บทที่ 17
เดือนอ้ายกลับมาบ้านด้วยอาการหงุดหงิดไม่หายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สถานีโทรทัศน์ไม่หาย ร่างเล็กเดินมาวางกระเป๋าที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินไปหยิบน้ำดื่มที่ตู้เย็นแก้กระหายก่อนจะเลื่อนดูโทรศัพท์เล่นไปเรื่อยๆจนสักพักก็มีสายเรียกเข้ามา
“ฮัลโหลมึง”เขาตอบรับสายของนาวินด้วยความไว
(เสียงหงุดหงิดเชียวนะ มึงไปสร้างเื่มาใช่ไหม!)
“ข่าวไวดีนะ มันออกข่าวละหรอ”
(เหลืออะไรล่ะ มึงดูในแชท) เขากดเปิดลำโพงก่อนจะเลื่อนดูในแชทที่นาวินส่งมาให้
‘ข่าวด่วน ญาตินักแสดงดังบุกทำร้ายถึงสถานี!’
“เหอะ บุกทำร้ายหรอวะ ตลกชิบหาย”เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอิงดาวจะเขียนข่าวได้ห่วยแตกขนาดนี้
(มึงไปทำอะไรมาแน่วะ)
“มึงฟังกูนะ มันบอกให้กูไปถ่ายรายการให้มัน พอถ่ายจบกูก็ออกมามันก็รั้งมือ จนกูสะบัดมือแค่นิดเดียว มันก็ล้มลงพื้นไปละ”
(อ้าวอีนี่! ตอแหลชิบหาย แสดงละครเก่งนักนะ เดี๋ยวมันต้องเจอกู)
“ก็มันเป็นักแสดง นี่กูหาวิธีแก้เผ็ดมันอยู่เนี่ย”
(มาให้กูช่วยมา แล้วนี่มึงไม่ได้เจ็บใช่ป่ะเนี่ย)
“ข้อมือกูแดงอ่ะ เดี๋ยวกูจะฟ้องพี่อาทิตย์สักหน่อย”
(อ่อ มีผัวให้ฟ้องนี่เนอะ)
“อิจฉาก็พูดมาเนอะ แล้วมึงโทรมาแค่นี้ใช่ไหม”
(เออกูจะบอกเื่ธีสิสพรุ่งนี้มาเจอที่มอบ่ายสามนะ ไม่ต้องมาแต่เช้า)
“โอเค งั้นแค่นี้นะ”เขากดวางสายอีกคนก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปโดยไม่ทันสังเกตว่าในบ้านมีอะไรบางอย่างแปลกไป
อาทิตย์ใช้เวลาไม่นานในการทำงานเพราะั้แ่เห็นข่าวก็เป็ห่วงว่าอีกคนคงจะไปเจอเื่ไม่ดีมาแน่ ซึ่งภาพที่ออกมาอาทิตย์ดูแล้วก็โกรธจนเห็นได้ชัด ไม่นานข่าวทุกสำนักก็ต้องลบข่าวนี้ออกไปเพราะคำสั่งของอาทิตย์เอง
ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านด้วยความเร่งรีบ มองหาร่างเล็กที่ตัวเองตามหาก็พบว่าภายในบ้านนั้นมืดสนิทไม่มีแม้แต่ไฟสักดวงเดียว มือหนาเดินเปิดไฟไปทั่วบ้านก็ไม่เห็นเดือนอ้าย จนต้องเดินขึ้นไป้า อาทิตย์เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็พบว่าร่างเล็กนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“อ้าย”
“พี่อาทิตย์มาแล้วหรอ”ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงแล้วสวมกอดไปที่ร่างสูงทันที มือหนาลูบหัวอีกคนช้าๆ
“กูจะจัดการพวกนั้นเอง”
“พี่เห็นข่าวพวกนั้นแล้วใช่ไหม”
“อืม มึงไม่ต้องสนใจคนในโซเชียลหรอก”
“อ้ายไม่ได้สนใจหรอก อ้ายกลัวว่าจะทำให้พี่อาทิตย์เป็ข่าว”
“มึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ใครที่ทำอะไรมึง”อาทิตย์พูดพลางกดอารมณ์โกรธเอาไว้ “กูจะทำมันคืน”
“พี่ดูนี่สิ อ้ายโดนบีบข้อมือจนแดงเลย”
“อิงดาวมันทำ?”
