ในระหว่างที่หลี่อันผิงกำลังตื่นเต้นอยู่นั้นในที่สุดหลินลั่วหรานก็เปิดปากพูดราคาออกมาเธอยิ้มตาหยีพร้อมกับเอ่ยราคาสูงเสียดฟ้าอย่าง “หนึ่งร้อยล้าน” ออกมา
จะไม่ขอพูดถึงเสียงแสดงความใที่ถูกส่งออกมาจากกลุ่มคนทั้งหลายไอลี่เป็คนแรกที่ทนไม่ไหวอีกแล้ว
“เธอมีเงินถึงร้อยล้านเหรอถึงได้กล้าะโออกมามั่วๆ เข้าใจกฎบ้างไหม!” ั้แ่ที่เริ่มะโราคามาตั้งนานหลินลั่วหรานไม่แสดงสีหน้าใดๆ รอจนราคามาถึงเก้าสิบล้านในตอนที่แน่ใจว่าฝูหม่านโหลวจะเป็คนที่มั่นใจว่าจะได้หินแร่ก่อนนั้นมาครอง อยู่ๆเธอก็ขานราคา “หนึ่งร้อยล้าน” ขึ้นมา นี่มันตั้งใจจะเป็ศัตรูกับฝูหม่านโหลวชัดๆ
ในระหว่างที่หลิ่วเจิงกำลังจะอ้าปากพูดมู่เทียนหนานที่คอยดูมานานก็หัวเราะออกมา “คุณผู้หญิงคนนี้พูดจาตลกดีนะในเมื่อเธอกล้าจะขานราคา หนึ่งร้อยล้านออกมาได้ ก็ต้องสามารถหามาจ่ายได้อยู่แล้วแต่ถึงจะหามาไม่ได้ ฉันก็จะให้เธอยืม แบบนี้โอเคไหม?”
“นาย? ถ้ารู้จักคนจนๆอย่างยัยนี่ ก็คงจะเป็คนจนไม่ต่างกัน ไม่ได้มีหลักแหล่งอะไรเลย แล้วจะให้ฉันเชื่อได้ยังไง?”
ณ ที่นั่น ไม่ใช่เพียงแค่ไอลี่เพราะแม้แต่คนที่พามู่เทียนหนานมาอย่างเสี่ยซุยก็ยังไม่ได้รู้จักเบื้องลึกเื้ัของเขานัก แต่แน่นอนว่าเื่ที่มีพละกำลังมากและร่ำรวยนั้นเสี่ยซุยรู้ดีอยู่
มู่เทียนหนานไม่ได้ใส่ใจอะไรแม้แต่น้อยเขาหยิบบัตรธนาคารที่ดูธรรมดาทั่วไปออกมา ก่อนจะบอกให้ชายพม่าไปตรวจสอบดูโชคดีที่เขายังรู้จักรักษาหน้าไม่ได้มีท่าทีโมโหร้ายอย่างพวกผู้ชายหยิ่งยโสในนิยาย เมื่อเช็กดูแล้วมันคือบัตรทองของธนาคารแห่งหนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือถึง xxxx
ไอลี่กุมมือพร้อมเหยียดรอยยิ้ม “ถ้าผ่านไปสักพักแล้วยังตรวจสอบไม่ได้ พวกเราก็ต้องรอเขาไปทั้งชีวิตเลยหรือไง?”
มู่เทียนหนานตบลงบนบ่าของเสี่ยซุย “พ่อค้าซุยก็ให้ผมยืมก่อนได้ใช่ไหมล่ะ? พ่อค้าซุย?”
มู่เทียนหนานเน้นย้ำลงมาที่คำว่า พ่อค้าซุยแล้วเสี่ยซุยจะทำอะไรได้ เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามือที่สามารถงอเหล็กได้นั้นกำลังถูกวางเอาไว้บนบ่าของเขา อีกทั้งยังอยู่ใกล้หวังเมี่ยวเอ๋อแค่นี้เสี่ยซุยก็ได้แต่ทำหน้าเจื่อน “ได้อยู่แล้ว เงินแค่นี้คุณชายมู่ต้องมีอยู่แล้ว ฉันรับประกันได้”
มู่เทียนหนานยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ ก่อนจะหันไปทางหลินลั่วหรานและพบว่าเธอไม่ได้มองเขาอยู่เลยแม้แต่น้อยแต่กำลังกระซิบข้างหูอยู่กับนายน้อยของหลิ่วชื่อ
ดีจังนะการทำความดีของฉันถูกคนมองว่าเป็การกระทำโง่ๆ ไปแล้ว!
หลินลั่วหรานอาจจะเข้าใจเขาผิดไปแต่ด้วยที่ทั้งสองคนนั้นมักจะได้เจอกันด้วยสถานการณ์ที่ไม่ดีนักทำให้แม้ว่าหลินลั่วหรานจะฝึกศาสตร์จนจิตใจใสสะอาดกว่านี้เธอก็ไม่คิดว่ามู่เทียนหนานจะกำลังช่วยเธอยู่...
