“เสี่ยวจาง ไหนบอกฉันซิ ใครหล่อมากกว่ากันระหว่างฉันกับฉินเฟิง? แล้วใครมีพร์มากกว่ากัน?” หวังเชามองเสี่ยวจางด้วยบรรยากาศที่เ็ากะทันหัน
เสี่ยวจางมองไปยังใบหน้าที่คล้ายส้นเท้าของหวังเชาและตอบโดยไม่ต้องคิด“หัวหน้าหวังครับมันก็ต้องเป็คุณอยู่แล้วที่ทั้งหล่อและมีพร์...ฉินเฟิงมันอยู่คนละโลกกับคุณเลยมันจะมาเทียบกับหัวหน้าหวังได้อย่างไร?”
สายตาเ็าของหวังเชาอบอุ่นขึ้นและเผยรอยยิ้มบนใบหน้าทันใดนั้นเขาก็พูดแบบเอาจริงเอาจัง “เสี่ยวจางเอามือทาบไว้ที่หัวใจและพูดอีกครั้งซิ ถ้าแกโกหกขอให้โดนฟ้าผ่า 5 ครั้ง”
มุมปากของเสี่ยวจางกระตุกเขาวางมือไว้บนอกอย่างไม่เต็มใจและคิดในใจว่าไม่ใช่เื่ใหญ่ถ้าต่อไปเจอฝนฟ้าคะนองเขาก็แค่ไม่ต้องออกจากบ้าน เขากัดฟันตอบ
“หัวหน้าหวังครับ คุณทั้งหล่อและมีพร์มากกว่าอยู่แล้ว!”
ครั้งนี้หัวหน้าหวังยิ้มแก้มปริเขาเดินไปข้างๆ เสี่ยวจางพร้อมกับหัวเราะชอบใจและตบบ่าของเขาเขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง “เสี่ยวจาง ั้แ่ที่ฉันเห็นคนในบริษัทนี้มาแกเป็คนที่มีรสนิยมเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว แกมีความสามารถที่โดดเด่นฉันจะไม่มีทางปฏิบัติกับแกไม่ดีอย่างแน่นอน”
หลังจากได้ยินคำพูดของหวังเชาเสี่ยวจางก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่โกหกออกไปในตอนแรก “หัวหน้าหวังครับคุณอยากจะจัดการฉินเฟิงหรือเปล่า?”
ตอนนี้เสี่ยวจางมีแผนของตัวเองหวังเชาไม่ได้แอบซ่อนความรู้สึกต่อหน้า เขาปลดปล่อยสีหน้าที่อำมหิต“พ่ออยากให้มันตาย”
เสี่ยวจางเห็นโอกาสอันงามเขากล่าวด้วยรอยยิ้มทันที “หัวหน้าหวังครับผมมีวิธีที่จะจัดการกับฉินเฟิงให้มันโดนไล่ออกจากบริษัทในทันที”
“วิธีอะไร? รีบบอกฉันเร็ว...ถ้ามันได้ผลจริงๆงั้นฉันจะช่วยแกให้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของแผนกการขายในเดือนนี้เลย”หวังเชาถามอย่างตื่นเต้น
“หัวหน้าหวังครับ คุณบอกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ระหว่างฉินเฟิงกับหัวหน้าหลี่เราจึงไม่สามารถใช้เธอกดดันฉินเฟิงได้ ทว่าเรายังหาพวกเบื้องบนของบริษัทได้ถ้าเราให้ฉินเฟิงหาเื่ใครสักคนในบรรดาผู้บริหารระดับสูงไม่มีใครช่วยไอ้เด็กนั่นได้หรอก ไม่ช้าก็เร็ว มันจะโดนถีบออกจากบริษัท”รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสี่ยวจาง
หวังเชาขมวดคิ้วและพยักหน้าเป้าหมายใหญ่ของเสี่ยวจางนั้นไม่เลว แต่หวังเชาคิดไม่ออกว่าต้องจัดการอย่างไร“เสี่ยวจาง แกมีแผนแล้วใช่ไหม? พูดออกมาไม่จำเป็ต้องอ้อมค้อมกับฉัน”
เสี่ยวจางยินดีกับตัวเองเมื่อเห็นว่าเขากระตุ้นความสนใจของหัวหน้าหวังได้“ผมมีแผนที่แยบยลเอาไว้แล้ว เป้าหมายก็คือผู้ช่วยหานคนสวยที่เพิ่งเข้ามาใหม่เธอเป็คนมีชื่อเสียงที่อยู่ข้างกายท่านประธานฉินถ้ามีคนหาเื่เธอก็เท่ากับว่าหาเื่ท่านประธานฉินไม่ใช่ว่านั่นเป็วิธีที่จะทำให้คนโดนไล่ออกในไม่ถึงนาทีเหรอครับ?”
