“อะไรนะ?”
พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ไม่ใช่ตัวนางผสานรวมเอง เคล็ดวิชาก็ไม่ใช่นางคิดค้นขึ้นมาเอง แม้กระทั่งพลังกฎเกณฑ์ก็ไม่ใช่นางที่ััรับรู้ด้วยตนเอง!
พวกเย่เทียนหลงทั้งสามอึ้งตาค้างไปอีกครั้งราวกับคนที่ได้ยินเื่ที่ตลกที่สุดฉันนั้น เพียงแต่...เื่ตลกนี้เป็เย่รั่วสุ่ยที่พูดออกมา
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าคิดว่าเป็เื่ตลกและไม่กล้าถาม ทำเพียงแค่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างลึกซึ้งมองไปยังเย่รั่วสุ่ยเท่านั้น
ไม่ใช่นางฝึกฝนเอง? เป็ผู้อื่นที่ฝึกฝนไว้ก่อน? หรือว่าภายในหัวของเย่ชิงอวี่ยังมีดวงิญญาอีกดวงหนึ่งที่ช่วยนางััรับรู้พลังกฎเกณฑ์พลังฟ้าดิน?
“เหอะๆ พวกเ้าอย่าคาดเดาไปมั่วซั่ว ก็ได้เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้พวกเ้าฟังอย่างละเอียดเองเพื่อไม่ให้พวกเ้าต้องสงสัยหวาดระแวงขึ้น!” เย่รั่วสุ่ยมองเห็นทั้งสามแสดงสีหน้าออกมาเช่นนั้นทั้งรู้สึกจนใจและรู้สึกขบขันจึงพูดขึ้นอย่างช้าๆ
“ความจริงแล้วเื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนเป็ผลมาจากผลึกเทวะ ทุกคนที่กลายเป็เทพพลังกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินจะปรากฏแสงรุ้งแห่งเทพและอสุนีบาตแห่งเทพลงมาเพื่อช่วยสร้างผลึกเทวะและมอบความสามารถเคลื่อนย้ายในพริบตาให้แก่เขาผู้นั้น ผลึกเทวะคือรากฐานของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพ ถ้าหากผลึกเทวะของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพไม่ได้ถูกทำลายหรือิญญาไม่ได้ถูกทำลายจนแตกสลายละก็ เขาจะไม่ต่างจากการมีร่างที่เป็ะไม่มีวันตาย แม้ร่างกายจะถูกทำลายไปแล้วแต่ก็ยังสามารถสร้างกลับขึ้นมาได้ใหม่!”
มองดูดวงตาที่ตกตะลึงของพวกเขาเย่รั่วสุ่ยยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปย่อมต้องทำให้พวกเขาตกตะลึงเป็อย่างมากแน่นอน หยุดลงชั่วครู่จึงได้พูดขึ้นต่อ “แน่นอนว่าถ้าหากผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพศีรษะถูกทำลายจนแหลกเละิญญาก็จะสูญสลายไปด้วย ดังนั้นเขาก็จะตายไปจริงๆ ส่วนผลึกเทวะก็จะหลุดออกมาจากร่างกายแต่ว่าเคล็ดวิชาต่างๆ และการฝึกฝนพลังกฎเกณฑ์จะถูกเก็บบันทึกไว้ภายในผลึกเทวะ! ถ้าหาก...มีคนทำการผสานรวมผลึกเทวะนั้นเข้าไป คนผู้นั้นก็จะทำการเรียนรู้เคล็ดวิชาต่างๆ และพลังกฎเกณฑ์ที่อยู่ภายในผลึกเทวะได้ราวกับการพลิกอ่านหนังสืออย่างไรอย่างนั้น เช่นนี้เขาจึงสามารถฝึกฝนทำความเข้าใจในพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์ได้อย่างง่ายดาย”
“ส่วนเย่ชิงอวี่ก็คือผู้ที่อยู่ในสภาพเช่นนี้! เดิมทีร่างหยกิญญาของนางเสียหายไม่สมบูรณ์ ทำให้ภายในร่างยังคงมีพลังงานจำนวนมากแฝงอยู่ภายในที่ใช้ในการเซ่นสังเวยิญญาไปไม่ทันหมด อีกทั้งภายในผลึกเทวะยังมีพลังงานอยู่อีกสายหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้วพลังงานสายนี้ถือว่ามหาศาลอย่างแน่นอน อาศัยพลังงานทั้งสองสายนี้เย่ชิงอวี่ถึงสามารถฝึกฝนจนบรรลุมาถึงระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจ้าวนักรบได้อย่างสบายๆ จากนั้นนางก็แค่ทำการฝึกฝนตามความรู้พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์ที่อยู่ภายในผลึกเทวะ เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ นางก็จะเลื่อนขั้นระดับขอบเขตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง...จนกระทั่งถึงระดับเทพ!”
