“เ้าเป็ใคร?” หยวนเฉิงถามหลี่จงิ “ที่นี่เป็เรือนสกุลหลี่ ข้าเป็ลุงของลั่วเกอเอ๋อร์ ข้ายังพบเขาไม่ได้อีกหรือ?”
“ไม่มีคำสั่งของคุณชาย ผู้ใดก็เข้าไปไม่ได้” หลี่จงิตอบ
“กำเริบนัก” หยวนเฉิงหรี่ตา “ในเมื่อเ้าเป็บ่าวรับใช้ของลั่วเกอเอ๋อร์ ก็สมควรที่จะรู้กฎระเบียบของบ่าวไพร่”
หลี่จงิตอบด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงว่า “ข้าคือราชองครักษ์ขั้นห้าที่ฝ่าาแต่งตั้ง ใต้เท้าท่านนี้ยังมีคุณสมบัติไม่มากพอที่จะมาเรียกข้าว่าบ่าวไพร่”
“เ้า...” หยวนเฉิงคาดไม่ถึงว่าชายวัยกลางคนผู้นี้มียศเป็ถึงขุนนาง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ต่อให้เ้าเป็ราชองครักษ์ขั้นห้าแล้วอย่างไรเล่า? ที่นี่คือจวนสกุลหลี่ ยังไม่ถึงวันที่เ้าจะมาเป็นาย วันนี้ข้าต้องพบลั่วเกอเอ๋อร์ ให้ข้าเข้าไป”
หลี่จงิยืนกอดกระบี่อยู่หน้าประตูเรือน ไม่หลีกทางให้
“พวกเ้า บุกเข้าไปเลย” หยวนเฉิงสั่งบ่าวรับใช้ของตน
“เกิดเื่อันใดขึ้น?” พ่อบ้านจี้เดินออกมา เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าประตูเรือนจึงเอ่ยถามขึ้น
“พ่อบ้านจี้ ท่านมาได้จังหวะดียิ่ง” หยวนเฉิงกล่าว “คนผู้นี้อาศัยว่ามีตำแหน่งขุนนางมาขวางอยู่ที่นี่ ไม่ให้ข้าเข้าไปพบลั่วเกอเอ๋อร์ นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน? พ่อบ้านจี้ ท่านมาอบรมสั่งสอนคนผู้นี้เสีย”
“คุณชายใหญ่หยวนขอรับ รองแม่ทัพหลี่เป็คนของโหวเหฺย ข้าเป็เพียงบ่าวคนหนึ่ง ไม่มีอำนาจที่จะจัดการเื่เหล่านี้ขอรับ” พ่อบ้านจี้พูดเรียบๆ
“เ้าพูดอะไรน่ะ?” หยวนเฉิงมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว “นี่พวกเ้า้าทำอันใดกัน? ต้องให้เชิญเหล่าไท่ไท่มาให้ได้ใช่หรือไม่? ลั่วเกอเอ๋อร์อายุน้อยแค่นี้กลับสั่งโบยพี่ชายของเขาแล้วให้โยนเขาออกจากจวนโหว นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”
พ่อบ้านจี้ไม่ได้ตอบคำถามหยวนเฉิง “เื่ที่โหวเหฺยสั่งการ บ่าวไม่มีสิทธิ์ถามว่าทำไมหรอกขอรับ”
“เ้า...เปิดประตูใหญ่เดี๋ยวนี้ ปล่อยให้ข่ายเกอเอ๋อร์เข้ามา หากเกิดอะไรขึ้นกับข่ายเกอเอ๋อร์ พวกเ้า...ข้าจะให้พวกเ้า...”
