ขายหน้าอะไรถึงจะนับว่าเป็การขายหน้ากันนะ?
อย่างเช่นในสมัยวัยรุ่นที่ตั้งใจว่าจะไปสารภาพรักกับคนหล่อประจำโรงเรียนแต่ใครจะรู้ว่านอกจากจะโดนปฏิเสธแล้ว ยังถูกทำให้อายต่อหน้าผู้คนมากมายนั่นคือความขายหน้า
หรืออย่างเช่นมือที่สามที่แย่งแฟนของคุณไป เป็คนที่สวยกว่า มีเงินมากกว่าคุณคุณจึงไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำอะไรได้ นั่นคือความขายหน้า
แน่นอนสิ่งที่น่าขายหน้ากว่านั่นก็คือ หญิงสาวที่โดนคุณแย่งแฟนไปนั้น อยู่ๆก็เปลี่ยนไปเป็คนใหม่และมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าคุณ ทั้งสวยกว่ามีความสามารถมากกว่า อีกทั้งยังมาขัดขวางคุณในที่ของคุณเองคุณเห็นความรู้สึกเสียดายขึ้นมาในแววตาของแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างคุณราวกับว่าหากเธอพยักหน้าเพียงเล็กน้อย เขาก็สามารถที่จะพุ่งตัวกลับไปหาได้โดยไม่อายใคร...
สถานการณ์ของไอลี่ในตอนนี้ก็เป็แบบนั้นหลินลั่วหรานที่เป็เพียงสาวออฟฟิศโกโรโกโสคนนั้นตอนนี้ได้รับการสนับสนุนจากคุณชายแห่งหลิ่วชื่ออีกทั้งยังมีคุณชายมู่ที่ไม่รู้ที่มาที่ไปเสนอจะให้เธอยืมเงินกว่าหนึ่งร้อยล้าน...ทั้งสองต่างหน้าตาดีกว่าหลี่อันผิงมีฐานะที่ดีกว่า และยังมีอนาคตที่ดีกว่า
ไอลี่พูดออกมาไม่ได้ว่าเธอรักหลี่อันผิงมากแค่ไหนแต่ในตอนนี้ความรู้สึกกว่าครึ่งของเธอ กำลังเปลี่ยนไปเป็ความรังเกียจ
ความแปลกของจิตใจผู้หญิงอยู่ที่ตรงนี้เธอไม่มีทางย้อนกลับไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันหนักหนาแค่ไหนแต่กลับโทษทุกอย่างไปที่หลินลั่วหราน เธอ้าที่จะกดหลินลั่วหรานลงไปถึงได้ซื้อหินแร่ก้อนนี้มา
เสียงดัง“ครืดๆ” ของเครื่องตัด สายตาของเธอจับจ้องไปยังฝุ่นของก้อนหินที่ฟุ้งไปทั่วตอนนี้ไอลี่ไม่ได้สนใจเศษฝุ่นเ่าั้แล้ว ทั่วทั้งมือของเธอเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเธอรู้สึกกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
ภายในเสียงดังของเครื่องตัดหลิ่วเจิงกลับส่งเสียงขึ้นถามหลินลั่วหราน “ทำไมไม่เลือกของตัวเองสักสองก้อนล่ะ?”
หลินลั่วหรานส่ายหน้า “รอให้ตัดหินก้อนนี้เสร็จหินแร่ทั้งหมดในรอบนี้ก็คงถูกขายไปจนเกือบหมดแล้ว...ที่เหลือเขาคงจะไม่ขนกลับไปใช่ไหมล่ะคะตอนนั้นซื้อหินแร่ที่ลดราคาก็คงจะได้อยู่นะ”
ไม่ใช่ว่าหลินลั่วหรานไม่อยากซื้อหินแร่ในราคาเต็มหินแร่ที่เหลือจากเลือกแล้ว หากว่าโชคไม่ดีจริง ก็คงจะไม่ได้อะไรแต่ปัญหาก็คือหลังจากที่เธอซื้อบ้านไปแล้ว เงินที่มีก็ร่อยหรอเงินแค่สองล้านมันคงไม่พอสำหรับการพนันหยกหรอก
หินแร่ยังมีลดราคาอีกเหรอมู่เทียนหนานที่คอยแอบฟังมาโดยตลอดถึงกับเหงื่อตก...นี่มันความคิดของใครกัน? ที่แท้ก็เป็ผู้หญิงน่าเกลียดที่ชอบของถูกนี่เอง!
