บทที่ 16
เดือนอ้ายกลับมาจากมหาลัยด้วยความเร่งรีบเพราะพี่อาทิตย์ดันโทรมาเร่งว่างานประมูลเพชรเริ่มหกโมงเย็น ตอนนี้เป็เวลาสี่โมงเย็นกว่าแล้วด้วย อีกสักพักรถก็จะมารับแล้ว ตอนนี้เขายังไม่ได้อาบน้ำเลย ร่างเล็กวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วสูงก่อนจะใช้เวลาแค่สามนาทีในการอาบน้ำเท่านั้น ถ้าช้ากว่านี้มีหวังโดนดุแน่เลย เดือนอ้ายเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นกล่องสีครีมใบหนึ่งวางอยู่บนเตียง โน้ตกระดาษสีเหลืองถูกแปะไว้บนฝากล่อง
“ใส่อันนี้นะ...”ร่างเล็กหยิบฝากล่องออกมาก่อนจะเห็นชุดที่วางอยู่ในกล่อง ดูเหมือนว่าจะเป็ของแบรนด์เนมทั้งนั้น สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาก็บพบว่ากำลังจะห้าโมงอยู่แล้วก็รีบแต่งองค์ทรงเครื่อง สำหรับเขาเลยที่ขาดไม่ได้ถ้าไปงานพวกนี้ก็ต้องแต่งหน้าไปอยู่แล้ว ไม่งั้นคงเหมือนเป็ผีเฝ้าเพชรมากกว่า
พอเช็คตัวเองครบแล้วร่างเล็กรีบเดินลงไปด้านล่างทันทีแต่ไม่ทันได้ดูพื้นก็เลยสะดุดบันไดไปขั้นหนึ่ง ร่างเล็กหลับตาด้วยความกลัว พอนึกแล้วว่าทำตัวเองไม่เจ็บก็เลยลืมตาขึ้นมาว่าตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมแขนของร่างสูง ใบหน้าหล่อเงยหน้ามองภรรยาตัวเองด้วยสายตาหลงใหล ตอนนี้เดือนอ้ายสวยจนสะดุดตาของอาทิตย์จริงๆ สร้อยเพชรที่อาทิตย์เป็คนเลือกนั่นก็ดูเข้ากับร่างเล็กมาก
“เดินดีๆ จะรีบทำไม”เขารีบพยุงตัวเองยืนดีก่อนจะกอดอกตัวเอง
“แล้วใครที่โทรมาเร่งเล่า นี่ก็รีบเลยเนี่ย”
“ผมหลุดหมดละ”มือหนาเกลี่ยผมด้านข้างใบหน้าสวยไปทัดหูเอาไว้ “สวย”
“อะไรนะ”
“เปล่าไม่ได้พูด”ว่าจบร่างสูงก็รีบเดินลงบันไดไป
“ไม่ต้องมาหนีเลยนะ เมื่อกี้พี่ชมอ้ายว่าสวยล่ะซิๆๆ”ร่างเล็กแซวอีกคนพร้อมกับหัวเราะลั่น
“รู้แล้วจะถามทำไม ขึ้นรถได้แล้ว”
“ค้าบ”เดือนอ้ายเดินขึ้นรถพร้อมอาทิตย์ก่อนที่รถยนต์จะออกจากบ้านไปทันที
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็เดินทางมาถึงโรงแรมที่ได้จัดประมูลเพชร ดูก็รู้ว่ามีแต่พวกเศรษฐีมาประมูลทั้งนั้น เดือนอ้ายไม่เคยมางานสังคมบ่อยนักเพราะปกติแล้วคนที่จะไปงานพวกนี้ก็มีแต่อิงดาวเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วม อีกอย่าง่นี้เขาเองก็ไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับโชตินันท์เลย นั่นก็คงเป็เพราะเขาไม่ได้สนใจคนพวกนั้นอีกแล้ว
ผู้คนในต่างเดินสวนกันไปมา การแต่งตัวก็มีเพชรแวววับตาไปหมด เขามองพี่อาทิตย์ที่ตอนนี้มีแต่คนรุมล้อมไปหมด จะให้เขาเข้าแทรกมันก็คงจะไม่ดีหรอกมั้ง ในตอนนี้เดือนอ้ายมัวแต่สนใจอาทิตย์จึงไม่ได้เห็นสายตาที่จับจ้องมาที่ตัวเองเลย ร่างสูงที่โดนรุมหันมามองร่างเล็กก็ต้องขบกรามด้วยอารมณ์หงุดหงิด ในใจได้แต่ก่นด่าคนที่จ้องเดือนอ้ายด้วยสายตาหื่นกระหาย ร่างสูงรีบตัดบทสนทนาทั้งหมดก่อนจะเดินไปคว้ามือเล็กเอาไว้ทันที
“เข้างานเถอะ”
“อ่า”เขาเดินตามอีกคนเข้าไปในงานขณะที่มือหนายังคงจับมือเขาเอาไว้
“จะสวยอะไรนักหนา”
“หื้อ?”
