“อ่ะ ขนมเค้ก เราเลี้ยงที่เธอได้งานใหม่” หญิงสาวแวะเข้าไปหยิบขนมเค้กมาวางไว้ตรงหน้าเขาเช่นเคย ก่อนร่างเล็กย่อตัวลงนั่งในเก้าอี้ตัวข้างๆ ดวงตาหวานวาดมองใบหน้าชายหนุ่มด้วยความยินดี
“ดีจัง ตกงานก็ได้ขนมเค้ก ได้งานก็ได้ขนมเค้ก” ภีมพลพูดในขณะที่ตักขนมเค้กชิ้นเล็กเข้าปาก ดวงตาหวานของพิชญาเลื่อนมองป้ายชื่อบริษัทอย่างอัตโนมัติ เพราะมันเด่นหราอยู่บนหน้าอก
“เดี๋ยวนะภีม เธออย่าบอกนะว่า ทำงานที่นั่น” ดวงตาสวยเมื่อครู่ เปลี่ยนไป
อย่างฉับพลัน ส่อแววประกายกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น เธอเองไม่ใช่หรือที่เคยคะยั้นคะยอให้เราไปทำงานที่นั่นบอกว่าจะช่วยพูดกับพี่ชาย ให้รับเราเข้าทำงาน” พิชญายกมือขึ้นมากุมศีรษะ ย้อนนึกถึงวันที่ภีมพลเข้าไปส่งเธอที่บ้าน เพียงแค่ธาวินเห็นภีมพลอยู่กับเธอเท่านั้น ทุกอย่างร้อนดังไฟ เป็เหตุให้เธอต้องระเห็จมาอยู่ที่ร้าน
“ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้วภีม พี่วาไม่ได้นั่งเป็ประธานบริษัท หากแต่เป็พี่วิน” หญิงสาวรู้สึกโทษตัวเองที่ไม่รอบคอบ ทำให้ภีมพลอาจได้รับผลกระทบ
“เราเป็ห่วงภีมนะ ถ้าคิดจะทำงานที่นั่น พยายามอย่าเข้าใกล้พี่วิน พี่วินไม่เหมือนพี่วา ถ้าเขารู้ว่าเธอสนิทกับเรา เขาเล่นงานเธอยับแน่” ชายหนุ่มยกกาแฟขึ้นมาดื่ม ก่อนจะทำหน้าแปลกใจ
“พี่วิน ที่เธอเคยเล่าให้ฟังว่า เขาอยู่เมืองนอกและไม่ค่อยชอบหน้าเธอ น่ะหรือ” พิชญาพยักหน้า ก่อนที่เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น พิชญาหันไปยิ้มรับลูกค้าเหมือนเช่นเคย หากแต่รอยยิ้มแสนสดใส ต้องหุบในบัดดล
สีหน้าเปลี่ยนเป็กังวลจนภีมพลลุกขึ้นยืน มองตามสายตาของพิชญาไปพบกับ ชายหนุ่มใส่สูทสีดำ เดินนิ่งมองตรงมายังเขาทั้งสองด้วยสายตาแข็งกระด้าง รูปร่างหน้าตาเรียกว่าหล่อเหลาพอตัวทีเดียวภีมพลอ้าปากค้าง ในขณะที่เขาเป็ชายเต็มตัวต้องยอมรับว่าชายหนุ่มตรงหน้า มีรูปสมบัติที่หาใครเทียบยาก
“หลิว ปลาย ทุกคนคะ พี่อนุญาตให้ทุกคนกลับบ้านได้ตอนนี้เลยค่ะ รีบเก็บของ พี่มีธุระจะคุยกับคุณวิน” พิชญาหันไปแจ้งให้ลูกน้องกลับบ้านก่อนเวลา ด้วยเพราะรู้อยู่เต็มอกว่า ธาวินสามารถะเิอารมณ์ได้ตลอดเวลา หากเขาไม่พอใจสิ่งใด การที่พนักงานเห็นเธอตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เป็เื่ที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
ดวงตาคมมองพิชญาแน่วแน่ หากแต่เดาไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน เมื่อพนักงานทั้งหมดออกจากร้านไป พิชญาหันมาหาเพื่อนรักที่ยืนงงเป็ไก่ตาแตกอยู่ด้านข้าง
