โดยเฉพาะตอนที่กล่าวถึงโลกิญญา สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ แววตาหวาดกลัวของเฝิงเป่าเป่า
โลกิญญาไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็หมายถึงความตาย หมายถึงความน่ากลัว
โดยเฉพาะในทวีปหลิงโซ่วแห่งนี้ ที่มีความรู้เกี่ยวกับการฝึกฝนิญญาน้อยมาก ทำให้โลกิญญาเต็มไปด้วยปริศนาสำหรับพวกเขา
“มุ่งสู่โลกิญญา...”
เสิ่นเสวียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา เขาให้ความสนใจโลกิญญาอย่างล้ำลึก ซึ่งไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เลย
ท่ามกลางสามภูมิหกภพ[1] โลกิญญามีความไม่แน่นอนยิ่งกว่าโลกมนุษย์มาก อีกทั้งเขามีสหายอยู่ในโลกิญญาอยู่บ้าง หากเจอปัญหาเข้าจริงๆ ยังพอช่วยเหลือกันได้
“ใช่ ที่นั่นไม่ปลอดภัยหรอก อย่าไปเลยจะดีที่สุด”
เฝิงเป่าเป่าเป็ห่วงพวกเสิ่นเสวียนจากใจจริง เขาคิดว่าตอนนี้พวกเสิ่นเสวียนยอดเยี่ยมมากแล้ว ภายหน้าจะต้องกลายเป็ผู้ยิ่งใหญ่ในทวีปได้อย่างแน่นอน ไม่จำเป็ต้องเข้าไปเสี่ยงอันตรายอย่างนั้นเลย
เสิ่นเสี่ยวเม่ยนั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกสนใจในโลกิญญาเช่นเดียวกัน ไม่เพียงเสิ่นเสี่ยวเม่ยเท่านั้น เสิ่นเลี่ยนก็รู้สึกอย่างเดียวกัน เนื่องจากพวกเขาเคยหลอมรวมยาน้ำสกัดจากหลินจือโมรากันมาก่อน และภายในยาน้ำสกัดจากหลินจือโมราคละเคล้าไอิญญาอยู่ด้วย ทำให้รู้สึกถึงไอพลังจากยมโลก พวกเขาต้องรู้สึกชื่นชอบเป็ธรรมดา
“ฮ่าๆ พวกข้ารู้แล้ว ยังมีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับสถาบันิญญาอีกไหม” เสิ่นเสวียนถามเฝิงเป่าเป่าอีกครั้ง
“อย่างอื่นข้าไม่ค่อยรู้แล้ว แต่คนในเมืองชางฉงทั่วไปล้วนหวาดกลัวสถาบันิญญา ไม่มีใครอยากเข้าใกล้และยุ่งเกี่ยวกับสถาบันิญญาเลย”
“ขอบคุณมากสำหรับความหวังดีของสหายเฝิง มาดื่มกันต่อ”
เสิ่นเสวียนยกจอกสุราขึ้นดื่มให้เฝิงเป่าเป่าด้วยความเคารพ เมื่อเห็นเสิ่นเสวียนยกจอกสุราขึ้น เฝิงเป่าเป่าจึงยกจอกสุราขึ้นทันที ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็ใหญ่เช่นนี้ เสิ่นเสวียนมีพลังยุทธ์แข็งแกร่งกว่าเขา อย่างนั้นแล้วเสิ่นเสวียนต้องเป็พี่ใหญ่ ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไรก็ตาม
หลังจากงานเลี้ยงจบลง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน
เสิ่นเสวียนไปถึงที่พักที่จัดเตรียมไว้เป็อย่างดีแล้ว
