พวกเขาหรือ?
เหนียนยวี่จับประเด็นสำคัญได้ แววตาคล้ายมีแววอดกลั้นเล็กน้อย"นอกจากแม่นางคนนั้น ยังมีผู้อื่นอีกงั้นหรือ?"
แววตาของฉินอันสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างความหวาดหวั่นยำเกรงพาดผ่านดวงตา เหนียนยวี่จับสังเกตท่าทีตอบสนองอันละเอียดอ่อนของเขาได้ยิ่งรู้สึกสนใจ
คนที่ทำให้คุณชายจวนเ้าเมืองผู้นี้ยำเกรง...ฐานะนั้นเกรงว่าคงจะไม่ธรรมดา!
“เ้าก็เป็แค่คนที่ต้องตาย ทันทีที่ตกลงไปข้างล่าง ก็เรียกหาพญายมราชได้เลย”ฉินอันรู้ว่าสตรีผู้นี้ไม่ง่ายที่จะควบคุม หากยังยืดเยื้อต่อไป เื่ราวอาจพลิกผันไปอีกทางได้เขาตระหนักว่าจะต้องจัดการกับนางอย่างรวดเร็ว
ฉินอันปรายตามองมือของนางที่จับขอบกับดักที่พื้นดวงตาฉายแววชั่วร้าย ยกเท้าขึ้นและเหยียบลงไป
ทว่าเขาไม่คาดคิดว่าทันทีที่เท้าของเขาอยู่ใกล้กับมือของเหนียนยวี่ มือข้างหนึ่งของนางก็คว้าข้อเท้าของเขาฉินอันรู้สึกใที่ถูกแรงนั้นดึง ไม่เพียงแค่สะบัดไม่หลุด ตัวก็ทรุดลงไปทันทีและมือข้างที่จับข้อเท้าของฉินอันไว้ใน่เวลาวิกฤตนั้นก็ใช้แรงผลักขึ้นมา
เพียงชั่วพริบตา คนทั้งสองก็สับเปลี่ยนตำแหน่งกันมีเสียงสวบดังขึ้นด้านหลัง เหนียนยวี่ไม่ต้องมองก็สามารถจินตนาการได้ว่าร่างกายที่ถูกทิ่มแทงนั้นจะเป็อย่างไร
กลิ่นคาวเืคละคลุ้งไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว เหนียนยวี่หันหลังเหลือบตามองลงไปเห็นดวงตาสองข้างของฉินอันเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเป็อย่างยิ่ง
เหนียนยวี่คลำหาภาพวาดในอก ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้และก้าวเท้าออกจากห้องไป
ล่วงเลยยามอู่จนค่อนคืนแล้วทว่าทั้งเมืองชุ่นเทียนยังคงคึกคักเป็อย่างมากบนท้องถนนก็สว่างไสวเต็มไปด้วยแสงไฟ
การนัดหมายกับจ้าวเยี่ยนที่ทะเลสาบนิรนามเหนียนยวี่เดิมอยากจะไปอีกครั้ง ทว่าเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้เหนียนยวี่ก็ล้มเลิกความคิดนั้น นางมุ่งหน้าไปอีกทาง ซ่อนตัวอยู่กลางฝูงชน
จวนแม่ทัพ
เรือนเล็กชิงหย่า
ฉู่ชิงไม่หลับทั้งคืนพินิจมองสัญลักษณ์กรงเล็บเหยี่ยวบนหัวธนูคันนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะสายตาจริงจังเคร่งขรึม
ข้างนอก ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นทันใดนั้นก็มีเสียงเบาๆ ดังขึ้นนอกหน้าต่าง ฉู่ชิงที่ระแวดระวังตัวตามปกติตื่นตัวเขาเคลื่อนตัวไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็ว ทว่ากลับไม่พบร่องรอยของผู้ใดแต่บนหน้าต่างกลับมีจดหมายซองหนึ่งวางไว้
ฉู่ชิงหยิบซองจดหมายขึ้นมาและคลี่ออก เมื่อเห็นเนื้อหาในนั้นดวงตาสีนิลนอกหน้ากากก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย ซ่อนจดหมายไว้ในเสื้อและก้าวเท้ายาวๆออกไปอย่างเร่งรีบ
ทันทีที่ฉู่ชิงออกจากจวนรถม้าคันหนึ่งก็หยุดลงที่นอกจวนแม่ทัพ
ผู้เฒ่าคนหนึ่งลงจากรถม้าอย่างเร่งรีบบอกอะไรบางอย่างกับเด็กรับใช้ที่เฝ้าประตู และถูกพาเข้าไปในจวนแม่ทัพ
ในจวน ภายในลานเล็กของอนุฉินฉินชื่อยังไม่ตื่นจากการนอนหลับ ก็ถูกสาวใช้ปลุกให้ตื่นอย่างรีบร้อน นางที่ง่วงเหงาหาวนอนลอบรู้สึกไม่พอใจสองสามส่วน"เกิดเื่อะไรขึ้นถึงได้รีบร้อนเยี่ยงนี้? ทำให้คนไม่สบายใจั้แ่เช้าตรู่"
“ท่านอนุเ้าคะ เกิดเื่ไม่ดีแล้วเ้าค่ะเป็เื่ใหญ่...เกิดเื่ใหญ่แล้วเ้าค่ะ"สีหน้าของสาวใช้เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ราวกับท้องฟ้าจะถล่มลงมาก็มิปาน "ท่านอนุเ้าคะท่านรีบลุกหน่อยเถิดเ้าค่ะ คนตระกูลฉินส่งคนมาจัดการเื่...จะให้พูดก็คือ...ก็คือคุณชายอันตายแล้วเ้าค่ะ"
คุณชายอันตายแล้ว?
