เฉินเนี้ยนหรานส่ายหน้า ผู้ชายคนนี้... ไม่ว่าภายนอกของเขาจะนิ่งสงบโอนอ่อนอย่างไร แต่เขาก็เป็เพียงเด็กอายุสิบห้าปี
“ข้ารับปากท่าน ภายในห้าปีนี้จะไม่ให้ชายอื่นมาแตะต้อง” แน่นอนว่าแค่เื่แตะต้องนะ ส่วนเื่บ่มเพาะความรู้สึกอะไรพวกนี้ เื่นั้น…นับว่าเป็เื่ของฉันแล้วล่ะ ไม่เกี่ยวกับเ้าแล้วนะ พ่อเด็กน้อย
เมื่อได้รับคำสัญญาจากนาง ใบหน้ายับย่นของโจวอ้าวเสวียนก็เริ่มขยับยิ้มออก เขาจูบลงไปตรงแผลที่บ่าของนางอย่างแ่เบา
ค่อยๆ ไล้เลียาแพวกนั้นออกไป “เจ็บหรือไม่? ข้าจะทายาให้”
เขาลุกขึ้นโดยที่ไม่สนเสียงห้ามของนาง รีบเดินไปเปิดกล่องใบเล็กก่อนจะหยิบขวดเล็กๆ ออกมาขวดหนึ่ง แล้วเทผงสีแดงลงบนาแให้นาง
ตัวผงยาเย็นๆ ถูกเทลงตำแหน่งที่ถูกกัด ให้ความรู้สึกเย็นสบาย
“ขอแค่เ้าเป็เด็กดี ข้าก็จะเอ็นดูเ้า เอาใจเ้าไปตลอด” นิ้วของเขาลูบไปที่าแอย่างแ่เบา ปากก็พูดถ้อยคำอ่อนโยนออกมาอย่างหาได้ยาก
เฉินเนี้ยนหรานเพียงแค่หัวเราะคิกคัก ภายใต้แสงเทียน รอยยิ้มมีเสน่ห์ของนางกลับกระชากหัวใจของคนที่มองมันไปได้อย่างง่ายดายอีกครั้ง
และเขาที่เหม่อมองภาพนี้ ถึงกับถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นทาบทับ ปิดปากของนาง “หรานหราน…”
ม่านคลุมเตียงพลิ้วไหว ภายใต้แสงเทียนสะท้อนเงาร่างของทั้งสองคนซ้อนทับกัน อุณหภูมิภายในห้องเพิ่มขึ้นไม่หยุด…จนกระทั่งไก่ตัวผู้ขันร้องบอกเวลายามเช้า โจวอ้าวเสวียนถึงจำใจปล่อยตัวนาง
แม้กระทั่งตอนที่มองนางหวีผม จนถึงตอนที่นางเดินจากไป เขากัดปากแน่นอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่อยากให้นางไป แต่เขาเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าแม้จะบังคับให้นางอยู่…. ทว่าเขา… ที่ไม่มีกำลังมากพอ จะสามารถปกป้องนางเอาไว้ได้อย่างไร
ดังนั้นสิ่งที่เขาสามารถทำได้ ก็คือทำให้ตัวเองแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนถึงตอนที่สามารถควบคุมทุกคนได้ สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง….เขาถึงจะสามารถรับนางกลับมาได้อย่างสบายใจ!
