ณ ทะเลเหนือ
เรือเหาะลำหนึ่งจอดอยู่กลางเวหา บริเวณเบื้องล่างยังคงถูกปกคลุมไปด้วยมวลเมฆหนา เสียงฟ้าคำรามดังไปทั่วบริเวณ ตอนนี้บนผิวทะเลกำลังเกิดศึกนองเื
ัห้าสิบตัว กำลังว่ายวนไปรอบๆ ผืนทะเล
เมื่อัลงทะเล แผ่นดินยังะเื!
น้ำทะเลทั้งสี่ทิศ ราวกับจะตกอยู่ใต้อาณัติของัทั้งห้าสิบตัว
ตอนนี้บริเวณผิวทะเล มีเสวียนอู่น้อยใหญ่เกาะกลุ่มรวมกัน เพื่อปกป้องเผ่าตัวเอง เสวียนอู่น้อยที่มีขนาดเพียงหนึ่งจั้ง[1] จนถึงขนาดใหญ่นับสามร้อยจั้ง[2] ต่างกำลังเผชิญหน้ากับัดำด้วยความตื่นตระหนก เพราะขนาดของเหล่าเสวียนอู่นั้นแตกต่างกันเกินไป จึงทำให้เกิดช่องโหว่ ซึ่งอาจจะทำให้เพลี่ยงพล้ำแก่เหล่าัดำ ที่เอาแต่ว่ายวนรอบกลุ่มเสวียนอู่อย่างรอจังหวะ
ัแต่ละตัวมีความยาวถึงห้าร้อยจั้ง[3] ตัวที่ยาวที่สุดก็คือแปดร้อยจั้ง[4] และมีมากถึงห้าสิบตัว จึงทำให้เผ่าเสวียนอู่ถูกปิดล้อมโดยไร้ซึ่งหนทางหลบหนี
“หืม!”
ทันใดนั้น ัดำตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามา
“ปกป้องเด็กๆ เดี๋ยวข้าจัดการเอง!” เสวียนอู่ที่มีขนาดสามร้อยจั้ง ปราดเข้าใส่อย่างดุดัน
ตูม!
เมื่อเสวียนอู่ตัวใหญ่ปะทะกับัดำ จึงเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด ก่อนที่เสวียนอู่ตัวใหญ่จะล่าถอยทันที เมื่อเห็นัดำอีกตัวฉวยโอกาส เข้าไปกัดเสวียนอู่ตัวเล็กขนาดสิบจั้ง[5]
“ไม่! ลูกข้า… โปรดปล่อยลูกข้าเถอะ!”
แครก!
ครืน!
แม้เขาจะออกปากวิงวอน ขอความเมตตาต่อศัตรูร้ายตรงหน้า แต่เสวียนอู่ตัวเล็กกลับถูกขบกัดจนร่างแตกเป็เสี่ยงๆ ัดำหาได้แยแสต่อคำขอร้อง มันกลืนร่างลูกน้อยของอีกฝ่ายไปต่อหน้าต่อตา
สายตาเ็าของัดำ เหลือบมองไปยังเหล่าเสวียนอู่ด้วยความรังเกียจ แม้เมื่อครู่จะกลืนกินร่างของเสวียนอู่เข้าไปแล้วก็ตาม แต่มันกลับนึกชิงชังเศษเนื้อที่ติดตามซอกฟันแหลมของตนเหล่านี้ยิ่ง
“ระวังไว้ อย่าให้พวกมันสบโอกาสอีก” หนึ่งในกลุ่มเสวียนอู่ะโอย่างหวาดวิตก
สถานการณ์ในยามนี้ ไม่ต่างอะไรกับเหยี่ยวกำลังไล่ต้อนลูกเจี๊ยบ พลังที่เพียรฝึกตนมาอย่างยาวนานจนแข็งแกร่งนั้น ไม่ได้ฝึกมาเพื่อต่อสู้กับเหล่าัดำที่แสนโเี้ เช่นนี้แล้ว พวกเขาจะปกป้องเผ่าพันธุ์ได้อย่างไร? ยิ่งผ่านไปนาน เหล่าเสวียนอู่ก็ยิ่งถูกจับกินเป็อาหารมากขึ้นเรื่อยๆ
พลังของเสวียนอู่สามารถควบคุมท้องฟ้าและสภาพอากาศได้ แต่หากักลืนกินพวกมันเข้าไป กลับสามารถนำพลังเหล่านี้ไปต่อยอดได้มากกว่า ทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายอีกด้วย
...