เมื่อถ้อยคำไม่กี่คำพวกนั้นดังเข้ามาในหู นางสะดุ้งใขึ้นมาทันทีความง่วงนอนทั้งหมดจางหายไปในฉับพลัน
"เ้าเล่าให้ชัดเจนตายแล้วงั้นหรือ? ตายได้อย่างไร"อนุฉินคว้ามือของสาวใช้ สาเหตุของเื่ราว สาวใช้เองก็ไม่ชัดเจนนัก "ท่านอนุเ้าคะพ่อบ้านรออยู่ด้านนอกแล้ว..."
ก่อนที่สาวใช้จะพูดจบอนุฉินก็รีบลุกจากเตียงและวิ่งออกไปนอกประตู นางไม่มีเวลาแม้แต่จะสวมรองเท้า
"พ่อบ้าน เ้าเล่ามาให้ชัดเจนแท้จริงมันเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?"
พ่อบ้านเมื่อเห็นอนุฉิน ราวกับเห็นเทพธิดามาโปรดกล่าวอย่างเร่งรีบว่า "บ่าวเองก็ไม่รู้นักขอรับ เช้าตรู่วันนี้ ได้ข่าวมาจากเรือนนั้นว่าคุณชายเขา...ถูกใครบางคนทำร้ายขอรับ"
ถูกใครบางคนทำร้ายหรือ?
อนุฉินสั่นสะท้านไปทั้งตัวราวกับคิดอะไรบางอย่างได้ "พี่ใหญ่เล่า?เขาเป็เ้าเมืองชุ่นเทียน ผู้ใดที่หาญกล้าขนาดนี้กล้า...กล้าที่จะทำร้ายคุณชายจวนเ้าเมือง?"
“บ่าวได้ยินข่าวมาว่าคนเร่งตามไปลานที่อยู่นอกจวนหลักนั้นแล้วขอรับนายท่านกำชับให้บ่าวมาที่นี่ นำเื่นี้มาบอกท่าน ได้ยินว่าเื่นี้มิอาจล้มเลิกได้จะต้องสืบหาให้ชัดเจนว่าแท้จริงใครคือคนที่ฆ่าคุณชาย มิอาจปล่อยตัวไปได้ขอรับ"
"ใช่ ปล่อยมันไปไม่ได้"อนุฉินพึมพำ นางเป็คนฉลาด พี่ชายฝากคำพูดมาเช่นนี้ นางก็เข้าใจได้ในทันที"ข้าจะไปหาท่านแม่ทัพตอนนี้ ให้เขาเข้ามาจัดการทวงความยุติธรรมให้"
"นายท่านเองก็กล่าวเช่นนี้ขอรับ"
อนุฉินสูดหายใจลึกและตั้งสติ เอ่ยกับพ่อบ้านว่า“กลับไปบอกพี่ใหญ่ ให้เขาวางใจได้"
กล่าวจบ นางก็รีบเข้าห้อง สั่งให้สาวใช้มาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า...
คืนนี้ มีผู้คนมากมายมิอาจข่มตาหลับ
ณ ริมทะเลสาบนิรนาม จ้าวเยี่ยนขึ้นจากเรือและยืนอยู่ริมทะเลสาบ แสงสว่างของพระอาทิตย์ส่องกระทบลงบนผิวน้ำเกิดเป็ประกายแสงสีแดงระยิบระยับ เสื้อผ้าสีขาวราวหิมะ พลิ้วไหวไปตามแรงลมรูปโฉมและท่วงท่าหล่อเหลาเจิดจรัส มองจากที่ไกลๆประหนึ่งฉากอันแสนงดงาม กินใจผู้คน
ทว่าเมื่อมองใกล้ๆ ใบหน้าอันหล่อเหลาของบุรุษผู้นั้นกลับซีดเผือด
เขารอมาทั้งคืนแล้ว นางก็ยังไม่มา
หมายความว่าอะไร?
