หากไม่ใช่เพื่อช่วยน้องสาว เขาคงไม่มาลองเสี่ยงที่บ่อนเช่นนี้ ทั้งที่น่าจะทำสำเร็จแต่กลับถูกจับได้เพราะเขาตื่นเต้นเกินไป
“ก็ต่อเมื่อเ้าให้เหตุผลข้า ไม่อย่างนั้น…”
เด็กหนุ่มรีบพูด “น้องสาวข้าถูกขาย ข้าอยากไถ่ตัวนางกลับมา”
“บอกข้ามาว่าน้องสาวเ้าชื่อกระไร ถูกขายไปที่ใด อีกเื่ เงินยี่สิบตำลึงนี้ถือว่าเ้าติดค้างข้า จะหักออกจากเงินเดือนของเ้า”
เจียงหงหย่วนพูดจบก็ประคองเด็กหนุ่มขึ้น พาเขาไปยังโรงเตี๊ยมเล็กๆ
เขาตื่นเต้นเล็กน้อย เด็กหนุ่มผู้นี้ชื่อหนิงผาน ชาติก่อนเป็นักฆ่าแขนเดียว สังหารขุนนางที่ทุจริตละโมบโลภมากไปหลายคนแต่ก็ถูกจับในที่สุด ทั้งยังตายบนแท่นปะา
เขาถูกลงทัณฑ์ทรมานทุกรูปแบบ กระทั่งตายไปแล้วก็ยังไม่ยอมบอกว่าผู้ใดอยู่เื้ั
ต่อมามีนักฆ่าอีกคนถูกจับ นักฆ่าผู้นี้ทนรับการทรมานไม่ไหว ยอมบอกข้อมูลทั้งหมด เจียงหงหย่วนถึงได้รู้ว่าคนที่อยู่เื้ัพวกเขาชื่อว่าตู้ซิวจู๋ เป็บุตรชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลตู้ในเมืองหลวง
ตู้ซิวจู๋ถูกจับ ที่มาของนักฆ่าทั้งหลายที่เขาเลี้ยงไว้ถูกเปิดเผยสู่ใต้หล้า หลักๆ แล้วเป็คนที่ถูกเขาช่วยไว้ตอนชีวิตลำบากหรือไม่ก็มีอันตรายถึงชีวิต
ที่เจียงหงหย่วนตัดสินใจ่หนิงผานเพราะถูกใจในนิสัยและความภักดีของเขา
เขาเปิดห้อง ขอตะเกียบจากเสี่ยวเอ้อร์ จากนั้นช่วยเด็กหนุ่มต่อกระดูกและทายา ใช้ตะเกียบยึดตำแหน่งให้ดี นำผ้ามาผูกให้แน่น กำชับเด็กหนุ่มเสร็จก็มอบเงินให้เสี่ยวเอ้อร์เล็กน้อย ฝากให้เขาช่วยดูแลเด็กหนุ่ม หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยจึงออกจากโรงเตี๊ยมกลับไปที่บ่อน
กลับมาถึงบ่อน เจียงหงหย่วนหาลูกมือที่ชื่อเหลียงซาน บุรุษผู้นี้เป็นักเลง ไม่มีครอบครัว ปกติได้เงินแล้วชอบไปหมกตัวในซ่องนางโลมใกล้ๆ
เขามอบเงินให้เหลียงซานยี่สิบตำลึง บอกเขาว่า “วันนี้ไปที่สวนลี่ชุนแล้วซื้อเด็กสาวอายุแปดขวบที่ชื่อหนิงจุ้ย รบกวนให้ช่วยข้าไถ่ตัวนางหน่อยเถิด เด็กหญิงคนนี้ถูกขายไปในราคาแค่แปดตำลึง ข้าให้เ้ายี่สิบตำลึง หากเหลือก็นำไปซื้อเหล้าซื้อเนื้อกินเถิด จริงสิ ไถ่ตัวเสร็จแล้วไม่ต้องพาเข้าบ่อน รอแค่ที่หน้าตรอกเป็พอ ข้าจะออกไปรอที่หน้าตรอกในอีกครึ่งชั่วยาม”