ทว่าเขากลับสร้างค่ายกลขึ้นรอบๆ ที่พักเพื่อปกป้องตนเองเอาไว้
จากนั้นเขาก็นั่งลงตรงกลางแล้วทำสมาธิ
จิติญญาของเขาเข้าไปยังทะเลจิตสำนึก เมื่อมาถึงเบื้องหน้าผังเมืองซานเหอที่อยู่ในส่วนลึกของทะเลจิตสำนึก เขาก็ะโเข้าไปในมิติ
ร่างจิติญญาของเว่ยเฉิงเย่ถูกเขาซ่อนไว้ที่นี่ ไม่ได้เข้าไปภายในผังเมืองซานเหอ แต่อยู่ในมิติด้านนอก
แม้เขาจะรู้จักอีกฝ่ายแล้ว แต่เขายังต้องระมัดระวังเกี่ยวกับของล้ำค่าอย่างผังเมืองซานเหอไว้ก่อน อย่างน้อยก็ต้องคุ้นเคยกันอย่างที่สุดก่อนจึงจะปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าไปในนั้นได้
“นี่ ตื่นได้แล้ว”
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนเข้าไปในมิติ เห็นเว่ยเฉิงเย่กำลังพักผ่อนอยู่จึงส่งเสียงเรียก
หลังจากได้ยินเสียงของเสิ่นเสวียน เว่ยเฉิงเย่จึงลืมตาขึ้นทันทีแล้วแสดงคารวะต่อเสิ่นเสวียน
“คารวะผู้าุโ”
เขาอยู่ในมิติแห่งนี้ ไม่รู้เวลา ไม่รู้สถานที่ และมิอาจรับรู้เื่ราวภายนอกได้เลย เขาอยู่ที่นี่ค่อนข้างน่าเบื่อ เคยเดินไปมาภายในมิติแห่งนี้แล้ว แต่ในนี้มีแต่ความว่างเปล่าที่ขาวโพลน เหมือนเป็มิติที่ปิดผนึกไว้
เสิ่นเสวียนเข้ามาหาเขาเช่นนี้แสดงว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น
“อยู่ที่นี่เป็อย่างไรบ้าง”
เสิ่นเสวียนถามอีกฝ่าย
“ผู้าุโ ที่นี่คือที่ไหน” เขาอยากรู้มากว่าที่นี่คือที่ไหน มิติแห่งนี้ไม่เหมือนมิติของแหวน และไม่เหมือนมิติอย่างอื่นด้วย
“นี่คือมิติของข้าเอง เ้าต้องอยู่ในนี้ชั่วคราว ไอพลังของเ้าอาจถูกจับตามองได้ง่าย ซึ่งอาจสร้างความเดือดร้อนให้ข้าได้”
“ขอรับผู้าุโ”
เว่ยเฉิงเย่ในตอนนี้เชื่อมั่นในตัวเสิ่นเสวียนมาก หากเขาไม่เชื่อเสิ่นเสวียน เขาคงไม่ตามเสิ่นเสวียนออกมาเช่นนี้
“เ้ารู้จักสถาบันิญญามากแค่ไหน”
เสิ่นเสวียนถามเว่ยเฉิงเย่
เขาไม่เหมือนกับเฝิงเป่าเป่า อย่างมากเฝิงเป่าเป่าเป็เพียงแค่ประชากรคนหนึ่ง เื่เกี่ยวกับสถาบันิญญาส่วนใหญ่เป็สิ่งที่เขาได้ยินได้ฟังมา ส่วนเว่ยเฉิงเย่เป็ถึงรัชทายาทแห่งแคว้นเฟิงเหลย ข้อมูลที่เขารู้ไม่ใช่สิ่งที่เฝิงเป่าเป่าจะเทียบได้
“สถาบันิญญา? ผู้าุโ้าไปยังสถาบันิญญาอย่างนั้นหรือ”
หลังจากได้ยินชื่อสถาบันิญญา เว่ยเฉิงเย่ก็ตะลึงงันในทันที
“สถาบันิญญาไม่เหมือนที่อื่น เื้ัของเขาค่อนข้างพิเศษ เป็สถานที่ที่ผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งในทวีปสร้างขึ้น และเขายังสื่อสารกับหยินหยางได้ สามารถเข้าสู่ยมโลกได้ คนธรรมดาอย่าเข้าไปจะดีที่สุด”