“อื้อ อ้ายไม่ได้เป็คนผลักด้วยซ้ำ แต่มันล้มไปเองอ่ะ พูดแล้วก็เจ็บใจ”พออาทิตย์ฟังที่เดือนอ้ายเล่ามาก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม
ทั้งที่ตัวอาทิตย์เองก็เคยเตือนอีกคนไปแล้วว่าไม่ควรมายุ่งกับเดือนอ้ายอีกแต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้สนใจคำเตือนเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นก็คงต้องลงมือทำจริงๆ ต่อให้ใครจะถูก ผู้มีอำนาจก็สามารถทำให้มันผิดได้ทั้งนั้นแหละ
“ไปนอนพักไป พรุ่งนี้ไปทำธีสิสรึเปล่า?”
“ไปบ่ายสามโมงนู้นเลย พี่ไม่ต้องปลุกอ้ายนะ”
“ขี้โกงนี่ กูตื่นเช้าคนเดียว”
“อ้ายขอนอนหน่อยน้า”เดือนอ้ายกอดแขนอ้อนอีกคนแน่น
“กูแกล้งเล่นไปงั้นแหละ มึงนอนไปเถอะ”ร่างสูงอุ้มอีกคนเดินไปวางบนเตียงก่อนจุ๊บไปที่หน้าผากหนึ่งที
“เดี๋ยวอ้ายนอนรอ พี่อาทิตย์ไปอาบน้ำเร็วๆๆ”
“ง่วงก็หลับก่อนได้”
“ไม่เอาหรอก รอได้”เขามองอีกคนที่เดินห้องน้ำไปด้วยรอยยิ้มก่อนปรับสีหน้ากลับมาเรียบนิ่ง ในที่สุดแผนการฟ้องก็ผ่านไปด้วยดี และการแก้แค้นของเดือนอ้ายจะเริ่มต้น ณ บัดนี้
เดือนอ้ายเดินทางมาถึงมหาลัยก่อนเวลานัดด้วยอารมณ์ดี เดินยิ้มมาตลอดทางเพราะว่ามีข่าวใหม่ที่กำลังติดเทรนในตอนนี้ ภาพกล้องวงจรปิดในสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นอีกมุมว่าอิงดาวตั้งใจงอเข่าให้ตัวเองล้ม แถมเริ่มมีคนขุดนิสัยเสียๆออกมาด้วย
คนในโซเชียลก็เป็แบบนี้ทั้งนั้น อะไรที่เขาก็ด่ากันก็ต้องด่าไปตามกระแส ซึ่งอิงดาวก็สมควรที่โดนแบบนั้นแล้วเพราะอีกคนก็ตั้งใจทำแบบนั้นจริงๆ เดือนอ้ายยิ้มพร้อมหัวเราะอยู่คนเดียว จนสักพักก็โดนกระป๋องน้ำอัดลมแนบแก้ม
“โว้ย!!! เย็น”
“ฮ่าๆเห็นอารมณ์ดีเลยแกล้งแม่งเลย”นาวินเดินมาพร้อมกับเควินก่อนจะนั่งลงข้างๆเดือนอ้ายแนบสองฝั่ง
“ทำไมหัวเราะคนเดียวอ่ะ”เควินถามพลางทำหน้าตากังวล
“กูไม่ได้บ้า แต่มีคนกำลังจะเป็บ้า”เขาชูข่าวโทรศัพท์ให้สองแฝดดูทันที “มันสติแตกไปแล้วมั้ง”
“มึงแม่งเก่งจังวะ จัดการมันได้ในวันเดียว!”
