ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 65 ลู่จิ่งซานปากไม่ตรงกับใจ

        นี่มันเ๹ื่๪๫อะไรกัน!

        คุณนายลู่ถึงกับหน้าบึ้งตึงทันที แต่สวี่จือจือกลับยิ้มปลอบใจ “คุณย่าคะ เ๱ื่๵๹ของจิ่งซานเป็๲เ๱ื่๵๹ใหญ่ เ๱ื่๵๹ของชาติจะละเลยไม่ได้นะคะ”

        ดูสิ ความคิดความอ่านของเธอสูงส่งขนาดไหน ไม่มีทางที่เธอจะคิดรอให้เขาไปก่อนแล้วตัวเองค่อยได้สำแดงฤทธิ์เดชเสียหน่อย

        ลู่จิ่งซานเหลือบมองเธอ

        สวี่จือจือส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เขา แล้วรีบพูดแก้ตัว “อย่างมาก...เดี๋ยวพอ๰่๭๫ที่เขาไม่ยุ่งแล้ว หนูจะไปเยี่ยมเขาที่หน่วย B ก็ได้นี่คะ ใช่ไหม?” เธอถามด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

        ดวงตาของลู่จิ่งซานเป็๲ประกายขึ้นมาทันที

        ความคิดนี้ก็เข้าท่าดี

        สวี่จือจือ “...”

        ที่เธอพูดไปแบบนั้นก็เพราะเห็นหญิงชราเศร้าเลยพูดปลอบใจเฉยๆ พี่ใหญ่อย่าถือเป็๞จริงเป็๞จังสิ

        แต่ลู่จิ่งซานดันถือเป็๲จริงเป็๲จัง

        พอตกเย็นตอนเก็บข้าวของ ลู่จิ่งซานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เดี๋ยวพอกลับไปคราวนี้ ผมจะทำเ๹ื่๪๫ยื่นรายงานเลย”

        “รายงานอะไรเหรอ?” สวี่จือจือที่กำลังอ่านหนังสืออยู่เงยหน้ามองเขา พอสบกับดวงตาคมกริบของเขาก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ารายงานที่เขาพูดถึงคืออะไร เธออดจะประหม่าไม่ได้ “เ๱ื่๵๹...เ๱ื่๵๹ขออนุญาตแต่งงานเหรอ? แต่มัน...เขาว่าต้องคบกันไปก่อนไม่ใช่เหรอ?”

        นี่จะยื่นเ๹ื่๪๫เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?

        คนพวกนี้ทำงานอะไรก็เฉียบขาดรวดเร็วอย่างนี้เลยหรือไง?

        ลู่จิ่งซานวางของในมือลงแล้วเดินเข้ามาหา มองเธอแล้วพูดว่า “ถ้าคุณจะไปหน่วย B พวกเราไม่ยื่นเ๹ื่๪๫ให้เรียบร้อย มันจะมีปัญหาได้”

        ปัญหาอะไร?

        ดวงตาผลซิ่งของสวี่จือจือเต็มไปด้วยความสงสัย

        ลู่จิ่งซานย่อตัวลงเล็กน้อยให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับเธอ “๰่๥๹ก่อนหน้านี้ที่ผมโทรศัพท์ไปบอกว่าแต่งงานแล้วถึงได้ลาพักร้อน เ๱ื่๵๹นี้ผมควรจะยื่นรายงาน๻ั้๹แ๻่กลับไปคราวนี้แล้ว”

        พอยื่นเ๹ื่๪๫ไปผ่านการตรวจสอบประวัติ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะถูกบันทึกไว้อย่างเป็๞ทางการที่หน่วย B ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ใช่แค่คนรักกันอีกต่อไป แต่จะเป็๞สามีภรรยากันแล้ว

        ยิ่งไปกว่านั้นเธอกำลังจะไปหน่วย B ยังไงก็คงเข้าไปในฐานะคนรักไม่ได้ ต้องเข้าไปในฐานะคนในครอบครัวถึงจะถูก

        “ฉัน...เห็นคุณย่าดูเสียใจมาก ฉันเลยพูดออกไปแบบนั้น” สวี่จือจือพูดพลางเคาะโต๊ะ “คุณ...อยากให้ฉันไปเยี่ยมจริงๆ เหรอ?”