เว่ยเฉิงเย่กล่าวกับเสิ่นเสวียน ในน้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวเช่นเดียวกัน
หลังจากได้ยินคำของเว่ยเฉิงเย่ ทำให้เสิ่นเสวียนตัดสินใจแล้วว่าต้องไปยังสถาบันิญญาให้ได้
“ข้าเคยได้ยินว่าในเมืองชางฉงมีคนมาจากสถาบันิญญาด้วย พวกเขาต่างจากคนทั่วไปไหม”
“ความจริงแล้วไม่ได้ต่างกันเลย เพียงแต่มีไอิญญารุนแรงกว่าคนทั่วไป”
เว่ยเฉิงเย่กล่าว เขาเคยเจอคนเ่าั้มาก่อน มั่นใจว่าคนที่ออกมาจากสถาบันิญญามีพลังยุทธ์เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก
“ข้า้าไปยังสถาบันิญญา ที่นั่นน่าจะเหมาะสมกับการฝึกฝนของเ้า”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเว่ยเฉิงเย่อีกครั้ง
“ไปสถาบันิญญา? ข้า...”
พอได้ยินว่าเสิ่นเสวียนจะไปที่สถาบันิญญา แววตาของเขาไม่ได้ตื่นเต้นดีใจ แต่ตื่นใมากกว่า
“ด้วยตัวตนของข้า หากไปยังสถาบันิญญาอาจโดนพวกเขากำจัดทิ้งได้” เว่ยเฉิงเย่กล่าวถึงความกังวลของตนเองออกไป
“วางใจได้ มีข้าอยู่ด้วย ไม่มีใครทำอะไรเ้าได้หรอก”
“ขอบคุณผู้าุโ ข้ายินดีไปกับท่านด้วย” เขาพยักหน้ายินยอมในทันทีที่ได้ยินคำของเสิ่นเสวียน
“ผู้าุโจะออกเดินทางเมื่อไร” เว่ยเฉิงเย่ถาม
“อีกสักสองวัน ทายาทแห่งเจิ้นกั๋วกงคนนั้นเพ่งเล็งข้าอยู่ หากอยู่ที่นี่นานเกินไปอาจเกิดปัญหาขึ้นได้”
“เว่ยหลง?”
เว่ยเฉิงเย่ถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขาไร้อำนาจไร้พลัง เว่ยหลงคนเดียวยังไม่มีพลังจะต้านทานเลย
“ก่อนออกเดินทาง ผู้าุโช่วยไปดูน้องสาวของข้าที่หอคอยเฟิงเหลยก่อนได้หรือไม่”
คนที่เว่ยเฉิงเย่เป็ห่วงมากที่สุดคือน้องสาวของเขา ตราบใดที่น้องสาวของเขายังอยู่ดี ต่อให้เขาตายก็ไม่เสียใจ
“หอคอยเฟิงเหลยอย่างนั้นหรือ ได้”
เสิ่นเสวียนพยักหน้ารับปาก จริงๆ แล้วมีรัชทายาทแห่งเฟิงเหลยอย่างเว่ยเฉิงเย่อยู่ด้วย สามารถช่วยคลี่คลายปัญหาให้เขาได้มาก อย่างเช่นหลายๆ เื่ที่เขาไม่รู้ แต่เว่ยเฉิงเย่คนนี้กลับรู้
“เอาล่ะ เ้าฝึกฝนอยู่ที่นี่ไปก่อน ที่นี่ค่อนข้างเหมาะสมกับการฝึกฝนของเ้า จำไว้ว่าขณะที่ฝึกฝนิญญา จะต้องกำจัดความคิดฟุ้งซ่านไปให้หมด หากมีสิ่งเจือปนเข้ามาเพียงเล็กน้อย อาจทำให้การฝึกฝนไร้ประสิทธิภาพได้ เข้าใจไหม”
“อืม ขอบคุณผู้าุโที่ชี้แนะ”
