“ไอกะ ถึงงานเธอจะไม่มีปัญหาอะไรก็เถอะ... แต่่นี้เธอดูไม่ค่อยกระปี้ประเปร่าเลยนะ”
“อา… ขอโทษที่ทำให้เป็ห่วงค่ะ ฉันอาจจะแค่นอนไม่พอเท่าไหร่”
ขณะที่ฉันพูดคุยอัปเดตกับคุณซาเอกุสะซังเื่ผลงานในวันนี้ เธอก็ไม่ได้ดูกังวลอะไรกับฉันมากนัก
ฉันน่ะรู้เหตุผลที่ตัวเองเป็แบบนี้ดี ฉันจึงบอกคุณซาเอกุสะซังไปแค่บางส่วนเท่านั้น
วันต่อมาหลังจากที่ฉันทะเลาะกับนายเพื่อนบ้านในลิฟต์ เราก็เข้าสู่สังเวียนที่ฉันเรียกว่า "การประลองช่วยตัวเอง"
เราต่างทำาเย็นที่สุดจะน่าเบื่อกันแบบเด็กๆ แล้วถ้าเจอกันในลิฟต์เมื่อไหร่ เราทั้งสองก็พร้อมจงใจส่งเสียงกวนประสาทอีกฝ่ายเมื่อนั้น
อย่าว่าแต่จะพูดคุย หรือสบตากันเลย เหมือนนี่จะกลายเป็การทักทายแปลกๆ ประจำของเราไปแล้ว
แต่ก็ต้องขอบคุณพฤติกรรมงี่เง่าแบบนี้ที่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดและหงุดหงิดอยู่ตลอด จนความ้าทางเพศลดลงไปบ้าง
มีหลายๆ ครั้งในตอนที่ฉันทำงานบ้าน ก็ชอบแกล้งทำเป็ร้องะโไปให้เขาได้ยิน และถึงตอนแรกๆ จะทำเพื่อแค่ประชดก็เถอะ แต่เราเล่นาจิตวิทยาเด็กๆ นี่มาเกือบจะเดือนนึงแล้ว
แล้วพฤติกรรมเหล่านี้ก็ค่อยๆ สะสมความเหนื่อยล้าและความอ่อนแอในจิตใจ จนกลายเป็ภาระในร่างกาย
ฉันรู้นะว่ามันไร้ประโยชน์ แต่ก็หยุดไม่ได้สักที
“ไม่ใช่ว่าเธอเล่นไอนั่นมากเกินไปหรอกนะ? เพราะครั้งล่าสุดที่เธอขอให้ฉันซื้อให้ เธอก็ไม่ได้ขอใหม่อีกเลย สงสัยเธอจะติดใจไปแล้วมั้ง”
“ไม่มีทาง! ถึงมันจะช่วยฉันไว้เยอะก็เถอะ แต่ไม่ได้ติดมันซะหน่อย”
เหตุผลที่แท้จริงนั้นแย่กว่าเื่ของเล่นนี้อีก ฉันเลยไม่อายที่จะยอมรับเื่นี้กับคุณซาเอกุสะซัง
“ช่างเหอะ ยังไงฉันจะกลับมาเป็เหมือนเดิมให้เร็วที่สุด ฉันไม่ปล่อยให้คุณและทุกๆ คนผิดหวังแน่นอน”
“อื้ม… ฉันก็เชื่อว่าเธอทำได้”
ฉันทำได้เพียงให้คำสัญญาส่งๆ และภาวนาให้ตัวเองหยุดทำอะไรโง่ๆ แบบที่เป็อยู่ แล้วกลับมาสงบอีกครั้งให้ได้
แต่โอกาสมาเร็วกว่าที่คิด วันนี้ฉันเจอนายเพื่อนบ้านในลิฟต์อีกแล้ว
แม้เขาใน่เวลาประมาณนี้จะดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอด แต่เหมือนครั้งนี้เขาดูซีดเซียวมากกว่าครั้งล่าสุดที่อยู่ในความทรงจำฉันเสียอีก
เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เราพบกันใน่เดือนนี้ เขาไม่ได้สนใจฉันเป็พิเศษเหมือนเดิม หรือให้เข้าใจอีกแบบก็คือ เขาไม่้าสื่อสารอะไรกับฉันทั้งนั้น
แต่วันนี้ก็เหมือนกับวันที่ทะเลาะกันในวันนั้น เื่ที่คุณซาเอกุสะซังเตือนผุดขึ้นมาในหัว ฉันคิดว่าตัวเองควรต้องพูดคุยกับเขาสักหน่อย
ฉันสงบสติอารมณ์ แล้วตัดสินใจที่จะพูดคุยเพื่อยุติความขัดแย้งที่ไร้สาระนี้ และเพื่อขีดเส้นแบ่งต่อจากนี้ไปว่า จะไม่รบกวนกันและกันอีก
แต่เมื่อฉันหันกลับไปเห็นประกาศที่ติดไว้ในลิฟต์ แผนทั้งหมดของฉันพลันชะงักกึก
“เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้อยู่อาศัยบางท่านรบกวนความเงียบสงบใน่กลางคืน จนคณะกรรมการจัดการได้รับการร้องเรียนมามากมายจากผู้อยู่อาศัย โปรดเคารพตนเองและเคารพผู้อยู่อาศัยท่านอื่น หากคุณสร้างปัญหาให้ผู้อื่น…”
ด้านล่างยังมีเนื้อหาอีกมากมายที่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอ่านให้ละเอียด เพราะฉันบอกได้ว่าประกาศนี้มีไว้เพื่อใคร
ฉันจ้องประกาศโดยไม่พูดอะไร แล้วสายตาก็ค่อยๆ เลื่อนไปมองนายเพื่อนบ้านที่กำลังดูประกาศอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้ตัว
เราซึ่งแต่เดิมไม่ถูกกันอยู่แล้ว ก็หันมามองหน้ากันด้วยความสับสน ตอนนี้ที่ปกติหน้าเขาดูซังกะตาย กลับเต็มไปด้วยความอับอายขายขี้หน้า
ฉันไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ ตัวเองก็หัวเราะออกมา จนอยากจะเอามือปิดมุมปากให้มิดด้วยซ้ำ
ฉันหันมองนายเพื่อนบ้านที่ดูสับสนเหมือนเด็กที่เพิ่งโดนดุ และโดนสั่งสอนมาอีกครั้ง
“เรา...จะสงบศึกกันไหม?”
“……อืม”
เป็เื่ยากที่เราจะเข้าใจกันได้แบบนี้ และเมื่อข้อตกลงนั้นสิ้นสุดไปแล้ว คงไม่้าเหตุผลยืนกรานความคิดเห็นของเราอีกต่อไป
เขาพยักหน้าตามข้อเสนอของฉันด้วยความจริงใจ และความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกฉันมาเกือบหนึ่งเดือนก็ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
“นายบอกว่าฉันรบกวนนายก่อน… นายยังเป็นักศึกษาอยู่เหรอ?”
"ปีสอง"
"งั้นเหรอ… ฉันขอโทษจริงๆ … นะ"
เสียงลิฟต์เปิดออกเข้ามาขัดจังหวะการพูดคุย ราวกับมันส่งสัญญาณไล่ให้เราออกไปได้แล้ว
แต่ครั้งนี้เรากลับเดินอยู่ข้างกัน เพื่อมุ่งหน้าไปสู่สุดทางเดิน ด้วยฝีเท้าที่แ่เบากว่าปกติ
“งั้นก็ราตรีสวัสดิ์นะนายเพื่อนบ้าน”
เมื่อฉันมาถึงประตู ก็บอกราตรีสวัสดิ์กับเขา และไม่คาดหวังว่าเขาจะตอบกลับมาดีๆ อยู่แล้ว
"……ราตรีสวัสดิ์"
ถึงแม้จะเบาและงึมงำ แต่ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าฟังไม่ผิดแน่นอน
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็รีบเข้าไปหลบในห้องและล็อกประตูลงฉับพลัน เหมือนกับจงใจแยกตัวเองให้ห่างออกจากโลกภายนอก การกระทำหุนหันแบบนั้นทำให้ฉันหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว
"ยังกับ... เด็กจริงๆ เลย"
แล้วหลังจากวันนั้น ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงนายเพื่อนบ้านดูหนังอะไรอีกเลย
ความปรารถนาของฉันซึ่งไม่อาจปลดปล่อยได้ เพราะอารมณ์หงุดหงิดนั้น ก็ค่อยๆ ก่อตัวกลับมาอีกครั้งพร้อมความสงบสุข
ฉันที่กำลังจ้องดูรูปร่างของตัวเองในกระจกอยู่นาน ก็ค่อยๆ เอื้อมมือออกไปแตะจุดที่เปียกชื้นใต้กระโปรง และปลุกเร้าความปรารถนาที่ฉันได้ละทิ้งมันไปสักพักกลับคืนมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้