บทที่ 40 สมบัติที่แท้จริง?
“ถ้าเข้ามาอีก ข้าจะฆ่าเ้าซะ!” ฉู่ป้าดูตื่นตระหนกและอยากจะสู้กลับ
แต่ดาราจรัสแสงของฉู่อวิ๋นเมื่อครู่ทั้งแข็งแกร่งและดุร้าย ไม่เพียงทำลายขวานรบของเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้หน้าอกของเขาาเ็อีกด้วย หากเขารวบรวมพลังปราณก็จะรู้สึกเ็ปอย่างยิ่ง เืจะไหลราวลำธาร
ยามนี้ ดวงตาของฉู่อวิ๋นถูกปกคลุมไปด้วยม่านแวววาวสีแดงก่ำ เขาก้าวเท้าไปที่ฉู่ป้าอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปดึงคอเสื้อของฉู่ป้าขึ้นมาและใช้มือขวาต่อยเขาอย่างสุดกำลัง!
"ตุ๊บ!"
หมัดที่รวดเร็วและรุนแรงทำให้เกิดลมกระโชกแรง พละกำลังท่วมท้น
หลังจากถูกต่อย ใบหน้าของฉู่ป้าก็เปลี่ยนรูปไปทันที มีเืไหลออกมาจากปากและฟันหายไปหลายซี่
“มันเจ็บ! ไอ้สารเลว ไอ้เวร!”
ฉู่ป้าต่อต้านอย่างดุเดือด แต่ฉู่อวิ๋นที่โกรธเกรี้ยวก็คว้าเขาไว้แน่นและต่อยหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ!”
หนึ่งหมัด
สองหมัด
สามหมัด...
ในไม่ช้า ฉู่ป้าที่แต่เดิมเคยโอหังหยิ่งผยองและขู่ว่าจะฆ่าฉู่อวิ๋น ก็มีเืไหลออกมาไม่หยุด ใบหน้าช้ำ จมูกบวม
ยามนี้ ฉู่ป้าสั่นไปถึงหัวใจ ทั้งยังใอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าแผนการของเขาที่จะขโมยสมบัติของตระกูลจะล้มเหลวและถูกฉู่อวิ๋นทำลายลงในวินาทีสุดท้าย
ตอนนี้เขาทำได้เพียงตกอยู่ในเงื้อมมือของฉู่อวิ๋น รอรับผลลัพธ์เท่านั้น
“ตายซะ!!!” ฉู่อวิ๋นหลั่งน้ำตาและะโอย่างเกรี้ยวกราด ระดมกำลังทั้งหมดแล้วส่งหมัดที่ทรงพลังและหนักหน่วงออกไปอีกครั้ง
"ตึง!"
ฉู่ป้าที่ถูกหมัดนี้ปลิวไปกระแทกกำแพงหิน กระดูกหลายซี่หักท่อน อวัยวะภายในแตกร้าว เขาล้มลงกับพื้นด้วยอาการาเ็สาหัส พลังชีวิตเริ่มลดลงเรื่อยๆ สิ้นหวังที่จะขอ
ใกล้ๆ กันนั้น มู่หรงซินขมวดคิ้วเมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉากนองเืนี้ทำนางใไม่น้อย
ไม่คิดว่า คนที่มักจะดูซื่อสัตย์ ใจดี และตรงไปตรงมาอย่างฉู่อวิ๋น จะกลายเป็คนโเี้และเด็ดขาดเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ทั้งยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของไอสังหาร
ทว่าฉู่ป้าคนนี้ก็ไม่สมควรได้รับความเห็นใจ เขากับผู้าุโหกสมคบคิดกันขโมยสมบัติต้องห้ามของตระกูลฉู่ เขาเป็คนโเี้ ฉลาดแกมโกงและเ้าเล่ห์ คนแบบนี้ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย
“ท่านพ่อ ขอท่านวางใจ ลูกจะช่วยท่านแก้แค้นเอง! ข้าจะฉีกผู้าุโหกและพรรคพวกที่อยู่ข้างหลังเขาให้เป็ชิ้น ๆ ด้วยมือของข้าเอง!”
