ห่าวและหานรุ่ยประมูลยาวิเศษอย่างต่อเนื่อง การประมูลยังคงดำเนินไปอย่างคึกคัก เมื่อได้ยินว่าจะประมูลเข็มขัดเก็บของ จิติญญาของจุนห่าวตื่นขึ้น เขาต้องประมูลมันให้หานรุ่ยให้ได้ ในทางตรงกันข้าม หานรุ่ยมิได้มีปฎิกิริยามากนัก แม้ว่าเขาจะสนใจเข็มขัดเก็บของเส้นนี้อยู่บ้าง ทว่าเขาก็มิได้ตื่นเต้นที่อยากจะมันสักเท่าไหร่ มันเป็ของนอกกาย ดังนั้นหานรุ่ยจึงสงบนิ่ง
ใครหลายคนตื่นเต้นเหมือนกับจุนห่าว ผู้คนในห้องโถงอยู่ในความโกลาหล หลังจากความโกลาหลก็คือความเดือดดาล ของล้ำค่าในที่นี้ มิได้ถูกกำหนดให้มีวาสนาต่อพวกเขา เพราะเงินของพวกเขามีจำกัด ไม่อาจแย่งชิงกับคนใหญ่คนโตที่อยู่ในห้องส่วนตัวเ่าั้ได้
“ต่อไป รายการประมูลของเราก็คือเข็มขัดเก็บของที่อยู่ในมือของข้าเส้นนี้ คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนอื่นท่านหนึ่งมอบมันให้กับทางเรา มันมีขนาดสามฟุต แม้ว่ามันจะไม่ใหญ่ แต่เมื่อมีมันแล้ว เราจะใช้ชีวิตได้สะดวกยิ่งนัก เชื่อว่าทุกคนคงรออย่างใจจดใจจ่อแล้ว ข้าจะไม่พูดอะไรมาก ราคาต่ำสุดของเข็มขัดเก็บของเส้นนี้คือ 10 ล้านตำลึงเงิน ในการเพิ่มขึ้นทุกครั้งต้องไม่น้อยกว่า 1 ล้าน” คนที่รับผิดชอบกล่าวจบ ก็เริ่มะโเรียกราคา
"10 ล้าน"
"12 ล้าน"
ผู้ที่เริ่มการเปิดประมูลคือคนที่อยู่ในห้องโถง แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าของล้ำค่านี้มิได้ถูกกำหนดให้มีวาสนาต่อพวกเขา ทว่าพวกเขาก็้าแย่งชิงเสียหน่อย
กรณีที่ไม่มีใครแย่งชิง ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าได้ของถูกมิใช่หรือ? ส่วนคนที่อยู่ในห้องบนชั้นสองยังไม่เริ่มเรียกราคา พวกเขายังเฝ้ารอโอกาสที่จะลงมือ
จุนห่าวยังไม่ได้เรียกราคาเช่นกัน เขาก็กำลังเฝ้าดู เขาขมวดคิ้วและพูดกับหานรุ่ยว่า “คนที่้าซื้อเข็มขัดเก็บของเส้นนี้ไม่น้อยเลย ของมือสองคุ้มค่ากับการที่คนจำนวนมากต่อสู้แย่งชิงหรือ ข้าคิดว่าจะไม่มีใครชอบของามือสองเสียอีก หากมิใช่เพราะข้ายังหาของใหม่ไม่ได้จริงๆ คงไม่คิดจะซื้อมันให้เ้า”
“การมีอุปกรณ์จัดเก็บของนั้นสะดวกนัก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็ของมือที่เท่าไหร่ ย่อมมีคนต่อสู้เพื่อมัน พูดไปพูดมาก็เพราะว่าแผ่นดินชางหลานนั้นแห้งแล้ง แม้แต่นักกลั่นอาวุธก็ยังไม่มี” หานรุ่ยกล่าวอย่างปลงๆ จุนห่าวที่รู้จากเสี่ยวไป๋ทำให้มีสามัญสำนึกที่ไม่ดีต่อโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร จุนห่าวจึงบอกเล่าเื่ที่เขารู้แก่หานรุ่ย ั้แ่เขารับรู้จากจุนห่าว หานรุ่ยถึงได้รู้ว่าวิสัยทัศน์ของเขานั้นคับแคบเพียงใด