“โอ้ นี่คือสาวใช้ข้างห้องในเรือนของคุณชายห้าใช่หรือไม่ หึ ข้าได้ยินมานานแล้ว สิบวันมานี้น้องห้าของพวกเรามีความสุขสดใสมากเลยนี่ ข้าเองก็แปลกใจอยู่นานว่าจะเป็สตรีเช่นไร คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเ้าจะหน้าตาไม่เลวเลย”
น้ำเสียงอันธพาลดังมาไม่ไกล โจวอ้าวเสวียนกำหมัดแน่น เสียงนี้เขารู้จัก นี่คือพี่ใหญ่ที่บิดารักมากที่สุด และเป็พี่ชายต่างมารดาของเขา
ในความเป็จริงแล้ว พี่ชายคนนี้…ก่อนที่บิดากับมารดาของเขาจะแต่งงานกัน บิดาก็มีลูกชายนอกสมรสอยู่แล้ว
คนที่ไม่รู้เื่ราวจะคิดว่าบิดาเสียใจที่มารดาจากไป จึงโกรธและเมินเฉยต่อเขา
แต่ในความเป็จริงนั้น บิดาไม่ได้ชอบการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สักเท่าไร จึงพาลไม่ชอบลูกชายที่ขวางหูขวางตาเช่นเขา
หากเอ็นดูจริง ทำไมก่อนที่จะสู่ขอมารดาถึงได้มีพี่ชายสี่คนและพี่สาวอีกสามคนได้เล่า…
หากชอบจริง เช่นนั้นทำไมตอนที่มารดาจากไปถึงรีบพาอนุทั้งสามคนที่อยู่ด้านนอกเข้าจวนมาล่ะ… หากชอบจริง ทำไมหลายปีมานี้ถึงได้ปล่อยให้อนุทั้งสามคนทำร้ายเขาได้ตามใจชอบเล่า ปล่อยให้พี่ชาย น้องชาย พี่สาวมาเหยียดหยามเขา
และหนึ่งในบรรดาพี่น้องทั้งหมด โจวอ้าวหลี่เป็คนที่แย่ที่สุด
ในยามทั่วไป ไม่ว่าจะของสิ่งใดของเขา อีกฝ่ายจะต้องแย่งชิงไป คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่หญิงอุ่นเตียงของเขาในครั้งนี้ ก็มีข่าวคราวส่งไปหูของพี่ชายคนนี้ด้วย
โจวอ้าวเสวียนนั่งไม่ติด เขาลุกขึ้นสะบัดเสื้อเดินตามออกไปด้านนอก
เฉินเนี้ยนหรานมองใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยสิวเขลอะขละของชายหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดที่อยู่ตรงหน้า กำลังอยู่ในวัยที่ฮอร์โมนทำงานเต็มที่พอดี แต่ชายคนนี้กลับมีฝีเท้าที่ไม่มั่นคง หน้าบวม อีกทั้งขอบตายังเขียวคล้ำ
ถึงแม้จะหน้าตาดูดี แต่กลับดูไม่มีราศีเอาเสียเลย มองออกเลยว่าชายคนนี้… ปกติแล้วคงจะข้องเกี่ยวกับสตรีมากหน้าหลายตา ไม่แน่อาจจะตายก่อนวัยอันควร…
เธอเลิกคิ้วแล้วยิ้มอย่างมีจริต “อรุณสวัสดิ์เ้าค่ะ” พูดจบก็ไม่รอให้คุณชายใหญ่ได้เอ่ยปากพูด สาวเท้าเตรียมจะเดินออกไปด้านนอกทันที
ทว่ากลับมีมือข้างหนึ่งยกขึ้นมาขวางหน้านางเอาไว้ คุณชายใหญ่โจวมองสตรีตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ ก่อนหน้านี้เห็นหญิงสาวเป็เพียงแจกันดอกไม้ประดับเท่านั้น เดิมทีเขาแค่มีความคิดจะมาเยี่ยมเยียนนางเพียงเพื่อจะเหยียดหยามน้องห้าเท่านั้น
คาดคิดเสียที่ไหนกันว่าพอได้พบหน้าสตรีนางนี้แล้ว ช่างน่าสนใจจริงๆ
“กลิ่นกายของเ้าช่างหอมเสียจริงนะ” เขายื่นตัวเข้ามาใกล้ ทำท่าทางจะสูดดมกลิ่นหอมจากตัว