เมื่อพวกเขานึกถึงหานอิ๋งอิ๋งรูปร่างงดงามและเซ็กซี่ของเธอบวกกับท่าทางที่มีเสน่ห์โผล่ขึ้นในหัวของพวกเขาพวกเขาจินตนาการไว้เพื่อที่จะเก็บข้อมูลลงข้อมือ
“หัวหน้าหวังครับ คิดดูสิ ถ้าฉินเฟิงหาเื่ผู้ช่วยหานและถ้ามันเป็อะไรที่อุกอาจมาก แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ตามนิสัยที่เข้มงวดของผู้ช่วยหานแล้วเธอจะต้องจัดการเขา ณ ตรงนั้นแน่นอน”
“แกพูดถูก แล้วเราจะให้ฉินเฟิงมันไปหาเื่ผู้ช่วยหานได้อย่างไร?” หวังเชารู้สึกว่าแผนนี้เริ่มมีความเป็ไปได้
เสี่ยวจางเผยรอยยิ้มน่าขนลุกเขาหยิบถุงยางออกมาจากกระเป๋า ทำให้หัวหน้าหวังใหวังเชาถอยผงะไปสามก้าวทันทีและมองเสี่ยวจางด้วยความกังวล เขาพูดอย่างไม่พอใจ“แกจะทำอะไร? ฉันไม่ใช่คนอย่างที่แกคิดนะโว้ย...ถึงแม้ว่าเราจะทำจริงๆฉันก็อยากเป็ฝ่ายรุกมากกว่า”
เสี่ยวจางมีท่าทีสับสนเขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ หวังเชาถึงกระวนกระวาย
เขามองดูถุงยางในมือแล้วมองไปที่หวังเชาทันใดนั้นก็ถึงบางอ้อ มุมปากของเขากระตุกและพูดด้วยความรังเกียจ “หัวหน้าหวังครับคุณเข้าใจผมผิดแล้ว ถุงยางนี้เตรียมไว้เพื่อฉินเฟิง”
“เพื่อฉินเฟิง?” หวังเชารู้ว่าเขาลืมตัวเขาจัดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระแอมทันที เขาพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม“ทำไมแกถึงเตรียมไอ้ของอย่างนี้ให้มัน?”
“แผนของผมคือให้ฉินเฟิงไปส่งเอกสารที่ออฟฟิศของผู้ช่วยหานและวางถุงยางนี้ไว้ในเอกสารเมื่อผู้ช่วยหานมองดูเอกสารทั้งหมดและเจอกับของอย่างนี้ เธอจะต้องโกรธแน่นอนเธออาจจะทำให้ฉินเฟิงพิการตรงนั้นเลยก็ได้ และฉินเฟิงก็จะมีชื่อฉาวโฉ่แพร่ออกไปถ้าแผนนี้เป็ไปตามคาดหัวหน้าหวังก็จะกำจัดสิ่งรกหูรกตาไปได้ แผนกการขายก็จะยังคงเป็ถิ่นของคุณและทุกคนก็จะต้องเชื่อฟังคุณ” เสี่ยวจางบอกแผนทั้งหมดในอึดใจเดียว ลึกๆเขากลัวว่าหวังเชาจะเข้าใจผิดอีกรอบ
“เสี่ยวจาง ฉลาดมาก! ฉลาดจริงๆ!” หลังจากได้ยินแผนแล้วสายตาของหวังเชาก็ส่องประกายและยิ้มจนปากฉีก“ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะร้ายกาจกว่าฉันเสียอีก”
“ไม่เลยครับ ไม่เลย ผมไม่สามารถเอาตัวเองไปเทียบกับหัวหน้าหวังได้หรอกครับ”เสี่ยวจางกล่าวด้วยรอยยิ้มเบิกบานทันที
สีหน้าของหัวหน้าหวังบึ้งลงทันที“แกหมายความว่าไง? แกจะพูดว่าฉันร้ายกาจกว่าแกงั้นเหรอ?แกจะพูดว่าฉันเป็คนเลวทรามต่ำช้าใช่ไหม?”