“นาวินจ้ะ…ฟังกูนะ กูไม่ได้ทำ”
“อ้าว แล้วใครทำ”
“พี่อาทิตย์ทำจ้า”พูดแล้วชื่นชมในความเก่งของพี่อาทิตย์ สามีเขาดีที่สุดในโลกจริงๆ
“แหมมมมม ก็อยากจะแหมไปถึงดาวอังคาร ใช้ผัวแก้ปัญหานี่หว่า”
“คนอย่างมันก็สมควรแล้วมั้ยล่ะ กูไม่ได้ทำอะไรเลยสักหน่อย”
“แต่ดีแล้วที่มึงไม่เป็อะไร แล้วก็หัดใช้ท่าเทควันโด้ได้ยัง”เควินนี่มันจะทวงแต่เื่เรียนจริงๆสินะ
“เอาน่า กูว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ต้องใช้ไง”
“่นี้มึงต้องระวังตัวให้มากๆนะเว้ยรู้เปล่า”นาวินเตือนพร้อมกับสีหน้าเป็ห่วง เขารู้ว่าเพื่อนแฝดเป็ห่วงเขามากแต่ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดในเมื่อการอยู่ศิวาลัยย่อมมีแต่ศัตรูอยู่แล้ว
“กูรู้น่า ตอนนี้พี่อาทิตย์ให้เขาส่งการ์ดมาดูแลห่างๆ”
“ตอนนี้ก็มีหรอ!?”นาวินหมุนหัวไปรอบด้านทันที
“อ่าห้ะ แต่เขาไม่ได้แสดงตัวหรอก”
“ก็ว่ากูถึงรู้สึกแปลกๆ”เควินมีความรู้สึกไวกว่านาวินเพราะเ้าตัวได้รับการฝึกมาอย่างดี
“เอออ้าย มึงรู้ไหมว่า่นี้อ่ะ…”นาวินค่อยๆกระซิบลงที่ข้างหูเขา “ธิวาลัยมันเริ่มเผาโกดังในเครือของศิวาลัยละนะ”
“จริงหรอ?….”อันตรายกว่าที่คิดไว้แหะ
“แล้วพวกนั้นมันได้ติดต่อมึงอยู่ไหม?”เดือนอ้ายกระซิบเสียงเบาๆ เควินส่ายหน้าออกมาเป็คำตอบ แสดงว่าฝั่งธิวาลัยคงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เขาโดยตรงสินะ
“กูเป็ห่วงมึงนะอ้าย”
“กูรู้ว่าพวกมึงเป็ห่วง ตอนนี้กูพยายามปกป้องตัวเองให้ได้มากที่สุดแล้ว”
“คือที่พวกกูอยากจะบอกมึงอ่ะ”เขามองนาวินพูดด้วยสีหน้ากังวลเอามากๆ
“อะไร?”
“อย่าออกไปไหนได้ไหมวะ?”
“มึงจะไม่ให้กูไปไหน่นี้เลยหรอ กูมีงานธีสิสนะเว้ย”
“พวกกูรู้อ้าย แต่ตอนนี้มึงกำลังไม่ปลอดภัยมากๆเลยว่ะ”ถึงแม้ว่าเควินจะพูดแบบนั้น เขาก็คงทำตามที่เพื่อนแฝดบอกไม่ได้
“ถ้าเกิดกูไม่ออกบ้านมาทำธีสิส เพื่อนในกลุ่มจะว่ายังไง แล้วกูไม่อยากกินแรงพวกมึง เราก็โตๆกันแล้ว”
“คือมึงไม่เข้าใจกูหรอวะ มึงรู้ไหมว่าตอนนี้มันเสี่ยงแค่ไหน!”เขาชะงักตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่านาวินลุกขึ้นยืนด้วยความโมโหเพราะความเป็ห่วง
“นาวิน กูเข้าใจพวกมึงจริงๆว่ามันเสี่ยง แต่ถึงจะให้กูออกไปข้างนอกหรืออยู่ข้างในแบบไหนก็เสี่ยงหมดป่ะวะ?”เขาพยายามอธิบายไปด้วยเหตุผล “ในเมื่อพวกมันอยากฆ่ากู มันก็ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อฆ่ากูอยู่แล้ว”
หลังจากที่เขาพูดจบก็ไม่มีเสียงตอบรับจากทั้งคู่ เขาก้มหน้าลงพยายามเก็บความเครียดเอาไว้ เดือนอ้ายรู้ว่ามีคนเป็ห่วงเขามาก แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ทางไหนก็มีแต่คนจ้องจะปองร้ายเขาอยู่ดี แม้ว่าพี่อาทิตย์จะส่งคนมาป้องกันเอาไว้ก็ตาม
