“ฮองเฮา ท่านก็รู้ว่าข้าละทางโลกมานานแล้ว เื่นี้เป็ท่านตัดสินใจจะดีกว่า”
ครู่หนึ่ง ฉางไทเฮาเอ่ยปากออกมา ฝูงชนฟังด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน
คำกล่าวของฉางไทเฮาเป็เหมือนน้ำเย็นสาดดับความหวังของหนานกงเยวี่ย
ฮองเฮาตัดสิน? เห็นได้ชัดว่านางตีตัวออกหากจากเื่นี้และวางตัวไม่สนใจ!
ฮองเฮาอวี่เหวินถอนสายตา ประกายซับซ้อนพาดผ่านดวงตา แต่ในสายตาของเหนียนยวี่ ท่าทีของฉางไทเฮาไม่เกินความคาดหมายของนางนัก
นางจิ้งจอกเฒ่าผู้นี้ หากฮองเฮาไม่อยู่ นางจะไม่ลังเลที่จะเก็บเกี่ยวความโปรดปรานจากตระกูลหนานกงอย่างแน่นอน ทว่าเพราะฮองเฮาอยู่ที่นี่ด้วย นางจึงกลัวว่าความคิดเห็นของตัวเองจะถูกสงสัย จึงทำได้เพียงออกห่างจากเื่นี้
ทว่าการไม่เข้าไปยุ่งในครั้งนี้ของนาง เกรงว่าจะยิ่งทำให้ระยะห่างกับตระกูลหนานกงจะยิ่งไกลขึ้น!
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ เช่นนั้นก็ตรวจสอบและค้นหาผู้กระทำผิดเพื่อคืนความยุติธรรมและความสงบให้คุณชายเหนียนเฉิงเถิด” ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสด้วยสุรเสียงดังกังวาน น้ำเสียงแน่วแน่ “ลานของผู้ใดอยู่ข้างเรือนหรูอี้?”
“ทูลฮองเฮาเพคะ ทางนี้คือหออี๋ชุนของคุณชายใหญ่ ตั้งอยู่ข้างเรือนหรูอี้และอีกด้านหนึ่ง ข้ามลานที่สะพานด้านหน้า จะเป็หอหล่านเยวี่ยของฮูหยินเหนียนเพคะ” อนุสองลู่ซิวหรงเอ่ยตอบ
"เช่นนั้นก็เริ่มจากหอหล่านเยวี่ยเถิด" ฮองเฮาอวี่เหวินกล่าวพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้ เหนียนยวี่คอยประคองนางอย่างระมัดระวัง คนกลุ่มหนึ่งออกมาจากเรือนหรูอี้และมุ่งหน้าไปยังหอหล่านเยวี่ย
เมื่อครู่นี้ จากหออี๋ชุนไปยังเรือนหรูอี้ หนานกงเยวี่ยสุขใจ นางเดินมุ่งหน้าไปอย่างสง่างาม แต่ในขณะนี้ หนานกงเยวี่ยกลับเดินออกจากเรือนหรูอี้เป็คนสุดท้าย
ครั้นนางใกล้จะออกจากเรือนหรูอี้ ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงจงใจชะลอราวกับรอนางอยู่ที่ประตู
"ท่านแม่..." หนานกงเยวี่ยใเมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ใบหน้าซีดขาวกระวนกระวายใจ "ทำอย่างไรดี? เื่ราวไม่ควรเป็เช่นนี้ ข้าเห็นอยู่ชัดๆ ว่า..."
"หุบปาก!" ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกดเสียงต่ำ ตวาดใส่นาง ผู้คนมากมายมากสายตา หากถูกผู้คนเห็นเข้าจะทำอย่างไร?
หนานกงเยวี่ยตระหนักบางสิ่งได้จึงรีบหยุดปาก ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงถอนหายใจ “เ้าสร้างเื่วุ่นวายจริงๆ พักให้ตัวเองสงบสติอารมณ์เสียก่อน การขอสืบหาของจ้าวอิ้งเสวี่ยนั่น ไหนเลยจะเพื่อคืนความยุติธรรมให้เหนียนเฉิง เห็นอยู่ชัดๆ ว่า...”
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเอ่ยถึงตรงนี้ หยุดชะงักมิเอ่ยอะไรต่อ เห็นได้ชัดว่าจ้าวอิ้งเสวี่ย้าจับเยวี่ยเอ๋อร์!
