ทางเดินบนหุบเขาเวลานี้
ได้กินขนมเปี๊ยะสด อีกทั้งที่หน้าอกยังซ่อนเงินเอาไว้ ขากลับ ซ่งอวี้จึงเดินเร็วขึ้นมาก นางไม่ได้เข้าหมู่บ้าน แต่ตรงไปยังตลาดนอกหมู่บ้าน เพื่อเอาโสมที่ตนเก็บมาได้ไปขายที่ร้านขายยาก่อน
สมุนไพรชนิดอื่นๆ นางเอาไปใช้รักษาชายที่าเ็จนหมดแล้ว จึงเหลือไว้เพียงโสมต้นนี้เท่านั้น แต่ว่าโสมต้นนี้น่าจะขายได้ราคางาม
เมื่อเถ้าแก่ร้านขายยาเห็นโสมของนาง เขาก็กลอกตาไปมา “รากพิษลักษณ์นี้ไม่มีค่า ทั้งยังสีไม่สวย ข้าให้เ้าได้มากสุดห้าอีแปะ”
รากพิษลักษณ์?
ซ่งอวี้หัวเราะในลำคอ เถ้าแก่เห็นว่าตนเป็สตรี จึงตั้งใจรังแกนางกระมัง!
นางยื่นมือไปหยิบโสมกลับมา แล้วชำเลืองมองเถ้าแก่ “พิษลักษณ์? เถ้าแก่ คนนอกวงการเช่นท่านเป็เถ้าแก่ร้านขายยาได้อย่างไร? เห็นชัดว่านี่คือโสมชั้นดี ท่านดูรากโสมนี้สิ ข้าว่าหากโสมมีอายุไม่ถึงห้าสิบปีคงไม่มีรากมากเช่นนี้แน่ ท่านไม่รู้เื่สมุนไพรเช่นนี้ ข้าไปขายที่อื่นดีกว่า”
ซ่งอวี้ทำทีจะเดินออกไป เถ้าแก่จึงยิ้มประจบแล้วร้องเรียกทันที “แม่นางช้าก่อน ช้าก่อน! พวกเราหารือกันได้ หารือกันได้!”
ซ่งอวี้หยุดฝีเท้าแล้วหันกลับไปมองเขา หากไม่ใช่เพราะนางร้อนเงิน นางไม่อยากขายโสมนี้จริงๆ แม้โสมอายุห้าสิบปีไม่อาจเทียบกับโสมอายุร้อยปีพันปีได้ แต่ก็เป็โสมชั้นดี
เถ้าแก่ร้านขายยาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะยกนิ้วมือขึ้นมาสิบนิ้ว “ให้เ้าสิบตำลึงเงิน ดีหรือไม่?”
ซ่งอวี้เงียบ สิบตำลึงเงินน้อยไปเล็กน้อย
เวลานี้เถ้าแก่ยิ้มและพูดด้วยความลำพองใจ “ในรัศมีร้อยลี้ [1] มีร้านขายยาของข้าเท่านั้นที่มีกำลังซื้อ เ้าไปร้านอื่น พวกเขาอาจจะไม่รับซื้อก็ได้ เพราะขายไม่ออก ถึงอย่างไรเสียในหมู่บ้านนี้ ผู้ใดมีปัญญากินโสมบ้าง เ้าว่าเป็เช่นนั้นจริงหรือไม่?”
ซ่งอวี้เห็นด้วยกับเถ้าแก่ จึงจำต้องกัดฟันรับข้อแลกเปลี่ยนนี้
เมื่อได้เงินมา นางซื้อยาใช้ภายนอกและยาบำรุงเืเล็กน้อยก่อนออกไป ซื้อยาเสร็จ นางก็ไปซื้อข้าวสารต่อ หลังจากนั้นค่อยไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันและอาหาร
แล้วไปซื้อรองเท้าหนึ่งคู่ที่ร้านรองเท้า เพิ่งเดินออกมาจากร้านรองเท้า ซ่งอวี้ก็ได้ยินชาวบ้านจับกลุ่มคุยกัน
“หุบเขาพิบูลย์ทมิฬมีผีจริงๆ หรือ?”