ยามรักษาการณ์ที่หน้าประตูเป็คนของจวนโหว คำสั่งที่พ่อบ้านจี้สั่งลงมา พวกเขาย่อมไม่อาจขัดขืน หยวนเฉิงให้พวกเขาเปิดประตูให้หยวนข่ายเข้ามา พวกเขาไม่กล้า ดังนั้นถึงประตูจะเปิดอ้าอยู่ แต่ก็มีพวกเขายืนขวางประตูเอาไว้อยู่ดี หยวนเฉิงมาหาหลี่ลั่วด้วยความโมโห เขายังไม่ได้ไปพบหลี่เหล่าไท่ไท่ เขาคิดว่าเื่เล็กๆ แค่นี้เขาจัดการด้วยตนเองได้ หากกลับคาดไม่ถึงว่าหลี่ลั่วกลับไม่ยอมพบเขา
หน้าประตูเรือนแข็งแกร่งนัก ซินเป่าวิ่งเข้ามา “เสี่ยวโหวเหฺยบอกว่าเสียงดังเกินไป เขานอนไม่หลับ ให้ไล่คนออกไปเสีย ยังมีอีก คนที่เสี่ยวโหวเหฺยโยนออกไป หากผู้ใดให้เข้ามาจะถูกขายออกไป”
คำพูดนี้ส่งตรงมาเพื่อตบหน้าหยวนเฉิงโดยเฉพาะ
สีหน้าของหยวนเฉิงย่ำแย่ไม่น่าดูยิ่ง แต่เรือนนี้เขาบุกเข้าไปไม่ได้ เขาจึงได้แต่จากไปอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ซินเป่าวิ่งกลับเข้าไปในห้อง หลี่ลั่วอาบน้ำเสร็จแล้วก็ลุกยืนขึ้น เขาจึงอุ้มหลี่ลั่วออกจากถังไม้ จากนั้นใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวหลี่ลั่วจนตัวแห้งสะอาด ลวี่ผิงเตรียมเสื้อตัวในสีขาวให้ซินเป่าผลัดเปลี่ยนให้หลี่ลั่ว ซินเป่าผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้พร้อมรายงานไปด้วยว่า “คุณชายใหญ่หยวนไปแล้วขอรับ”
“อืม” หลี่ลั่วรับคำเรียบๆ
“ต่อจากนี้จะมีเื่อันใดหรือไม่ขอรับ” ซินเป่ายังคงมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง
“นายท่านของเ้าเป็เ้าของจวนโหว ในจวนโหวนายท่านของเ้าใหญ่ที่สุด เข้าใจหรือไม่?” หลี่ลั่วสั่งสอนบ่าวรับใช้ผู้โง่เขลา
“ขอรับ ซินเป่าเข้าใจแล้ว” เข้าใจเป็เื่หนึ่ง แต่ในใจเขาจริงๆ แล้วยังคงหวาดกลัวอยู่ เสี่ยวโหวเหฺยอายุยังน้อย จวนโหวนี้เขายังเป็ผู้ตัดสินใจไม่ได้
ภรรยาหลี่ฮุยได้ยินข่าวที่ไปสืบมาก็ยกมือขึ้นปิดปากอย่างยินดี “หยวนข่ายถูกหามออกมาจากในเรือนของคุณหนูใหญ่หรือ?”
“ใช่แล้วเ้าค่ะ เมื่อถูกหามออกมานั้นก้นถูกโบยจนแตกแล้ว เสี่ยวโหวเหฺยเป็ผู้สั่งให้โบย เสี่ยวโหวเหฺยท่านนี้ร้ายกาจจริงๆ เด็กอายุห้าขวบกลับกล้าตีหลานของเหล่าไท่ไท่ ช่างขวัญกล้านัก” บ่าวคู่ใจรายงาน
ภรรยาหลี่ฮุยหัวเราะเสียงเย็นครั้งหนึ่ง “เ้าคนหื่นกามพรรค์นั้นติดค้างการโบย...แต่จะทำอย่างไรได้เล่า เป็หลานของเหล่าไท่ไท่ เ้าคนหื่นกล้าเข้าหาหลินเจี่ยเอ๋อร์เช่นนี้ ก็คือข่มเหงที่เรือนสองไม่มีผู้ชาย ผู้นำครอบครัวตายไปแล้ว ผู้ที่จะเป็ผู้นำครอบครัวได้ก็มาขาพิการไปเสีย แล้วยังมีทรัพย์สมบัติเหล่านี้อีก นี่มิใช่ถูกผู้อื่นโลภใส่แล้วหรือไร?”