ที่แท้ก็เป็อย่างนี้นี่เอง! ปริศนาทั้งหมดบนตัวของเย่ชิงอวี่ถูกคลี่คลายแล้ว
ในที่สุดเย่เทียนหลงก็เข้าใจว่าทำไมระดับความเร็วในการฝึกฝนของเย่ชิงอวี่ถึงได้รวดเร็วน่ากลัวเช่นนั้น อีกทั้งยังััรับรู้พลังกฎเกณฑ์ได้รวดเร็วปานนั้น ที่แท้ก็อาศัยผลึกเทวะและร่างหยกิญญาของนางนี่เอง ผลึกเทวะถือเป็ส่วนที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็รากฐานของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพ มิน่าล่ะถึงสุดยอดถึงเพียงนี้ มิน่าล่ะในตอนนั้นเย่รั่วสุ่ยถึงพูดว่าต่อให้ขายทั้งตระกูลเย่ก็แลกเอามาไม่ได้ ของสิ่งนี้มีระดับที่แข็งแกร่งมากมายจนเกินจะคาดเดาได้จริงๆ
“ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ ข้าจำได้ท่านเคยพูดว่าท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่กับเ้าหนูหานน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไม่ธรรมดาอยู่ หรือว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลึกเทวะนี้ด้วย?” ผ่านไปชั่วครู่เย่เทียนหลงนึกถึงคำพูดที่เย่รั่วสุ่ยพูดขึ้นเมื่อปรากฏตัวออกมาแรกๆ จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“แน่นอนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน พลังฝีมือของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพมีทั้งแข็งแกร่งและธรรมดา เหมือนอย่างตัวข้าถือว่าเป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพที่มีพลังฝีมือจัดอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไป ส่วนเทพาทั้งสามท่านของเมืองัและจ้าวเกาะเร้นลับถือว่าเป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพที่มีพลังฝีมือจัดอยู่ในระดับสูง จ้าวเทวะของนครแห่งเทพพลังฝีมือจัดอยู่ในระดับขั้นสูงสุด ระดับขั้นพลังฝีมือแตกต่างกันพลังกฎเกณฑ์ที่ฝึกฝนก็มีมากน้อยแตกต่างกัน มีแข็งแกร่งมีอ่อนแอ พลังกฎเกณฑ์ที่ทำการผสานรวมได้ก็มากน้อยต่างกัน ดังนั้นพลังกฎเกณฑ์ที่อยู่ภายในผลึกเทวะของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน”
“ส่วนพลังกฎเกณฑ์ที่เย่ชิงอวี่กำลังทำการฝึกฝนภายในร่างของนางนั้นจะต้องเป็...ผลึกเทวะของผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตเทพ์อย่างแน่นอน เ้าลองคิดดูสิว่าถ้าหากท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเย่ชิงหาน เขาจะใจกว้างถึงขนาดมอบผลึกเทวะที่ดีที่สุดเช่นนี้ให้น้องสาวของเย่ชิงหานรึ?”
เอ่ออ... ผลึกเทวะระดับขั้นสูงสุดขอบเขตเทพ์? ดูท่าเ้าหนูหานคงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับท่านซื่อผู้ยิ่งในระดับที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ความจริงทั้งหมดเป็เช่นไรคงต้องรอเย่ชิงหานกลับมาได้อย่างปลอดภัยถึงจะเข้าใจเื่ทุกอย่าง
“ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ ท่านคิดว่าเ้าหนูหานจะสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยได้หรือไม่?” เย่เทียนหลงถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
เย่รั่วสุ่ยได้แต่ส่ายหัวไปมา “ตอนนี้ข้าััถึงสภาพที่อยู่ของเขาไม่ได้ จะสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของ์แล้วละ แต่ข้าคิดว่าท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่คงไม่ปล่อยให้เขาตายแน่ คำตอบทุกอย่างจะถูกเปิดเผยออกมาในอีกครึ่งปีหลังจากนี้!”
พวกเย่เทียนหลงทั้งสามหรี่ตาลงพร้อมๆ กัน ต่างสาดสายตามองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งปี เย่ชิงหานจะเป็หรือตายคงจะได้รู้กัน ในตอนนี้พวกเขาอยากที่จะรู้เป็อย่างมากว่าถ้าหากเย่ชิงหานออกมาจากูเาสุสานทวยเทพจะนำพาความหวังและความตื่นเต้นตกตะลึงอะไรมาสู่พวกเขาบ้าง...
.................................
เกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบ เมืองเซียวหุน
นับั้แ่แสงอสุนีบาตผ่าลงมาที่เกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบเมื่อหนึ่งปีก่อน ั้แ่นั้นมาเกาะแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของความชื่นมื่นเบิกบานมาโดยตลอด ตระกูลเยว่ของพวกเขาในที่สุดก็มีเทพแล้ว ตระกูลเยว่ในที่สุดก็ไม่ได้มีดีแค่เป็สถานที่หาความสำราญอีกต่อไป ตอนนี้ไม่เพียงแค่มีทรัพย์สมบัติมากมายแต่ยังมีพลังรบที่แข็งแกร่งระดับสูงสุดขึ้นมาแล้วอีกด้วย
เป็เื่ที่มีคุณค่าพอที่จะจดบันทึกลงในหนังสือประวัติศาสตร์ของเขตปกครองเทพา เป็เื่ที่มีคุณค่าพอที่จะทำให้ลูกหลานของตระกูลเยว่ทั้งหมดปลื้มปีติยินดี และเป็เื่มงคลที่นำพาชื่อเสียงและเกียรติยศความรุ่งเรืองมาสู่ตระกูลเยว่นับหมื่นปี
เพียงแต่ผู้ที่เป็คนทำให้เกิดเื่นี้ขึ้นมาได้กลับไม่ได้มีความยินดีอะไรมากมายนัก แต่ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกกลัดกลุ้มระทมทุกข์ขึ้นมาเล็กน้อยแทน
ในวันที่กลายเป็เทพ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพทั้งหกของเขตปกครองเทพาได้มารวมตัวกันที่เกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบเพื่อนำเื่ราวความลับที่น่าเศร้าสลดและแสนเ็ปมาบอกแก่นาง ทำให้จิตใจของนางรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อย และเด็กสาวที่ดื้อรั้นที่อยู่เบื้องหน้าของนางในตอนนี้ยิ่งทำให้อารมณ์ของนางแย่ยิ่งขึ้นไปอีก ลูกสาวโตแล้วก็คงมีความดื้อรั้นหัวแข็งขึ้นมาบ้างสินะ!
“ข้าสั่งสอนเ้ามากี่ปีแล้ว เป็หญิงสาวลูกหลานตระกูลเยว่ชั่วชีวิตจะต้องอุทิศตนเพื่อความรุ่งโรจน์ของตระกูล ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของตระกูลมาก่อนเป็อับดับแรก พวกเราสามารถมีอิสระได้ สามารถมีความฝันได้ มีความรักได้ แต่ทุกอย่างต้องมาทีหลังผลประโยชน์ของตระกูล” นิ่งเงียบไปสักพักเยว่ซีสุ่ยทอดถอนใจออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมกับพูดขึ้น
“ท่านหัวหน้าตระกูล ที่ท่านพูดมาข้าเข้าใจดี แต่ข้าไม่คิดว่าความรักและตระกูลเื่ทั้งสองอย่างนี้จะทำร่วมกันไม่ได้ ศักยภาพของเย่ชิงหานตามข้อมูลที่ท่านมีอยู่คงจะสามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าเขามีความสำคัญต่อตระกูลของเรามากมายเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านก็พูดเองว่าน้องสาวของเขาเย่ชิงอวี่ใกล้จะกลายเป็เทพแล้ว ข้าจึงไม่เข้าใจว่าทำไมท่านต้องห้ามข้าไม่ให้ไปทีู่เาสุสานทวยเทพด้วย?”
เยว่ชิงเฉิงตอนนี้กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ภายในหอสราญรมย์ สีหน้าแม้จะยังคงราบเรียบแต่ความดื้อรั้นในดวงตานั้นเด่นชัดเป็อย่างมาก นางอยากจะไปยังูเาสุสานทวยเทพ อยากจะใช้พลังอันน้อยนิดของตนเองที่มีเพื่อช่วยเหลือชายผู้เป็ที่รักของตนเอง ที่สำคัญที่สุดคือนางรู้ว่าตนเองนั้นมีความสำคัญมากมายเพียงใดต่อตระกูลเยว่ ดังนั้นถ้าหากนางไปตระกูลเยว่จะต้องไม่ปล่อยให้นางไปคนเดียวอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นโอกาสช่วยเหลือเย่ชิงหานก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เพียงแต่เมื่อนางพูดต่อเยว่ซีสุ่ย ไม่ผิดอย่างที่คาดเอาไว้นางถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด นางเข้าใจดีว่าเยว่ซีสุ่ยผู้นี้ที่สามารถเทียบได้กับยอดหญิงแห่งยุคที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างเยว่โห้วนั้นมีความสำคัญมากมายเพียงใดต่อความรุ่งโรจน์ของตระกูลเยว่ เพื่อตระกูลเยว่แล้วนางยอมเสียสละ่ชีวิตวัยสาว เสียสละความรัก เสียสละทุกสิ่งทุกอย่างของตนเองเพื่อทำการฝึกฝนอย่างยากลำบากเพียงคนเดียวเกือบร้อยปีจนกลายเป็เทพได้ในที่สุด
นางทำให้ฐานะของตระกูลเยว่ยืนอยู่ได้อย่างหนักแน่นมั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใช้ความรักของตนเองที่มีต่อเย่ชิงหานในการพูดขอร้องอ้อนวอน แต่ใช้ประโยชน์ข้อดีของเย่ชิงหานที่มีต่อตระกูลเยว่เพื่อคาดหวังให้ทางตระกูลส่งกำลังออกไปช่วยเหลือเย่ชิงหานอย่างเต็มที่อีกทาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้