สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของไอลี่ ดูราวกับแอปเปิ้ลพิษผลหนึ่งจะกินมันเข้าไปหรือไม่ นั่นคือปัญหาใหญ่ของเธอ
เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้เื่อะไร อย่างแรกคือหินแร่ก้อนนี้ใหญ่มากและของที่ใหญ่ตอนนี้นอกเสียว่าจะโชคร้ายจนถึงขั้นสุดอย่างไรก็ต้องมีอะไรอยู่ด้านในสักหน่อย อีกอย่างคือผิวภายนอกดำเป็รอยฟองอัตราการเจอหยกจึงมีค่อนข้างสูง
อย่างที่สาม ตอนนี้ฝูหม่านโหลวขาดแคลนวัตถุดิบ อีกทั้งมีปัญหาภายในที่หนักกว่าที่หลิ่วเจิงและหวังเมี่ยวเอ๋อคาดเอาไว้มาก
ที่วันนี้ไอลี่ต้องใส่แว่นตากันแดดเอาไว้ตลอดเวลานั้นความจริงเป็เพราะว่าไม่อยากให้คนมองเห็นดวงตาของเธอใครจะรู้ว่าคุณหนูไอที่ดูมั่นใจในตัวเองตลอดเวลาอย่างในเวลาปกติเมื่อคืนไม่อาจจะข่มตาให้หลับลงได้จนใต้ตากลายเป็สีดำไปหมด
และจะมีใครรู้ ว่าทุกครั้งที่ขานราคาออกมาด้วยความกล้าหาญนั้นความจริงในมือของเธอเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
ทำไมคนพวกนี้ จะต้องทำตัวเป็ศัตรูกับฉันอยู่ตลอด ไอลี่จับมือทั้งสองแน่นในใจของเธอเอาแค่คิดด้วยความแค้นโดยที่ไม่ได้คิดว่าใครกันแน่ที่เป็ฝ่ายเริ่มเื่นี้ขึ้นมาก่อน
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน” เมื่อได้ยินการเพิ่มเงินทีละหนึ่งหยวน หนึ่งหยวนของชายตระกูลมู่ ไอลี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงขานราคาสูงออกมาด้วยความโมโห หินแร่ก้อนนี้ไม่ว่าอย่างไรฝูหม่านโหลวก็ต้องได้มันมา!
หลินลั่วหรานและหลิ่วชื่อหันมาสบตากัน ต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจกันดีว่า “เมื่อเหมาะสมก็ควรหยุด” หากยังคงขานราคากันต่อไปคุณหนูไออาจจะไม่ซื้อแล้วจริงๆ หินแร่ก้อนใหญ่ก้อนนั้นก็คงจะต้องถูกหลิ่วชื่อซื้อกลับมา
ส่วนมู่เทียนหนานนั้น เดิมทีก็แค่ตั้งใจจะช่วยอยู่แล้วจึงได้คอยขานเพิ่มราคา หวังเมี่ยวเอ๋อเพียงแค่ไม่ชอบใจมู่เทียนหนานนักเมื่อเห็นว่าหลินลั่วหรานหยุดสู้ราคาแล้ว ทั้งสองเองก็ราวกับเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่หยุดตามไปด้วย
ชายชาวพม่าะโถามอย่างช้าๆ “หนึ่งร้อยห้าสิบล้านครั้งที่สองมีใครจะให้ราคามากกว่านี้ไหม ถ้าไม่มีแล้วหินแร่ที่ทำให้บริษัทใหญ่ต้องแย่งกันก้อนนี้ ก็จะตกเป็ของคุณหนูไอแห่งฝูหม่านโหลวแล้ว!”
การใช้เงินกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ในการซื้อก้อนหินก้อนหนึ่งไม่ใช่ความกล้าหาญที่ใครก็มีได้ คนที่มีกำลังพอต่างก็ไม่สู้แล้วเหล่าปลาเล็กปลาน้อยก็ยิ่งได้แต่มองดูอยู่โดยรอบ
ในขณะนั้นเอง ทั่วทั้งบริเวณก็เงียบลงจนน่าแปลกใจ
“ฮ่าๆ หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ครั้งที่สาม คุณหนูไอ ยินดีด้วยคุณเป็เ้าของหินแร่หมายเลข 1 ก้อนนี้แล้ว!” ขายได้ในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านนั้นก็เกินกว่าที่ชายพม่าคาดเอาไว้มากแล้ว เขาจึงไม่ได้ไม่พอใจอะไรยิ่งเมื่อรวมเข้ากับหินแร่ก้อนอื่นด้วยแล้ว ครั้งนี้ก็ถือว่าเขาได้มามากกว่าที่คาดไว้เยอะเลยทีเดียว
หลินลั่วหรานถอนหายใจออกมาเบาๆ “คุณหนูไอนี่ร่ำรวยเงินทองจริงๆถึงได้จ่ายเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเพื่อซื้อก้อนหินแบบนี้”
หลิ่วเจิงถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “ทำไมล่ะมือ์ของเราคิดว่าครั้งนี้ไอลี่จะขาดทุนอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าลุงของหลิ่วเจิงเองก็กำลังเงียหูฟังอยู่หลินลั่วหรานจึงส่งยิ้มออกมา “ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักน่อยนะคะเรามารอดูกันดีกว่า!”