มู่เทียนหนานได้แค่ส่งเสียงหึหึพร้อมทั้งมอบคำนิยามให้กับหลินลั่วหรานโดยที่เธอนั้นเอาแต่คุยกับหลิ่วเจิง และไม่ได้รับรู้อะไรเลยสักนิดยิ่งทำอะไรก็ยิ่งทำให้คุณชายมู่รู้สึกโมโหขึ้นมา
หญิงสาวสวมชุดชนเผ่าไทอุ้มเด็กตัวน้อยเข้ามาร่วมดูเมื่อก่อนต้าเติ๋งห่านเป็แหล่งอัญมณีที่มีชื่อเสียง และหยกก็มีความแตกต่าง เด็กๆไม่เคยเห็นการผ่าแร่มาก่อน จึงเอ่ยถามผู้เป็แม่ด้วยความอยากรู้
“ผ่าแร่ คือการผ่าก้อนหินออก แล้วเอาหยกข้างในออกมา เข้าใจไหม?”
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น “มีหยกอยู่ในหินทุกก้อนเลยไหมครับ? แล้วหินก้อนใหญ่ที่หลังบ้านเราก็มีใช่ไหมครับ?”
เมื่อเห็นดวงตากลมโตเปล่งประกายราวกับดวงดาวมองมาที่ตัวเธอด้วยความสงสัยหญิงสาวชาวไทจึงได้แต่บอกเธอด้วยเสียงเบาๆ ว่าก้อนหินก้อนใหญ่ที่บ้านของเราไม่มีหยกอยู่ด้านในหรอก ก่อนจะรีบเอามือปิดปากของเขาเอาไว้แล้วถอยเข้าไปในกลุ่มคน
อีกทั้งยังได้ยินเสียงของเด็กตัวน้อยถามต่อ “แล้วก้อนนั้นล่ะ? ก้อนนั้นมีไหม...”
ทุกคนต่างพากันเข้าใจว่าทำไมหญิงสาวคนนั้นถึงไม่รู้จะตอบกลับเด็กชายตัวน้อยอย่างไรทุกคนพากันรอดูหินแร่บนเครื่องตัด เหลืออีกแปดนิ้ว ห้านิ้ว สามนิ้ว...
“ครืดครืด!” เสียงดังขึ้นสองครั้งทุกคนต่างก็พากันป้องกันตัวเอง และเดินถอยหลังมาสองก้าวในที่สุดเครื่องตัดก็หยุดลง หินก้อนใหญ่บนเครื่องตัดแบ่งออกเป็สองส่วนและล้มแยกไปอยู่บริเวณด้านข้าง!
หลี่อันผิงดึงให้ไอลี่ถอยออกมาเพื่อหลบหินที่ล้มลงมา
คิ้วของชายชาวพม่าผูกกันเป็ปมเขาสั่งให้ลูกน้องไปเอาน้ำสะอาดมาสองถังใหญ่แล้วจัดการเทลงไปบนก้อนหินที่ถูกตัดออก
สายน้ำไหลผ่านไปด้านที่ถูกตัดถูกชำระล้างอย่างใสสะอาด สุดท้ายก็เป็แผ่นสีขาวแม้แต่เส้นสีเขียวสักเส้นก็ไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย!
“อา...” มีคนบางคนทนความใเอาไว้ไม่ได้จนต้องส่งเสียงออกมาไม่อยากจะเชื่อว่าหินแร่ที่ผู้จัดซื้อหลายคนต่างเล็งเอาไว้ มีบริษัทั์ใหญ่พากันแย่งก้อนนี้สุดท้ายยังถูกซื้อด้วยราคาสูงเสียดฟ้าอย่างหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน หลังจากการตัดออกกลับเป็เพียงแผ่นสีขาวแผ่นหนึ่ง
ขนาดชายชาวพม่าที่เป็คนขายหินแร่ก้อนนี้ออกไปเองยังรู้สึกรับไม่ได้ ผู้คนที่อยู่ ณ บริเวณนั้นไม่ว่าจะเป็คนในวงการหยกหรือไม่ต่างก็พากันเสียใจ ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงเ้าของอย่างไอลี่เลย!