“จริงแท้แน่นอน วันนั้นข้าเห็นกับตาตนเองตอนไปตัดฟืน จะเป็เื่โกหกได้อย่างไร?”
ซ่งอวี้ลอบหัวเราะความเชื่อของคนโบราณ รีบเดินกลับเรือน
กลับไปถึงหมู่บ้าน นางเดินถือข้าวสารไปให้เฉินต้าฮวาก่อน
เฉินต้าฮวารับกระสอบข้าวสารมา เมื่อเห็นซ่งอวี้ซื้อรองเท้าคู่ใหม่และอาหาร นางพลันยิ้มแล้วพูดจาประชดประชัน “นางแพศยา เ้าจับเศรษฐีได้แล้วกระมัง?”
สีหน้าของซ่งอวี้เคร่งขรึมขึ้นมาทันที “เ้าอย่าพูดจาเหลวไหล!”
“ข้าพูดจาเหลวไหล? คนจนเช่นเ้า หากไม่ใช่เพราะไปหลับนอนกับคนมีฐานะ เ้าจะมีเงินซื้อรองเท้าคู่ใหม่และมีเนื้อให้กินหรือ? เป็นางแพศยาที่พ่อแม่ไม่สั่งสอนจริงๆ ” สีหน้าของเฉินต้าฮวาฉายความเย้ยหยัน
“ข้าใช้แรงงานหาเงินมาอย่างถูกต้อง!”
“ไม่มีผู้ใดเชื่อเ้า!” เฉินต้าฮวาพูดจบก็ยกกระสอบข้าวสารเข้าไปในเรือน
ซ่งอวี้มองแผ่นหลังของนางด้วยความขุ่นเคือง พอเห็นรอยเืที่ชายกระโปรงของนาง ก็เดาได้ว่าระดูของนางน่าจะมาแล้ว เมื่อหันไปเห็นถังน้ำขนาดใหญ่ที่มุมกำแพง ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว จึงเดินไปที่ถังน้ำ หยิบผงซานชีที่ตนซื้อขึ้นมา แล้วโปรยลงไปในนั้น
ผงซานชีมีฤทธิ์ในการกระตุ้นเืและห้ามเื เมื่อใช้กับาแสามารถลดอาการอักเสบได้ แต่หากรับประทานก็จะยาที่ช่วยกระตุ้นเื เป็ยาที่ดี เดิมทีนางตั้งใจซื้อไปให้ชายหนุ่มบนหุบเขาใช้ หากโปรยผงซานชีบนาแของเขา จะทำให้เขาหายเร็วขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ว่าเฉินต้าฮวาร้ายกาจและน่ารังเกียจ เช่นนั้นนางจะให้เฉินต้าฮวาได้ลิ้มรสยาดีของนางสักหน่อย! เดิมทีระดูมาก็เสียเืมากอยู่แล้ว หากกระตุ้นเืเพิ่ม...ครั้งนี้จะให้นางได้ลิ้มลองเืที่ไหลทะลัก!
หลังจากนอนพักหนึ่งคืน เช้าวันที่สอง ซ่งอวี้ก็ขึ้นไปบนหุบเขา
สีหน้าของชายคนที่าเ็ดีขึ้นมาก าแที่บวมแดงก็ลดลงมากเช่นเดียวกัน
ซ่งอวี้โปรยผงซานชีลงบนาแของเขาเล็กน้อย รอครู่หนึ่ง ก็นำสมุนไพรที่บดเสร็จแล้วมาพอกบนาแ นางพันขาพร้อมกับพูดกำชับ “สองวันนี้ห้ามโดนน้ำ ประเดี๋ยวข้าจะต้มยาสมุนไพรให้ท่านทาน ท่านเสียเืมากทำให้ใบหน้าซีดเซียว จำต้องบำรุงเือาการจึงจะดีขึ้น”
ชายหนุ่มพยักหน้า “แม่นาง ข้ามีเื่อยากจะขอร้อง”
“เชิญท่านว่ามา” ซ่งอวี้เงยหน้าขึ้นมองเขา
เชิงอรรถ
[1] หน่วยวัดความยาวของจีนโบราณ 1 ลี้ ประมาณ 500 เมตร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้