“ใช่แล้ว อาวุธวิเศษของที่นี่ ตามคำพูดของเสี่ยวไป๋แล้วก็คืออาวุธธรรมดา เทียบไม่ได้กับอาวุธวิเศษระดับต้นด้วยซ้ำ ดูท่าจะต้องออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ณ ที่แห่งนี้ เราไม่อาจประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ ต่อให้มีพร์กว่ามากนี้ ก็สำแดงฤทธิ์ในที่แห่งนี้ไม่ได้ ดูเหมือนว่าพ่อตาของข้า กล้าหาญยิ่งนัก ข้าต้องเรียนรู้จากท่านพ่อตาให้มาก” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ย เมื่อคิดถึงพ่อตาของเขาที่ไม่เคยพบ จุนห่าวรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าพ่อตาของเขาจะชอบลูกเขยคนนี้หรือไม่
“ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านพ่ออยู่ที่ใด พบท่านแม่แล้วหรือไม่ พวกเขาจะจำข้าได้หรือไม่” หานรุ่ยพูดอย่างเศร้าใจเมื่อได้ยินจุนห่าวเอ่ยถึงพ่อของเขา
“วางใจเถอะ พวกเขาจำเ้าได้อย่างแน่นอน และเราจะหาพวกเขาให้พบ ถ้าถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าพวกเขาจะชอบข้าหรือไม่ ถ้าถึงตอนนั้นเ้าต้องช่วยพูดแทนข้าด้วย” จุนห่าวกล่าว เขาคิดว่าน่าจะไม่ชอบเขาที่แย่งลูกเขาเป็แน่ ชอบก็แปลกแล้ว หากหลังจากนี้จุนตงจุนหนานถูกคนโง่เขลาแย่งไป เขาก็คงไม่ชอบคนที่แย่งลูกชายของเขาเช่นกัน จุนห่าวคิดย้อนกลับมา ขอเพียงหานรุ่ยชอบเขาก็พอ คนอื่นๆ คือเื่รอง
“หากพวกเขาไม่ชอบเ้า เ้าจะทำยังไง เ้าจะถอดใจไหม?” หานรุ่ยเก็บความเศร้าแล้วพูดกับจุนห่าว
“ได้ยังไงล่ะ เ้าจงวางใจ ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะยอมรับและชอบข้า ไม่มีวันทำให้เ้าลำบากใจแน่ ข้าเก่งทั้งบุ๋นและบู้เช่นนี้ หากพวกเขาไม่ชอบข้าแล้ว จะไปชอบใครได้อีก” จุนห่าวพูดอย่างมั่นใจ เขายังเชื่อมั่นในตัวเอง ในอดีตสหายทุกคนกล่าวว่า พ่อตาเป็เื่ยาก แต่ท้ายที่สุดก็จัดการได้ จุนห่าวคิดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก
ระหว่างการสนทนาของพวกเขาทั้งสอง ราคาของเข็มขัดเก็บของเส้นนี้เพิ่มสูงขึ้นถึง 50 ล้าน และราคายังคงทยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้ยินว่าราคาสูงขึ้น จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยว่า “ต่อไปหากพบคนต่างแดน เราต้องปล้นสะดมเสียหน่อยแล้ว หากเราปล้นนักพรตชั้นเซียน คงรวยล้นฟ้าเป็แน่”
“เ้าช่างใจใหญ่นัก ผู้บำเพ็ญเพียรมือใหม่อย่างเ้า ถึงกับกล้าปล้นสะดมนักพรตชั้นเซียน คงถูกเขาฆ่าตายด้วยการโบกสะบัดเพียงมือเดียว” หานรุ่ยพูดพลางหัวเราะ
“พลังปราณของนักพรตชั้นเซียน หากมาอยู่ที่นี่ย่อมมีลมปราณเพียงขั้นสิบสอง ข้าจะเกรงกลัวพวกเขาไปทำไม ในอดีต ที่เขาเคยเคลื่อนย้ายูเาและทะเลได้ เรียกฝนเรียกลมได้ แต่เมื่อมาถึงที่นี่กลับใช้การอะไรมิได้ และคงพ่ายแพ้ในที่สุด” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยอย่างเฉยเมย ัต่างแดนมาถึงที่นี่ก็ทำได้แค่นอนหงายเท่านั้นแหละ