เฉินเนี้ยนหรานสะบัดตัวออกมา เบี่ยงหลบไปด้านข้าง เธอเลิกคิ้ว ส่งยิ้มจอมปลอมมองไปทางคุณชายใหญ่ “แน่นอนสิเ้าคะ จะไม่หอมได้อย่างไรกัน เฮ้อ เมื่อคืนข้าดูแลคุณชายห้าดีมากไปหน่อย คุณชายเลยให้รางวัลเป็น้ำหอมดอกมั่นถัวหลัวอะไรสักอย่างเ้าค่ะ จากที่คุณชายว่ามา น้ำหอมนี้…”
เธอยังพูดไม่ทันจบ สีหน้าของคุณชายใหญ่โจวก็เปลี่ยนไป พร้อมกับยืนไปหลบด้านข้างอย่างรวดเร็ว พัดในมือก็สะบัดโบกไม่หยุด “ไสหัวไป…รีบไปทางนั้นเดี๋ยวนี้เลย เ้าควรจะบอกข้าก่อนว่าสิ่งที่ทาอยู่บนตัวเ้าคือผงดอกมั่นถัวหลัว”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะนิ่งๆ ก่อนจะลูบแขนของตัวเองด้วยท่าทางดูเหมือนไม่ใส่ใจ “เฮ้อ ไม่ใช่บ่าวไม่อยากบอกนะเ้าคะ แต่พูดไม่ทันต่างหาก คุณชายใหญ่ยังอยากจะดมอีกหรือไม่เ้าคะ? ข้าว่ากลิ่นหอมของดอกไม้นี้ ควรจะแบ่งปันให้คุณชายใหญ่สักหน่อยถึงจะถูกนะเ้าคะ”
คำพูดของเธอทำให้สีหน้าของคุณชายใหญ่โจวที่ได้ยินเปลี่ยนสีเข้มขึ้นไปอีกขั้น ก่อนจะหมุนตัวจากไปอย่างรวดเร็ว
เฉินเนี้ยนหรานยกยิ้มแล้วส่ายหน้า ดูเหมือนว่าคุณชายใหญ่โจวคนนี้ ก็แค่คนที่ได้รับฉายานามว่าเป็คุณชายใหญ่เท่านั้น พูดไปแล้วก็เป็แค่คนไม่ได้เื่คนหนึ่ง
โจวอ้าวเสวียนที่รีบตามออกมานั้น หลังจากได้เห็นฉากนี้กับตา ในแววตาปรากฏความอ่อนโยน สตรีนางนี้ เขาไปมอบผงดอกมั่นถัวหลัวให้นางั้แ่เมื่อใดกัน!
แต่ว่าความจำของนางก็ไม่เลวเลยจริงๆ เป็คืนนั้นที่นางเห็นของในห้องของเขา เขาจึงอธิบายสอนนางไปนิดหน่อย นางกลับสามารถจำประโยชน์ของผงดอกไม้พวกนั้นได้อย่างดี แถมวันนี้ยังเอามาใช้เป็ข้ออ้างกับเ้าคนน่ารังเกียจนั่นได้อีก
ความจริงแล้วผงดอกไม้นั่นเป็สิ่งที่เขาเตรียมพร้อมเอาไว้อยู่ในห้องตลอดเวลา เพื่อเอาไว้ใช้รับมือกับคุณชายใหญ่สกุลโจวคนเลวนั่น
บางครั้งพูดมากก็สู้ลงมือไม่ได้ ความเ็ปเล็กๆ นี่สามารถทำให้คนพวกนี้จำได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
คุณชายใหญ่สกุลโจวเห็นเขาที่อยู่ไกลๆ ก็ถลึงตาใส่ก่อนจะรีบลูบแขนเดินไปอีกด้าน
เขาจำได้ชัดเจนมากว่าตอนเด็กๆ เพราะตนไปรังแกน้องห้า สุดท้ายจึงถูกน้องชายแอบโปรยผงดอกมั่นถัวหลัวใส่ไม่น้อยเลย แน่นอน เพราะเ้าน้องชายแอบทำได้อย่างชาญฉลาด ไม่เหลือหลักฐาน ทำให้จนถึงบัดนี้เขาก็ไม่สามารถเอาเื่นี้ไปฟ้องได้…
เฉินเนี้ยนหรานรีบกลับไปที่ห้อง อาบน้ำล้างตัวให้เสร็จ ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกห้อง
“สาวใช้เฉิน…” ตามมาด้วยประตูที่ถูกผลักออก แม่นมยกถาดเข้ามา
วันนี้บนใบหน้าของแม่นมมีรอยยิ้มเล็กน้อย หาได้ยากยิ่ง
สายตาของเฉินเนี้ยนหรานผละออกมาจากถาดที่นางถืออยู่ ก่อนจะแย้มยิ้มเดินเข้าไปทำความเคารพ “อรุณสวัสดิ์แม่นมเ้าค่ะ!”
