“ค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้น?” ใต้ร่มไม้ที่อยู่ไกลออกไป คุณชายเก้าพลันลุกขึ้นยืน ด้วยท่าทีที่ตกตะลึง
เช่นเดียวกับทุกคน ชายหนุ่มย่อมประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็น
เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในดินแดนแรกสาบสูญ กำลังจะซ้ำรอยอีกครั้ง... ความสามารถเช่นกู่ไห่นี้ มีพลังแค่ระดับก่อ์เท่านั้นหรือ?
“คุณชายเก้า กลหมากตารางยี่สิบแปดเส้นนี้ สามารถสร้างจากหินิญญาได้อย่างนั้นหรือขอรับ? กู่ไห่ผู้นี้ เรียนรู้อะไรไปจากเรากันแน่?” ผู้ติดตามกล่าวอย่างพิศวง
“ค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้น ที่โจมตีลั่วเทียนเกอนั่น มิใช่ว่า?...”
“หุบปาก!” คุณชายเก้ากล่าวเสียงเย็น
เมื่อกลุ่มคนใต้อาณัติเห็นเช่นนั้น จึงไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรอีก
…
ไกลออกไป
ลั่วเทียนเกอในตอนนี้ เริ่มมีท่าทีหวั่นเกรง เขามองคุณชายเก้าที่อยู่ห่างออกไป กลับเห็นแต่ใบหน้าไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่าย
าาโจรสลัดทะยานร่างขึ้นสูง
โซ่ที่ถูกตัดขาด ลอยกลับมาอีกครั้ง
“มาเร็ว!”
โซ่ัเพลิงแปลงเป็ตาข่ายั์ มันขยายใหญ่ขึ้น ทั้งยังมีเปลวไฟลุกโชน จนกลายเป็ตาข่ายเพลิง
“ตาข่ายัเพลิง จงทำลายมันเสีย!” ลั่วเทียนเกอะโลั่น
ตูมๆ!
โซ่ตาข่ายขยายขนาดอย่างรวดเร็ว ก่อนพุ่งตรงไปยังค่ายกลั์ของกู่ไห่อีกครั้ง
ตูม!
ตาข่ายัเพลิงปะทะกับค่ายกลใหญ่ เปลวไฟทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และปกคลุมไปทั่วค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้นของกู่ไห่
“ฮึ่ม! ไม่มีใครบอกเ้าหรือ? ว่าค่ายกลของข้านั้น แข็งแกร่งกว่าคราก่อนเป็เท่าตัว... ดูเหมือนว่าครั้งนี้ จะเป็เ้าที่รนหาที่ตาย!” เสียงเ็าของกู่ไห่ ดังมาจากค่ายกลตรงหน้า
“ข้าคือเซี่ยงอวี่! จงไสหัวไปเสีย!”
เสียงคำรามดังออกมาจากค่ายกลอีกหน
นายทหารร่างั์ผู้ถือทวนวงเดือน์ ปราดเข้าฟาดฟันตาข่ายัเพลิงอย่างรุนแรง เต็มกำลัง
เมื่อทวนวงเดือน์ถูกเงื้อขึ้น ก็ปรากฏลมดาบโหมกระหน่ำ พุ่งตรงไปยังตาข่ายัเพลิงของลั่วเทียนเกอทันที
ตูม!
แรงปะทะทำให้ตาข่ายัเพลิงะเิออกเป็เสี่ยงๆ
“อ๊าก!” ลั่วเทียนเกอร้องออกมาด้วยความเ็ป
ฉึกๆ!
พริบตา คลื่นดาบสายลมของทวนวงเดือน์ ก็ทะลุอกแกร่งของาาโจรสลัด แม้เขาจะพยายามป้องกันตัวเองเต็มที่แล้วก็ตาม
“พรวด!”
ลั่วเทียนเกอกระอักเื ทั้งยังมีหยาดโลหิตสีแดงสดไหลรินจากาแ ั้แ่ใบหน้าไปจนถึงทรวงอก
“ตุบ!”