“ผู้ชายจ้องมึงทั้งงานยังไม่รู้ตัวอีกนะ”เขากลั้นยิ้มกับประโยคของพี่อาทิตย์เอาไว้ ดูเหมือนว่าสามีเขาจะหึงอีกแล้วนะ
“ขี้หึงขนาดนี้ั้แ่เมื่อไหร่”
“กูหึงมึงนานแล้วเถอะ”รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นค้างไว้ภายใต้ความมืด พี่อาทิตย์พาเขามานั่งที่โต๊ะวีไอพี ไม่แปลกใจนักที่จะได้มุมดีขนาดนี้ ร่างเล็กนั่งลงที่โซฟาพร้อมกับคนข้างกาย งานประมูลเริ่มมีคนเข้ามานั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้เป็เวลาหกโมงกว่าแล้ว เครื่องประดับเพชรมากมายถูกคนชิงไปเป็เ้าของหลายสิบชุดแล้ว เขายังไม่เห็นว่าอีกคนจะยกประมูลสักอันเดียว เดือนอ้ายนั่งมองเครื่องเพชรพวกนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่งโดยที่ไม่รู้เลยว่าสายตาคมนั่นคอยสังเกตตนเองอยู่ตลอด จริงๆแล้วอาทิตย์อยากประมูลอันที่เดือนอ้ายอยากได้แต่เหมือนอีกคนไม่ได้มีท่าทีอะไรเลย
เดือนอ้ายรู้สึกว่าของพวกนี้มีแต่คนประมูลราคาแค่สิบกว่าล้านเท่านั้น แต่อีกไม่นานก็คงมีเพชรที่ราคาสูงมาแน่ ส่วนใหญ่เพชรพวกนี้ก็จะอยู่ใน่สุดท้ายของการประมูล ร่างเล็กดูงานไปเรื่อยๆจนตากึ่งหลับกึ่งตื่นก่อนจะเอียงหัวไปซบไหล่อีกคนเอาไว้
“ง่วงรึไง”
“อ้ายจะหลับอยู่แล้วเชียว งานมันนานขนาดนี้เลยหรอ”
“ก็ปกตินี่”ปกติของพี่อาทิตย์มันไม่ปกติของอ้ายสักหน่อย นี่เขาว่าเพชรออกไปเกือบสามสิบชุดแล้วมั้งนั่น
“พรุ่งนี้อ้ายต้องไปปั่นธีสิสต่อด้วย พี่อาทิตย์ปลุกตอนหกโมงหน่อยนะ”อาทิตย์พยักหน้ารับก่อนจะหันไปดูงานต่อ รวมถึงส่งสายตาเขม็งให้กับคนที่เอาแต่จ้องภรรยาตัวเอง
‘มาถึงชิ้นสุดท้ายที่ทุกท่ารอคอยนะครับ!’
‘ชิ้นสุดท้ายคือ Queen Diamond ตุ้มหูเพชรสุดหรู เปิดประมูลที่ 75 ล้านครับ!’
เขารีบเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินว่าไอ้ตุ้มหูเพชรตรงหน้านี่มันราคาไปถึงเจ็ดสิบห้าล้านได้ยังไงก่อน แม้ว่ามันจะมีเพชรก็เถอะแต่มันก็มีนิดเดียวเองนะ ทำไมถึงแพงขนาดนั้น จากที่กำลังง่วงอยู่ก็ได้สติเลย พวกที่ได้ตุ้มหูนี่ไปก็คงรวยมากแน่ เอาเงินไปทำบุญไม่ดีกว่าหรอ
“หนึ่งร้อยล้าน..”