อีกด้านหนึ่ง
เหนือสภาพอันน่าสังเวชของากลางทะเล ที่ย้อมไปด้วยโลหิต บนเรือเหาะซึ่งลอยลำอยู่กลางนภาสูง มีคนกลุ่มหนึ่ง กำลังมองดูการต่อสู้ตรงหน้าด้วยความสนใจ
นำโดยชายหนุ่มสวมชุดขาวสะอาด ที่กำลังเอนกายพิงราวบันไดอย่างสบายใจ บนใบหน้าที่ดูดีนั้น ปรากฏรอยยิ้มบางๆ
ที่เื้ั กลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนยืนอยู่อย่างสงบ หนึ่งในนั้น เหมือนจะมีคนผู้หนึ่งซึ่งดูจะมีสถานะสูงกว่าคนอื่นๆ ชายผู้นั้นมีรูปร่างกำยำ และสะพายดาบทองเอาไว้ที่ด้านหลัง
“คุณชายอาน ท่านนำักลุ่มนี้มารุกรานทะเลเหนือ ท่านอ๋องรู้เื่นี้หรือไม่? เป็ไปได้ไหมว่า...” ชายผู้สะพายดาบทองเอ่ยอย่างวิตก พลางขมวดคิ้วแน่น
“ฟางิโหว เ้าเป็เพียงองครักษ์ที่ท่านปู่ส่งมาปกป้องข้า หาใช่มาเพื่อบงการชีวิตไม่!” คุณชายชุดขาวขัดจังหวะเสียงเย็น
“ข้ามิกล้า ขอรับ! เพียงแต่ักลุ่มนี้...” ฟางิโหวกล่าวอย่างกังวล
คุณชายอันในชุดขาว หรี่ตามองไปด้านล่าง ก่อนพูด “ไม่เป็ไรหรอกน่า! ไม่นานมานี้ ข้าได้ยินข่าวลือว่าหลี่เฉินจีพบเสวียนอู่ที่นี่ วันนี้จึงรีบมา ปรากฏว่าได้พบกับเผ่าเสวียนอู่เข้าจริงๆ
ักลุ่มนี้จงรักภักดีต่อแคว้นของข้า ข้าย่อมไม่เอาเปรียบพวกเขา มิใช่ว่าพวกเขาอยากกินเสวียนอู่ แต่เพราะพลังของเผ่าเสวียนอู่จะช่วยให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น”
ฟางิโหวพยักหน้า แต่คิ้วกลับขมวดเข้าหากันแน่น ด้วยความกังขา แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก
ด้านล่างมีักลุ่มหนึ่งล้อมเผ่าเสวียนอู่เอาไว้ ทั่วผืนน้ำและแผ่นดินในตอนนี้ ถูกย้อมไปด้วยโลหิตของเผ่าเสวียนอู่ที่กำลังจะแพ้พ่าย
ทันใดนั้น จู่ๆ พลันปรากฏแสงประหลาด มุ่งตรงมายังพวกเขาด้วยความเร็วสูง
“หืม?” ฟางิโหวเลิกคิ้วขึ้น พร้อมหันไปมอง
อย่างไรก็ตาม บัดนี้ เรือเหาะลำนั้นกำลังลดเพดานบินลง จนไปลอยอยู่ในระดับต่ำ ใต้เมฆมืด และค่อยๆ เคลื่อนตัวใกล้เข้ามา
ัดำตัวหนึ่งที่อยู่ด้านล่าง พลันะเิออก ราวกับว่ามันละโมบ กลืนกินพลังมหาศาลลงไปจนเกินพิกัด
“ไม่...! อย่ากินข้า!” เสวียนอู่ตนหนึ่งร้องโหยหวนอย่างพรั่นพรึง ก่อนที่ร่างของมันจะถูกัดำตัวหนึ่งพุ่งเข้ามากลืนกิน
“ไอ้พวกสารเลว!”
เสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังมาจากเรือเหาะปริศนา ร่างของผู้าุโคนหนึ่ง พลันเหาะออกจากเรือ ตรงไปช่วยเผ่าเสวียนอู่ พลังฝ่ามือระลอกหนึ่ง พุ่งเข้าโจมตีัดำจนเสียท่า
ตูม!
เสียงะเิดังสนั่น ัดำถูกพลังฝ่ามือจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ร่างของเสวียนอู่ที่กำลังจะถูกกลืนกิน หลุดรอดเป็อิสระ เมื่อเห็นเช่นนั้น เหล่าัดำต่างก็ล่าถอยไปตั้งหลักทันที
“อา? ผู้าุโโหมวเฉิน... ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!” เสวียนอู่ที่กำลังขวัญผวา ต่างก็รู้สึกใจชื้น เมื่อเห็นผู้าุโของเผ่าตน
ทว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่ผู้าุโระดับสูงอย่างโหมวเฉิน จะไปสนใจความยินดีของคนใต้อาณัติ เขาไม่รอช้า พุ่งร่างเข้าสู่สมรภูมิรบขนาดใหญ่ตรงหน้าทันที
“ไอ้พวกชั่วช้า เ้ากล้าดีอย่างไร ถึงได้มาทำเช่นนี้กับเผ่าของข้า!” ผู้าุโระดับสูงคำรามลั่น น้ำทะเลโดยรอบพลันพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า ราวกับกำแพงวารีก็ไม่ปาน
“ผู้าุโมาแล้ว... ผู้าุโกลับมาแล้ว!”
“ข้ารอดแล้ว!”
“ผู้าุโ ช่วยพวกเราด้วย!”
สมาชิกเผ่าเสวียนอู่ ต่างะโด้วยความหวาดกลัว ระคนดีใจ
โหมวเฉินปราดเข้าไปซัดฝ่ามือใส่ัดำตรงหน้าทันที
“โฮก...!”
เหล่าัต่างร้องคำรามสนั่น ก่อนปรี่เข้าหาโหมวเฉินเช่นกัน หนึ่งในกลุ่ม ซึ่งเป็ัดำั์แปดร้อยจั้ง ฟาดหางใส่โหมวเฉิน ทันทีที่ปลายหางัักับทะเล ผิวน้ำก็แยกเป็สองส่วนโดยพลัน
ตูมๆ!
สายน้ำะเิ จนเกิดการกระเพื่อมรุนแรง แล้วพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า
โหมวเฉินเริ่มมีท่าทีที่แปลกไป ร่างของเขาสั่นไหว ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็เต่าั์ขนาดห้าร้อยจั้ง
“โฮก...!”
เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆ กันนั้น กระดองเต่ากับปลายหางของัดำั์ก็เข้าไปปะทะกันแล้ว
ตูม!
น้ำทะเลโดยรอบปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที หางของัดำไม่อาจสร้างความเสียหายต่อกระดองเต่าั์ได้
แต่การปะทะครั้งนี้ กลับทำให้บรรดาเสวียนอู่และั ซึ่งกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดที่บริเวณรอบนอก ต้องแยกออกจากกัน
ัตัวอื่นๆ พากันว่ายน้ำอยู่ด้านหลังของัดำ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด พวกมันมองเต่าั์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้วยสายตาเยียบเย็น
เหล่าเสวียนอู่ต่างก็รีบไปรวมตัวกันเป็กองทัพขนาดเล็ก ที่เื้ัของโหมวเฉินเช่นกัน อีกทั้งยังเอาแต่จับจ้องไปยังสมาชิกเผ่าัที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้วยความโกรธแค้น
…
เหนือมวลเมฆครึ้มฝน
“คุณชายอาน เรือเหาะลำนั้นดูเหมือนจะเป็ไป๋อวิ๋นของถังจู่แห่งหออี้ผินมิใช่หรือ? นั่นหลงหว่านชิงนี่ขอรับ?” ฟางิโหวกล่าว พลางนิ่วหน้า
คุณชายอานหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยอย่างข้องใจ “หลงหว่านชิง? เหตุใดนางถึงไปเกี่ยวข้องกับผู้าุโโหมวของเผ่าเสวียนอู่ได้?”
