บทที่ 160 ทุ่มสุดตัว
คนตระกูลเริ่นและเริ่นอิ๋งอิ๋งชะงักไปทันที
ตอนที่ลู่หวยเฟิงแต่งงานกับเริ่นอิ๋งอิ๋ง ไม่นิยมจดทะเบียนสมรส ทั้งสองแค่จัดงานเลี้ยงในหมู่บ้าน ไหว้ฟ้าดินก็ถือว่าแต่งงานแล้ว
ดังนั้นการหย่าก็ไม่ต้องไปถอนทะเบียน แค่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลง ฝ่ายหญิงให้ญาติพาตัวกลับบ้านก็ถือว่าหย่าแล้ว
แต่ปัญหาคือน้าเริ่นไม่ได้คิดจะให้เริ่นอิ๋งอิ๋งหย่าจริงๆ สักหน่อย เธอแค่อยากฉวยโอกาสนี้เรียกเงินจากลู่หวยเฟิงเท่านั้น
น่าขัน ตระกูลลู่ในประชาคมชีหลี่ก็นับว่าฐานะดี ลู่หวยเฟิงตอนนี้เป็ครูประจำ ได้เงินเดือนประจำ สามีดีแบบนี้ในประชาคมชีหลี่ถือว่าหายาก
หย่าเหรอ?
เริ่นอิ๋งอิ๋งวุ่นวายมาหลายปีก็ยังไม่มีลูกสักคน ถ้าหย่าแล้วแต่งงานใหม่ จะหาสามีดีๆ จากที่ไหน?
“พวก…พวกนายจะไล่อิ๋งอิ๋งของพวกเราไปเหรอ?” น้าเริ่นะโ
ตอนนี้ในลานบ้านมีคนมามุงดูเยอะแล้ว พอได้ยินคำนี้ บางคนก็ไม่พอใจ “เมื่อกี้ไม่ใช่เธอคว้าหวยเฟิงทั้งทุบตีทั้งด่าว่าจะหย่า แล้วจะพาอิ๋งอิ๋งของเธอกลับไปเหรอ?”
ทำไมพอตระกูลลู่ยอม เธอกลับบอกว่าเขาจะไล่?
ไม่มีหลักการแบบนี้นะ
“นั่นน่ะสิ” ลู่ซือหยวนรีบพูด “ใครไล่ใครกัน? เมื่อกี้ไม่ใช่พวกคุณบอกว่าจะพาอาสะใภ้สามกลับไป ไม่ให้เป็เมียอาสามของฉันเหรอ?”
ลู่หวยเฟิงมองเริ่นอิ๋งอิ๋ง เขาพูดเสียงแหบพร่า “ฉันถามตัวเองว่าั้แ่ที่เธอแต่งกับฉัน ฉันไม่เคยให้เธอลำบากอะไร ทุกอย่างที่ลู่หวยเฟิงทำได้ ฉันก็ทำหมดแล้ว วันนี้ฉันถามเธอแค่คำเดียว คนคนนั้น เธอจะบอกหรือเปล่า?”
“ฉันแซ่ลู่ จิ่งซานเป็หลานชายแท้ๆ ของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายตระกูลลู่ และทำร้ายเขา”
“วันนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ต่อหน้าทุกคน เธอบอกมาคำเดียว พวกเราจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อหรือเปล่า?”
เริ่นอิ๋งอิ๋งมองเขา ในใจเริ่มตื่นตระหนก แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลู่หวยเฟิงเคยทำเพื่อเธอ สายตาเธอก็ชัดเจนขึ้น เธอยิ้มเยาะตัวเอง “พี่พูดเสียน่าฟังเลย อยู่ด้วยกันเหรอ? พี่ก็แค่รังเกียจที่ฉันไม่มีลูกไม่ใช่เหรอ?”
“อยากจะใช้เื่นี้ไล่ฉันออกไปก็บอกมาเลย อย่ามาพูดจาสวยหรู”
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งโกรธ “พี่คิดว่าฉันอยากเป็เมียพี่มากนักเหรอ?”