“อืม แม่หนูเอ๋ย พอมองเ้าแล้ว ข้าก็ชอบเ้ามากอยู่นะ ไหนเ้าพูดออกมาสิ ท่ามกลางสาวใช้มากมายในจวนนี้ กลับเป็ข้าที่เลือกเ้า ส่งเ้าเข้าไปในเรือนของคุณชายห้า เฮ้อ... เ้าก็รู้นะว่ามีสาวใช้มากมายที่อยากจะขึ้นเตียงกับคุณชายห้า ยังดีนะที่ข้าไม่ได้มองคนผิด ซึ่งเ้าก็ทำงานได้ดีจริงๆ ”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะแหะๆ ด้วยท่าทางโง่เง่า
รอจนกระทั่งแม่นมพูดจนพอใจแล้ว นางถึงได้ส่งถาดนั่นมาให้เฉินเนี้ยนหรานอย่างจำใจ “อ่ะนี่ นี่คือของที่ฮูหยินให้เป็รางวัลเ้า ครั้งนี้น่ะเพียงพอให้เ้าอยู่อย่างสบายได้จนตายเลย”
เฉินเนี้ยนหรานรับมาก็เห็นในถาดมีก้อนเงินไม่น้อยกว่ายี่สิบตำลึง
เธอหยิบหนึ่งตำลึงออกมาแล้วยัดเข้าไปในมือของแม่นมอย่างใจกว้าง “เนี้ยนหรานได้รับโอกาสนี้ก็เป็เพราะแม่นม ตำลึงก้อนนี้ถือว่าเป็น้ำใจของเนี้ยนหราน แม่นมจะปฏิเสธไม่ได้นะเ้าคะ”
แม่นมเองก็อยากจะได้เงินนี้เช่นกัน พอเห็นนางรู้เื่รู้ราวแบบนี้ก็หัวเราะก่อนจะรับไป แต่ยังคงมองเงินในมือของนางไม่ละสายตา
ไม่ต้องบอกก็รู้ความหมาย แค่ก้อนเดียวยังไม่พอ นางยังอยากได้อีก
เฉินเนี้ยนหรานหน้ามุ่ย แต่สุดท้ายก็ยังตัดใจยัดให้นางไปอีกก้อน
“ฮาๆ…ในเมื่อข้ารับของมาจากเ้าแล้ว ก็จะดีกับเ้าให้ถึงที่สุด แม่หนูเอ๊ย หากเ้าไม่อยากจะเจอเื่ยุ่งยาก ต่อไปอย่ามีความสัมพันธ์อะไรกับคนในจวนอีก ไม่เช่นนั้น ฮูหยินกับพวกเ้านาย…”
นางไม่ได้พูดต่อแต่เฉินเนี้ยนหรานกลับเข้าใจ นางกำลังเตือนเธอว่าอย่าคิดที่จะปีนขึ้นสูงไปกว่านี้ เธอยิ้มแล้วพยักหน้า ก่อนที่จะจากไป แม่นมก็เรียกสาวใช้คนหนึ่งมา บอกให้เธอกินยาเข้าไปก่อนแล้วถึงจะออกไปจากตระกูลได้
“นี่คือน้ำแกงคุมกำเนิด แพงมากเลยนะ” แม่นมจิ๊ปาก มองน้ำแกงนั้นด้วยท่าทางอยากกินมาก ทำเอาเฉินเนี้ยนหรานหงุดหงิด แม้แต่ยาถ้วยหนึ่งคุณก็คงไม่ได้คิดจะแย่งไปใช่หรือไม่
กว่าจะดื่มยาลงไปได้ เมื่อดื่มเสร็จแล้ว เฉินเนี้ยนหรานไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เธอรีบเก็บของแล้วเดินออกไปด้านนอกทันที
ความจริงแล้วไม่มีข้าวของอะไรที่ต้องเก็บ มีเพียงเสื้อคลุมที่ได้รับมาจากเ้านายไม่กี่ชุด แล้วก็เงินหนึ่งถุงที่เพิ่งจะได้รับมาเมื่อครู่ ถึงแม้จะถูกแม่นมเอาไปสองตำลึง แต่ก็ยังเหลืออยู่อีกสิบหกตำลึง หนึ่งตำลึงมีประมาณสองก้วน ก้อนเงินนี้ก็มีทั้งหมดสามสิบสองก้วน