“ต้าหน่ายน่าย[1]เข้าใจถ่องแท้นักเ้าค่ะ”
ภรรยาหลี่ฮุยหัวเราะขึ้นอีก “ต่อมาเล่า”
“ต่อมาคุณชายใหญ่หยวนก็ไปเรือนของเสี่ยวโหวเหฺย เสี่ยวโหวเหฺยให้คนขวางประตูเอาไว้ ไม่ให้เขาเข้าประตูไป คุณชายใหญ่หยวนจึงไปเรือนว่านโซ่วแล้วเ้าค่ะ”
“ดูท่าคงว่าจะเกิดคลื่นลมเสียแล้ว” ภรรยาหลี่ฮุยรอคอยดูความครึกครื้น “เหล่าไท่ไท่ขับไล่หยางซื่อออกไปแล้ว คนที่เหลือดูแล้วก็ไม่มีปัญญาทำอันใด จวนโหวแห่งนี้...ต่อไปก็ต้องเป็ของเหล่าไท่ไท่แล้ว”
“เช่นนั้นที่เสี่ยวโหวเหฺยขับไล่หยวนข่าย เขา...เหล่าไท่ไท่จะเผชิญหน้ากับเขาหรือไม่เ้าคะ”
ภรรยาหลี่ฮุยคิดใคร่ครวญ “พระราชโองการนั้นลงมาแล้ว เขาเป็โหวเหฺยที่ฝ่าาพระราชทานชื่อ ต่อให้แตะต้องตอนนี้ก็ไม่ดีนัก แต่เขาอายุยังน้อย หากเหล่าไท่ไท่จะควบคุมเขาก็ง่ายดายราวกลับพลิกฝ่ามือ”
“เช่นนั้น ต้าหน่ายนาย ท่านคิดจะทำเช่นใดเล่าเ้าคะ?”
“เช่นใด? คิดจะทำเช่นใดน่ะรึ?” แววตาของภรรยาหลี่ฮุยเ็ายิ่งนัก “พวกเรายังจะคิดทำเช่นใดได้อีกเล่า? ได้แต่ติดตามพวกเขาไป ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด พวกเราก็ต้องไปที่นั่น เหล่าไท่ไท่อยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างของจวนโหว จวนสกุลหลี่คงอยู่ที่เดิมไม่ไปแตะต้อง ต่อไปเมื่อแยกเรือนแล้วก็ยังคงเป็ของเ้าสามอยู่ดี ไม่มีส่วนของพวกเราดอก”
“ซานเหล่าเหฺยจะมีอนาคตอันใดกันเล่าเ้าคะ? ต้าเหล่าเหฺยของพวกเรารั้งตำแหน่งขุนนาง ทรัพย์สมบัติของสกุลหลี่เมื่อยกให้ซานเหล่าเหฺยไป คงต้องหมดลงภายในชั่วพริบตาแน่ คุณชายสามของพวกเรายังเล่าเรียนหนังสืออยู่ อนาคตสอบเข้าจิ้นซื่อ ย่อมต้องดีกว่าแน่นอนเ้าค่ะ”
“ถูกต้อง หวังว่าจะสอบเข้าจิ้นซื่อได้ ไป พวกเราไปดูกันเถิด”
ณ เรือนว่านโซ่ว
“ท่านแม่ ท่านต้องออกหน้าให้ข่ายเกอเอ๋อร์นะขอรับ ยามนี้าแบนร่างกายของเขายังไม่หายดี ถูกลั่วเกอเอ๋อร์โยนออกไปนอกจวน ยามรักษาการณ์ขวางเอาไว้ไม่ยอมให้เข้ามาขอรับ” หยวนเฉิงรายงาน
“อยู่ดีๆ ไฉนลั่วเกอเอ๋อร์จึงโยนเขาออกไปนอกจวนได้เล่า? ลั่วเกอเอ๋อร์เป็เพียงเด็กน้อยอายุห้าขวบ จะทำเื่เช่นนี้ได้อย่างใรกัน?” หลี่เหล่าไท่ไท่ย้อนถาม “เ้าเล่าเื่มาให้ข้าฟังอย่างละเอียดซิ แล้วลั่วเกอเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านชานเมืองหรอกหรือไร? วันนี้กลับมาแล้วหรือ?”