มีวินาทีหนึ่งที่เริ่นอิ๋งอิ๋งคิดว่า ชีวิตที่ต้องคิดหาวิธีมีลูกทุกวัน เธอก็เบื่อเต็มทีแล้ว
“ถ้าพี่อยากอยู่ด้วยกัน พี่ต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่คบค้าสมาคมกับคนตระกูลลู่อีก” เริ่นอิ๋งอิ๋งพูด
ยังไงพวกเขาก็มีเงินเดือน ไม่ต้องพึ่งพาตระกูลลู่ ชีวิตก็ยังดีได้
“มีลูก?” ลู่หวยเฟิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด “ที่บ้านไม่เคยมีใครพูดอะไร เป็เธอเองที่คิดมากไป ฉันรู้ว่าไม่มีลูก เธอกดดัน ฉันเองก็ไม่มีความสุข แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ข้ออ้างให้เธอทำร้ายคนในครอบครัวของฉัน ตระกูลลู่เลี้ยงฉันมา ต่อให้ลู่หวยเฟิงไร้ความสามารถแค่ไหน ก็ไม่ยอมให้เธอมาทำแบบนี้ และเป็ไปไม่ได้ที่จะลืมบุญคุณของตระกูล”
“ในเมื่อ…” เขาพูดถึงตรงนี้ ก็หลับตาลงอย่างยากลำบาก “เมื่อกี้ฉันพูดชัดแล้ว ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ ชีวิตแบบนี้ ฉันก็ไม่ขออยู่ต่อ”
“พาเธอกลับไปซะ”
เริ่นอิ๋งอิ๋งชะงัก มองลู่หวยเฟิงตาไม่กะพริบ
ตอนนี้เองเธอถึงได้ตื่นตระหนก รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ราวกับจะเปลี่ยนไป คำพูดครั้งนี้ของเขาเหมือนจริง
ไม่ ไม่มีทาง
เดิมทีเธอแค่อยากข่มเขา ให้ลู่หวยเฟิงยอมจำนน ขอโทษ และสัญญาว่าจะไม่เจอสวี่จือจือตามลำพัง
แต่ไม่คิดว่าลู่หวยเฟิงจะพูดแบบนี้
ยิ่งคิด ในใจก็ยิ่งโกรธและไม่ยอมรับ ความไม่ยินยอมนี้ทำให้เธอแทบเสียสติ เธอคว้าเสื้อลู่หวยเฟิง ทั้งทุบตีทั้งด่า “ไม่ได้ พี่อยากทิ้งฉันง่ายๆ แบบนี้ ไม่มีทาง ฉันจะบอกอะไรพี่นะ ลู่หวยเฟิง ถ้าพวกพี่ไม่จ่ายเงินให้ฉัน ฉันก็ไม่ไป เงินในบ้านพี่ ต้องให้ฉันทั้งหมด”
คนที่มามุงดูมองหน้ากัน ไม่นึกว่าปกติเริ่นอิ๋งอิ๋งที่ดูอ่อนแอจะมีด้านที่ดุร้ายและโลภมากขนาดนี้
ยิ่งไปกว่านั้นยังไร้เหตุผล
เงินตระกูลลู่ให้เธอทั้งหมด? เธอไม่กลัวจะสำลักตายเลย!
“พวกเราเป็ผัวเมียกันมา ฉันไม่ได้มีความสามารถอะไร ในบ้านมีเงินสองร้อยกว่าหยวน เธอเอาไปให้หมดเลย ใช้บำรุงร่างกายหรือเตรียมสินเดิมก็ได้” ลู่หวยเฟิงพูด “ส่วนของคนอื่นในตระกูลลู่ ขอโทษที ฉันให้ไม่ได้”
“ไม่ได้” น้าเริ่นพูด “สองร้อยหยวนก็คิดจะไล่อิ๋งอิ๋งของพวกเรา? คิดว่าไล่ขอทานอย่างนั้นเหรอ?”