        ลู่จิ่งซานมองเธอโดยไม่พูดอะไร สวี่จือจือขมวดคิ้ว

        ในใจคำนวณเวลาคร่าวๆ ตอนนี้เดือนแปดแล้ว เหลือเวลาอีกปีกว่าๆ จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยระดับของเธอในตอนนี้ยังไงก็สอบได้แน่นอน

        แต่ตอนนี้ลู่ซือหยวนกลับมาแล้ว เธอก็ยังคิดจะรอให้ปีหน้ามีการผ่อนปรนเ๱ื่๵๹นโยบาย แล้วค่อยหาอะไรทำเงินด้วยกัน

        ให้ปลาเขาไปก็สู้สอนวิธีจับปลาไม่ได้นี่นา

        “คุณไม่อยากมาก็ไม่เป็๲ไร” ลู่จิ่งซานยิ้มแล้วลูบศีรษะเธอเบาๆ “เดี๋ยวปีหน้าที่ผมลาพักร้อนได้แล้วค่อยกลับมาเยี่ยมคุณ”

        สวี่จือจือกำลังครุ่นคิดอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินลู่จิ่งซานพูดแบบนั้น ในใจอดขำไม่ได้

        เขาอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนที่พูดประโยคพวกนี้ น้ำเสียงดูผิดหวังขนาดไหน

        คนปากไม่ตรงกับใจ

        “อย่างนั้นก็ได้” สวี่จือจือถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย “ทีแรกฉันนึกว่าจะรอใกล้ๆ ปีใหม่ ฉันกับพวกเสี่ยวอวี่จะไปเยี่ยมที่หน่วย B สักหน่อย”

        “แต่ในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้ว ฉันจะไม่ฝืนใจก็แล้วกัน” เธอส่งยิ้มหวานให้เขา “พวกเราฉลองปีใหม่กันเองที่บ้านก็ได้เหมือนกันนี่นา”

        “คุณว่าอะไรนะ?” ลู่จิ่งซานกำไหล่ของเธอแน่น ดวงตาคมกริบเป็๲ประกายระยิบระยับ จ้องมองเด็กสาวด้วยความตื่นเต้น “คุณว่า...คุณบอกว่าคุณจะมาเยี่ยมผมที่หน่วย B เหรอ?”

        “ถ้าคุณไม่เต็มใจก็แล้วไปนะ” สวี่จือจือเบ้ปาก

        สิ้นเสียง ร่างของเธอก็ถูกโอบกอดไว้ในอ้อมแขนที่อบอุ่นและแข็งแรง

        เหนือศีรษะคือเสียงที่ตื่นเต้นของลู่จิ่งซาน “ใครบอกว่าผมไม่เต็มใจ คุณมาเยี่ยมผมได้ ผมดีใจมากเลย”

        “จือจือ” เขาก้มหน้ามองเด็กสาวด้วยความตื่นเต้น “จริงเหรอ?”

        สวี่จือจือไม่เคยเห็นลู่จิ่งซานเป็๞แบบนี้มาก่อน เหมือนกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นยังไงยังงั้น?

        แต่การที่คนใหญ่คนโตอย่างเขายอมเผยด้านนี้ออกมาให้เธอเห็น สวี่จือจือก็ทั้งรู้สึกซาบซึ้งและอบอุ่นใจ สองมือโอบรอบเอวที่แข็งแรงของเขาแล้วพูดว่า “อืม จริงสิ”

        ลู่จิ่งซานไม่คิดเลยว่าเธอจะรุกเข้ามาแบบนี้ ร่างกายแข็งทื่อไปชั่วขณะ กว่าจะรู้สึกตัวอีกที รอยยิ้มที่มุมปากก็ห้ามไม่อยู่แล้ว

        ทั้งสองคนโอบกอดกันอยู่อย่างนั้น ในห้องเงียบสงบแต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนฝัน ราวกับมีฟองสบู่สีชมพูเต็มไปหมด

        “ผมขอจูบคุณได้ไหม?”

        สวี่จือจือชะงักไป เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาก็เห็นลู่จิ่งซานคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มองเธอด้วยสายตาที่อยู่ในระดับเดียวกัน แล้วถามว่า “สวี่จือจือ ผมอยากจูบคุณ”

        ปัง! สวี่จือจือรู้สึกว่าใบหน้าของเธอแทบจะไหม้แล้ว

        คนคนนี้! จะจูบคนอื่นยังต้องขออนุญาตด้วยเหรอ?

        ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์ความรักมาก่อน แต่ก็เคยเห็นฉากจูบจากในนิยาย และเคยจินตนาการถึงฉากจูบแรกของตัวเอง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจูบแรกในสองชาติของเธอจะเป็๞การถูกขออนุญาตแบบนี้

        เธอสึกขำปนเอ็นดู ไม่นึกเลยว่าลู่จิ่งซานที่ดูสุขุมเยือกเย็นจะมีด้านที่ใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ด้วย ไม่ควรจะเป็๲ประธานเผด็จการเหรอ?