ในขณะที่มู่เทียนหนานกำลังสูญเสียสติเพราะรอยยิ้มแบบนั้น อยู่ๆ ก็พูดขึ้น “คุณหนูไอ เราแย่งหินแร่ก้อนนี้กับคุณกันไม่ไหว ยังไงก็ผ่ากันให้เห็นตรงนี้เพื่อให้พวกเราได้เปิดโลกดูหน่อยจะได้ไหม?”
เห็นได้ชัดว่าตอนแรกมีราคาอยู่เพียงแค่หนึ่งล้านแต่เพราะการขานราคาครั้งละ “สิบล้าน” ของเธอจึงทำให้ผู้คนที่เหลือไม่มีสิทธิ์ได้ร่วมประมูล จากตอนแรกที่รู้สึกไม่ค่อยดีกันนักก็เริ่มโห่ร้องกันขึ้นมา
“ใช่แล้ว ฝูหม่านโหลวทั้งร่ำรวยและยิ่งใหญ่ เงินแค่นี้คงเหมือนกับละอองฝนวันนี้คุณหนูไอก็ช่วยโปรยฝนให้พวกเราดูหน่อยเถอะ!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว เอาแบบนี้เถอะ!” ชายชาวกว่างโจวมักมีส่วนร่วมอยู่เสมอแล้วในการโห่เรียกร้องครั้งนี้จะขาดเขาไปได้อย่างไร
หลี่อันผิงโดนเงินกว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน” ทำเอาเวียนหัวจึงได้แต่กดเสียงลงพูด “จะผ่าที่นี่จริงๆ เหรอ?” ไอลี่มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังเรียกร้องด้วยความเยาะเย้ย และไม่ยอมรับอีกทั้งยังทำสีหน้าแบบนั้น.... หลินลั่วหรานยืนรออยู่ข้างหลิ่วเจิงและกำลังหัวเราะมาทางเธอ เธอรู้สึกราวกับสายตาของเธอพร่ามัวก่อนจะรีบเก็บสายตากลับมาภายใต้แว่นดำ แล้วจึงพูดกับทุกคนด้วยรอยยิ้มโดยไม่สนใจหลี่อันผิงแต่อย่างใด “ขอบคุณการช่วยเหลือของทุกคนวันนี้ดังนั้นแล้ว ก้อนแร่ที่ฝูหม่านโหลวซื้อมาในวันนี้ ก็ผ่ากันที่นี่แหละ”
หวังเมี่ยวเอ๋อปรบมือขึ้น “คุณหนูไอใจกว้างเสียจริงไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมถึงได้รับงานต่อจากท่านไอ วันนี้คงเป็บุญตาของทุกคนแล้ว” เธอพูดพร้อมกับส่งสายตาไปให้หลินลั่วหราน ทำเอาอดแอบยิ้มขึ้นมาไม่ได้
พี่หวังคนนี้ ดูเป็คนหยาบๆ แต่ความจริงแล้วบางทีก็ละเอียดอ่อนมากอยู่เหมือนกันนี่! ด้วยนิสัยที่แปลกประหลาดของเธอจึงได้ร่วมมือกันเพิ่มราคาหินแร่ก้อนนี้ให้กับไอลี่
ไม่ว่าด้านในจะมีหรือไม่มีหยกไอลี่ก็เสียเงินกับหินก้อนนี้ไปมากกว่าครึ่งของปกติแล้ว สิ่งเหล่านี้ถือเป็กำไรไปก่อนก็แล้วกันเื่ของหลี่อันผิงนั้นยังไม่ได้หายกันนะ
หินแร่ก้อนใหญ่ขนาดนี้ ทำให้การผ่าออกเป็ไปได้ยาก
ในตอนที่เครื่องตัดขนาดใหญ่ถูกขนมาถึง ก็ไม่สามารถเอาเข้าประตูมาได้จึงต้องใช้แรงคนในการขนก้อนแร่นี้ไปยังที่ราบด้านนอกเพื่อที่จะไม่ไปทำความเสียหายให้กับกำแพงบ้านของคนอื่น
ข่าวการผ่าหินแร่ก้อนใหญ่นั้นถูกแพร่ออกไปทั่วหมู่บ้านราวกับติดปีกทำเอาผู้คนทั้งหลายไม่ว่าจะหญิงชาย แก่หรือเด็กต่างพากันเข้ามาดู
เวลากลางวันผ่านไปสักพักแล้ว ยังโชคดีที่รุยลี่มี่กลางวันที่ยาวพระอาทิตย์จึงยังคงอยู่บนท้องฟ้า แต่ก็เห็นได้ว่าอยู่ในทิศตะวันตกแล้ว จึงต้องเร่งรัดการผ่าแร่ขึ้นมาอีก
หินแร่ก้อนใหญ่ขนาดนี้ จึงไม่ได้้าการขีดเส้นแบ่งใดๆ ั้แ่แรกและแม้จะไม่ได้มีพิธีจุดธูปชำระล้างอะไร แต่ชายพม่าก็ยังคงหาผ้าสีแดงมาผูกเอาไว้ให้พร้อมทั้งจุดประทัดเพื่อเป็การขอพรก่อนการผ่า
“คุณหนูพวกเราส่งกลับไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนแล้วค่อยผ่าจะดีกว่าไหมครับ?”