ลั่วเทียนเกอร่วงหล่นพื้น ร่างโชกเื แม้จะเป็เพียงาแภายนอก แต่กลับสั่นเทิ้มไปทั้งตัว เมื่อนึกย้อนไปถึงการโจมตีเมื่อครู่
อีกนิดเดียวเท่านั้น… เขาก็จะถูกฟัดขาดเป็ชิ้นๆ แล้ว
“อัก! พรวด!”
ลั่วเทียนเกอกระอักโลหิตเล็กน้อย พยายามลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ก่อนมองไปยังค่ายกลใหญ่ด้วยความหวาดกลัว ไม่เหลือความกล้าที่จะพุ่งเข้าไปอีก
เฮือก!
รอบข้าง มีเพียงเสียงสูดลมหายใจของเหล่าผู้ฝึกตน ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“ค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้น? น่าครั่นคร้ามเกินไปแล้ว!”
“าาโจรสลัดแห่งทะเลตะวันออก ที่ข้ามทะเลพันเกาะมาเพื่อต่อกร ก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของกู่ไห่อย่างนั้นหรือ?”
“โซ่ัเพลิง ตาข่ายัเพลิง ถูกตัดขาดอย่างง่ายดาย?”
เสียงร้องฮือฮาอย่างตกตะลึงดังขึ้นทั่วทุกบริเวณ บรรดาผู้ฝึกตนต่างลอบกลืนน้ำลาย ด้วยความหวาดหวั่นในพลังของกู่ไห่ ก่อนนึกขอบคุณตัวเอง ที่ตัดสินใจไม่บุกเข้าไปแต่แรก
ค่ายกลตรงหน้ากลับสู่ความสงบอีกครั้ง เมฆหมอกหนาที่ก่อตัวขึ้นนั้น ทำให้ผู้คนรอบนอกไม่อาจมองเห็นด้านในได้
...
ในค่ายกล
เซี่ยงอวี่ที่ก่อตัวขึ้นจากเมฆหมอกก่อนหน้านี้ พร้อมทวนวงเดือน์ในมือ เดินทางมาถึงปากเหวลึก
เิไท่ที่อยู่ในหุบเขา มองั์เซี่ยงอวี่ด้วยความโกรธเกรี้ยว
บัดนี้กู่ไห่มาถึงแล้ว เขาควบคุมอสูรเมฆาเซี่ยงอวี่ ผู้มีอาวุธทรงพลัง ทวนวงเดือน์อยู่ในมือ ให้คอยเฝ้าเิไท่ไว้
“กู่ไห่ เ้า.. เ้า... เ้า... ดีๆๆ!” เิไท่ะโอย่างแค้นเคือง
“ท่านหัวหน้าสังกัด จำที่ข้าเคยเอ่ยก่อนหน้านี้ได้หรือไม่? ทั้งหมดนี้คงจะเป็แผนของท่าน กลุ่มคนข้างนอกนั่น ก็คงเป็คนของท่านอีกเช่นกัน... ใช่หรือไม่? ฮึ่ม!” กู่ไห่แค่นเสียงถาม
“ฮ่าๆๆๆ!” เสียงหัวเราะดังมาจากหุบเหวลึก
ั้แ่ม่านพลังที่เิไท่สร้างเอาไว้ ถูกปลดผนึก พื้นที่บริเวณนี้ก็ปรากฏให้เห็นชัดเจน
สถานที่แห่งนี้เป็ปากปล่องูเาไฟ เหนือปากปล่อง มีร่างของชายชราตาบอดที่ถูกตีตรวนกักขังไว้ และในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้ว
“เิไท่สินะ เ้ามีเวลาวางแผนเช่นนี้ด้วยหรือ? นับว่าเป็แผนการที่รอบคอบดีทีเดียว... ฮ่าๆ!” ชายชรากล่าวกลั้วหัวเราะ
เิไท่ได้ยินเช่นนั้น จึงสวนกลับเสียงดัง “ตาเฒ่า ในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะเ้าดื้อรั้นั้แ่แรก ก็คงจะไม่ถูกขังไว้ที่นี่ ล้วนเป็ความผิดของเ้า... เป็ความผิดของเ้าทั้งหมด!”
ชายชราตาบอดยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนเอ่ย “กักขัง? ลูกศิษย์คนดี หากมิใช่เพราะความดื้อรั้นของข้า เ้าคงจะฆ่าเฟิงหลิง หลี่เหว่ย และเยว่เหยาไปนานแล้ว... เหตุใดข้าถึงได้รับเ้ามาเลี้ยงนะ?
เพียงเพราะ้าชีพจรันี้ เ้าจึงข่มขู่ข้าด้วยเฟิงหลิงและหลี่เหว่ย? ไร้ประโยชน์! ข้ารู้นิสัยเ้าดี หากข้าบอกเมื่อใด เ้าที่ได้สิ่งที่้าไปแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไร้ความจำเป็ และย่อมถูกสังหารสิ้น!”
ได้ยินเช่นนั้น เิไท่พลันโกรธเคืองอย่างไม่อาจยับยั้ง เขาหันไปมองกู่ไห่ที่อยู่้า ก่อนก้มดูเว่ยหยางที่อยู่ด้านล่าง
“ฮึ่ม! ตาแก่ ช่างดื้อรั้นนัก เช่นนั้นข้าจะทำให้คำพูดของเ้าเป็จริงเอง” เิไท่ชกไปยังร่างอีกฝ่าย อย่างเต็มแรงในหมัดเดียว
ราวกับ้าให้ชายชราตรงหน้า ตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ฉึกๆ!
ทันใดนั้น อสูรเมฆาที่กู่ไห่ควบคุมอยู่ ก็ฟาดทวนออกไป
ทวนวงเดือน์พุ่งเข้าจู่โจมเิไท่ทันที
“หืม?” เิไท่ชะงัก ก่อนหันกลับไปมองด้านหลัง
ตูม!
ร่างเิไท่ถูกกระแทก จนกระเด็นไปไกล
“กู่ไห่ นี่เ้าอยากเป็ศัตรูกับข้าจริงๆ หรือ?” เิไท่ถลึงตา
“ท่านหัวหน้าสังกัด ข้าบอกแล้วว่าพรรคต้าเฟิงเป็ของข้า ได้โปรดออกไปเสียเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้น อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” ชายหนุ่มกล่าว พลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
ทวนวงเดือน์ชี้ไปยังเิไท่อีกครั้ง
เิไท่ตัวสั่นด้วยความเจ็บใจ แต่เพราะอาการาเ็ยังไม่หายดีนัก หากต่อสู้กับอสูรเมฆา คงไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย
“ดีๆ.. ดีมาก! กู่ไห่ อะไรที่ข้าไม่ได้ เ้าก็อย่าหวังว่าจะได้! ฮ่าๆๆ ๆ!” เิไท่ะเิเสียงหัวเราะ ก่อนทะยานขึ้นฟ้าทันที
ฟึ่บ!
เิไท่เหาะออกจากค่ายกลอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน เหตุใดจึงปล่อยเิไท่ไป?” เกาเซียนจือที่อยู่ข้างๆ ถามขึ้นอย่างกังวล
ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนส่ายหน้า
ค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้นแข็งแกร่งก็จริง แต่การจะใช้ค่ายกลนี้นั้นยากนัก ในดินแดนแรกสาบสูญ ที่สามารถอัญเชิญทหารนับพันนับหมื่นออกมาได้ เป็เพราะใช้กฎฟ้าดิน แต่ตอนนี้ใช้เพียงหินิญญาเท่านั้น
อย่าว่าแต่ทหารนับพันเลย ตอนนี้จำนวนหินิญญาสามารถเชิญได้แค่เซี่ยวอวี่ผู้เดียวเท่านั้น แม้แต่ม้าที่เซี่ยงอวี่นั่ง ก็ยังไม่อาจเสกออกมาได้ ไม่ต้องพูดถึงกองทัพอาชา เพราะหินิญญาไม่เพียงพอ
หินิญญาที่ใช้สร้างค่ายกลนี้ ช่างมหาศาลนัก อีกสักพักหินิญญาก็คงจะหมดพลัง และเขาคงไม่อาจหยุดเิไท่ได้
ฟึ่บ!