“ห้ะ”เขาหันไปมองคนข้างกายที่ยกป้ายแบบไม่ให้เสียงก่อนเลย ร่างเล็กอ้าปากค้างจนแมลงวันจะบินเข้าปากอยู่แล้ว
‘คุณเ้าสัวศิวาลัยให้หนึ่งร้อยล้านนะครับ!’
“พี่จะเอาจริงหรอเนี่ย”เขาเอามือป้องปากกระซิบถาม คำตอบที่ได้มามีเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น
‘หนึ่งร้อยยี่สิบล้าน’
ร่างเล็กหันขวับไปหาคู่แข่งของอาทิตย์ด้วยความเร็ว คนที่เป็คนสู้การประมูลกับพี่อาทิตย์นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะวีไอพี เมื่อมองไปทางนั้นแล้วใบหน้าของคนนั้นก็หันมาทางเขาพร้อมกับโบกมือ ทำไมอีกคนถึงอยู่ที่นี่..ไม่สิ มันคงไม่แปลกที่อีกคนจะอยู่ แต่มันจะบังเอิญเกินไปแล้วที่จะต้องมาประมูลอันเดียวกับพี่อาทิตย์เนี่ย
‘คุณธาให้หนึ่งร้อยยี่สิบล้านนะครับ!’
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน”อาทิตย์ไม่ได้หันไปมองคู่แข่งของตัวเอง แม้แต่หางตาก็ไม่คิดจะมอง
“พี่อาทิตย์ อ้ายว่ามัน...”
“อยู่เฉยๆ”
‘ตอนนี้คุณเ้าสัวให้ที่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านนะครับ!’
‘หนึ่งร้อยห้าสิบล้านครั้งที่หนึ่ง!’
‘หนึ่งร้อยห้าสิบล้านครั้งที่สอง!’
‘หนึ่งร้อยห้าสิบล้านครั้งที่สาม!’
เปาะ!
สุดท้ายเครื่องเพชรชิ้นสุดท้ายก็ตกเป็ของศิวาลัยในที่สุด ร่างเล็กที่รู้ว่าต้องเสียเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเพราะเพชรสองเม็ดก็ได้แต่กุมขมับ ถึงเขาจะรู้ว่าพี่อาทิตย์รวยมากก็เถอะ แต่นี่มันเกินความคาดหมายของเขาไปเยอะเลยด้วยซ้ำ ทั้งคู่เดินออกมาจากงานก็ตรงดิ่งมาขึ้นรถที่จอดเอาไว้ทันที พอได้ขึ้นรถใบหน้าสวยรีบหันไปมองร่างสูงทันที
“มองอะไร”
“พี่ไปรวยล้นฟ้ามาจากไหน นั่นเงินตั้งร้อยล้านกว่าเลยนะ”
“ก็เห็นว่ามึงอยากได้ไม่ใช่หรอ”
“ห้ะ? อ้ายเนี่ยนะไปอยากได้ตอนไหน?”