หลิ่วเจิงเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณหนูไอรีบร้อนเกินไปแล้วตอนนี้หลินลั่วหรานเป็ผู้จัดซื้อของหลิ่วชื่อ ราคาที่เธอขานขึ้นมาทั้งหมดต่างก็เป็ตัวแทนของหลิ่วชื่อทั้งนั้น”
“ฮ่าๆอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว พวกเรามาเริ่มกันต่อเถอะคุณหนูไอลี่ยังจะสู้ราคาต่อไหม?” เมื่อได้ยินว่าการขานราคาของหลินลั่วหรานนั้นเป็ไปอย่างถูกต้องเขาก็ไม่ได้สนใจว่าจะมีคนให้เธอยืม หรือว่าจะเป็ตัวแทนของหลิ่วชื่อเพียงแค่ในตอนสุดท้ายแล้วมีคนสามารถนำเงินมาจ่ายให้เขาได้ก็พอเขาก็รีบเข้ามาจัดการสถานการณ์ให้เป็ไปด้วยความเรียบร้อย
สายตาของไอลี่ถูกบดบังไปด้วยแว่นกันแดดริมฝีปากของเธอยกยิ้มเยาะขึ้น “ให้พวกคุณแย่งกันไปก่อนก็แล้วกัน ฉันอยากจะรู้นัก หินแร่ราคา ร้อยล้านจะมีสักกี่คนที่จ่ายออกมาได้!”
เมื่อได้ยินว่าตอนนี้ไอลี่จะไม่ขานแข่งราคาแล้วหลินลั่วหรานก็ไม่ได้แสดงท่าทางใอย่างที่เธอคาดไว้ออกมาแต่ยังคงยืนสบายใจอยู่เคียงข้างหลิ่วเจิง ผู้ชายร่ำรวยกับผู้หญิงสวยงามเมื่ออยู่ข้างกันแล้ว ดูไม่ธรรมดาเลยสักนิด...เมื่อมาเทียบกันแล้ว อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าหลี่อันผิงที่เป็เพียงเด็กบ้านไร่บ้านสวนนั้นเริ่มจะไม่เข้ากับเธอขึ้นมาแล้วนี่เป็ครั้งแรกที่ไอลี่รู้สึกไม่พอใจกับคนที่ไม่ได้มีอะไรมากนักอย่างหลี่อันผิงที่ยืนอยู่ข้างกายของเธอ
มู่เทียนหนานเหยียดรอยยิ้มออกมา “ตรวจสอบบัตรของฉันเสร็จหรือยัง? มันมากพอที่จะเข้าร่วมการประมูลได้ไหม?”
เมื่อชายพม่าเห็นท่าทางของเขาแต่ก็ยังไม่แน่ใจความเป็มา จึงได้แต่บอกให้รอไปก่อน และบอกไม่ให้หลิ่วชื่อรีบร้อน
หลินลั่วหรานไม่มีทางซื้อหินก้อนนี้อย่างแน่นอนโดยเฉพาะถ้าจะต้องใช้เงินกว่าร้อยล้านในการซื้อมันมาแน่นอนว่าเธอต้องกำลังรอให้มีคนมาสู้ราคากับเธอ
ผ่านไปสักพักลูกน้องที่รับบัตรของมู่เทียนหนานไปตรวจสอบก็กลับมา ก่อนจะกระซิบบางอย่างลงข้างหูชายพม่าเขาจึงเผยรอยยิ้มออกกว้าง “แน่นอนว่าคุณมู่มีกำลังพอที่จะเข้าร่วมการประมูลคุณเริ่มได้เลยครับ”
ส่วนเื่ที่บัตรธนาคารลึกลับนั่นแสดงถึงอะไรชายพม่าไม่ได้เอ่ยออกมาหลังจากนั้นมันก็กลายเป็อีกความสงสัยที่เกิดขึ้นในใจของผู้คน
“หนึ่งร้อยล้านกับอีกหนึ่งหยวน เป็ไง?” การกระทำของมู่เทียนหนานดูราวกับกำลังเล่นอะไรบางอย่างผู้คนต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมา นี่มันตั้งใจจะสู้กับหลิ่วชื่อชัดๆมีอย่างที่ไหน มาเพิ่มราคาด้วยเงินแค่หนึ่งหยวนแบบนี้ ตั้งใจขัดคนมากเกินไปแล้ว
แม้แต่ไอลี่เองก็ยังยกยิ้มขึ้นมาที่แท้ก็แค่ทำอะไรกวนคนอื่นไปเรื่อย ดูเหมือนว่าพระเ้าจะเข้าข้างฉันนะตอนนี้แผนนั้นมันเปลี่ยนทางแล้วล่ะ!
หวังเมี่ยวเอ๋อเหยียดรอยยิ้ม “รังแกผู้หญิงอะไรกันล่ะนั่นฉันขอเพิ่มอีกสิบล้าน”
หนึ่งร้อยสิบล้านกับอีกหนึ่งหยวน...แม้แต่หยกที่ผ่าออกมาเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่ได้มีราคาสูงเท่านี้หินก้อนั์ก้อนนี้ คุ้มค่าแก่ราคานี้จริงหรือ?