ซ่างกวนเหินและคนอื่นๆ ตัดโซ่บนตัวชายชราออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะช่วยกันนำร่างชราออกมา
ระหว่างนั้นกู่ไห่ก็หายไปครู่หนึ่ง ถึงอย่างไรก็ต้องเสริมพลังค่ายกลก่อน เพราะพลังชี่ที่ควบคุมเซี่ยงอวี่นั้น ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล
“ข้า กู่ไห่ ขอคารวะท่านผู้เฒ่าเว่ย!” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ
เว่ยหยางในตอนนี้ตาบอดสนิทแล้ว เมื่อถูกอีกฝ่ายช่วยเอาไว้ จึงทำได้เพียงโค้งคำนับเล็กน้อยเป็การขอบคุณ “ขอบคุณท่านกู่! ข้าสงสัยว่าในเวลานี้ ลูกศิษย์ของข้ายังอยู่ดีกันหรือไม่?”
กู่ไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็มิได้ปิดบังอะไร เล่าสิ่งที่ตนรู้แบบย่อๆ
“อะไรนะ? เิไท่แต่งงานกับเฟิงหลิงหรือ? ทั้งยังฆ่าเยว่เหยาอีก? ส่วนหลี่เหว่ยยังไม่ตายอย่างนั้นหรือ?” คิ้วของชายชราขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อได้ยินเื่ที่อีกฝ่ายเล่า
กู่ไห่พยักหน้า “ใช่แล้ว! แต่หลี่เหว่ยในตอนนี้... ข้าได้สวมหน้ากากเพื่อปกปิดใบหน้าของเขาไว้”
“ท่านกู่ ไม่จำเป็ต้องเอ่ยอะไร แม้ข้าจะตาบอด แต่หัวใจมิได้บอดแต่อย่างใด หลี่เหว่ยกลายเป็มนุษย์ผัก หัวใจของเขาตายไปแล้ว ทั้งยังทำบาปหนักอีก
จดหมายที่ข้าเขียนถึงหลี่เหว่ย เิไท่คงจะเห็นมันเข้าแล้วกระมัง” เว่ยหยางกล่าว ใบหน้าเศร้าสลด
ชายหนุ่มหันไปมองหุบเหว ที่ยามนี้สามารถมองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าเบื้องล่างนั่น คือบ่อหินหลอมเหลว ที่มีหางัสีทองลอยอยู่กลางเวหา้า เหนือหางัมีกระดองเต่าขนาดมหึมา และบนกระดองนั่น มีกระดานหมากล้อมวางอยู่
นั่นเป็กระดองเต่า ซึ่งเป็ผนึกของหางชีพจรัที่อยู่ด้านล่าง
ไม่เพียงเท่านั้น บนหางั ยังมีกระดูกที่แผ่ไอสีดำออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระดูกที่ว่า มีลักษณะคล้ายกระบี่เรียวยาวเล่มหนึ่ง และถูกปักเอาไว้บนหางชีพจรั เหมือนดั่งตอกตะปูตรึงเอาไว้ ทำให้หางชีพจรัสั่นสะท้านอย่างถึงขีดสุด
“ท่านผู้เฒ่าเว่ย ข้าสงสัยว่าท่านจะช่วยให้ความกระจ่างได้หรือไม่? เกิดอะไรขึ้นกับหางั กระบี่กระดูก และกระดานหมากล้อมบนกระดองเต่านั่น?” กู่ไห่ขมวดคิ้วแน่น
“กระบี่กระดูก? กระบี่กระดูกอะไรหรือ?” ชายชราอึ้งเล็กน้อย
“หืม?” กู่ไห่มองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
เพราะตอนนี้ ดวงตาของเว่ยหยางมองไม่เห็น ชายหนุ่มจึงมองเขานิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนก้มมองด้านล่างของปล่องูเาไฟอีกครั้ง