หนานกงเยวี่ยเองก็เข้าใจเช่นกัน สูดหายใจลึก จ้าวอิ้งเสวี่ยเต็มไปด้วยความมั่นใจ นางต้องพักให้ตัวเองใจเย็นลงก่อน นางต้องจัดการได้แน่!
ต่อให้จะพบบางอย่างในเรือนของนาง นางก็ยังยืนยันว่าเป็จ้าวอิ้งเสวี่ยที่พยายามจะโยนความผิด!
เมื่อคิดได้ดังนั้น หนานกงเยวี่ยก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง
ความปั่นป่วนสับสนในใจจึงสงบลงเล็กน้อย ทว่าเพียงชั่วครู่ กลับมีเสียงดังลั่นขึ้นตรงหน้า หัวใจของสองแม่ลูกคู่นี้พลันเต้นแรงขึ้นมา
กลุ่มคนที่เพิ่งข้ามสะพาน ก่อนที่จะไปถึงหอหล่านเยวี่ย พวกเขาหยุดเพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ที่แถวหน้า สาวใช้คุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าของนางตื่นตระหนก ถืออะไรบางอย่างอยู่ในมือ เพียงเพราะท่าทางลับๆ ล่อๆ นางจึงถูกอนุสองรั้งไว้
ทุกคนมองไปที่สาวใช้ หนานกงเยวี่ยและฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงก็รีบเข้ามา ครั้นเห็นคนบนพื้น พวกนางอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
"ชุนเซียง เ้ามาคุกเข่าอยู่ตรงนี้ทำไม?" หนานกงเยวี่ยเอ่ยอย่างหนักแน่น ชุนเซียงผู้นี้เป็สาวใช้ในลานเรือนของนาง การที่นางมาคุกเข่าอยู่ที่นี่อย่างแปลกประหลาด ยิ่งทำให้หนานกงเยวี่ยระแวดระวัง
"ฮูหยิน... " ชุนเซียงได้ยินเสียงของหนานกงเยวี่ย ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นและมองขึ้นไปที่ดวงตาของหนานกงเยวี่ย แต่ครู่หนึ่งนางก็รีบถอยออกไปโดยถือบางสิ่งบางอย่างแน่นอยู่ในมือและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังนางด้วยท่าทางไม่สบายใจ
การกระทำเช่นนี้อยู่ในสายตาของทุกคน เวลาเช่นนี้ทำตัวลับๆ ล่อๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนจับมาคิดปะติดปะต่อ
"เ้าถืออะไรอยู่ในมือ" ลู่ซิวหรงพูด น้ำเสียงของนางเฉียบขาดแล้ว และคำถามในขณะนั้นทำให้สาวใช้ตระหนก
ขณะพูด ผิงเอ๋อร์ที่ประคองจ้าวอิ้งเสวี่ยเดินออกมา พวกนางก้าวเข้าใกล้ชุนเซียงอย่างรวดเร็ว คว้าข้อมือของนางแล้วดึงไปข้างหน้า สิ่งที่นางพยายามซ่อนถูกเปิดเผยต่อสายตาของทุกคน
มันเป็ถุงกระดาษ เมื่อหนานกงเยวี่ยเห็นถุงกระดาษในแวบแรก นางรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และมือของนางที่ถือผ้าเช็ดหน้าก็กำแน่นขึ้นทันที
"นี่อะไร?" ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้ว มองดูผิงเอ๋อร์เปิดถุงกระดาษ เผยให้เห็นผงสีขาวอยู่ข้างใน สีหน้าของนางเปลี่ยนไป และกล่าวเสียงดัง "ส่งให้ท่านหมอดูสิ นี่มันคือสิ่งใดกัน!"
ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสจบ หมอที่ตามมาด้วย รีบก้าวไปข้างหน้าทันที หยิบถุงกระดาษออกมาเปิดดู พลันคุกเข่าลงบนพื้นอย่างใ "ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ นี่...นี่คือผงลิ้นงูแดง อาการของคุณชายใหญ่เมื่อครู่ เหมือนกับการออกฤทธิ์ของผงลิ้นงูแดงทุกประการพ่ะย่ะค่ะ โชคดี...โชคดีที่มีปริมาณไม่เยอะพอ มิฉะนั้น...ผงลิ้นงูแดงนี้คงเป็สิ่งที่พรากชีวิตเขาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!"