ดวงตาของฉู่อวิ๋นเบิกกว้างด้วยความโกรธ เขามองไปที่ฉู่ป้าที่ใกล้จะตายอยู่ที่มุมห้อง กำลังจะต่อยเขาอย่างแรงอีกครั้ง
"วี๊ด!"
ในขณะนี้ เสียงคำรามที่น่ากลัวดังมาจากทางเข้าหลักของสุสาน ส่งเสียงหวีดแหลมและน่าสะพรึงกลัว
ฉู่อวิ๋นพลันหนาวสะท้านไปทั่วทั้งร่างและรู้สึกว่าอันตรายร้ายแรงกำลังใกล้เข้ามา เขาหยุดการกระทำอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนตัวกลับ
"ตึง..."
จุดที่ฉู่อวิ๋นกำลังจะก้าวไป เห็นโซ่ที่เต็มไปด้วยความน่าสยดสยองแทงทะลุขึ้นมา พื้นดินกลายเป็สีดำและแตกออกเป็เสี่ยงๆ หินก้อนใหญ่ั์เริ่มสึกกร่อน
"ใคร?"
ฉู่อวิ๋นหันหน้ามองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นร่างบางๆ ที่สวมเสื้อคลุมสีดำที่ด้านหน้าทางเข้าสุสาน กำลังเดินช้า ๆ พร้อมรัศมีที่เย็นเยียบแลน่ากลัว
“เ้าหนุ่ม อายุยังน้อย อย่าฆ่าคนตามใจตนเลย ไม่เช่นนั้นเ้าจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา” เสียงของเงาดำแหบห้าวและทรงพลัง
“เ้าเป็ใคร? หรือว่า...เ้าคือคนที่ร่วมมือกับผู้าุโหกเพื่อปิดล้อมสังหารพ่อของข้า?” จู่ๆ ฉู่อวิ๋นก็นึกขึ้นได้ และทันใดนั้นดวงตาของเขาก็หรี่ลง คิ้วเข้มขมวดมุ่น ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
เขารู้สึกถึงความเย็นะเืที่ค่อยๆ แผ่มาหาเขา มันทำให้เืทั้งหมดในกายคล้ายแข็งตัว
ความแข็งแกร่งของเงาดำที่ปรากฏตัวขึ้นแบบฉับพลันที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้โดยแน่ชัดนี้ แกร่งกว่าเขามาก
เงาดำหัวเราะอย่างน่าสะพรึงและพูดว่า "จิ๊จิ๊ พ่อหนุ่มน้อยก็ฉลาดนี่นา แต่คืนนี้ ข้าต้องได้หนังสือโบราณม้วนนั้นไป เ้าก็อยู่ที่นี่ต่อไปให้สบายใจเถอะ ฮ่าๆ"
ทันใดนั้น ชายลึกลับคนนี้้าเข้าไปในสุสาน นั่นทำให้ฉู่อวิ๋นกังวลและตั้งท่าพร้อมสู้จนตัวตาย
แต่ก่อนที่ชายคนนี้จะก้าวเข้าไป เขาก็ดึงขากลับอีกครั้ง ดูเหมือนจะหัวเราะเยาะตัวเอง "โอ้ ข้าจำไม่ได้แล้วจริงๆ ว่าสถานที่เวรตะไลนี่มีค่ายกลต้องห้ามอยู่ ถ้าการฝึกฝนข้าอยู่แค่ขอบเขตควบแน่นพลังปราณคงจะลำบากไม่น้อย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่อวิ๋นก็ใอีกครั้ง ระดับพลังยุทธ์ของชายลึกลับคนนี้อย่างน้อยก็อยู่ในขั้นมหาสมุทร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาเทียบได้ในตอนนี้!