…
บนเรือเหาะไป๋อวิ๋น ภายใต้กลุ่มเมฆมืดครึ้ม
หลงหว่านชิง ไต้ซือหลิวเหนียน กู่ไห่ และซ่างกวนเหิน ต่างมองดูการต่อสู้ของสองเผ่าพันธุ์ที่อยู่เบื้องล่าง อย่างไม่ละสายตา
“การไล่ล่าอย่างนั้นหรือ? ฮ่าๆๆ! เผ่าักลุ่มนี้มารุกรานเผ่าเสวียนอู่หรือ?” ดวงตาของซ่างกวนเหินฉายแววเย็นะเื เอาแต่มองไปข้างล่างอย่างตั้งใจ
“ัชอบกินเสวียนอู่อย่างนั้นหรือ?” กู่ไห่ถาม พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างนึกสงสัย
“เทพอสูรแห่งน้ำอย่างเสวียนอู่ เป็พลังเสริมที่ดี ดังนั้นเผ่าพันธุ์ัจึงมาตามล่ากลืนกิน เพื่อเพิ่มพลังให้กับเผ่าของตน น่าเสียดายที่ไม่ใช่แปดร้อยปีก่อน
หากเป็เมื่อแปดร้อยปีก่อน เผ่าเสวียนอู่ก็จะกลืนกินัเช่นกัน ทว่าตอนนี้พวกเราอ่อนแอ จึงถูกเผ่าัไล่ล่าและจับมากลืนกินได้อย่างง่ายดายเช่นนี้” เปลือกตาของซ่างกวนเหินสั่นระริก ด้วยความหวาดหวั่น
“เสวียนอู่ก็กินัด้วยหรือ?” กู่ไห่ประหลาดใจ
“เสวียนอู่ไม่เกี่ยงขอรับ กินัก็ได้ หงส์ก็ดี แต่น่าเสียดาย ที่บัดนี้ กลับเป็ฝ่ายถูกกลืนกินไปเสียแล้ว!” ซ่างกวนเหินพูดอย่างใจเย็น
แต่กู่ไห่ก็สามารถเข้าใจความรู้สึกของเขาได้ทันที จากน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะของอีกฝ่าย
“ไม่สิ! ท่านถังจู่ ักลุ่มนี้เป็ัแห่งอธรรม!” ไต้ซือหลิวเหนียนหรี่ตาลง
“ัแห่งอธรรม?” หลงหว่านชิงตกตะลึงเล็กน้อย
“ัแห่งอธรรมคืออะไรหรือ ท่านไต้ซือ?” กู่ไห่ถามอย่างกังขา
“ัแห่งอธรรม ก็คือัที่กระทำความผิดอย่างร้ายแรงต่อเผ่าพันธุ์ั จนถูกขับไล่ออกจากเผ่า และถูกประทับไว้ด้วยสัญลักษณ์ที่เรียกว่า ‘ตราประทับแห่งบาป’ บนศีรษะ
อันที่จริง พวกเขาจะต้องถูกปะา แต่เพราะยังได้ชื่อว่าเป็เผ่าั จึงถูกละเว้นโทษตาย แต่บาปที่ได้ก่อขึ้นนั้น ไม่มีอะไรที่จะสามารถนำมาลบล้างได้ จึงมอบพวกเขาให้เป็ทาสของแคว้น์ต้าเฉียน หลังจากพันปีผ่านไป ถึงจะเป็อิสระ
เผ่าพันธุ์ัเป็สัตว์อสูรของแคว้น์ต้าเฉียน ต่อให้เป็ัแห่งอธรรม แคว้นของข้าก็จะไม่ทำในสิ่งที่ร้ายแรงเกินไป โดยปกติแล้ว จะมอบให้กับเมืองตามชายแดน ให้พวกเขาประจำการอยู่ที่นั่น เพื่อต่อต้านศัตรูจากภายนอกเท่านั้น” หลงหว่านชิงอธิบาย
กู่ไห่เดินตามหลงหว่านชิงไป ตามคาด บนหัวัแต่ละตัว มีรอยแผลเป็รูป ‘ต้นข้าว’ จริงๆ
“หลายปีมานี้ เกิดความวุ่นวายหนักที่เมืองอิ่งโจว ดังนั้นัแห่งอธรรมส่วนใหญ่ จึงถูกส่งไปที่นั่น เพื่อคุ้มกันท่านอ๋องลู่หยาง พวกเขาจะถูกจัดให้ประจำการอยู่ในสถานที่ต่างๆ ไม่อนุญาตให้ออกไปไหน แต่นี่... ทำไมถึงมาปรากฏตัวที่ทะเลเหนือได้?” หลงหว่านชิงพูดด้วยความข้องใจ
ตูม!