จ้าวเยี่ยนแอบสาปแช่งในใจเล็กๆ สะบัดแขนเสื้อหันกลับไปกล่าวกับชื่อฉินว่า "กลับจวน...ไม่ ไปวังหลวง!"
จวนหนานกง
เหนียนอีหลานเองก็นอนไม่หลับทั้งคืนคืนนี้ทั้งคืนนางอยู่ที่จวนหนานกง ยังไม่กลับจวนเหนียน ท้องฟ้าเพิ่งสว่างนางก็ไปที่เรือนของหนานกงฉี่อย่างไม่รีรอ
"เอ้อเปี่ยวเกอมีข่าวเื่ของเหนียนยวี่บ้างหรือไม่?"
ยามที่เหนียนอีหลานมาถึงหนานกงฉี่กำลังวาดอะไรบางอย่างบนโต๊ะยาว เงยหน้ามองเหนียนอีหลาน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ“ดูสิว่าเ้ากลายเป็เช่นนี้ไปแล้ว อีหลาน มิใช่ว่าข้าบอกแล้วหรือผู้ที่ทำเื่ใหญ่ จะสงบใจไม่ลงเช่นเ้าในตอนนี้ไม่ได้หลังจากนี้หากเ้ากลายเป็มู่อ๋องเฟย แม้กระทั่งกลายเป็ฮองเฮานิสัยเช่นนี้ต้องฝึกฝนให้ดี”
“เอ้อเปี่ยวเกอ ไม่อาจสนใจเื่อื่นได้ตอนนี้ข้าแค่อยากรู้เื่นี้เื่เดียวเท่านั้น” เหนียนอีหลานรอมาทั้งคืน แม้จะมีคนจากจวนเหนียนรายงานมาว่า เหนียนยวี่ไม่ได้กลับจวนทั้งคืนนางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ นาง้าคำยืนยันว่าเหนียนยวี่ถูกทำลายความบริสุทธิ์ไปแล้วจริงๆนางถึงจะสงบใจลงได้ คิดอะไรบางอย่างได้ เหนียนอีหลานก็ก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง"เอ้อเปี่ยวเกอ ท่านบอกข้าทีว่าท่านสั่งการผู้ใดทำเื่นี้ เขาอยู่ที่ไหนข้าอยากไปด้วยตัวเอง..."
“หยุดเดี๋ยวนี้...”หนานกงฉี่ยกพู่กันขึ้นมา ชี้ไปที่เหนียนอีหลาน ตัดบทนาง "เ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือ?หากเ้าไปปรากฏตัวเร็วเช่นนี้ เหนียนยวี่จะไม่สงสัยเอาหรือ พี่สาวผู้แสนดีหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป?”
เหนียนอีหลานขมวดคิ้ว แม้ใจจะกังวลแต่ก็ต้องจำใจยอมรับว่าสิ่งที่หนานกงฉี่พูดมีเหตุผล นางสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งเหนียนอีหลานพยายามสงบจิตสงบใจลงมา รอคอยคนของหนานกงฉี่มารายงานผลอย่างเงียบๆ
หนานกงฉี่หันกลับมาสนใจภาพวาดในมือต่อ ไม่กี่วันมานี้สตรีในวันนั้นก็ไม่มาที่จวนเลย เมื่อเป็เช่นนี้ เขาจึงทำได้แค่วาดภาพเหมือนของนางและสั่งให้คนไปหาตัวนางแล้ว
“ข้าได้ม้าตัวใหม่มาอีกแล้ว”หนานกงฉี่เอ่ยถึงเื่นี้ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเขาตัดสินใจที่จะหาตัวสตรีผู้นี้ ให้ม้าพยศตัวนั้นมาลองดูว่าสตรีนางนั้นแท้จริงจะมีฝีมือสักเท่าใดคิดถึงตรงนี้ ในใจหนานกงฉี่ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก
เหนียนอีหลานรู้ว่าเอ้อเปี่ยวเกอของตนชอบฝึกม้าทว่านางบังเอิญเห็นภาพวาดบนโต๊ะ สีหน้าของเหนียนอีหลานก็มึนงงไปเล็กน้อย "เหนียนยวี่..."
เอ้อเปี่ยวเกอวาดภาพเหนียนยวี่ออกมาได้อย่างไร?
"เอ้อเปี่ยวเกอ ท่านเคยพบนางหรือ?"เหนียนอีหลานมองหนานกงฉี่ด้วยสีหน้าซับซ้อนหนานกงฉี่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที "เหนียนยวี่งั้นหรือ? ที่เ้าหมายถึง...คือนางหรือ?"
หนานกงฉี่ชี้ไปที่สตรีในภาพวาด เห็นเหนียนอีหลานพยักหน้าเสียงตูมดังขึ้นในหัวทันทีทันใด หัวสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ นางคือเหนียนยวี่เช่นนั้นเมื่อคืน...