“นี่หวังเมี่ยวเอ๋อของแกบ้าไปแล้วหรือเปล่า ไปร่วมเล่นอะไรแบบนั้นกับเขาน่ะ?” ชายชาวกว่างโจวสะกิดเสี่ยซุยเบาๆ พร้อมกับถามออกมาเสียงเบา
การแข่งขันราคาที่สูงขนาดนี้นอกจากบริษัทใหญ่อย่างฝูหม่านโหลวและหลิ่วชื่อแล้วก็ไม่ใช่จำนวนเงินที่พ่อค้าแม่ขายระดับกลางอย่างพวกเขาจะสามารถนำออกมาใช้ได้โดยไม่คิดให้ดีแม้ว่าเงินร้อยล้าน หากเทียบกับราคาหยกแล้วอาจจะไม่ได้สูงมากแต่หากพูดถึงพ่อค้าหยกคนหนึ่งแล้ว ถ้าเกิดว่าไม่ได้ขึ้นมาก็คงจะต้องสูญเงินทั้งหมดไป
เสี่ยซุยเหลือบมองไปยังมู่เทียนหนานที่ยืนอยู่ข้างกายกล้ามเนื้อที่คอของเขาต่างพากันขยับสั่นไหว ขบฟันพูดขึ้น “ถ้าเธอบ้าไปแล้วจริงมีเหรอที่ฉันจะไม่ตาม กลับไปอย่างมากก็ต้องหาเงินมาเพิ่มชดใช้ให้เธอไม่อย่างนั้นจะให้ทำยังไง?”
ชายชาวกว่างโจวก้มหน้าด้วยความเคารพก่อนจะตบลงที่บ่าของเสี่ยซุย “แกนี่นะ ที่ฉันแพ้ไปตอนนั้นมันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!”
เสี่ยซุยมองไปยังศัตรูความรักกว่ายี่สิบปีของเขาพร้อมทั้งพูดออกมา “แพ้อย่างไม่ยุติธรรมยังไงอย่าทำให้ตัวเองดูดีเกินไปหน่อยเลย...แกไม่เคยเอาชนะฉันได้หรอก!”
คำพูดนั้นทำให้ชายชาวกว่างโจวเดินจากออกไปด้วยความเศร้าเสี่ยซุยยังไม่ทันได้ภูมิใจอะไรมากเสียงของมู่เทียนหนานที่ยืนอยู่ข้างกายก็ถูกส่งเข้ามา “เยี่ยมเลยเสี่ย ไม่คิดว่าจะเป็คนแบบนี้นะเนี่ย”
เสี่ยซุยมองไปยังผู้คนโดยรอบก่อนจะข่มฟันกดเสียงพูด “ฉันว่านะคุณชายมู่เองควรจะหยุดได้แล้ว ไอ้เื่พลังอะไรบ้าๆ นั่นฉันไม่รู้จริงๆ...ถ้ากล้าทำอะไรภรรยาฉัน ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ยอมแน่”
ตอนแรกมู่เทียนหนานก็ได้แต่ทำสีหน้าไม่สนใจอะไรก่อนจะหันมาพูดกับเสี่ยซุยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เสี่ย ผมมีข่าวดีจะบอก”
เสี่ยซุยหันไปจ้องมองที่เขาโดยไม่รู้ว่าคุณชายมู่คนนี้กำลังคิดแผนการอะไรอยู่
“คิดจะทำอะไรอีก?”
มู่เทียนหนานยักไหล่ของเขา “ก็แค่อยากจะบอกเอาไว้ั้แ่วันนี้ไป เสี่ยก็จะเป็อิสระแล้ว!...หลังจากนี้ผมจะไม่มาตามเสี่ยอีกแล้ว”
“จริงเหรอ?” เสี่ยซุยกะพริบตาปริบๆ พร้อมทั้งลูบมือหยาบของตัวเองโดยไม่อยากจะเชื่อ
“อืม! แน่นอนว่าต้องเป็ความจริง!” มู่เทียนหนานพยักหน้าลงอย่างจริงจัง เพราะว่าตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป้าหมายไปแล้ว
เมื่อได้ยินว่าราคาการประมูลค่อยๆสูงขึ้นจนถึงหนึ่งร้อยยี่สิบล้านมู่เทียนหนานก็ยังคงเพิ่มราคาไปอีกหนึ่งหยวนเช่นเคยจนได้รับสายตาดูถูกที่ถูกส่งมาจากไอลี่และหลินหลั่วหรานที่ยังคงเลือกที่จะไม่มองมาที่เขาเช่นเคย
เมื่อเห็นท่าทางสบายใจของเธอที่ยืนอยู่ข้างไอ้แว่นที่ทำตัวสุภาพเรียบร้อยแล้วมู่เทียนหนานก็ไม่อาจจะยอมรับได้ว่าในตอนนั้นความรู้สึกริษยากำลังเกิดขึ้นในใจของเขาโดยไม่ทราบสาเหตุ
การทำดีในทุกวัน จะต้องได้รับผลตอบแทนใช่ไหม? ยัยขี้ขโมย รอไปก่อนเถอะ!