การต่อสู้ระหว่างโหมวเฉินและัดำตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มนั้น รุนแรงมาก ด้วยพลังของทั้งสอง จึงทำให้เกิดพายุพัดกระหน่ำไปทั่วบริเวณ
แต่กู่ไห่หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาเอาแต่กวาดตามองไปรอบตัว
“ฝ่าา มีเรือเหาะอยู่้าพ่ะย่ะค่ะ!” ซ่างกวนเหินร้องบอกทันที
เมฆมืดครอบคลุมไปทั่วผืนฟ้า แม้กู่ไห่จะมองไม่เห็นท้องฟ้า แต่สายตาของซ่างกวนเหิน กลับมองทะลุผ่านกลุ่มเมฆครึ้มไปได้
“บินขึ้น!” หลงหว่านชิงร้องสั่ง
ฟึ่บ!
เรือเหาะเพิ่มเพดานบินอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วครู่ พวกเขาก็ลอยพ้นเขตเมฆามืดครึ้มไป
“หลานชายของท่านอ๋องลู่หยาง? ลู่อาน? หรือนี่จะเป็เรือเหาะของลู่อาน?” ไต้ซือหลิวเหนียนกล่าว พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ลู่อานผู้นี้มีปัญหาอะไรหรือ?” กู่ไห่ถามด้วยความสงสัย
“มีปัญหาที่สุด คุณชายผู้นี้ คือหลานที่ท่านอ๋องลู่หยางโปรดปรานมากที่สุด อีกทั้งยังมีพลังที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน!” ไต้ซือหลิวเหนียนขมวดคิ้วแน่น
“หืม?” กู่ไห่นึกพิศวงเล็กน้อยกับคำพูดนั้น
เรือเหาะไป๋อวิ๋นเคลื่อนมาถึงหน้าเรือเหาะ ที่ลอยนิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที
คุณชายอานมองหลงหว่านชิง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตนเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เผยรอยยิ้มบาง “ที่แท้ก็เป็น้องหญิงหว่านชิงนี่เอง ท่านมาทำอะไรที่ทะเลเหนือหรือ?”
“คุณชายอาน โปรดเรียกข้าว่าหลงหว่านชิง ข้าหาใช่น้องหญิงหว่านชิงของท่านไม่ และัแห่งอธรรมเหล่านี้ ท่านเป็คนนำพวกเขาออกมาจากแคว้นหรือ?” หลงหว่านชิงถลึงตาใส่
“อะไรกัน? น้องหญิงหว่านชิงไม่ชอบที่ข้าเรียกแบบนี้หรือ? ถึงอย่างไร แม้จะเรียกว่าหลงหว่านชิง แต่ก็ยังเป็หว่านชิงอยู่ดีมิใช่หรือ?” นายน้อยอานยิ้มบางๆ
“คุณชายอาน เสวียนอู่เหล่านี้เป็เพื่อนข้า โปรดพาัแห่งอธรรมกลุ่มนี้กลับไปเถอะ!” หลงหว่านชิงวิงวอนเสียงต่ำ
“โอ้! เพื่อนท่านอย่างนั้นหรือ? ทว่า ข้าคงทำอะไรไม่ได้เช่นกัน เพราะัแห่งอธรรมกลุ่มนี้ หาได้เชื่อฟังข้าไม่” นายน้อยอานกล่าวพลางคลี่ยิ้ม
ไต้ซือหลิวเหนียนที่อยู่ด้านข้าง พูดเสียงเคร่ง “นายน้อยอาน หากอ้างอิงตามราชโองการ ซึ่งเป็กฎของราชวงศ์์ต้าเฉียน การที่นายน้อยอานพาัแห่งอธรรมกลุ่มนี้ ออกนอกเขตแดนของอิ่งโจวมายังทะเลเหนือ คงจะเข้าข่ายต่อต้านราชโองการกระมัง?