เวรเอ๊ย ปากดีเกินไปแล้ว
บ้านใครใช้สองร้อยหยวนไล่ขอทาน? บอกมา พวกเขายินดีเป็ขอทาน!
เห็นน้าต่อรองกับตระกูลลู่เพื่อตัวเธอ แต่ลู่หวยเฟิงยืนนิ่งไม่ขยับ ทำให้เริ่นอิ๋งอิ๋งรู้สึกอับอายอย่างมาก
“พี่จะหย่ากับฉันจริงเหรอ?” เธอจ้องลู่หวยเฟิงเขม็ง “ลู่หวยเฟิง พี่ลืมที่สัญญากับฉันตอนแต่งงานแล้วเหรอ? พี่บอกว่าจะดีกับฉันไปทั้งชีวิต”
“ฉันไม่มีพ่อแม่ ไม่มีใครรักเอ็นดู พี่บอกว่าพี่จะรักจะทะนุถนอมฉันเป็เท่าทวี แต่วันนี้ พี่จะหย่ากับฉัน?”
“พี่เคยบอกว่า ถ้าผิดคำสัญญาจะต้องตายไม่ดี” เธอะโเสียงแหลม
เริ่นอิ๋งอิ๋งคนนี้ ทำไมโเี้ได้ขนาดนี้?
นี่มันสาปแช่งคนให้ตายชัดๆ!
“พี่น้องชาวบ้าน” คุณนายลู่โกรธจนตัวสั่น ทุบอกตัวเองร้องห่มร้องไห้ “ช่วยตัดสินให้หน่อยเถอะ นี่มันคำพูดของคนเป้นเมียเหรอ? ถึงจะหย่ากัน ก็ไม่ควรสาปแช่งเขาขนาดนี้”
หญิงชราชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยนิ้วมือสั่นเทา “เธอไม่มีลูก ฉันไม่เคยพูดอะไรต่อหน้าเธอ คนในบ้านก็ไม่เคยพูดเื่นี้ เพราะกลัวเธอจะคิดมาก แต่แบบนี้เธอก็ยังไม่พอใจอีกเหรอ?”
“ต่อหน้ายายแก่อย่างฉัน เธอสาปแช่งลูกชายฉัน เธอจะขุดหัวใจที่เป็แม่ของฉันให้ได้”
คุณนายลู่โมโหแล้วจริง
“คุณแม่ อย่าโกรธไปเลยครับ” ลู่หวยเฟิงพูดด้วยความรู้สึกผิด
“นั่นก็เพราะพี่แสร้งทำเป็คนดี” เริ่นอิ๋งอิ๋งบ่น
“เริ่นอิ๋งอิ๋ง” ลู่หวยเฟิงได้ยิน เขามองเธอด้วยสายตาเ็า
“ฉันพูดผิดตรงไหน คำพูดเ่าั้พี่พูดกับฉันจริงๆ” เริ่นอิ๋งอิ๋งจ้องกลับ “ทุกครั้งที่พูดถึงแม่พี่ พี่ก็เป็แบบนี้ ฉันเป็เมียพี่ แม่พี่จะอยู่กับพี่ทั้งชีวิตเหรอ? ถ้ามีความสามารถ ก็ไปอยู่กับแม่พี่สิ”
คำพูดนี้…ทนฟังไม่ได้จริงๆ
“หย่าก็หย่าสิ อย่าคิดว่าฉันกลัวพี่ ใครไม่หย่า คนนั้นเป็ลูกหมา” เริ่นอิ๋งอิ๋งตอนนี้ทุ่มสุดตัว “ดี ฉันจะเอางานครูประถมของพี่ที่ประชาคม พี่ยกงานครูให้ฉัน แล้วก็เงินสองร้อยหยวนในบ้าน แล้วพวกเราจะหย่ากัน”
มีงานและเงิน เธอยังต้องกลัวใคร?
เริ่นอิ๋งอิ๋งไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
.............................