แต่ตอนนี้มีค่ายกลสายเืในหลุมศพของบรรพบุรุษ และดูเหมือนว่าจะได้ผลกับคนๆ นี้ หยุดเขาไม่ให้เข้าไปได้
“ไม่คิดว่าค่ายกลที่บรรพบุรุษข้าสร้างจะปกป้องข้าไว้” ฉู่อวิ๋นบอกตัวเอง
ในเวลานี้ ร่างสีดำพูดอีกครั้งด้วยเสียงแหบห้าว “นี่ เ้าหนูนั่น ยังจะแกล้งตายอยู่อีกหรือ? เอาม้วนกระดาษเล่นแสงสีทองนั่นออกมาเร็วๆ ข้ามีเวลาไม่มากแล้ว”
ข้างกำแพงหิน หลังจากได้ยินคำพูดนั้น ฉู่ป้าที่ยังโกรธอยู่ในตอนแรกก็ลืมตาขึ้นราวกับกำลังย้อนอดีต เขาลุกขึ้นยืนด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีแล้วะโขึ้นไปบนแท่นหินที่อยู่ตรงกลางหลุมฝังศพ
ที่จริงแล้ว เดิมที่ฉู่ป้าคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่ตอนนี้การปรากฏตัวของบุคคลลึกลับทำให้เขามีความหวังในการเอาชีวิตรอดและการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
“จะวิ่งไปไหน?!” ฉู่อวิ๋นตะคอกอย่างเ็าและะโไปที่แท่นหิน เขาระดมพลังปราณและฟาดฝ่ามือใส่ฉู่ป้า
"ฟิ้ว!"
ในกลางอากาศ ร่างสีดำยิงห่วงโซ่ปราณทมิฬเส้นหนึ่งออกมา หมายจะหยุดเขา แต่ฉู่อวิ๋นอาศัยสัญชาตญาณในการหลบและโจมตีฉู่ป้าได้สำเร็จ
“หืม? พร์ในการต่อสู้ของเ้าหนูนี่ไม่เลว สามารถััถึงทิศทางการโจมตีโซ่ผีของข้าได้” ชายลึกลับประหลาดใจ เขายืนอยู่ที่ทางเข้าสุสานและไม่สามารถเข้าไปได้ จึงทำได้เพียงโจมตีจากระยะไกลด้วยห่วงโซ่ปราณทมิฬ
เดิมที หากฉู่อวิ๋นอยู่นอกสุสาน ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถหลบหนีการโจมตีของบุคคลลึกลับขั้นมหาสมุทรคนนี้ได้ แต่ภายใต้การปรามของค่ายกล ห่วงโซ่ปราณทมิฬของชายลึกลับนี้ก็สูญเสียพลังส่วนใหญ่ไป ทำให้ฉู่อวิ๋นมีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้
แต่เพราะต้องหลีกเลี่ยงโซ่ผี พลังฝ่ามือของฉู่อวิ๋นจึงลดลงเล็กน้อย ไม่เพียงพอที่จะฆ่าฉู่ป้าได้
มองเห็นฉู่ป้ากระอักเืออกมาเต็มปากอีกครั้ง ใบหน้าของเขาซีดขาว ดูเหมือนคนตาย
“ขอแค่...ขอแค่...ได้รับ...คัมภีร์โบราณ! ท่านผู้เฒ่าก็จะ...ช่วยข้า!” เมื่อคิดดังนั้น ฉู่ป้าจึงมองลงไปอย่างดุร้าย หยิบคัมภีร์โบราณบนหินนั้นแล้วหันหลังวิ่งหนีไปทันที
“เชอะ!” ฉู่อวิ๋นะโ แล้วรีบพุ่งตามฉู่ป้าไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น โซ่สีดำก็ตัดผ่านอากาศ ส่งเสียงกรีดร้องดังกึกก้องราวกับเสียงจากนรก ทำให้ฉู่อวิ๋นต้องหลบหลีก
ยิ่งใกล้กับทางเข้ามากเท่าไรก็ยิ่งมีโซ่เยอะมากขึ้นเท่านั้น ในท้ายที่สุด ฉู่อวิ๋นทำได้เพียงฟาดฉู่ป้าด้วยฝ่ามือข้างเดียวที่ด้านหลัง ทำให้เขาพ่นเืสกปรกออกมาเต็มคำ แล้วถอยกลับอย่างรวดเร็ว
“ให้ตายเถอะ เขาหนีไปได้แล้ว!” ฉู่อวิ๋นกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
ที่ทางเข้าสุสาน ชายลึกลับหยิบม้วนหนังสือโบราณและฉู่ป้าที่กำลังจะตายขึ้นมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "จิ๊จิ๊ เราจะไม่มีวันได้พบกันอีก พ่อหนุ่มน้อย เ้าก็อยู่ที่นี่และใช้เวลาที่เหลือไปกับสาวน้อยผู้ไร้ประโยชน์คนนั้นเถอะ”
ชายลึกลับหัวเราะน่ากลัว หยิบเหรียญหยกสองอันที่อยู่ถัดจากศิลาทลายัออกไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็ภาพติดตา และหายไปจากสายตาของฉู่อวิ๋นพร้อมกับฉู่ป้า
"ตูม!"