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยถามว่าตอน่เวลาเด็กของพี่อาทิตย์เป็ยังไง แต่เขารู้ดีว่าถ้าอีกคน้าให้เขารู้ก็คงเล่าไปนานแล้วแต่นี่กลับไม่เล่าอะไรให้เขาฟังเลย นั่นก็หมายความว่ามันไม่มีอะไรดีเลยไง
“มึงรู้ไหมว่าศิวาลัยกับธิวาลัยต่างกันยังไง”ใบหน้าสวยหันไปมองนาวินที่ทำสีหน้าจริงจัง
“…กูไม่รู้”
“กูจะเล่าให้ฟัง”
ย้อนกลับไปถึงสมัยก่อนาโลกครั้งที่สองมีตระกูลหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากครอบครัวคนจีนที่ย้ายถิ่นฐานมา โดยตอนแรกไม่มีคนพูดภาษาไทยได้เลยจนกระทั่งได้มีคนหนึ่งในตระกูลแต่งงานกับคนไทย และมีทายาทสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ตระกูลศิวาลัยแบ่งออกเป็สองเชื้อสายไทยและจีน ฝั่งเชื้อสายไทยนับว่าเป็เชื้อสายของตระกูลรอง เพราะโดยตามเดิมแล้วเชื้อสายจีนคือตระกูลหลัก ศิวาลัยเริ่มต้นสร้างธุรกิจจากการขายยาสมุนไพร จากนั้นค่อยๆแปรเปลี่ยนมาอาหาร
กาลเวลาเปลี่ยนไปก็ได้ทำให้ศิวาลัยได้เข้าลงทุนกับการสร้างบริษัทอสังหาทรัพย์ แต่ทว่าฝั่งเชื้อสายไทย้าที่จะเป็คนดูแลฝั่งอสังหาทรัพย์แทนเพราะทางฝั่งจีนก็ควบคุมธุรกิจยาสมุนไพรกับอาหารอยู่แล้ว ด้วยความน้อยใจว่าทำไมถึงมีแค่ตระกูลหลักที่ได้ทุกอย่างไปจึงเกิดเหตุขึ้น
เมื่อฝั่งเชื้อสายไทยได้ฆ่าตัวตายจากความน้อยใจ ก็ได้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและตกลงแยกตระกูลออกเป็สองฝั่ง และนั่นก็จึงเป็สาเหตุให้เกิดตระกูลศิวาลัยกับธิวาลัยขึ้น ความแค้นที่มีต่อตระกูลหลักยังคงไม่จางหาย
มันถูกฝังถึงรากลึกจากรุ่นสู่รุ่นว่าศิวาลัยคือศัตรูของธิวาลัยตลอดชั่วกาล ไม่ว่าจะทำวิธีใดก็ต้องทำลายให้สิ้นซาก แต่แล้วทุกครั้งของการเปิดศึกก็มักจะมีการนองเืเสมอ อาทิตย์ต้องเสียพ่อตัวเองไปจากฝีมือของธิวาลัย นั่นทำให้อาทิตย์ต้องรับเข้า่ต่อเป็เ้าสัวทั้งที่ยังอยู่เพียงแค่ยี่สิบสองปีเท่านั้น
“กูไม่เคยรู้มาก่อนเลย…”เพราะพี่อาทิตย์ก็ไม่เล่าให้ฟังมาก่อน
“มันเป็เื่ที่มันวุ่นวายมากอ่ะมึง กูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เลิกแค้นสักที ต้องตายไปอีกกี่คนวะ”
“นั่นสิ”พ่อของพี่อาทิตย์ก็เสียไปเพราะเื่นี้เป็สิ่งที่ทำให้เขาใจริงๆ คุณแม่ก็คงจะเสียใจมากแน่ๆ
“มึงต้องระวังตัวให้มากๆนะอ้าย”
“กูเข้าใจแล้วน่า”
ตอนนี้เป็เวลาหกโมงเย็นแล้วถึงเวลาที่จะได้กลับบ้านสักที ตอนนี้เขาก็รอรถมารับอยู่เพราะพี่อาทิตย์บอกว่าจะพาไปกินข้าววันนี้ เขาก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงพาไปวันนี้ พอนั่งคิดแล้วก็ต้องร้องจ๊ากออกมาเพราะว่าพรุ่งนี้คือวันเกิดของพี่อาทิตย์นี่!!
เดือนอ้ายรีบจดทันทีลงโทรศัพท์ว่าจะต้องออกไปซื้อเค้กมาให้พี่อาทิตย์ให้ได้เลย เขาลืมไปได้ยังไงกันนะ คงเป็เพราะว่าทำงานจนสมองมัวไปหมด เขานั่งรอที่ม้านั่งสักพักก็มีรถมาจอดเทียบ ร่างเล็กเดินขึ้นรถไปทันทีก่อนจะกอดหมับเข้าที่แขนแกร่ง
“พี่อาทิตย์!!”