“ภีม เราว่าเธอควรออกไปด้วย” ภีมพลมองกลับไปยังชายหนุ่มคนดังกล่าว พิจารณาท่าทีแปลกประหลาดของเขา ก่อนส่ายศีรษะไปมาแสดงการปฏิเสธ
“ไม่อ่ะ เราว่าเราอยู่เป็เพื่อนเธอดีกว่า หมอนี่ไม่น่าไว้ใจ” ภีมพลกอดอก จับจ้องไปยังชายหนุ่มรูปงามที่ว่า
“ภีม!” พิชญาหันมาดุเพื่อน ด้วยเพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าธาวินคือประธานบริษัท มีอำนาจมากมายล้นมือ แต่กลับไม่มีท่าทีเกรงกลัวธาวินเลยแม้แต่น้อย
“สนุกพอหรือยังพิชญ์” ธาวินเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาถามด้วยน้ำคำราบเรียบ ก่อนจะปรายตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างพิชญา เขาสำรวจั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า ทวนซ้ำอยู่สองรอบ จึงแสยะยิ้มเชิงดูถูก
“กลับบ้าน” ธาวินคว้ามือหญิงสาว ก่อนที่ภีมพลจะยื้อร่างของพิชญากลับมาเช่นเดียวกัน คนใส่สูทขมวดคิ้วหันมองตรงไปยังคนใส่ชุดหมีแล้วเลื่อนสายตากลับมาจ้องพิชญาในเชิงกดดัน
“พิชญ์ ถ้าเธอไม่อยากไป เธอแค่บอกเรา” ภีมพลพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ เขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเพื่อนรัก แม้คนนั้นจะเป็คนในครอบครัวเธอเองก็ตาม
“บอกให้มันปล่อยมือคุณ” ธาวินพูดกับหญิงสาวในขณะที่มือหนายังคงกำมือบางของเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาไม่อยากหันไปมองหรือเสวนากับกุ๊ยที่ว่าให้เปลืองน้ำลาย
“พี่วินกลับไปเถอะค่ะ พิชญ์ออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว พี่วินควรพอใจได้แล้วนะคะ เลิกก่อกวนพิชญ์เสียที” พิชญาแกะมือหนาออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พูดมาก น่ารำคาญชะมัด” ธาวินสบถพลางกัดกรามแน่น เขารู้สึกหงุดหงิดเหมือนมีลมตีวนอยู่ในท้องตลอดเวลา สายตาคมตวัดมองกลับไปยังชายหนุ่มตัวต้นเหตุ ที่ในขณะนี้ยังคังกำมืออีกข้างของพิชญาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเช่นเดียวกัน
ทันใดนั้นพึ่งสังเกตเห็นชุดหมีสีส้ม คล้ายกับชุดพนักงานของเขา พลางเลื่อนดูป้ายชื่อบริษัท จากนั้นจึงปล่อยยิ้มออกมาเหมือนคนได้รับชัยชนะ ก่อนร่างสูงใส่สูทจะดึงสายตากลับมาจับจ้องยังพิชญา
“ถ้าคุณไม่กลับ ไอ้หมอนั่นตกงานแน่” พิชญารับรู้ในทันทีว่า เขาใช้ภีมพลบีบบังคับเธอ หญิงสาวหรี่ตามองชายหนุ่มใจร้ายตรงหน้าพลางเม้มปากแน่น
“พิชญ์ เราไม่ทำงานที่นั่นแล้วก็ได้นะ” ภีมพลกระชับมือหญิงสาวแน่นขึ้น พลางดึงเข้ามาใกล้ตัว ด้วยเพราะไม่ไว้ใจชายร่างสูงที่ใช้อำนาจบังคับเพื่อนสาว