ครั้นเอ่ยจบ ทุกคนต่างชะงักไปครู่หนึ่ง
ก่อนเริ่มการค้นหา หลักฐานก็โผล่ออกมาแล้วและสาวใช้นางนี้ที่ชื่อชุนเซียง นี่จะไม่บังเอิญหรือที่รีบวิ่งไปหอหล่านเยวี่ยในยามนี้?
นางกำลังทำอะไรอยู่?
้านำสิ่งของไปซ่อนงั้นหรือ
เพียงชั่วขณะนั้น ในใจผู้คนเริ่มมีแววคาดเดาไปต่างๆ นานา หากหลักฐานอยู่ในหอหล่านเยวี่ย เช่นนั้นก็หมายความว่า...
เหนียนยวี่เหลือบมองชุนเซียง นางเป็สาวใช้ของหนานกงเยวี่ย หนานกงเยวี่ยเกรงว่านางคงขโมยไก่ไม่ได้ แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ[1] ทว่านิสัยของหนานกงเยวี่ยจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร
เป็อย่างที่คิดไว้ เหนียนยวี่เพิ่งคิดเช่นนั้นได้ไม่นาน และร่างข้างๆ ก็รีบวิ่งตรงไปทางชุนเซียง
เหนียนยวี่รู้อยู่แก่ใจ ในที่สุดนางก็ทนไม่ไหวแล้วกระมัง
"นางสารเลวผู้นี้ ใครเป็คนสั่งเ้า?" หนานกงเยวี่ยแท้จริงทนไม่ไหวแล้ว ก่อนหน้านี้นางสงบลงเล็กน้อย และในขณะนี้ นางกลับสับสนอย่างสิ้นเชิงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ชุนเซียงหยิบถุงเช่นนี้ออกมาจากในสวนของนาง ไม่ว่าฮองเฮาจะคิดอย่างไร นางก็ไม่สนใจอีกแล้ว เพราะนางรู้ดีว่าในเวลานี้ นางต้องรีบเปลี่ยนแผนการ
แต่นางจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้นางขาดสถานการณ์ไปแล้ว
หนานกงเยวี่ยตรงไปหาชุนเซียง ต่อหน้าฮองเฮาอวี่เหวินและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ นางไม่กล้าที่จะหยิ่งทระนงเกินไป นางเพียงแค่จ้องไปที่ชุนเซียงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นและะโอย่างดุเดือดว่า “พูดมาว่าใครให้เ้าถือของสิ่งนี้? ใคร้าสังหารลูกชายของข้า! ใครบอกให้เ้าใส่ร้ายข้าและทำเช่นนี้”
เมื่อเห็นการกระทำของนาง ในสายตาของคนหลายคนบังเกิดความรังเกียจขึ้นมาทันที
ไม่ว่านางจะทำอะไรในตอนนี้ ก็เป็เพียงการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์
“ไม่ นายหญิง…” ชุนเซียงมองที่หนานกงเยวี่ย ั์ตายิ่งหวาดผวามากขึ้นอีก “บ่าวได้ยินว่าฮองเฮานำคนมาตามหา บ่าวกังวลว่าของที่ไม่ได้ใช้จะถูกค้นพบ ดังนั้นบ่าวจึงหยิบมาและ้าทำลายมัน แต่...บ่าวไม่ได้ทำร้ายฮูหยิน บ่าวไม่ได้วางยาคุณชายเช่นกัน เมื่อเช้าคุณหนูใหญ่เอาสิ่งนี้มาให้บ่าว...”
ชุนเซียงเอ่ยถึงตรงนี้ หนานกงเยวี่ยไม่สนใจอะไรแล้ว นางตบหน้าชุนเซียง ตัดบทสิ่งที่นางจะเอ่ย
"นางสารเลวชั้นต่ำ หยุดพูดเื่ไร้สาระได้แล้ว!" หนานกงเยวี่ยกัดฟัน ตื่นตระหนกในใจ
นางสารเลวชั้นต่ำนี้พูดเื่ไร้สาระอะไรกัน
นางยังจะลากอีหลานออกมาด้วยหรือไร
นางจะยอมได้อย่างไร
หากอีหลานถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเื่นี้ ชื่อเสียงของอีหลานจะต้องพังทลาย!
นางไม่ยอมเด็ดขาด ไม่ยอมให้ใครเด็ดขาด!
[1] ขโมยไก่ไม่ได้ แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ สื่อถึงเก็บผลประโยชน์ไม่ได้ แล้วยังต้องเสียประโยชน์