยวหยู่คนนี้ชอบความหรูหรา เป็ผู้หญิงที่สร้างปัญหาให้กับผู้ชายได้ทั้งวัน ปกติก็เยาะเย้ยฉันไว้ไม่น้อย ครั้งก่อนเธอยังตั้งใจสารภาพรักฉัน ทำให้ฉันต้องปล่อยไก่อย่างโง่เขลา
“ดูแล้วพวกเธอน่าจะอยากตาย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น หลังจากนั้นก็ปิดโทรศัพท์ แล้วทรุดนั่งลงบนเตียง ฉันรู้วันนี้ไม่ว่ายังไงมี่เสี่ยวหยู่ก็จะไม่แข่งกับฉันแล้ว
โชคยังดีที่พรุ่งนี้ยังมีเวลา เวลาที่เกมเป่ายิ้งฉุบแห่งความตายนี้จะสิ้นสุดลง คือ 8 โมงเช้าวันจันทร์ตรงเวลา ใน่เวลาสั้นๆ นี้ฉันยังคงปล่อยไป่หนึ่ง ดูแล้วควรที่จะดำเนินการอะไรบางอย่างใน่เวลาสั้นๆ นี้แล้ว
นึกถึงตรงนี้แล้ว ฉันเริ่มนั่งไม่ติด จึงหยิบเข็มทิศไท่กงขึ้นมา ฉันเดินออกไปข้างนอกประตูบ้าน เข็มที่อยู่บนเข็มทิศไท่กงหมุนไปมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่ากำลังนำทางฉัน
ฉันเดินตามการนำทางของเข็มทิศไท่กง ไม่นานก็มาถึงบ้านของซูหย่า บ้านของซูหย่าเป็บ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่ใหญ่โตมากหลังหนึ่ง ตอนงานวันเกิดของซูหย่าฉันเคยมาที่นี่แล้ว
แม้ว่าเป็เพราะไม่ได้เตรียมของขวัญให้เธอดังนั้นจึงถูกหลายๆ คนมองบนใส่ แต่ทว่าฉันยังคงทานอาหารด้วยความหน้าหนาอยู่มื้อหนึ่ง ตอนที่มาบ้านของซูหย่า ซูหย่าไม่อยู่บ้านพอดี ทั้งบ้านไม่มีคนเลย
ฉันเดินไปรอบๆ บ้านอยู่ 1 รอบ กลับไม่พบอะไรน่าสงสัย มากที่สุดก็แค่ต้นแอปเปิ้ลต้นหนึ่ง ที่สูงสง่าสวยงามมากแค่นั้น และอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรจริงๆ ฉันมองไปรอบหนึ่งด้วยความผิดหวัง หลังจากนั้นก็ไปถามเพื่อนบ้านของซูหย่า
“หนุ่มน้อย เธอมาหาฉันมีเื่อะไร?” คนวัยกลางคนคนหนึ่งมองฉันพลางถาม
“ผมอยากถามว่า สถานการณ์บ้านของซูหย่าน่ะ ผมอยากจะตามจีบเธอมาก ดังนั้นอยากจะรู้เื่ราวเกี่ยวกับเธอบ้าง” ฉันส่งบุหรี่ 1 มวนให้กับคนวัยกลางคน หลังจากนั้นก็พูดอย่างระมัดระวัง
คนวัยกลางคนก็ไม่ได้แปลกใจอะไร แล้วจุดบุหรี่ เขาพูดด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งว่า “ในเมื่อเป็เช่นนี้ ฉันก็จะบอกเื่ราวบางอย่างแกเธอ คุณพ่อของซูหย่าเป็นักธุรกิจ คุณแม่หายสาบสูญไปั้แ่ครึ่งปีก่อน คุณพ่อก็ไปดูงานต่างถิ่นทุกวัน ด้วยเหตุนี้ปกติจะมีแต่เธอคนเดียวที่อยู่บ้าน ปกติซูหย่าคนนี้จะพาผู้ชายกลับบ้านมาด้วยทุกวัน ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไรคนหนึ่ง หนุ่มน้อย ฉันจะแนะนำเธอทางที่ดีอย่าตามจีบเธอเลย”