“ก็กูเห็นมึงตาโตตอนเห็นมันนี่”
“พี่อาทิตย์!!”เขาอยากจับตัวร่างสูงมาเขย่าตัวเหลือเกิน
“อะไร”
“ยังจะมาอะไรอีก อ้ายตาโตเพราะใกับราคาโว้ย!”พอเห็นแบบนั้นอาทิตย์ก็ทำสีหน้าช็อคไปนิดนึงที่เดาใจอีกคนผิดก่อนจะปรับสีหน้ากลับมา
“มึงจะคืนรึไง กูเอามาแล้ว”
“คืนได้ด้วยหรอ”เขาทำสีหน้าใที่รู้ว่าคืนได้ แต่พออาทิตย์เห็นอีกคนถามออกมาแบบนั้นก็เลยถอนหายใจออกมา
“มันคืนได้ที่ไหนล่ะ”ว่าจบใบหน้าก็หันไปทางนอกรถเพื่อหนีสายตาของร่างเล็ก
“นึกว่าคืนได้เสียอีก”
“กูซื้อมาให้แล้วยังคิดจะเอาไปคืนอีกนะ”
“มันแพงเกินไป พี่อาทิตย์เอาไปใส่เองเถอะ”พอเดือนอ้ายพูดไปแบบนั้น มือหนาก็เขกไปที่หัวเล็กหนึ่งที “จะบ้ารึไง”
ถึงแม้ว่าอีกคนจะให้เขามาก็เถอะ เขาจะไปกล้าใส่ได้ยังไงในเมื่อมันเป็ของสำคัญขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าทำหายขึ้นมาก็คงนั่งร้องไห้ทั้งชีวิตแน่ เหมือนทำเงินก้อนหายไปหมดเลยด้วยซ้ำ เขาคงต้องเก็บไว้ในกล่องแทน พี่อาทิตย์เองก็คงเข้าใจแหละว่ามันสำคัญแค่ไหนสำหรับเขา
“อ้าย”
“อื้อ”ร่างเล็กนอนขดตัวซุกกับผ้าห่มพื้นใหญ่ แม้ว่าร่างสูงจะยืนปลุกอยู่ในตอนนี้อีกคนก็ไม่มีท่าทีจะตื่น อาทิตย์ปลุกเดือนอ้ายมาได้หลายนาทีแล้วก็ไม่ยอมตื่น ทั้งที่เ้าตัวเป็คนบอกให้เป็คนปลุกแท้ๆแต่ตอนนี้กลับหลับสนิทสะงั้น
“ถ้าไม่ตื่นจะไปสายไม่ใช่หรอ”
“อื้อ..แปปนึง”เขาพยายามขยี้ตาตัวเองให้สร่างก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะโดนชิงหอมแก้มแบบจู่โจม
“กูจะไปบริษัทแล้วนะ”ร่างสูงยืนแต่งตัวอยู่ด้านข้างก่อนจะเดินไปที่หน้ากระจก เท้าเล็กค่อยๆก้าวลงจากเตียงไปสวมกอดอีกคนจากด้านหลัง
“อื้อ ไปสบายๆนะ”
“เขาต้องบอกว่าไปดีมาดีไม่ใช่รึไง ตื่นได้แล้ว”อาทิตย์หัวเราะในลำคอกับการมึนใน่เช้าของร่างเล็ก
“จุ๊บหน่อยได้ไหม”อาทิตย์ยิ้มรับก่อนจะย่อตัวให้อีกคน ร่างเล็กจุ๊บลงที่ข้างแก้มของอาทิตย์ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“ลงไปกินข้าวแล้วค่อยไปมหาลัยนะอ้าย!”
“รู้แล้ว!”ร่างเล็กะโตอบรับอีกคนทันที
ระหว่างที่เดือนอ้ายเข้ามหาลัยก็ต้องเดินเวียนไปที่ห้องสโมสรแล้วก็ต้องกลับมาทำธีสิสต่อ ร่างเล็กต้องทำหนังสั้นออกมา ตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะต้องหานักแสดงมา ไหนจะต้องจัดการเงินกองกลางอีกด้วย เควินกับนาวินตกลงไว้แล้วว่าจะทำแนวสะท้อนสังคมเื่ของปัญหาครอบครัว เขามีหน้าที่จัดการงบแล้วก็หาสถานที่ ส่วนนาวินจะต้องเป็คนไปหานักแสดงโดยคนในกลุ่มก็ต้องมาดูด้วยว่าผ่านรึเปล่า เควินเองรับหน้าที่เป็คนวางบท เขียนสตอรี่บอร์ด เพื่อนในกลุ่มอีกสองคนก็เป็ตากล้องกับตัดต่อ