สำหรับสวนลี่ชุน หากไม่จ่ายราคาเป็เท่าตัวไม่มีทางไถ่ตัวออกมาได้
“ได้ เจียงเกอรอได้เลย” จะว่าไปแล้วเจียงหงหย่วนอายุน้อยกว่าเขาสามปี แต่เจียงหงหย่วนรูปร่างสูงใหญ่ ภายนอกดูโตกว่าเขา
เหลียงซานถือเงินไปสวนลี่ชุน เขาไม่ได้ถามเจียงหงหย่วนว่าเหตุใดต้องไถ่ตัวคน คนที่ทำงานในวงการเดียวกับพวกเขาต่างรู้ว่าเื่บางเื่ก็ไม่ควรถาม หากอีกฝ่ายอยากบอกก็คงบอกเอง
เขาเป็มืออันธพาลในบ่อน ทั้งยังเป็ลูกค้าประจำของสวนลี่ชุน ก็แค่เด็กหญิงตัวผอมแห้ง สวนลี่ชุนยินดีมีน้ำใจต่อเขาอยู่แล้ว จ่ายเงินแค่สิบตำลึงก็มอบสัญญาขายตัวให้เหลียงซาน
เหลียงซานพาเด็กหญิงที่ใกลัวไปมอบให้เจียงหงหย่วน เจียงหงหย่วนพานางไปที่โรงเตี๊ยม กว่าเด็กหญิงจะกล้าร้องไห้ก็ตอนเห็นหนิงผาน
“ไม่ต้องร้อง!” เจียงหงหนิงตำหนิ เด็กหญิงตัวน้อยที่ถูกตีมาทั้งวันย่อมกลัวเขาจนไม่กล้าร้องอีก นางขดตัวที่ขอบเตียง มองเจียงหงหย่วนด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
“ดูแลพี่ชายเ้าให้ดี ห้ามโดนแขนเขา!” พูดจบก็ยื่นสัญญาขายตัวของจุ้ยเอ๋อร์ให้หนิงผาน “จะกินจะดื่มสิ่งใดก็สั่งในโรงเตี๊ยมเอาเอง ข้าจะมาจ่ายให้ เดี๋ยววันพรุ่งข้าจะเอายามาส่ง”
“ขอบคุณนายท่านมากขอรับ” หนิงผานคิดไม่ถึงว่าเจียงหงหย่วนจะช่วยไถ่ตัวน้องสาวกลับมาได้เร็วขนาดนี้ ซาบซึ้งใจเป็อย่างยิ่ง ความหวาดระแวงที่มีต่อเจียงหงหย่วนก่อนหน้านี้สลายหายไปเช่นกัน
เจียงหงหย่วนไม่ตอบสิ่งใด เดินออกจากโรงเตี๊ยม
อนาคตที่เขาต้องเผชิญนั้นอันตรายมาก ดังนั้น เขาควรต้องเริ่มสร้างกองกำลังของตัวเอง
เพียงแต่…การจะเลี้ยงคนต้องใช้เงินจำนวนมาก เขาต้องรีบหาเงินให้เร็ว
เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน บนเส้นขอบฟ้าสีดำสนิทมีดาวสองสามดวงส่องแสงระยิบระยับ เจียงหงหย่วนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่ได้กลับไปที่บ่อนอีก แต่เร่งฝีมือไปทางโรงเตี๊ยมหงฝู
โรงเตี๊ยมปิดรับแขกไปนานแล้ว แต่เจียงหงหย่วนบอกให้เสี่ยวเอ้อร์ช่วยเปิดประตูทิ้งไว้ ดังนั้นเมื่อเขาเคาะประตูเพียงครู่เดียวก็มีคนเปิดประตูให้
“ส่งน้ำร้อนมาที่ห้อง” เจียงหงหย่วนให้เงินเสี่ยวเอ้อร์หนึ่งพวง เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มรับ เดินหาวไปทางห้องครัวด้านหลัง