“ถ้าพิชญ์กลับไป พี่วินสัญญาได้ไหมว่าจะไม่ยุ่งกับภีม ให้ภีมทำงานตามที่เข้า้า อันที่จริงส่วนที่ภีมเขาทำ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับงานบริหารที่พี่จัดการอยู่แล้ว พิชญ์ขอแค่นี้ ทำได้หรือเปล่า” ข้อแลกเปลี่ยนของพิชญาทำเอาธาวินถึงกับหน้าชา ไม่คิดว่าพิชญาจะปกป้องชู้ของตัวเองได้ถึงเพียงนี้
“คุณคิดว่าคุณเป็ใคร ถึงกล้ามาต่อรองกับคนอย่างผม พิชญา” ชายหนุ่มใส่สูทยกมือขึ้นมากอดอกด้วยมาดนิ่งขรึม ดวงตาคมมองเข้าไปในั์ตาแวววับของหญิงสาว
“ถ้าพี่วินไม่รับปาก พิชญ์ก็ไม่กลับค่ะ และพิชญ์จะไม่มีวันกลับไปบ้านหลังนั้นเด็ดขาด พี่วินกลับไปได้ละค่ะ อย่ามาเสียเวลาที่นี่เลย” พิชญาเชิดหน้าหวานของเธอขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทีตั้งมั่น
ธาวินพยักหน้าแล้วเลื่อนสายตาไปหาชายหนุ่มชุดหมี ที่ในเวลานี้ไม่มีท่าทีจะปล่อยมือออกจากหญิงสาว
“ผมไล่คุณออก” ธาวินชี้หน้าเขา ก่อนหันตัวเดินออกจากร้าน พร้อมกับอารมณ์พลุ่นพล่านโมโห เสียงกระดิ่งหน้าร้านทำให้พิชญาหันมองหน้าภีมพลหนึ่งครั้ง
และได้สติกลับมาว่าเขาไม่ควรตกงานเพราะสาเหตุงี่เง่าไร้สาระเช่นนี้ หญิงสาวตัดสินใจวิ่งตามธาวินออกมาติดๆ
“เดี๋ยวพี่วิน” เสียงเรียกของพิชญาที่ดังอยู่ด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มหยุดเดินพลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ในตอนนี้เขาโกรธแทบควันออกหู ดวงตาคมกลอกกลิ้งอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันกลับมา แล้วปรี่เข้ามากระชากแขนของพิชญา
“ไอ้หมอนั่นเข้ามาทำงานที่โรงงานได้ยังไง” หญิงสาวนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามเื่เดิมไม่ทันจางหาย ก็มีเื่ใหม่เข้ามาให้หญิงสาวได้ปวดหัว
“เพราะคุณใช่ไหม ที่ให้มันเข้ามา เพราะ้าที่จะอยู่ใกล้มัน ใช่ไหม คุณทำแบบนี้กับพี่วาได้ยังไงพิชญา”
“พิชญ์ยอมรับ พิชญ์เป็คนแนะนำให้ภีมพลไปสมัครงานที่โรงงาน แต่ไม่ใช่อย่างที่พี่วินเข้าใจนะคะ” พิชญาพยายามอธิบาย พลางแกะมือหนาของชายหนุ่มออกจากมือของตัวเอง
“ปล่อยพิชญ์ พิชญ์เจ็บ” เสียงหวานพร้อมกับหน้าตายู่ยี่ของหญิงสาวกำลังอ้อนวอนชายหนุ่ม หากแต่มือหนาของเขากลับกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิมเป็เท่าตัว
“หลอกลวง กลอกกลิ้ง” ธาวินมองหน้าหญิงสาวแล้วกัดฟันต่อว่าต่อขาน
“พี่วินจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ภีมไม่เกี่ยวกับเื่นี้”
“ไม่เกี่ยวหรือ มันเกี่ยวด้วยเต็มๆ” ธาวินกระชากหญิงสาวให้เดินตามมาขึ้นรถหรูที่จอดไว้หลังร้าน ร่างสูงนิ่วหน้าในสมองมีเื่วุ่นวายให้ขบคิด ตีกันปั่นป่วนไปหมดก่อนจะจับหญิงสาวยัดเข้าไปในรถแล้วปิดประตู