“อะไร?”
“เปล่า อ้ายเรียกเฉยๆแหละ ฮ่าๆ”เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี อีกคนคงต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ ของขวัญวันเกิดคืออะไรดีนะ เขาคิดหนักเลยเพราะไม่รู้ว่าอีกคนอยากได้อะไร
“จู่ๆมาะโเรียก แปลกๆนะ”
“นี่พี่หาอ้ายแปลกหรอ?”ร่างเล็กพูดพลางทำหน้าบึ้งใส่
“ก็ใช่อ่ะดิ”
“พี่อาทิตย์!”ถึงเขาจะแยกเขี้ยวใส่อีกคนก็เถอะ แต่ทำไปเพราะหยอกเท่านั้นแหละ
“หูกูแตกหมดแล้ว”
“ก็พี่มาแกล้งอ้ายก่อนนี่ บอกเลยนะว่าวันนี้ไม่นวดให้แล้ว!”
“ไม่นวดก็ไม่นวด กูก็ไม่ให้หนุนแขนเหมือนกัน”หลังร่างสูงพูดจบก็โดนตาขวางใส่ทันที เดือนอ้ายกอดอกอย่างไม่พอใจ
“ใช่สิ้ สงสัยอ้ายมันเก่าแล้วนี่หน่า ไม่ได้สำคัญแล้วเนอะ”
“ถ้าจะตัดพ้อขนาดนี้นะ”
“ละจะทำไมล่ะ?”
“ก็พูดต่อไปดิ ไม่ได้ห้าม”โจที่ทำหน้าที่ขับรถได้แต่ส่ายหน้ากับพี่ชายตัวเอง สุดท้ายก็กลัวเมียจนได้ จากเสือกลายเป็แมวไปซะงั้น
เช้าวันนี้เดือนอ้ายรีบตื่นมาด้วยความเร่งรีบเพราะ้าที่จะไปซื้อเค้กกับของขวัญมาเพื่อซอร์ไพร์สอีกคน ร่างเล็กเดินเข้าห้างก็ตรงดิ่งไปที่ร้านเค้กทันที ก่อนจะเดินตามหาของขวัญ ยังไม่ทันที่จะเดินก็ดันไปชนกับคนอื่นเสียก่อน
“อ้ะ! ขอโทษครับ”
“เห้ย! แฟนอาทิตย์รึเปล่า?”
“ครับ?”เขาเงยหน้ามองคนตัวสูงที่สวมแว่นตาดำ แต่ใบหน้าดูไม่คุ้นตาเลยสักนิด ไม่น่าไว้ใจ
“ลืมแนะนำตัวไป ไอชื่อณอนนะ เพื่อนสนิทของอาทิตย์มัน”
“อ่า…”เพื่อนสนิทจริงรึเปล่า หรือว่าหลอกนะ
“ยูไม่ต้องกลัวนะ ไอกำลังมาเลือกของขวัญให้อาทิตย์มัน”บางทีอีกคนอาจจะเป็เพื่อนจริงๆก็ได้ รู้วันเกิดด้วย
“เอ่อ..ถ้าพี่เป็เพื่อนของพี่อาทิตย์ พี่พอจะรู้ไหมครับว่าพี่อาทิตย์เขาชอบอะไร?”
“ยูไง”
“ครับ?”อีกคนตั้งใจกวนตีนเขารึเปล่านะ
“ก็ยูถามไอว่ามันชอบอะไร มันก็ชอบยูไง”
“คือผมหมายถึงสิ่งของครับ..”