เว่ยเฉิงเย่ก้มหัวคารวะเล็กน้อย แม้ที่นี่จะว่างเปล่า แต่เมื่อเทียบกับมิติใต้หนองน้ำแล้ว การฝึกฝนที่นี่ค่อนข้างสะดวกมากกว่า และไอพลังของที่นี่ยังเปี่ยมไปด้วยพลังจิติญญา เหมาะสมกับการฝึกฝนของเขามาก
หลังจากร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนกลับออกมา เขาจึงฝึกฝนต่อในทันที การฝึกฝนเป็เื่ของความเพียร เขาฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนกลายเป็กิจวัตรไปแล้ว
สองวันต่อมา เสิ่นเสวียนพักผ่อนอยู่ในสวนตลอดเวลา กลางวันจะออกไปคุยกับเสิ่นเสี่ยวเม่ยและคนอื่นๆ ช่วยเฝิงเป่าเป่าจัดการปัญหาเกี่ยวกับกระดานหมากเล็กน้อย ตอนกลางคืนจะกลับเข้ามาฝึกฝน
พลังยุทธ์ของเขาในตอนนี้ถึงจุดวิกฤติแล้ว ซึ่งเป็จุดสูงสุดของขั้นหยวนก่อกำเนิดระดับต้น มิอาจทะลวงเลื่อนขั้นไปได้สักที ทางด้านเว่ยหลงไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน หลังจากที่เว่ยหลงออกไปแล้ว เขาััได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งแซ่อนตัวอยู่
แม้จะอยู่ห่างไปค่อนข้างไกล แต่หาตัวไม่ยากนักสำหรับเสิ่นเสวียนที่มีร่างจิติญญาแข็งแกร่ง
พลังยุทธ์ของคนเหล่านี้ล้วนอยู่ในขั้นจักรพรรดิ ซึ่งมีความท้าทายมากต่อเสิ่นเสวียนในตอนนี้ เขาเลือกเก็บตัวฝึกฝนไม่ออกไปเพราะ้าหลีกเลี่ยงปัญหา
สามวันต่อมา
่เที่ยงคืน เสิ่นเสวียนที่กำลังนั่งสมาธิพลันลืมตาขึ้น
“สำเร็จแล้วอย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเสวียนกล่าวพึมพำด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจ
หลังจากที่ฝึกฝนอยู่หลายวันแล้วยังไม่ทะลวงเลื่อนขั้นสักที เขาจึงเบนความสนใจไปยังผังเมืองซานเหอ
ตอนที่เขาคลายผนึกของผังเมืองซานเหอ ร่างจิติญญาของเขาได้รับความเสียหาย พลังจิติญญาเหือดหายไปกว่าครึ่ง แม้พลังยุทธ์ยังอยู่แต่ก็มิอาจปะทะกับขั้นจักรพรรดิได้
ก่อนหน้านี้ที่สู้กับอู๋ิ สุดท้ายก็ต้องพึ่งเสิ่นสืออีจึงจะจัดการอีกฝ่ายได้
ครั้งนี้ยังโดนขั้นจักรพรรดิหลายคนจับตามอง หากไม่มีพลังป้องกันตัว คงเกิดเื่ได้ไม่ช้าก็เร็ว
และเมื่อครู่เขาสามารถคลายผนึกเคล็ดวิชาส่วนหนึ่งในผังเมืองซานเหอได้สำเร็จ
เคล็ดวิชาจอมเขมือบ!
เคล็ดวิชาจอมเขมือบ สามารถกลืนกินได้ทุกสรรพสิ่ง
.................................................................
[1] สามภูมิหกภพ สามภูมิแบ่งออกเป็ กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ ส่วนหกภพแบ่งออกเป็ ์ มนุษย์ อสูร สัตว์ ิญญา และนรก