ไม่รู้ว่าท่านเป็คนพาพวกเขาออกมาเอง หรือว่าอ๋องลู่หยางเป็คนให้พาออกมา เป็ท่านที่ฝ่าฝืนราชโองการ หรือว่าอ๋องลู่หยางละเลย ไม่ใส่ใจราชโองการขององค์จักรพรรดิ์กันแน่?”
“หืม?” สีหน้าของนายน้อยอานที่เคยหัวเราะอารมณ์ดี พลันแปรเปลี่ยนเป็เฉยชาทันที
“ฮ่าๆๆๆ! มันจะผิดมากมายสักแค่ไหนกัน! ท่านไต้ซือ นี่ก็นานมากแล้วที่ท่านออกจากบ้านมา” นายน้อยอานพูดอย่างเยือกเย็น
“คุณชายอาน หากท่านยังไม่ยอมถอนกำลังัแห่งอธรรมเหล่านี้ออกไป ข้าจะรายงานให้ท่านตาทราบ ว่าท่านอ๋องลู่หยางไม่เคารพต่อราชโองการ และปล่อยให้ัแห่งอธรรมมาทำลายทะเลเหนือ!” หลงหว่านชิงถลึงตาใส่
นายน้อยอานจ้องมองหลงหว่านชิงนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มเย็น “น้องหญิงหว่านชิง เ้ายังคงน่ารักเหมือนเมื่อครั้งยังเยาว์ไม่มีผิด แต่ตอนนี้ ยิ่งเจอข้าก็ยิ่งไม่ชอบ!”
หลงหว่านชิงมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
คุณชายอานทอดสายตา มองไปยังทุกคนบนเรือเหาะไป๋อวิ๋นอย่างมึนตึง เมื่อเขาเห็นกู่ไห่ ก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่ก็หาได้สนใจอะไรไม่
“เ้าหน้าผี ได้เวลากลับแล้ว!” คุณชายอานเอ่ยเสียงเรียบ
ตูม!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงะเิดังมาจากบริเวณด้านล่าง พร้อมๆ กันนั้น การต่อสู้ก็หยุดลงอย่างฉับพลัน
ัดำที่ต่อสู้อยู่กับโหมวเฉิน เงยหน้าขึ้นมองเรือเหาะที่ลอยอยู่กลางเวหา ก่อนถามด้วยความประหลาดใจ “อะไรกัน? คุณชายอาน จะกลับแล้วหรือ? รอให้ข้าจัดการกับโหมวเฉินก่อน แล้วพลังเหล่านี้ก็จะกลายเป็ของเรา!”
“กลับเดี๋ยวนี้! หากยังไม่ไป ใครบางคนอาจจะใส่ร้ายท่านปู่ของข้าว่าก่อฏก็เป็ได้... หึ!” คุณชายอานจ้องหลงว่านชิงเขม็ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ขอรับ!” ัดำตอบรับ
“ไปกันเถอะ!”
“อืม!”
ว่าแล้ว ัดำต่างก็เหาะขึ้นฟ้า
ตูมๆ!
ทันใดนั้น เหล่าัดำก็กลายร่างเป็มนุษย์ ก่อนจะะโลงไปยืนบนเรือเหาะของคุณชายอาน
นายน้อยอาน หันไปมองหลงหว่านชิง พลางยกยิ้มบางๆ
“น้องหญิงหว่านชิง หากว่างก็มาเยือนเมืองอิ่งโจวของข้าสิ! ข้าจะให้ความบันเทิงที่สุดแก่เ้าเอง... ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ!” คุณชายอานกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะหัวเราะร่าอย่างมีความสุข แล้วเรือเหาะก็พุ่งออกไปไกลในชั่วพริบตา
----------------------------------------------
[1] หนึ่งจั้ง เท่ากับ 3.3 เมตร โดยประมาณ
[2] สามร้อยจั้ง เท่ากับ 990 เมตร โดยประมาณ
[3] ห้าร้อยจั้ง เท่ากับ 1,665 เมตร หรือราวๆ 1.67 กิโลเมตรโดยประมาณ
[4] แปดร้อยจั้ง เท่ากับ 2,640 เมตร หรือราวๆ 2.64 กิโลเมตรโดยประมาณ
[5] สิบจั้ง เท่ากับ 33 เมตร โดยประมาณ