อย่าเพิ่งพูดถึงคนอื่นเลย แม้แต่เหล่าผู้จัดการซื้อที่ไอลี่พามาด้วยนั้นเมื่อเห็นหินแร่ที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการซื้อมาก็รู้สึกกังวลอยู่ในใจจึงแนะนำให้นำหินแร่ก้อนนี้กลับไปยังมณฑล S และรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแล้วจึงคิดกันอีกครั้งว่าจะผ่าออกมาอย่างไร
ที่ครั้งนี้ไอลี่พาคนออกมานั้นก็เป็เพราะแบบนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างก็เป็คนมีความสามารถในวงการทั้งนั้นพวกเขาเห็นชื่อเสียงสำคัญยิ่งชีพจึงไม่อยากจะมาทำเื่ขายขี้หน้าไปกับเ้านายคนใหม่ของพวกเขาดังนั้นไอลี่จึงไม่พอใจพวกเขาเป็อย่างมากเมื่อได้ยินว่าจะให้เอากลับไปให้คนเ่าั้ดูจากที่มีความลังเลอยู่บ้างก็มลายหายไป
“ผ่า ผ่ามันตอนนี้เลยนี่แหละ!”
เมื่อเ้าของยังคงยืนยันจะผ่าตอนนี้ชายชาวพม่าที่มีบริการหลังขายอย่างเขาจะทำอะไรได้ ก็ได้แต่โบกมือผอมๆ ของเขาสั่งให้ลูกน้องผ่าออกจากด้านนอก
ไม่รู้ว่าหวังเมี่ยวเอ๋อขยับตัวเข้ามาใกล้ั้แ่ตอนไหนเธอยิ้มพร้อมทั้งกดเสียงพูด “น้องคุยกับหลิ่วเจิงแล้วเหรอหรือตั้งใจ?”
เื่หลอกคนแบบนี้ เธอจะไปกล้าบอกกับหลิ่วเจิงได้อย่างไรเธอเพียงแค่ใช้ความเชื่อใจที่หลิ่วเจิงมีให้ทำให้เขาพูดออกมาว่าเธอเป็ตัวแทนของหลิ่วชื่อ
เมื่อได้ยินหวังเมี่ยวเอ๋อพูดแบบนี้หลินลั่วหรานก็มองซ้ายมองขวาก่อนจะพูดออกมา “ตั้งใจอะไรคะฉันแค่รู้ว่า ถ้าฉันเป็คุณหนูไอฉันจะไม่ผ่าแร่ท่ามกลางคนจำนวนมากขนาดนี้อย่างแน่นอน”
หวังเมี่ยวเอ๋อตีเธอเบาๆ “ไอลี่เป็คนร่ำรวยอยู่แล้วเงินแค่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านจะไปอะไรมากผ่าแร่ก็เป็เหมือนกับการเล่นอะไรสักอย่างของเธอเท่านั้นแหละ” เห็นได้ชัดว่าหวังเมี่ยวเอ๋อกำลังพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดเธอเองก็ไม่ได้อยากให้ไอลี่เจอหยกในหินก้อนนี้ จึงถามต่อ “น้องว่า หินแร่ก้อนนี้เป็ไงบ้าง?”
สายตาของหลินลั่วหรานว่องไวขึ้นมาในทันทีดูเหมือนว่าหากนำความสามารถในแบบของผู้ฝึกศาสตร์ไปเทียบกับคนธรรมดาอย่างไอลี่แล้วคงไม่มีอะไรน่าเทียบกันนัก นิ่งไปสักพักเธอถึงได้ยินคำถามของหวังเมี่ยวเอ๋อเข้ามาเธอมองไปยังเครื่องตัดที่ส่งเสียงครืดๆ ผู้คนต่างก็ไม่อยากจะยอมรับแต่ผลของการผ่าแร่กลับทำให้ทุกคนพากันแปลกใจ เสียงเบาๆพูดคำสองคำที่ใช้ในการสรุปการผ่าแร่ก้อนนี้ของไอลี่ออกมาด้วยเสียงเบาๆที่ได้ยินเพียงตัวเองคนเดียว...
ขายหน้า