หลินหวั่นชิวยังไม่นอน นางกำลังอ่านนิยายอยู่ใต้ตะเกียง พักอยู่ในโรงเตี๊ยมเช่นนี้ กลัวหลับแล้วจะไม่ได้ยินเสียงเจียงหงหย่วนเคาะประตู เช่นนั้นอาจรบกวนแขกท่านอื่นได้
ออกมาข้างนอกควรระวังตัวไว้ดีกว่า หลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทด้วย
นางได้ยินเสียงเจียงหงหย่วนเคาะเรียก รีบใส่รองเท้าลุกจากเตียงไปเปิดประตู
นางลุกออกมาจากผ้าห่ม ใส่แค่เสื้อตัวกลาง ด้านนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมตัวบาง เส้นผมร่วงปรกที่บ่า
ออกจากผ้าห่มกะทันหัน อากาศหนาวพัดเข้าที่คอของนาง
เปิดประตูให้เจียงหงหย่วนเสร็จก็รีบหันกลับขึ้นเตียง แต่เจียงหงหย่วนกลับกอดจากด้านหลัง
“เหตุใดจึงวิ่งหนี? ข้าเป็สามีของเ้านะ!” น้ำเสียงเจียงหงหย่วนไม่ดีนัก เขารู้สึกว่าภรรยาตัวน้องรังเกียจตัวเอง
“ข้าหนาว” หลินหวั่นชิวพูด
หากมัวคุยสัพเพเหระกับบุรุษหยาบเถื่อนเวลานี้ คนที่จะเสียเปรียบคือนาง!
เจียงหงหย่วนได้ยินว่านางหนาวก็ลูบมือนาง พบว่ามือน้อยๆ เย็นเฉียบ
สีหน้าเขาดำครึ้ม
อุ้มหลินหวั่นชิวขึ้นเตียง ห่มผ้าให้นางและจัดมุมผ้าห่มให้เรียบร้อย
เขาเหลือบไปเห็นนิยายที่วางอยู่ข้างหมอนหลินหวั่นชิว สีหน้ายิ่งดำครึ้มกว่าเดิม มิน่ามือถึงเย็นเช่นนี้ ภรรยาตัวน้อยคงอ่านนิยายมาตลอดเป็แน่
อากาศเช่นนี้แต่เอามือออกนอกผ้าห่ม มือจะไม่เย็นได้อย่างไร
“ท่านลูกค้า น้ำร้อนมาแล้วขอรับ”
เสียงเสี่ยวเอ้อร์ดังมาจากด้านนอก เจียงหงหย่วนทำตาเขม็งใส่หลินหวั่นชิว หยิบนิยายไปโยนลงบนโต๊ะ
“ถ้าดึกดื่นยังมัวอ่านนิยายนี่อีก ข้าจะฉีกทิ้งเสีย”
พูดจบก็เดินออกไป หลินหวั่นชิวได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ฉากกั้นระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอนมีภาพเงาร่างกำยำปรากฏ บุรุษหนุ่มถอดเสื้อผ้าอย่างว่องไว
เสียงน้ำซ่าๆ ประกอบกับภาพความเคลื่อนไหวของบุรุษหนุ่ม ในหัวหลินหวั่นชิวมีภาพร่างกายที่นางเคยเห็นปรากฏทันที ใบหน้าแดงก่ำ
ร้อนผะผ่าวอย่างรุนแรง
นางรีบพลิกตัวไปทางอื่นแล้วหลับตา ทว่าเสียงน้ำยังคงแทรกเข้ามาในหู
ไม่นาน แผ่นหลังนางที่เย็นสะท้าน กลับมีร่างกายอุ่นร้อนแนบชิดเข้ามา ตะเกียงน้ำมันในห้องถูกดับลงเช่นกัน ทั้งห้องตกสู่ความมืด
