“เกิดอะไรขึ้น”
หลิวจินเซียงกำลังง่วนอยู่กับการตักเกี๊ยว เธอได้ยินแค่เสียงฆ้องและกลองที่ดังอยู่ด้านนอก จึงเร่งตักเกี๊ยวขึ้นมาพัก ก่อนจะออกมาและเห็นผู้คนอยู่เต็มบ้านของน้องชายสามี
“ซูอินค่ะ”
ซูเล่อเอ่ยปากด้วยความยากลำบาก “เธอสอบได้…ที่หนึ่งของเมือง”
คำพูดสี่คำหลังที่เอ่ยออกมาเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่หลิวจินเซียงก็ได้รับข้อมูลเพิ่มจากการสนทนาของชาวบ้านที่อยู่รอบด้านจนเพียงพอ
“เล่อเล่อ เมื่อกี้ลูกบอกว่าอินอินสอบได้คะแนนแย่ไม่ใช่หรือ”
หลิวจินเซียงเป็คนชอบความรื่นเริง ตามนิสัยแล้ว วันนี้เป็วันประกาศคะแนนสอบของเด็กๆ ทั้งสองบ้าน เธอตั้งใจจะรับประทานอาหารร่วมกัน ดื่มโค้ก ผู้ใหญ่ก็ดื่มสังสรรค์ มีแต่เื่ดีๆ
แต่เล่อเล่อกลับบอกว่าอินอินทำคะแนนไม่ดี แน่นอนว่าหลิวจินเซียงไม่คิดสงสัยคำพูดของบุตรสาว แม้เธอจะเป็คนปากไว แต่ก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล เมื่อรู้ว่าคะแนนบุตรสาวของอีกครอบครัวหนึ่งออกมาไม่ดี ซึ่งหากตนเองเลี้ยงฉลอง แล้วยังจะไปเรียกครอบครัวของซูอินมาร่วมด้วยก็คงไม่ต่างอะไรกับการเทเกลือลงบนแผลของผู้อื่น
เป็ญาติพี่น้องก็ไม่ควรทำร้ายกันขนาดนั้น
แต่ในตอนนี้…
เมื่อดึงสติกลับมาเธอจึงรีบถามบุตรสาวทันที “ลูกบอกว่าซูอินสอบได้คะแนนไม่ดีไม่ใช่หรือ”
“หนู…”
ในใจของซูเล่อเต็มไปด้วยความสับสน เมื่อได้ยินน้ำเสียงกล่าวประณามของหลิวจินเซียง จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ใครใช้ให้เธออ้ำๆ อึ้งๆ ไม่พูดล่ะว่าได้คะแนนเท่าไร แบบนั้นทำให้หนูคิดว่าเธอได้คะแนนไม่ดีน่ะสิ”
“อินอินเป็คนเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ทำตัวเป็จุดสนใจ ที่ไม่บอกก็คงเพราะกลัวจะหักหน้าลูกนั่นแหละ”
หลิวจินเซียงเอ่ยทิ้งเพียงประโยคเดียว ก่อนจะเดินเข้าไปในฝูงชน
ซูเล่อที่ยืนอยู่ที่เดิมรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า สีหน้าเปลี่ยนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เนื่องด้วยประสบการณ์ที่อยู่กับความครื้นเครงมาหลายปี หลิวจินเซียงฝ่าฝูงชนเข้าไปอย่างรวดเร็วจนไปอยู่แถวหน้าได้สำเร็จก่อนจะตรงเข้าไปหาซูอิน
“ไอ้หยา เยี่ยมจริงๆ อินอินของพวกเราสอบได้อันดับหนึ่งด้วย”
ถึงแม้ซูอินจะเป็เพียงหลานสาว แต่ก็ถือว่าเป็คนในครอบครัว เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ หลิวจินเซียงก็รู้สึกอิ่มเอมเช่นกัน เมื่อกำลังมีความสุข น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาจึงดูเกินจริงกว่าปกติ
“คุณป้าคะ”
ซูอินที่กำลังคุยอยู่กับครูที่ปรึกษาหันไปมอง เธอไม่คุ้นชินนักกับการได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย บรรยากาศเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกเขินและอึดอัด
คนที่รู้สึกแตกต่างไปจากเธอคือคุณป้าหลิวจินเซียงที่ชื่นชอบงานรื่นเริง ในเวลานี้เธอกลายเป็จุดสนใจของผู้คนในงาน ตัวเธอเองก็เปล่งประกาย
“อื้อ!”