“ของแบบนั้นยูไม่น่าคิดเยอะนะ ยูซื้ออะไรให้มัน มันก็ต้องชอบหมดนั่นแหละ”
“ขอบคุณครับ”ร่างเล็กเดินหลีกไปอีกทางทันทีเพื่อจะไปหาของขวัญโดยที่ณอนก็คว้าตัวไว้ไม่ทัน คิดว่าจะชวนไปเลือกด้วยกันสักหน่อย
สุดท้ายแล้วเดือนอ้ายก็ตัดสินใจที่ซื้อนาฬิกามา เขาเห็นว่าอีกคนชอบทำงานจนลืมดูเวลาตลอดเลย ไม่รู้ว่าอีกคนจะชอบรึเปล่าแต่ว่าเขาตั้งใจเลือกให้อีกคนมากๆ นาฬิกาเหล็กสีเงินถูกเก็บไว้ในกล่องอย่างดี เงินที่ซื้อก็มาจากเงินเก็บของเดือนอ้ายเองด้วย
ร่างเล็กเดินไปเอาเค้กที่ชั้นล่างพร้อมกับขอเขียนข้อความด้วยตัวเอง ลายมือของเดือนอ้ายนั้นดูน่ารักจนคนขายเองก็ยังชมว่ามาเขียนให้ที่ร้านประจำได้ไหม เขาก็ได้แต่ขอบคุณไป ร่างเล็กเดินถือของมาเต็มมือก่อนจะหยุดยืนหน้าร้าน
พี่อาทิตย์บอกว่าถ้าจะใช้รถให้โทรหาโจเท่านั้น ร่างเล็กจึงกดปลายสายโทรหาเลขาหนุ่มทันที โทรไปได้สี่สายแล้วก็ไม่มีท่าทีที่อีกคนจะรับสายเลยด้วยซ้ำ หรือว่าเขาควรจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านดีนะ? ยังไม่ทันคิดปลายสายก็โทรกลับมาหา
“ฮัลโหลโจมารับหน่อยได้ไหม?”
(คุณเดือนอ้ายอยู่ที่ไหนครับ?)
“สยามพารากอนอ่ะ”
(ตอนนี้ผมรถติดอยู่ รอสักครู่นะครับ)
“โจมีธุระรึเปล่า ไม่งั้นเรากลับแท็กซี่ก็ได้”
(เอางั้นหรอครับ คือรถมันติดไม่ไปไหนเลยตอนนี้)
“งั้นเรานั่งแท็กซี่ดีกว่า เค้กมันจะละลายแล้ว เราดันไปซื้อเค้กไอติมมา”เดือนอ้ายลืมไปว่าประเทศไทยมันหน้าร้อนก็เลยไม่ทันได้คิด เค้กไอติมเละแน่ถ้าอยู่นานกว่านี้ ร่างเล็กเดินไปโบกแท็กซี่ริมทางก่อนที่จะเดินขึ้นรถไป
ระหว่างที่ร่างเล็กเดินทางก็ได้คิดแผนเอาไว้แล้วว่าจะรอเซอร์ไพรส์พี่อาทิตย์ที่บ้าน ถ้าไปที่ทำงานก็คงทำอะไรไม่สะดวกแน่ ในถุงกระดาษอีกใบเต็มไปด้วยเทียนหอมที่เขาไปเลือกมา เขาไปขอกลิ่นแบบเซ็กซี่ๆกับคนขายและก็ได้มันมา คิดเอาไว้ว่าจะเอาจัดไว้รอบเตียง เขาไม่รู้ว่าอีกคนเคยมีความคิดที่อยากจะเมคเลิฟกับเขาบ้างรึเปล่า แต่เดือนอ้ายคิดมาเสมอว่าวันใดที่พร้อมก็อยากจะทำกับพี่อาทิตย์ ซึ่งจริงๆเขาก็พร้อมแล้ว ถ้าหากวันนี้พี่อาทิตย์ไม่ทำการบ้านกับเขาล่ะก็คงเสียชื่อเดือนอ้ายหมดแน่ๆเลย
ในขณะที่รถวิ่งผ่านสี่แยกจู่ๆก็มีรถพ่วงคันใหญ่พุ่งเข้ามาจากด้านซ้ายตรงดิ่งชนเข้ารถแท็กซี่ที่มีร่างเล็กนั่งอยู่ในนั้นอย่าแรง รถแท็กซี่กระเด็นลอยไปด้านหน้าพร้อมกับพลิกคว่ำก่อนที่รถพ่วงจะพุ่งชนใส่เสาไฟฟ้า ผู้คนแถวนั้นต่างลงมาจากรถด้วยความใ ร่างเล็กพยายามลืมตาขึ้นแต่ดูเหมือนมันจะรู้สึกหนักหน่วงมากเกินไปจริงๆที่ลืมตาขึ้นมา ความเจ็บที่่ท้องมันทรมานเกินไปเพราะเศษกระจกชิ้นใหญ่ปักเข้าที่หน้าท้องของเดือนอ้าย และสติของร่างเล็กก็ได้เลือนหายไป…