จากที่พูดกัน แปดก้วนสามารถซื้อที่นาหนึ่งไร่ คำนวณดูแล้ว เงินเท่านี้ก็ทำอะไรมากไม่ได้จริงๆ แต่ว่ามีก็ดีกว่าไม่มี
เธอคำนวณในใจ หลังจากออกมาจะต้องใช้เงินแค่นี้ให้เกิดประโยชน์และได้เงินกลับมามากกว่านี้ให้ได้
ในตอนที่กำลังเดินอยู่ เด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าประตูพอเห็นเธอ ตาก็วาวขึ้นมาทันที “แม่นางสกุลเฉิน ครอบครัวของเ้ามาหาเ้า เราให้พวกเขาไปรออยู่ที่เรือนข้าง เ้าไปดูหน่อยเถิด”
ฝีเท้าของเฉินเนี้ยนหรานชะงักไป เพิ่งจะคิดได้ว่าตนเองมาใช้ร่างกายของคนอื่น เ้าของร่างคนก่อนมีพ่อมีแม่ แล้วก็ยังมีพี่น้องอีกเป็กระบุง
พูดไปแล้วก็ช่างน่าเศร้าเสียจริง หลังจากเฉินเนี้ยนหรานมารับ่ต่อร่างกายนี้ ทว่ากลับมีความทรงจำของเ้าของคนก่อนน้อยมาก ถึงจะรู้เื่ราวแต่ก็เป็เื่ราวที่ได้ยินมาจากสาวใช้คนหนึ่งสกุลเฟิงที่มาด้วยกันกับเธอ
จากที่สาวใช้สกุลเฟิงพูด บ้านของเ้าของร่างคนก่อนยากจนมาก มีพี่น้องเป็กระบุง ทั้งยังมีปู่ย่าที่เจ็บป่วยอีก
ยากจนแต่ก็มีลูก ทว่ายิ่งมีลูกก็ยิ่งจน
จะว่าไปแล้วคนสกุลเฉินก็เก่งกาจไม่เบา ก่อนหน้าเธอยังมีพี่ชายอีกสามคน พี่สาวสองคนถูกตระกูลทางฝั่งผู้ชายให้ค่าสินสอดมานิดหน่อยก็ถูกจับแต่งออกไปอย่างง่ายดายแล้ว
เธอเป็ลูกสาวคนกลาง ได้ยินมาว่าถัดจากเธอก็ยังมีน้องอีกห้าคน และครอบครัวที่จนขนาดนี้กลับไปส่งลูกชายไปเรียนหนังสือ เดิมทีชาวนาธรรมดาการส่งลูกไปเรียนหนังสือสักคนก็ลำบากมากพอแล้ว นับประสาอะไรกับพวกนางที่เป็ครอบครัวยากจนรู้จักแต่ทำลูก ไม่รู้จักเลี้ยง
ตอนแรกตระกูลยังมีที่นาหลายไร่ แต่ก็หยุดการกำเนิดที่มีเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ได้
ตอนที่คลอดเฉินเนี้ยนหรานออกมา ที่นาของตระกูลก็ถูกขายออกไปจนหมดแล้ว พี่สองคนไปสู่ขอสาวมาได้ พ่อแม่จึงต้อขายลูกสาวมาหาเงินเลี้ยงครอบครัว….
จะว่าไป เฉินเนี้ยนหรานก็ถือว่าเป็เด็กสาวที่ถูกขายมายังจวนสกุลโจว พูดกันตามหลักเหตุผลแล้ว นางออกจากจวนครั้งนี้ไม่มีทางมีเงินรางวัล แต่ว่าแม่เฒ่าแซ่โจวได้พูดเอาไว้ก่อนแล้วว่า ใครที่เป็สาวใช้อุ่นเตียงของคุณชายห้าได้ จะได้ไถ่ตัวและจะให้เงินรางวัลอย่างงดงาม
เพราะเหตุนี้ ครั้งนี้เฉินเนี้ยนหรานจึงเป็คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงจะได้ไถ่ตัว ยังได้เงินรางวัลกลับมาอีกด้วย