เขาคิดว่าหนังสั้นคงจะต้องใช้เวลาทำพอสมควรแล้วอีกอย่างก็ต้องช่วยเพื่อนในกลุ่มอีก คงต้องมีสักวันที่ต้องไปนอนบ้านเพื่อนแน่ ถึงวันนั้นก็ค่อยบอกพี่อาทิตย์แล้วกัน ่นี้เขาหาเวลาว่างไม่ค่อยได้เลยต้องแบ่งเป็่เย็นวันพุธและพฤหัสบดี เขาจะต้องไปบ้านของเควินเพื่อเรียนยิงปืนกับเทควันโด้ วันที่เหลือก็ต้องมานั่งทำธีสิสต่อ ไม่น่าเชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็จะจบมหาลัยแล้ว เวลามันผ่านไปแล้วจริงๆ
ขณะที่เดือนอ้ายนั่งหาสถานที่สำหรับการถ่ายงาน จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เดือนอ้ายมองหน้าจออยู่นานว่าควรที่จะรับสายนี้ดีไหมเพราะคนที่โทรมาคือ อิงดาว เดือนอ้ายไม่ได้ติดต่อกับโชตินันท์ั้แ่เื่ราววันนั้น เขาไม่รู้ว่าทำไมอีกคนถึงโทรมา ในเมื่อตอนนั้นใส่ร้ายเขาแบบนั้นยังกล้าโทรมาอีกได้ไง
(ฮัลโหลอ้าย ดีใจจังที่รับสาย)
“มีอะไร”
(คือพี่มีเื่จะขอ)
“ขออะไรอีก”
(คือวันนี้พี่มีถ่ายงานแล้วเขาให้เชิญคนในครอบครัวมาหนึ่งน่ะ อ้ายพอจะมาได้ไหม)เขาอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง เพิ่งมาเห็นเขาเป็คนในครอบครัวตอนนี้เนี่ยนะ
“ไม่ได้”
(ขอร้องนะ คือว่ามันไม่มีใครว่างแล้วจริงๆ)
“ตอนนี้อ้ายไม่ใช่โชตินันท์ แล้วคนในครอบครัวของอ้ายก็ไม่มีพี่ด้วย”
(เดี๋ยวสิ! ถือว่าพี่ขอนะ คนอื่นเขามีกันหมด ถ้าเกิดไม่มีใครมากับพี่ก็คงมีปัญหากับรายการแน่ๆ)
“นั่นมันปัญหาของใคร”
(อ้าย...มันคือเื่สุดท้ายที่พี่จะขอจริงๆ พี่ขอร้อง)
“…ส่งที่อยู่มา”
(ขอบคุณนะ!)
ในเมื่อนี่จะเป็เื่สุดท้ายที่เขากับอิงดาวจะจบกันสักที เขาก็คงต้องไปให้มันจบ จะได้ไม่ต้องค้างคาอีกต่อไป ร่างเล็กเดินทางไปตามแผนที่ที่อีกคนส่งให้ไว้ในแชท ใช้เวลาสักพักก็ถึงที่หมาย ร่างเล็กจ่ายเงินค่ารถก่อนจะเดินลงมาเพื่อเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ เดือนอ้ายไม่เคยมาที่นี่มาก่อนแต่เขารู้ว่าที่นี่คือสังกัดที่อิงดาวอยู่ ซึ่งตัวเขาเองก็พอรู้มาบ้างว่าเื้ัของที่นี่มันค่อนข้างห่วยแตก
ร่างเล็กเดินเข้ามาในตึกก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นลิฟต์พอดี เดือนอ้ายเดินไปยืนหน้าลิฟต์ก่อนจะกดข้อความส่งไปให้อิงดาวว่าตัวเองกำลังจะขึ้นไปถึงชั้นที่กำลังจะทำการถ่ายทำแล้ว สักพักก็มีข้อความตอบกลับมาว่ามาถึงก็เข้ามาได้เลย เพราะยังไงพอเห็นหน้าของเดือนอ้ายก็รู้อยู่แล้วว่าคือฝาแฝดของอิงดาวอยู่แล้ว
เมื่อเดือนอ้ายผลักประตูเข้าไปก็พบว่าผู้คนวิ่งวุ่นกันไปมา เขาเดินเข้ามาด้านในก่อนถามผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่นิ่งๆ “สวัสดีครับ ผมเป็ญาติของอิงดาว”