เสี่ยวจางเดิมทีพยายามจะประจบแต่เขาไม่คิดว่าหวังเชาจะตีความไปอีกความหมายหนึ่ง เขามึนงงทันทีและรีบอธิบาย“ผมกำลังจะพูดว่าผมรู้แต่แผนเ้าเล่ห์เพทุบายเท่านั้นผมเทียบกับคนอย่างหัวหน้าหวังไม่ได้หรอกครับทั้งแิและการกระทำของคุณดีเลิศกว่ามาก คนอย่างผมเทียบชั้นไม่ได้หรอก”
ความโกรธของหวังเชาละลายหายไปและรอยยิ้มเบิกบานก็กลับมาอีกครั้ง“ไอ้เด็กน้อย เก่งแต่ประจบนะเอ็ง ไปซะ รีบไปเรียกฉินเฟิงมาฉันทนรอเห็นมันโดนไล่ออกไม่ไหวแล้ว”
“ตกลง ถ้างั้นผมขอตัวครับ”หวังเชาและเสี่ยวจางแลกเปลี่ยนสายตากันและยิ้มอย่างน่าเกลียด
...
ตอนนี้ฉินเฟิงนอนแผ่อยู่บนโต๊ะในห้องโถงของแผนกการขายเขากำลังคิดว่าบ่ายนี้ควรจะทำภารกิจไหนก่อนดี ทันใดนั้น คำขอเป็เพื่อนใน QQ ก็เด้งเตือนขึ้นมา
ฉินเฟิงเปิดดูแจ้งเตือนและตรวจสอบโปรไฟล์ผู้หญิงอายุ 26 ปี โสดรูปโปรไฟล์ของเธอเป็ขาคู่สวยเรียวงาม ฉินเฟิงปฏิเสธคำขออย่างรังเกียจเขาเห็นคนแปลกหน้าที่ส่งคำขอมามั่วๆ มากมาย และส่วนใหญ่มักเป็พวกหลอกลวงเห็นได้ชัดว่าพวกมันทำให้นายน้อยคนนี้ไม่ชอบ
“เขากล้าปฏิเสธคำขอเป็เพื่อนของฉันได้อย่างไรกัน?”
หลี่อวี่เฉินนั่งในออฟฟิศของเธอและดูกังวลอยู่หน้าจอคอมเธอเห็นนายน้อยฉินปฏิเสธคำขอเป็เพื่อนของเธอและเสียขวัญทันที
เธอได้ยินว่านายน้อยฉินชอบคนสวยๆขายาวๆ เธอจึงตั้งใจถ่ายรูปขาสวยๆ ของเธอและใช้เป็รูปโปรไฟล์ทว่าเธอก็ยังโดนปฏิเสธ
อย่างไรก็ตามเห็นได้ว่าหลี่อวี่เฉินยังไม่ยอมแพ้ทั้งอย่างนั้น เธอหยุดคิดสักพักหนึ่งแล้วเธอก็หน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะวิ่งไปล็อกประตูออฟฟิศของเธอเธอทำตัวเหมือนกับพวกหญิงสำส่อนและดึงคอเสื้อลงต่ำ ต่ำอีก และต่ำอีก
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหนือหัวและเน้นหน้าอกของเธอเผยเหวที่ลึกกว้าง หลังจากลังเลอยู่สามครั้ง เธอก็เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของเธอและส่งคำขอเป็เพื่อนให้กับนายน้อยฉินอีกครั้ง
“เวร มีคนอยากแอดฉันอีกแล้ว นายน้อยผู้นี้เสน่ห์แรงเกินไปหรือไง?”