“ฉันรู้แล้ว ขอบคุณมากครับคุณลุง” ฉันก้มหัวพูดด้วยความเคารพนมนอบ หลังจากนั้นก็หันหลังเดินออกมา ฉันคิดว่า ฉันเดาออกแล้วว่าอักษรที่อยู่บนเข็มทิศไท่กงหมายความว่าอะไร
วันที่ 2 ฉันมาโรงเรียนตามปกติ ตอนนี้เป็วันจันทร์แล้ว ฉันมาที่ห้องเรียนั้แ่เช้า แล้วมองนาฬิกาสักหน่อย เวลา 7 โมงตรงแล้ว
อีก 1 ชั่วโมง เกมเป่ายิ้งฉุบแห่งความตายก็จะสิ้นสุดลงแล้ว หากถึงเวลานั้นฉันยังไม่ได้ 3 ชีวิต เช่นนั้นฉันก็ต้องตาย แต่มองผิวเผินแล้ว ฉันยังคงมีใบหน้าที่สงบนิ่ง
เดินไปที่โต๊ะอย่างเชื่องช้า หลี่โม่ฟ๋านที่อยู่ข้างๆ รีบถามฉันว่า “ลูกพี่ นายทำไมไม่แข่งกับมี่เสี่ยวหยู่ล่ะ ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงแล้ว”
“เป็เธอที่ไม่ยอมแข่งกับฉันต่างหาก” ฉันพูดด้วยใบหน้าที่กลัดกลุ้ม
“งั้นก็ลำบากแล้ว มี่เสี่ยวหยู่ได้แสดงความชัดเจนแล้ว ก็คือ้าจะดึงนายให้ตายไปด้วยกัน” หลี่โม่ฟ๋านพูดด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น
“ไม่” ฉันส่ายหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “มี่เสี่ยวหยู่ไม่ได้โง่ขนาดนั้น เธอเป็ผู้หญิงที่อยู่กับความเป็จริงอย่างมากคนหนึ่ง และจะไม่ตายพร้อมกับฉัน เธอมีวิธีที่จะรับมือกับฉันแน่นอน”
“เป็ไปไม่ได้ ทักษะการเป่ายิ้งฉุบของเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายแน่นอน” หลี่โม่ฟ๋านส่ายหน้าพลางพูด
“ฉันไม่กลัวว่าเธอจะชนะฉัน สิ่งที่ฉันกลัวคือเธอได้ร่วมมือกับซูหย่า” ฉันปริปากพูดด้วยสีหน้าที่เมินเฉย
“ไม่ผิด หากเป็อย่างที่พูด คนแพ้ก็ต้องเป็นายแล้ว” หลี่โม่ฟ๋านพูด
และเย่รั่วเซวี่ยก็เดินมาข้างๆ ที่นั่งฉัน ณ เวลานี้เธอไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่นแล้ว พูดด้วยสีหน้าที่เร่งรีบว่า “นายรีบคิดหาทางแข่งเถอะ จนถึงตอนนี้นายยังมีแค่ 2 ชีวิตเอง”
“วางใจเถอะ ฉันไม่ตายหรอก ฉันมีวิธีที่จะเอาชนะได้” ฉันแสยะยิ้มพูด กับท่าทางที่เหมือนกับว่ามีชัยชนะอยู่ในกำมือแล้ว ซึ่งเช่นนี้ได้ทำให้เย่รั่วเซวี่ยเต็มไปด้วยความโกรธ
“นายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เป่ายิ้งฉุบจะมีวิธีการที่เอาชนะได้อย่างไรเล่า? ถึงจะเป็คนที่เป่ายิ้งฉุบเก่งที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะชนะ 100%เต็มน่ะ?”