“อ้าว! น้องชายฝาแฝดใช่ไหมคะ มาทางนี้เลยค่ะ เดี๋ยวพาไปที่ห้องพัก”เขาเดินตามอีกคนไปที่ห้องหนึ่งที่เขียนไว้ว่าห้องพักนักแสดง
สายตาเหลือบมองไปรอบๆห้องก็พบว่ายังไม่มีใครมาถึงที่นี่ เขาเดินไปนั่งที่โต๊ะมุมห้องก่อนจะทักไปหาอิงดาวว่าตอนนี้เ้าตัวอยู่ไหน แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับจากอีกคนสักที นั่งเล่นไปได้สักพักก็มีสตาฟมาเชิญให้ออกไปได้เลย เขาจึงเดินออกไปตามที่สตาฟบอก เดือนอ้ายมองแขกรับเชิญคนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้วยสายตามึนงง เมื่อกี้ยังไม่มีใครอยู่เลยนี่หน่า
ในขณะที่ทำการถ่ายทำทางพิธีกรได้ถามคำถามให้แต่ละคนเล่าเื่วัยเด็ก ซึ่งเื่วัยเด็กของเขากับอิงดาวมันไม่เหมือนกัน เพราะเขาได้รับการปฏิบัติต่างกันจากอีกคนอย่างชัดเจน เดือนอ้ายจึงได้เพียงแค่เล่าอ้อมๆเท่านั้น ส่วนอิงดาวก็เหมือนคนที่กำลังแต่งนิยายเื่หนึ่งเลยก็ว่าได้
เขาได้แต่ทนฟังเื่โกหกออกมาจากปากอีกคนแบบนั้นว่าตอนเด็กเขาชอบไปแกล้งอีกคน ทั้งที่จริงๆแล้วเดือนอ้ายไม่เคยไปยุ่งด้วยเลยสักครั้ง สารพัดเื่ที่อีกคนเล่าก็มีแต่คนในกองขำ ทั้งที่จริงๆมันไม่ได้ดูตลกเลยสักนิดเดียว เดือนอ้ายพยายามฝืนอยู่ตรงนั้นต่อจนจบรายการแล้วก็เดินออกทันที ร่างเล็กเดินออกจากกองถ่ายโดยไม่สนใจคำทักของใครทั้งสิ้น จนกระทั่งโดนข้อมือโดนใครบางคนคว้าเอาไว้
“อ้ายจะไปไหน? ไม่กินข้าวด้วยกันก่อนหรอ”
“ปล่อย”
“พี่มีเื่จะคุยด้วย”
“เราไม่มีอะไรจะคุยกันอีกแล้วทั้งนั้น ปล่อยมือออกเถอะ”
“อ้ายยังโกรธพี่อยู่ใช่ไหม?”
“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”เขาสะบัดมือออกจากอีกคนแต่ทว่าอิงดาวกลับลงไปกองกับพื้น เขามองอีกคนด้วยสายตาไม่เข้าใจ สักพักก็มีคนในกองถ่ายเห็นภาพตรงหน้าก็พาคนวิ่งมาดู
“คุณทำอะไรคุณอิงดาวคะ?!”
มือเล็กปัดมือตัวเองไล่สิ่งสกปรกออกพร้อมกับแสยะยิ้ม ในเมื่ออีกคน้าให้เขาเป็ตัวร้าย งั้นเดือนอ้ายจะเป็ตัวร้ายให้สมใจที่อีกคน้า การแสดงยังไงก็คือการแสดงอยู่ดี ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง อิงดาวก็มีแต่แสดงทั้งนั้น ไม่มีอะไรจริงสำหรับคนแบบนี้เลยจริงๆ ตอนแรกเขาคิดว่าเื่คงจะจบลงแค่นี้แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็แบบนั้น
“อยากจะตอแหลต่อไปก็เชิญ แต่ขอบอกอะไรไว้หน่อยนะ กูไม่ได้ยอมแล้ว” ร่างเล็กเดินหันหลังโดยที่ไม่ได้กลับมามองคนด้านหลังอีกเลย แม้แต่เสียงะโด่าหรือเสียงซุบซิบนินทาก็ไม่ได้อยู่ในหูของเดือนอ้ายอีกต่อไป ถือว่าการที่อิงดาวทำกับเขาแบบนี้คงคิดว่าเขาจะยอมเพราะเห็นว่าเขาไม่กล้าทำอะไรงั้นหรอ เดี๋ยวได้รู้เลยว่าการแก้แค้นเป็ไง โทรฟ้องพี่อาทิตย์แน่