หลิวจินเซียงตอบรับด้วยท่าทีเต็มไปด้วยความสุข จากนั้นจึงหันไปหาผู้คนที่แต่งตัวดีซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ก่อนจะหันไปมองเมิ่งเถียนเฟินที่มีท่าทีอึดอัดเล็กน้อยไม่ต่างกับซูอิน
“เถียนเฟิน คนพวกนี้มาจากในเมืองใช่ไหม คนเยอะเกินไป ที่บ้านของเธอคงนั่งกันไม่หมด ฉันทำเกี๊ยวไว้พอดี เชิญทุกคนไปพักผ่อนทางนู้นดีไหม จะได้กินอะไรด้วย”
บ้านตระกูลซูเป็บ้านดินแบบโบราณ เดิมทีตัวบ้านเตี้ยและคับแคบ ปกติแค่อยู่กันสี่คนก็ไม่กว้างขวางนัก ตอนนี้ยิ่งมีผู้คนเข้ามามากมายทำให้บรรยากาศด้านในอึดอัด
โดยเฉพาะผู้คนที่มาจากในเมือง แต่ละคนสวมกางเกงขายาวและเสื้อเชิ้ตแขนสั้นตามแบบตะวันตก รูปแบบการแต่งตัวไม่เข้ากับบ้านดินเลยสักนิด
เมิ่งเถียนเฟินกำลังตกอยู่ในอาการประหม่า เมื่อได้ยินพี่สะใภ้เสนอเช่นนี้จึงหันไปสบตากับซูเจี้ยนจวิน หลังจากถามความคิดเห็นของบุตรสาว ทั้งคู่จึงพยักหน้าตอบรับ
บ้านของคุณลุงเพิ่งสร้างใหม่ในปีนี้ ด้านในจัดเก็บเป็ระเบียบ กำแพงทาสีขาว ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ในห้องรับแขกติดฝ้าและโคมไฟระย้า แม้แต่โซฟา โต๊ะชา โทรทัศน์ จนไปถึงเฟอร์นิเจอร์ก็เข้าไปซื้อจากในเมืองโดยเฉพาะ จัดเก็บเป็ระเบียบเรียบร้อย
หากเทียบกับบ้านดิน ที่นี่เหมาะสมที่จะเป็สถานที่รับแขกมากกว่า
เมื่อเปลี่ยนสถานที่รับรองมาเป็ที่นี่ หลิวจินเซียงจึงยุ่งอยู่กับการนำน้ำชามาเสิร์ฟ
“เล่อเล่อ เอาตะเกียบมาให้แขกหน่อยลูก”
เธอกำลังยุ่งอยู่ในครัวจึงะโบอกบุตรสาว
“เดี๋ยวหนูทำให้ค่ะ”
ซูอินที่กำลังยุ่งเมื่อได้ยินเสียงะโก็นึกไปถึงท่าทีที่ซูเล่อแสดงออกต่อเธอ จึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อรับหน้าที่นั้นเอง
แต่คาดไม่ถึง ซูเล่อกลับมาเร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว หยิบตะเกียบก่อนจะเดินผ่านเธอออกไปจากห้องครัว ดวงตาของทั้งคู่สบกัน สีหน้าของซูเล่อเต็มไปด้วยความประหม่า น้ำเสียงแฝงความอึดอัดใจ “ที่แท้เธอสอบได้คะแนนดีขนาดนี้นี่เอง”
ในตอนที่รู้คะแนนของซูอิน เธอใมาก แต่นอกเหนือจากความใ ในใจเธอรู้สึกอิจฉาและนับถือในเวลาเดียวกัน
ซูเล่อเป็เพียงเด็กสาวธรรมดา ในฐานะนักเรียนคนหนึ่ง เป็เื่ปกติที่เธอจะรู้สึกนับถือเด็กที่เรียนเก่ง
บวกกับคำพูดที่มารดาเอ่ยโดยไม่ตั้งใจอย่าง “กลัวว่าจะหักหน้าลูก” เมื่อได้ยินประโยคนี้ในใจเธอรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม ใช่ว่าเธอไม่เคยสงสัยว่าซูอินอาจจะเสแสร้ง แต่ในเวลานี้มันมากพอที่จะทำให้เธอกลั่นกรองความเป็ไปได้ และคิดเื่ต่างๆ อย่างชัดเจน
คะแนนเ่าั้เป็คะแนนที่ทำด้วยตนเอง มีอะไรต้องเสแสร้งอีก
ซูอินเป็คนนอบน้อมถ่อมตน และกลัวจะทำให้เธอเสียหน้าจริงๆ