เมื่อเห็นแผ่นสีขาวผสมกับเส้นสีดำไอลี่ก็ชะงักขึ้นมาทันที ระหว่างที่จะหันไปหาหลี่อันผิงก็พบว่าเขานั้นมีอาการเข่าอ่อนมากกว่าเธอเสียอีก นั่นเป็เพราะเขาเป็คนสร้างปัญหานี้ขึ้นมาเป็คนที่บอกไอลี่ว่าหินแร่ก้อนนี้จะต้องมีหยกอย่างแน่นอน เงินกว่า 150 ล้านนั้นเป็จำนวนเงินที่แม้แต่จะมีหลี่อันผิงสิบคน ก็ยังไม่อาจจะชดใช้ได้
“ตัด! ตัดต่อไป แค่นี้มันจะไปรู้อะไร!” หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ไม่ใช่หนึ่งร้อยห้าสิบหยวนนะ แม้แต่ไอลี่ที่เติบโตมาบนกองเงินกองทองของโลกแห่งอัญมณีก็ยังไม่อาจจะยอมรับอย่างนิ่งเฉยได้แม้แต่แว่นตากันแดดสีดำก็ยังถูกถอดออกไปจากใบหน้าดวงตาสีดำคล้ำที่แม้แต่เครื่องสำอางก็ไม่อาจจะปกปิดได้มิดทรงผมลอนสวยของเธอก็ถูกลมพัดเสียจนยุ่งเหยิงสภาพดูไม่ได้จนไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร
ชายชาวพม่ามองไปยังรอยตัดของทั้งสองฝั่งก่อนจะรู้สึกตัดสินใจได้ยากขึ้นมา “คุณหนูไอหินแร่ก้อนนี้ไม่เห็นร่องรอยของหยกเลย จะให้ตัดยังไงดีครับ?”
ไอลี่เหยียดยิ้มออกมา “ขายหินแร่ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะตัดแร่ยังไงเหรอ ดูแล้วก็ตัดไปเองสิ!”
ความทะนงตนหยิ่งยโสของไอลี่ทำเขาผู้คนต่างพากันส่ายหน้าการพนันหยกก็มีทั้งได้และเสีย เวลาจะลงมือย่อมต้องรู้จักคิดให้รอบคอบในตอนที่คิดจะจ่ายเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านออกมาก็ต้องคิดด้วยว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตอนนี้ยังไม่ทันถึงจุดสำคัญก็แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาเสียแล้ว ดูจากนิสัยในการพนันของเธอก็พอจะดูออกถึงนิสัยที่แท้จริงของคุณหนูไอแห่งฝูหม่านโหลวแล้ว
ชายพม่าส่งเสียงหึขึ้นมาในใจเขายิ่งรู้สึกี้เีที่จะช่วยไอลี่หาทิศทางของหยกขึ้นมาจึงได้ทำเหมือนกับในตอนแรก เขาเอาหินแร่ทั้งสองขึ้นบนเครื่องตัด ก่อนจะลงมือหั่นหินแร่ออกเป็สี่ส่วนราวกับลูกแตงโม
ขาวและมีเส้นสีดำไม่ต่างจากเดิม...ของไร้ค่าชิ้นนี้ทำให้คนทั่วทั้งบริเวณต่างพากันใแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ก็ไม่มีใครส่งเสียงใดๆ ออกมา
คุณลุงของหลิ่วเจิงจ้องมองไปที่ใบหน้าสงบนิ่งของหลินลั่วหรานด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้หญิงสาวตระกูลหลินคนนี้บอกว่าให้ “รอดูไปก่อน” เมื่อมานึกถึงในตอนนี้สิ่งที่เธอตั้งใจจะให้ดูไม่ใช่ว่าคือเื่แบบนี้เหรอ หรือว่าเธอจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหินก้อนนี้ไม่มีหยกอยู่ด้านใน?
คุณลุงของหลิ่วเจิงแก่แล้วดังนั้นความจำจึงไม่ค่อยดีเท่าไร เขานวดไปที่ขมับของตัวเองก่อนจะจัดการไล่ความคิดแปลกๆ เ่าั้ทิ้งไป
แสงสีทองจากอาทิตย์ตกดินของรุยลี่สาดส่องลงมายังก้อนหินสีขาวที่วางอยู่บนแผ่นเหล็กเปล่งประกายราวกับสร้อยทองเส้นใหญ่บนคอของเสี่ยซุยเสี่ยซุยและหวังเมี่ยวเอ๋อหันมาสบตากันต่างฝ่ายต่างเห็นความดีใจปรากฏขึ้นมาในแววตาของอีกคน ในตอนแรกพวกเขาทั้งสองยังตั้งใจว่าจะซื้อหินแร่ก้อนนี้แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าการที่ไม่ได้ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นลงไปจะเป็การดีเสียกว่า!
น้ำเสียงของไอลี่แหบห้าวลงเล็กน้อย “ต่อเลยเถอะ ตัดไปจนกว่าจะตัดไม่อีกแล้วค่อยหยุด”
ชายชาวพม่าเองก็เจอเื่ประหลาดแบบนี้มาน้อยเช่นกันหินแร่ขนาดสองคนโอบ ขนาดสูงกว่าสามเมตร ตัดออกมาเป็สี่ชิ้นแต่ก็ยังไม่เห็นหยกต่อให้แย่แค่ไหนก็ควรจะมีสักชิ้นนี่? คนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าเป็ก้อนหินที่เก็บมาจากริมทางก็ได้มีตรงไหนที่เหมือนกับหินแร่กัน!