“เรียนเหล่าไท่ไท่ วันนี้เสี่ยวโหวเหฺยกลับมาแล้วเ้าค่ะ” เหอหมัวมัวเดินเข้ามา “บ่าวไปสอบถามมาแล้ว คุณชายข่ายนั้นถูกหามออกมาจากในเรือนของคุณหนูใหญ่เ้าค่ะ”
หลี่เหล่าไท่ไท่หรี่ตาลง “แล้วข่ายเกอเอ๋อร์ไฉนจึงถูกหามออกมาจากเรือนของหลินเจี่ยเอ๋อร์ได้เล่า?”
“เื่นี้...”
“พูด” หลี่เหล่าไท่ไท่ตบลงไปบนโต๊ะครั้งหนึ่ง “ข่ายเกอเอ๋อร์ไปทำเื่อันใดไว้ใช่หรือไม่?” หลานของนางเองนางย่อมรู้นิสัยดี ไม่เช่นนั้นลั่วเกอเอ๋อร์ที่เป็เด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบจะสั่งโบยเขาเพื่ออันใดกัน? แต่ต่อให้เขาทำอันใดลงไป ลั่วเกอเอ๋อร์ก็ทำเกินไปแล้ว “หยางหมัวมัว เ้าไปที่ประตูใหญ่เสีย ให้พวกเขาปล่อยให้ข่ายเกอเอ๋อร์เข้ามา”
“เ้าค่ะ”
“ช่างเก่งกล้าสามารถนัก กล้าทำเช่นนี้กับข่ายเกอเอ๋อร์” หลี่เหล่าไท่ไท่เริ่มจะมีน้ำโหแล้ว ทำเช่นนี้เท่ากับเป็การตบหน้านางเช่นกัน “พาข่ายเกอเอ๋อร์มาที่เรือนของข้า”
“เ้าค่ะ”
“ไปเรียกลั่วเกอเอ๋อร์และหลินเจี่ยเอ๋อร์มาที่นี่ด้วย ข้าจะดูซิว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะกล้าสร้างเื่สร้างราวอันใดได้”
“เ้าค่ะ”
พูดแล้ว หลี่เหล่าไท่ไท่ก็หันไปทางหยวนเฉิง “ข่ายเกอเอ๋อร์ทำเื่อันใดลงไปกันแน่?”
“ข่ายเกอเอ๋อร์...ข่ายเกอเอ๋อร์อยากได้หลินเจี่ยเอ๋อร์ขอรับ” หยวนเฉิงตอบ
“นิสัยใจคอคับแคบเช่นหลินเจี่ยเอ๋อร์จะเป็นายหญิงของบ้านได้รึ?” หลี่เหล่าไท่ไท่นั้นไม่เห็นหลินเจี่ยเอ๋อร์อยู่ในสายตา
“แต่นางเป็คุณหนูใหญ่ของจวนโหวนะขอรับ” หยวนเฉิงตอบ “หากข่ายเกอเอ๋อร์แต่งกับหลินเจี่ยเอ๋อร์ สถานที่แห่งนี้...สถานที่แห่งนี้ก็นับว่าพวกเราเป็เ้าของครึ่งหนึ่ง”
หลี่เหล่าไท่ไท่นิ่งเงียบไป แม้นางจะดูถูกหลินเจี่ยเอ๋อร์ แต่คำพูดของบุตรชายถือว่ามีเหตุผล หากหลี่หลินแต่งให้ข่ายเกอเอ๋อร์ นี่ไม่ใช่แล้วแต่ว่าจะบีบหรือจะคลายพวกเขาหรอกหรือ?