“ไม่ผิด ถึงจะเป็นักกีฬาเป่ายิ้งฉุบที่มีประสบการณ์ ก็ไม่สามารถชนะได้100%เต็ม แต่เชื่อฉันเถอะ ฉันจะไม่แพ้แน่นอน” ฉันพูดอย่างมั่นใจ
“ไม่รู้จริงๆ ว่านายไปเอาความมั่นใจมาจากไหน มันทำให้ฉันโมโหจริง ๆ” ใบหน้าน้อยๆ ที่น่ารักของเย่รั่วเซวี่ยเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม แต่ทว่าเธอก็กลับไปนั่งที่ของตนเอง เหลือแค่เพียงดวงตาที่มีความเป็กังวลคู่นั้น ที่มองฉันอยู่ตลอดเวลา
ในเวลานี้ ทันใดนั้นนักเรียนชายคนหนึ่งะโว่า “จางเว่ยนายออกมา มี่เสี่ยวหยู่เรียกนายน่ะ”
“ฉันรู้แล้ว” ฉันพยักหน้า หลี่โม่ฟ๋านที่อยู่ข้างๆ รีบอยากจะตามฉันไปด้วย แต่ถูกฉันสะบัดมือปฏิเสธ
“ฉันไปคนเดียวก็พอแล้ว วางใจได้ ฉันจะต้องนำชัยชนะกลับมาได้แน่นอน” ฉันฉีกยิ้ม ในขณะเดียวกันดวงตาคู่นี้ได้มองเย่รั่วเซวี่ยแวบหนึ่ง หลังจากนั้นหันหลังออกจากห้องเรียนไป
มี่เสี่ยวหยู่กำลังรอฉันอยู่ที่โกดังหลังโรงเรียน แต่ฉันเพิ่งมาถึงโกดัง ก็ถูกพวกผู้ชายที่ดักซุ่มอยู่ก่อนแล้วตรงเข้ามาจับตัว มือของฉันถูกพวกเขาจับไขว้ไว้ด้านหลัง
“เฮอเฮอ จางเว่ย นายออกจะฉลาดอย่างนั้น ในที่สุดไม่ใช่ว่านายก็ตกอยู่ในมือฉันเหรอ?” น้ำเสียงของซูหย่าดังขึ้งพลางแสยะยิ้ม เธอเดินมาตรงหน้าฉันอย่างช้าๆ และข้างๆ เธอก็คือมี่เสี่ยวหยู่ที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยภาคภูมิใจ
“ครั้งนี้เธอยังคิดที่จะข่มขู่ฉันอีกเหรอ? เธอก็น่าจะรู้ว่าสำหรับฉันที่ใกล้จะต้องตายแล้วนั้น เพื่อรักษาชีวิตไว้ ย่อมสละได้ทุกอย่าง” ฉันพูดด้วยความไม่พอใจ
“ฉันไม่ได้หวังที่จะข่มขู่นายเลย แต่ในเมื่อเป็การเป่ายิ้งฉุบ หากให้คนอื่นบังคับให้นายเป่ายิ้งฉุบแล้วล่ะก็ ผลที่ได้ก็ไม่ใช่ว่ายังเหมือนกันเหรอ” ซูหย่าฉีกยิ้มพูด สีหน้าฉันคลายลงฉับพลัน
และผู้ชาย 3 คนที่อยู่ด้านหลังฉัน คนหนึ่งรับผิดควบคุมตัวฉัน อีกคนรับผิดชอบจับมือฉันไว้ รวมทั้งกุมมือฉันให้ออกเป็ค้อน ซึ่งฉันก็พยายามจะดิ้นรน แต่กลับไม่มีประโยชน์
ในที่สุดฉันก็รู้ว่าพวกเขา้าจะทำอะไร จริงๆ แล้วพวกเขา้าจะควบคุมร่างกายฉัน เช่นนี้การเป่ายิ้งฉุบฉันก็ต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะว่าแค่มีเสี่ยวหยู่ออกกระดาษ ฉันก็ไม่อาจจะชนะได้
“ต้องขอบใจพี่จริงๆ เลยนะ พี่ซูหย่าต่อไปฉันจะเชื่อฟังพี่” มี่เสี่ยวหยู่ชำเลืองมองฉันอย่างสะอิดสะเอียน หลังจากนั้นก็มองซูหย่าอย่างประจบสอพลอ
“ไม่เป็ไร เื่เล็กน่ะ ยังไงก็ตามเธอรีบแข่งเถอะ” ซูหย่าพูดพลางยิ้ม
“งั้นก็ขอบใจมาก” มี่เสี่ยวหยู่พูดพลางยิ้ม มีวิธีการของซูหย่าแล้ว ก็เหมือนกับว่าเธอได้กุมชัยชนะไว้ในกำมือแล้ว รูปร่างของฉันผอมและอ่อนแอ จึงไม่สามารถที่จะเป็คู่ต่อสู้ของนักกีฬาที่กำยำล่ำสัน 2 คนนี้ได้จริงๆ
มือของฉันถูกผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งใช้กำลังบีบเป็ค้อนไว้ แรงของฉันไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลย เพียงแค่ฉันขยับ ผู้ชายที่อยู่ข้างก็จะตบฉันทีหนึ่ง
แค่เวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที หน้าฉันก็โดนตบไปแล้วหลายครั้ง ทำให้หูฉันมีอาการหูอื้ออยู่บ้าง เวลานี้ฉันกับกลับปริปากแสยะยิ้มพูด
“มี่เสี่ยวหยู่ ซูหย่า ฉันจะไม่ยอมรับว่าพวกเธอร้ายกาจมากก็ไม่ได้สิ แต่ว่าพวกเธอได้ทำความผิดที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต อย่าลืมล่ะ ว่ายังไงฉันก็เป็ผู้ชายคนหนึ่ง”