ซูอินที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ต่างจากเธอนัก เป็คนชนบทเหมือนกัน อีกทั้งครอบครัวของเธอก็มีฐานะดีกว่าบ้านคุณอา หากเป็เช่นนั้น ทำไมบิดามารดาและพี่ชายจึงชอบซูอิน คงจะเหมือนที่เมิ่งเมิ่งเคยกล่าวอย่างแน่นอน ซูอินก็แค่เสแสร้งเพื่อเอาใจคนอื่น
แต่ในตอนนี้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไป ซูอินเป็นักเรียนที่สอบได้คะแนนอันดับหนึ่งของเมือง ซูอินทำคะแนนสอบออกมาสูงจนเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ คนเรียนดีมักเป็ที่รักของผู้คน นี่คือสิ่งที่เธอเห็นจนชินตามาั้แ่เล็กจนโต และเป็เื่ที่สมเหตุสมผล
เมื่อก่อนตอนที่ซูอินยังอยู่ในระดับเดียวกับเธอ ซูเล่ออาจรู้สึกอิจฉาและเกลียดชัง แต่ในเวลานี้ซูอินทิ้งห่างเธอไปไกล อยู่กันคนละระดับ ซูเล่อจึงทำได้เพียงแหงนมองซูอินที่อยู่สูงกว่า
ความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นในหัวของซูเล่อ เมื่อดึงสติกลับมาจึงหันไปมองลูกพี่ลูกน้องของตนเองก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทีราบเรียบเหมือนเดิม
“อืม ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าฉันสอบได้คะแนนห้าร้อยกว่าจริงๆ”
ซูเล่อ : …
ได้แต่แหงนมองอะไรกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเกลียดเธออยู่ดี!
เป็อะไรไปอีกล่ะนี่
เมื่อเห็นซูเล่อมุ่ยปากและเดินออกไปด้วยท่าทีโมโห ซูอินจึงแสดงสีหน้าอย่างไม่เข้าใจ จิตใจของเด็กสาวยากจะคาดเดาจริงๆ เธอไม่พยายามทำให้ตนเองลำบากใจ ก่อนจะไปช่วยคนอื่นๆ ต่อ
ครูใหญ่คนใหม่ได้เลื่อนตำแหน่งมาจากระดับล่าง ทำให้เขาติดดินมาก ส่วนหลินซิ่วนั้นไม่ต้องพูดถึง สำหรับซูอินที่ช่วยยกูเาลูกใหญ่ อย่างครูใหญ่หลี่และหลี่อวี้จือออกไปจากอกเธอได้ ทำให้เธอรักลูกศิษย์ที่ให้เกียรติของเธอคนนี้จากก้นบึ้งหัวใจ เ้าหน้าที่ที่มาจากกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้มีระดับสูงเท่ากับครูใหญ่ ดูจากท่าที เขาเองก็พร้อมจะทำตัวกลมกลืนไปกับประเพณีของคนในชุมชนที่นี่
เกี๊ยวร้อนๆ ถูกยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะ แขกที่มาเยือนก็พร้อมจะทำตัวกลมกลืนไปกับบรรยากาศ บวกกับหลิวจินเซียงที่เป็คนพูดเก่งเพื่อสร้างบรรยากาศ ทำให้่เวลานั้นครื้นเครง
ความครื้นเครงนั้นยาวไปตลอด่บ่าย ในเวลาเดียวกัน เื่ที่บุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลซูกลับมาก็แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน
หลายวันก่อนเมื่อซูอินกลับมาที่หมู่บ้าน เธอเดินผ่านชาวบ้านที่กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งในทุ่งนา คุณปู่ คุณย่า คุณอา คุณป้าที่ะโเรียกเธอล้วนแต่รู้สึกประทับใจกับท่าทีสุภาพและมีมารยาทของซูอิน วันนี้เมื่อผลสอบออกมาโดยเธอเป็อันดับหนึ่งของเมือง ยิ่งทำให้ความประทับใจของคนในหมู่บ้านที่มีต่อเธอเพิ่มขึ้นไปอีก