ชายพม่าเองก็รู้สึกเครียดขึ้นมาจึงนำก้อนหินทั้งสี่ตัดแบ่งออกอีก จนไม่สามารถที่จะตัดต่อไปได้แล้ว ถึงได้หยุดลง
เมื่อมองไปยังก้อนหินที่ตกกระจายลงบนพื้นในพริบตานั้นทั่วทั้งสนามก็เต็มไปด้วยความเงียบ
เงียบ...ไอลี่จ้องมองไปยังหินแร่ก้อนนั้นลำคอของเธอแห้งผากไปหมด แต่ก็ยังไม่เห็นร่องรอยของหยกเธอเงยหน้าขึ้นมาราวกับหุ่นยนต์ ก่อนจะมองไปยังหลินลั่วหรานพร้อมเอ่ยสบถคำด่าออกมา “หลินลั่วหราน เธอมันคนชั่วที่แท้ก็สร้างกับดับขึ้นมาหลอกฉัน...”
ใบหน้าของหลินลั่วหรานกลับสงบนิ่งราวกับูเาน้ำแข็งก่อนที่ร่างของเธอจะพุ่งออกไปด้วยความว่องไว เธอสะบัดมือลงส่งเสียงดัง “เพี๊ยะ!” ออกมา รอยมือสีแดงปรากฏขึ้นบนหน้าของไอลี่
ก็เหมือนกับที่ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณหนูร่ำรวยเงินทองจะทนกับความพ่ายแพ้ไม่ได้จนเอ่ยปากด่าขึ้นมาพวกเขาไม่มีใครคิดว่าคนที่ดูสุภาพเรียบร้อย ท่าทางงดงามอย่างหลินลั่วหรานจะสามารถลงมือตบใครได้
ไอลี่จับลงที่ใบหน้าของตัวเองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อเมื่อได้สติกลับมาเธอก็ตั้งใจจะสู้กลับ เหล่าผู้จัดซื้อที่เธอพามาด้วยต่างก็พากันเข้ามาช่วยเหลือ
คนมากมายกำลังรุมหลินลั่วหรานเพียงคนเดียวผู้คนโดยรอบต่างพากันรู้สึกไม่ดีนัก เสี่ยซุยจึงพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือและเมื่อรวมเข้ากับหวังเมี่ยวเอ๋อ ก็มีพละกำลังราวกับ “พายุดำ”ผู้จัดการซื้อของไอลี่ต่างพากันโดนชนจนล้มลงไประเนระนาด
มู่เทียนหนานพุ่งออกไปราวกับอินทรีย์คนสุภาพของหลิ่วเจิงเมื่อโมโหขึ้นมาก็ไม่ได้ช้า เพียงแต่พวกเขายังไวไม่เท่าหลินลั่วหราน
หลินลั่วหรานจับข้อมือของไอลี่เอาไว้ได้ง่ายๆเมื่อผลักออกไปเพียงเล็กน้อย ตัวของไอลี่ก็ล้มลงไปอยู่ที่พื้น
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความรู้สึกไม่ดีนักก็สบเข้ากับแววตาที่เปล่งประกายของหลินลั่วหรานเข้าพอดี
“คุณหนูไอ อย่าทำให้ฝูหม่านโหลวต้องขายหน้าอีกเลย พวกเรากล้าที่จะพนันก็ต้องยอมรับการพ่ายแพ้ไหม?”
ในตอนที่หลินลั่วหรานก้มตัวลงไปมองนั้นผู้หญิงที่นอนเลอะดินทรายไปทั้งตัวคนนั้นมีตรงไหนที่ยังเหมือนกับคนที่ท่าทางก้าวร้าวใส่เธออยู่บนรถออดี้ TT สีแดงวันนั้นบ้าง
ถ้าเธอยังทำแบบนั้นได้แล้วทำไมฉันถึงจะทำบ้างไม่ได้กันล่ะ? หลินลั่วหรานปัดมือของตัวเอง เธอไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ทำอะไรก้าวราวแบบนี้ต่อหน้าผู้คนเลยแม้แต่น้อยต่อให้เป็คนที่กำลังฝึกศาสตร์อยู่หรืออะไรก็ตามต่างก็ต้องมีความไม่พอใจกันอยู่บ้าง ถึงจะไม่ขัดแย้งกับใจตัวเองถูกไหม?
เมื่อเห็นว่าฝ่ายหญิงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากและฝ่ายชายก็ตกอยู่ในความกลัวหลินลั่วหรานก็รู้สึกสบายขึ้นมาในใจอย่างที่เธอไม่เคยเป็มาก่อน!