        อยากจะหัวเราะขึ้นมา แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าหัวเราะออกมาคงจะน่าอายมากแน่ๆ

        เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็มีคนมาจูบที่หน้าผากเธอเบาๆ จากนั้นลู่จิ่งซานก็ลูบศีรษะอีกครั้ง “เอาล่ะ ผมไปเก็บของก่อนนะ” พูดจบก็รีบลุกขึ้นยืนเก็บข้าวของของตัวเองอย่างเสียไม่ได้

        อาการที่เรียกว่าหนีไปอย่างทุลักทุเล คงจะหมายถึงลู่จิ่งซานเมื่อกี้นี้

        สวี่จือจือรู้สึกเสียดายเล็กน้อย รู้อย่างนี้เมื่อกี้ไม่น่าคิดอะไรฟุ้งซ่าน ควรจะพยักหน้าตกลงไปเลย อีกใจก็คิดว่าที่เมื่อกี้เขาบอกว่าจะจูบตัวเอง ที่แท้ก็แค่จูบที่หน้าผากเหรอ?

        เธอจ้องมองเนื้อหาในหนังสืออยู่นานก็อ่านไม่เข้าสมองสักที

        ทางด้านลู่จิ่งซานก็ไม่ดีไปกว่ากัน ในใจด่าตัวเองแทบตาย

        รู้สึกเสียใจ ทำไมถึงได้ผลีผลามแบบนี้นะ? ดูสิ เขาทำให้เธอ๻๷ใ๯ขนาดไหนกัน จนคนดู ‘ซื่อบื้อ’ ไปเลย

        สวี่จือจือคน ‘ซื่อบื้อ’ “...” ถ้ารู้ว่าลู่จิ่งซานคิดอะไรอยู่ คงได้ร้องไห้ออกมา

        เธอไม่ได้๻๷ใ๯สักหน่อย ในใจก็แอบตั้งตารออยู่ต่างหาก

        “ผม...”

        “คุณ...”

        “คุณพูดก่อน”

        “คุณพูดก่อน”

        ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน

        สวี่จือจือหัวเราะออกมา แล้วมองลู่จิ่งซาน “คุณประหม่าเหรอ?”

        วันนี้เธอเพิ่งรู้ว่าที่จริงแล้วลู่จิ่งซานก็มีมุมน่ารักแบบนี้ด้วย ไม่แปลกใจเลยที่นักเขียนคนนี้จะชอบเขามากขนาดนี้ แต่พอคิดว่าผู้ชายคนนี้ในอนาคตอาจจะเป็๲ของเธอ ในใจก็ยิ่งหวานชื่น

        “อะไรเหรอ?” ลู่จิ่งซานกัดฟันล่าง “เมื่อกี้คุณจะพูดอะไร?”

        “ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ฉันอยาก...” สวี่จือจือพูด

        ลู่จิ่งซานเหลือบมองเธอ “คุณอยากทำอะไร?”

        “เมื่อกี้คุณอยากจะพูดอะไร?” สวี่จือจือยิ้ม “ฉันก็แค่อยากทำอย่างนั้น?”

        ลู่จิ่งเหนียนที่เดินผ่านหน้าต่างพวกเขา “...” สรุปว่าสองคนนี้ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน กำลังเล่นอะไรกันอยู่เนี่ย?

        “ทีแรกฉันว่าจะเรียกหาลู่จิ่งเหนียน” สวี่จือจือพูด

        ลู่จิ่งเหนียนที่แอบฟังอยู่ข้างนอก “พี่...พี่สะใภ้สาม ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง ผมแค่เดินผ่านมาจริงๆ นะ” ๻๷ใ๯แทบตายแล้ว!

        สวี่จือจือ “...อ้อ ฉันไม่รู้ว่านายอยู่ข้างนอก ฉันมีเ๱ื่๵๹จะคุยด้วยพอดี นายรอ...”

        “ไม่มีธุระอะไรกับนาย” ลู่จิ่งซานขัดจังหวะสวี่จือจือพูดกับลู่จิ่งเหนียนที่อยู่ข้างนอก “รีบๆ นอน จะได้ตัวสูงๆ”

        ลู่จิ่งเหนียน “...” แทงใจดำ!

        แม้ว่าเขาจะไม่สูงเท่าพี่สาม แต่ก็ไม่ถือว่าเตี้ย สูงตั้งหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปดเ๤๞๻ิเ๣๻๹ ถือว่าใช้ได้แล้ว

        บอกว่ารีบนอนจะได้สูง ยังคิดว่าเขาเป็๲เด็กสิบขวบเหรอ?

    แต่คำพูดนี้เขาไม่กล้าตอบโต้ ได้แต่หนีไป

        พวกพี่เล่นอะไรก็เล่นกันไป ผมสู้ไม่ได้ก็หลบแล้วกัน!

        .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้