“ข้ารู้ว่าต้องทำเช่นใด ภรรยาของเ้าเล่า?”
“นางออกไปที่ร้านค้าแล้ว ยังไม่กลับเข้ามาขอรับ”
หยางหมัวมัวนั้นเป็คนของหลี่เหล่าไท่ไท่ อย่าว่าแต่ยามหน้าประตู ต่อให้เป็พ่อบ้านจี้ก็ไม่กล้าขัดขวาง ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ปล่อยให้หยวนข่ายเข้ามา ในขณะเดียวกัน พ่อบ้านจี้ก็รีบไปเรือนโฉวงจี๋เพื่อส่งข่าวให้กับหลี่ลั่ว
หลี่เหล่าไท่ไท่เห็นสภาพอันน่าเวทนาของหยวนข่ายแล้วก็เกือบจะสิ้นสติไปเสียให้ได้ “ท่านหมอ...รีบเชิญท่านหมอมา”
“เชิญแล้วขอรับ เชิญมาแล้ว” หยวนเฉิงตอบ “ท่านหมอดูอาการให้ข่ายเกอเอ๋อร์อยู่ด้านนอก กำลังไปต้มยามาให้ขอรับ”
“กำเริบ ช่างกำเริบยิ่งนัก” หลี่เหล่าไท่ไท่โมโหแทบตาย “เ้าเด็กบ้า กล้าทำเช่นนี้กับข่ายเกอเอ๋อร์ของข้า คนเล่า? พวกเขามาแล้วหรือไม่?”
ณ เรือนโฉวงจี๋
หลี่ลั่วผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เป็สีฟ้าอ่อน กำลังกินข้าวอยู่ เกิดเื่ราวขึ้นมาเช่นนี้ แม้กระทั่งข้าวเที่ยงเขาก็ยังไม่ได้กิน ยามนี้หิวแทบตายแล้ว
“เสี่ยวโหวเหฺย บัดนี้จะทำเช่นใดกันดีขอรับ? พวกเขาไปที่เรือนเหล่าไท่ไท่กันแล้ว พวกเราควรจะทำเช่นใดดีขอรับ?” พ่อบ้านจี้ถาม
“ท่านอาหลี่ ท่านไปที่จวนว่าการ ไปแจ้งว่าขโมยขึ้นจวนโหวของข้า” หลี่ลั่วสั่งการอย่างไม่รีบไม่เร่ง
“ขอรับ”
หลี่ลั่วคีบปลาหนึ่งคำ “ปลาชนิดนี้มีก้างมาก คิดไม่ถึงว่าห้องครัวได้คัดก้างออกหมดแล้ว เช่นนี้ต้องมีรางวัลเสียแล้ว” ครัวนี้ทำงานได้ละเอียดดียิ่งนัก ก่อนหน้านี้ที่ไปหมู่บ้านชานเมืองนางก็ไปพร้อมกัน “ให้รางวัลหนึ่งตำลึงก็แล้วกัน”
“เ้าค่ะ บ่าวจะไปให้รางวัลบัดเดี๋ยวนี้” ผิงอันออกไปแล้ว
“ท่านพี่ฉางเฉิง ของว่างและผลอิงเถาที่พวกเราได้มาจากจวนฉีอ๋องเล่า?” หลี่ลั่วนึกถึงเื่นี้ขึ้นมา
“วางอยู่ทางด้านนี้เ้าค่ะ เสี่ยวโหวเหฺยจะทานเลยหรือไม่เ้าคะ?” หลี่ฉางเฉิงนำของทั้งหมดให้ลวี่ผิง ดังนั้นจึงเป็ลวี่ผิงที่ตอบหลี่ลั่ว