“กระบี่กระดูก? สิบปีก่อน มันยังไม่ปรากฏขึ้นแต่อย่างใด” ท่าทีของชายชราค่อยๆ เปลี่ยนไป
“เมื่อสิบปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“สิบปีก่อน ข้าถูกกักขังเอาไว้เช่นนี้ เพราะชีพจรัปฐีนี่ เบื้องล่างนั้นร้อนอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีสายลมเย็นะเืพัดกระโชกเข้ามาจนหนาวเหน็บ ราวกับประตู์ได้เปิดออก ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากประตูนั่น” เว่ยหยางเล่า ยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เป็อย่างดี
“เสียง?” กู่ไห่เอ่ยถามอีกครั้งด้วยความกังขา
“ใช่! ข้าคิดว่ามันเป็เพียงภาพหลอน แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ เสียงนั้นกล่าวว่า ‘กระดูกบรรพชนถูกบดขยี้เป็ชิ้นๆ โลกนี้เป็ของข้า... ฮ่าๆๆๆ!’ ไม่นาน ทุกอย่างก็กลับคืนสู่ปกติ สายลมเย็นหายไป ประหนึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ชายชราอธิบาย
ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่งขึ้น มองอีกฝ่ายไม่ละสายตาครู่หนึ่ง ดุจจะตรวจสอบว่าสิ่งที่เว่ยเหยางได้เอ่ยออกมานั้น เป็ความจริงหรือไม่
“กระดองเต่าด้านล่างถูกผนึกเอาไว้ พรรคต้าเฟิงของข้าได้ผนึกมันมานานหลายชั่วอายุคน นับั้แ่ที่ท่านประมุขทิ้งมันไว้ให้ พรรคของเราก็มีหน้าที่เฝ้าดูแลมันมาโดยตลอด” เว่ยหยางบอก
“หืม? ประมุข? ผู้าุโกวนฉีน่ะหรือ?” กู่ไห่กล่าวอย่างสงสัย
“ใช่! คำสอนของพรรคที่ถ่ายทอดสู่เหล่าศิษย์ก็คือ เฝ้ารักษา เพื่อรอให้ผู้มีวาสนาปรากฏตัว” ชายชรากล่าว
“มีวาสนา? ใครคือคนที่ถูกเลือกกัน?” เกาเซียนจือเอ่ยถามด้วยความฉงน
“ข้าก็หารู้ไม่ ท่านประมุขมิได้เอ่ยสิ่งใด” เว่ยหยางส่ายหน้า
“ให้แก้หมากล้อมบนกระดองเต่าหรือ?” ชายหนุ่มถามอย่างสนใจ
“ข้าก็หารู้ไม่ แต่ข้าแก้ไม่ได้ เิไท่ก็แก้ไม่ได้ แต่เขากลับคิดว่าข้าสามารถแก้ได้ จึงบังคับให้บอกวิธีปลดผนึก ข้าจึงได้แต่แสร้งทำเป็ไม่บอก เพื่อรักษาชีวิตให้อยู่รอดจนถึงตอนนี้” ชายชราพูด
“ขอบคุณท่านผู้เฒ่าเว่ย!” กู่ไห่กล่าวเสียงเรียบ
“เ้าช่วยหลี่เหว่ยไว้ ไม่ต้องขอบคุณหรอก ข้าขอไปเยี่ยมลูกศิษย์ได้หรือไม่?” เว่ยหยางกล่าว พลางยกยิ้มเจื่อนๆ
ชายหนุ่มมองเว่ยหยาง ก่อนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าตกลง “เฉินเทียนซาน พาท่านผู้เฒ่าเว่ยไปพบหลี่เหว่ย”
“ขอรับ!” เฉินเทียนซานตอบรับ
หลังจากพาร่างของชายชราออกไปแล้ว กู่ไห่และพวกก็ได้แต่มองดูก้นเหวอีกครั้ง ด้วยความใคร่รู้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้