ศิลาทลายัสูญเสียพลังจากหยกเขี้ยวอสูรและตกลงมาอย่างกะทันหัน ปิดผนึกทางเข้าสุสานของบรรพบุรุษไว้แ่า
แม้ว่าฉู่อวิ๋นจะรีบดึงมู่หรงซินออกไปและรีบวิ่งไปข้างหน้า แต่สุดท้ายเขาก็ตามไม่ทัน
ทั้งคู่มาถึงหน้าก้อนหินในเวลาเดียวกันกับที่ศิลาทลายัถูกปิดลงอย่างแ่า
ฉู่อวิ๋นปล่อยหมัดกระแทกศิลาทลายัอย่างแรง รู้สึกหงุดหงิดอย่างยิ่งและะโออกไป "ให้ตายเถอะ! พวกเราจะถูกขังอยู่ที่นี่หรือ?!"
“เ้า...ฉู่อวิ๋น ใจเย็นๆ ที่นี่เป็สุสานสำคัญ อาจมีวิธีอื่นออกไปได้อีก เ้า...อย่าเศร้าไปเลย” มู่หรงซินเห็นอารมณ์ของฉู่อวิ๋นไม่คงที่จึงปลอบโยนเขา
ค่ำคืนเริ่มมืดลง ด้านนอกสุสานปราณั ูเาและป่าไม้กำลังไหว และเงาของต้นไม้ช่างน่ากลัว เหมือนผีชั่วร้ายที่มีฟันและกรงเล็บ
ในป่าแห่งหนึ่ง ชายชุดดำปล่อยฉู่ป้าลงบนพื้น แล้วเหยียดฝ่ามืออันผอมบางออกมาจับศีรษะของฉู่ป้าด้วยนิ้วทั้งห้า
“ท่าน...ท่านผู้เฒ่า ข้า...ไม่เป็ไรใช่หรือไม่? เ้าตัวไร้ประโยชน์นั่นทุบตีข้าจนเป็แบบนี้ ข้า...อยากฆ่าเขา!” ฉู่ป้าพึมพำกับตัวเองจนยากที่จะได้ยินชัดเจน
“จิ๊จิ๊ แน่นอน เ้าจะไม่เป็ไร” ชายชุดดำหยิบม้วนหนังสือโบราณออกมาจากอ้อมแขนของเขา ร่ายมนตร์คาถาแปลกๆ แล้วคว้ามันไว้ด้วยกรงเล็บ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว “อีกไม่นานเ้าก็จะลงนรกแล้ว โดนทุบตีแบบนี้ยังคิดอยากรอดชีวิตอยู่อีกหรือ ข้าก็แค่มาส่งเท่านั้น ฮ่าฮ่า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู่ป้าก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ ชายชราคนนี้ ร่วมมือกับพ่อของเขาไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้หันมาแว้งกัดกันเองเล่า!