หลี่ลั่วส่ายหน้า “นำขนมแบ่งออกเป็สามส่วน นำไปให้เรือนใหญ่ เรือนสาม และเรือนของเหล่าไท่ไท่คนละส่วน ลวี่ผิง เมื่อไปส่งของเ้าจงบอกไปว่าเป็ของที่ฉีอ๋องประทานมาให้”
“เ้าค่ะ”
“ซินหมัวมัว ท่านไปคัดเลือกผลอิงเถาออกมาส่วนหนึ่ง ส่งไปที่จวนจงกั๋วกงแล้วบอกกับพวกเขาไปด้วยว่าพี่หญิงใหญ่คิดถึงท่านพ่อและท่านย่า อยากสวดมนต์ภาวนาต่อหน้าป้ายิญญาของพวกเขา” หลี่ลั่วสั่งการต่อ
“เ้าค่ะ” แม้ซินหมัวมัวจะไม่เข้าใจความหมายของหลี่ลั่ว แต่ก็รีบไปดำเนินการ
หลังจากที่พวกเขาออกไป หลี่ลั่วก็บิดี้เีแล้ววางตะเกียบลง “กินอิ่มแล้ว เก็บเถิด”
ลวี่ผิงที่เพิ่งออกไปย้อนกลับมา “เสี่ยวโหวเหฺย สาวใช้รุ่นใหญ่ของเหล่าไท่ไท่มาเ้าค่ะ บอกว่าเหล่าไท่ไท่มีคำเชิญมาถึงเ้าค่ะ”
“เ้าไปส่งขนมรอบหนึ่งก่อน จากนั้นให้บอกเหล่าไท่ไท่ว่าข้ากำลังยุ่งอยู่กับเื่ที่ฉีอ๋องสั่งมา ต่อให้มีเื่ใหญ่เท่าฟ้าเพียงใดก็ต้องรอให้ข้าหายยุ่งก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน” หลี่ลั่วกล่าว
“เ้าค่ะ” ลวี่ผิงหันกายเดินออกไปที่ประตูแล้วบอกกับสาวใช้รุ่นใหญ่ว่า “พี่สาว นายท่านของพวกเราสั่งให้ข้าไปที่เรือนเหล่าไท่เหฺยเ้าค่ะ”
สาวใช้รุ่นใหญ่ผู้นั้นหัวเราะออกมาครั้งหนึ่ง “แม่นางลวี่ผิง ข้ามาตามคำสั่งของเหล่าไท่ไท่ แม้แต่หน้าของเสี่ยวโหวเหฺยก็ยังไม่ได้พบ นี่ไม่เป็การดีสักเท่าไรกระมัง?”
ลวี่ผิงก็หัวเราะเช่นกัน “เสี่ยวโหวเหฺยเป็โหวเหฺยที่ฝ่าาพระราชทานบรรดาศักดิ์ หากว่าทุกคนต่างก็้าพบ เสี่ยวโหวเหฺยจะมีเวลาว่างพอที่ไหนกันเล่าเ้าคะ?”
“นี่เ้า...”
“แน่นอนว่าพี่สาวย่อมแตกต่างจากผู้อื่นเ้าค่ะ พี่สาวเป็สาวใช้รุ่นใหญ่ข้างกายเหล่าไท่ไท่ ทว่าเสี่ยวโหวเหฺยเป็นายท่านของจวนโหวนี้เ้าค่ะ” ลวี่ผิงกล่าวอีก
“ฮึ” สาวใช้รุ่นใหญ่ผู้นั้นสะบัดตัวกลับไปอย่างเ็า
[1] ต้าหน่ายนาย (大奶奶) เป็คำที่บ่าวรับใช้ใช้เรียกภรรยาของเ้านายตนในสมัยโบราณ