ในเวลาเดียวกัน ชายชุดดำก็ดึงเืออกมาจากหัวของฉู่ป้าด้วยกรงเล็บของเขาและหยดเข้าไปในม้วนหนังสือโบราณ แสงสีทองของม้วนหนังสือเปล่งประกายเต็มท้องฟ้า ทั้งยังมีเส้นแสงสว่างปรากฏขึ้น
ชั่วครู่ต่อมา ชีวิตของฉู่ป้าก็จากโลกนี้ไปทั้งๆ ที่ยังลืมตา
ชายชุดดำเตะร่างของฉู่ป้าออกไป ตัวสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นและถอนหายใจ "วิเศษมาก! วิเศษมาก! นี่คือ...นี่คือความลับที่ตระกูลฉู่ฝังไว้มานานนับพันปีเช่นนั้นหรือ?"
“หวือ!”
ในป่า มีอีกหลายร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำปรากฏตัวขึ้น พวกเขาทั้งหมดดูประหลาดใจเมื่อเห็นม้วนหนังสือโบราณเรืองรองด้วยแสงสีทอง
“พวกเราทำสำเร็จแล้ว! ไม่คิดว่าตาเฒ่าฉู่เจิ้นหยวนจะถูกหลอกได้ง่ายขนาดนี้ ซ้ำเขายังไม่รู้ตัวด้วยว่าถูกหลอก” ชายชุดดำกล่าว
“นี่นี่ ตอนนี้สมบัติก็อยู่ในมือแล้ว พวกเรารีบกลับไปรับคำสั่งกันดีกว่า สัตว์ผู้พิทักษ์และผู้าุโที่เฝ้าสุสานนั้นจัดการยากนัก!”
ชายในชุดดำผู้ถือม้วนหนังสือโบราณพยักหน้าแล้วถอนหายใจ "ลูกชายของฉู่ซานเหอก็โดดเด่นมาก เขาเป็วัตถุดิบที่ดีจริงๆ แต่น่าเสียดายที่จับมาไม่ได้"
จากนั้น ชายชุดดำทั้งหมดก็กลายเป็ควันดำหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงร่างไร้ลมหายใจของฉู่ป้าเพียงลำพัง
ที่หลุมฝังศพของบรรพบุรุษ ด้วยคำพูดปลอบประโลมของมู่หรงซิน ในที่สุด ฉู่อวิ๋นก็คลายความเศร้าโศกและความโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อพูดขึ้นมา แม้ว่ามู่หรงซินจะมีนิสัยอ่อนหวานและดูไร้สิ่งใดให้กังวล แต่เมื่อนางเอ่ยปากพูดปลอบโยนกลับได้ผลอย่างน่าประหลาด
ยามนี้ ฉู่อวิ๋นมองไปที่แท่นหินที่ว่างเปล่า หายใจออกยาวๆ และตำหนิตัวเอง "เป็ความผิดของข้าเอง เป็ข้าที่อ่อนแอเกินไป...ปกป้องไม่ได้แม้แต่สมบัติลับของบรรพบุรุษ!"
แม้ว่าเขาจะทำให้ฉู่ป้าที่อยู่ในระดับเจ็ดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณได้รับาเ็ แต่แค้นสังหารบิดายังไม่ได้สะสาง สมบัติลับของตระกูลถูกขโมยไป และเขาก็ถูกขังอยู่ในสุสาน
ตอนนี้ ฉู่อวิ๋นไม่อาจปลุกใจตนเองได้จริงๆ
แค่คิดหาทางรอดจากหลุมศพของบรรพบุรุษเขาก็กังวลมากพอแล้ว
มู่หรงซินที่อยู่ข้างๆ เป็ห่วงฉู่อวิ๋นมาก ดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งหันมองซ้ายและขวา จากนั้นก็มีแรงบันดาลใจขึ้นมาและพูดว่า "นี่ เ้าอันธพาลเหม็น อย่าโทษตัวเองไปเลย เ้าเคยเห็นขุมทรัพย์ใดวางสมบัติลับไว้ในที่โจ่งแจ้งเช่นนั้นกัน?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่อวิ๋นก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับแสงสว่างน้อยๆ ในดวงตา ราวกับว่าเขาได้มองเห็นความหวังอันริบหรี่แล้วเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็มองหน้ากันและพูดพร้อมกัน
“กระบี่ขึ้นสนิมเล่มนั้น!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้