“เ้าพูดถูก ดูเหมือนว่านี่จะเป็การคุ้มครองรูปแบบหนึ่งจากแผ่นดินชางหลาน หากไม่จำกัดพลังปราณของนักพรตต่างแดน เช่นนั้นแผ่นดินชางหลานย่อมตกเป็อาณานิคมของดินแดนอื่นๆ เป็แน่ เพราะว่ามีข้อจำกัดนี้ นักพรตต่างแดนถึงไม่เต็มใจจะมาที่นี่ พวกเขาไม่อาจบำเพ็ญเพียรได้ง่ายๆ ถึงตอนนั้นก็คือความหมายของเรือล่มในคลองระบายน้ำ” หานรุ่ยพูดกับจุนห่าว หลายปีมานี้ พวกเขารู้ว่ามีแผ่นดินอื่นอยู่ด้านนอก ดังนั้นผู้คนจากแผ่นดินอื่นๆ ย่อมรู้ดีว่ามีแผ่นดินชางหลานอยู่ ทว่าคนจากแผ่นดินอื่นกลับพบได้น้อยนักที่นี่
“ที่เ้าพูดว่าเป็การคุ้มครอง แต่ถ้าให้ข้าพูด มันกลับคือการลงโทษสรรพสิ่งทั้งหมดบนแผ่นดินชางหลาน” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยขณะที่ดูราคาของเข็มขัดเก็บของ
หานรุ่ยฟังคำของจุนห่าวครู่หนึ่ง เอ่ยถามอย่างงงงวยว่า “การลงโทษ? ยังไง? ข้าไม่เคยคิดเื่นี้มาก่อน ข้าคิดเสมอว่ามันคือการคุ้มครองแผ่นดินชางหลาน”
“ไม่เพียงมีข้อจำกัด์กับพลังปราณของนักพรตต่างแดน แต่ยังมีข้อจำกัดกับพลังปราณของนักพรตในพื้นที่ด้วย ผู้ใดที่มีพลังปราณถึงลมปราณขั้นที่สิบสอง ก็จะถึงทางตัน ทำได้เพียงการเริ่มต้นบำเพ็ญเพียรใหม่ นี่เป็การเริ่มต้นหรือการถูกตัดหนทางข้างหน้ากันแน่ มิใช่การลงโทษหรือ? หาก้าเดินเข้าสู่หนทางแห่งการบำเพ็ญเพียรต่อไป แต่จะมีสักกี่คนจริงๆ ที่เดินต่อไปได้ ชีวิตของคนส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้งระหว่างการเดินทาง ต่อให้มีพร์มากกว่านี้ ก็ยังต้องรอคอยความตายอยู่ที่นี่ เช่นนี้มิใช่การลงโทษหรือ? อีกทั้งเคล็ดวิชาที่สูญหาย กลวิธีเฉพาะต่างๆ ก็ถูกตัดรอน ส่วนบันทึกโบราณหลายเล่มที่บันทึกชื่อของกลวิธีเฉพาะต่างๆ มีแต่แจ้งชื่อให้เราทราบ แต่มิอาจเรียนรู้ได้ นี่มิใช่การลงโทษหรือ?” จุนห่าวพูดจบ ครุ่นคิดอยู่สักพัก และพูดกับหานรุ่ยอีกครั้งว่า “แผ่นดินชางหลานเปรียบเสมือนกรงขัง และเราเป็นักโทษโดยไม่มีระยะเวลากำหนด คนที่ไปยังแผ่นดินอื่นก็คือการหลบหนีโทษ ซึ่งหนีออกไปในที่ที่มีอนาคตอันสวยงาม แม้ว่าการเปรียบเทียบของข้าจะไม่ดีนัก แต่ข้าก็คิดว่ามันเหมาะสม”
จุนห่าวพูดจบ หานรุ่ยครุ่นคิดตาม จุนห่าวไม่ได้รบกวนหานรุ่ย เขารู้ว่าคำพูดของเขาส่งผลกระทบต่อความคิดที่มีมาแต่แรกของหานรุ่ย
จุนห่าวคิดว่า นี่คือความชาญฉลาดของ์ ลงโทษทุกสรรพสิ่งบนแผ่นดินชางหลาน แต่ทุกสรรพสิ่งบนแผ่นดินชางหลานกลับต้องขอบคุณเขา จุนห่าวคือนักโทษที่แหกกฎ เขาจะไม่ยอมรับชะตากรรมนี้ สักวันเขาจะพาภรรยาและลูกๆ ของเขาหนีออกจากกรงขังนี้ กลายเป็ดั่งนกที่จะบินทยานสู่ท้องฟ้า
หานรุ่ยถูกตอบโต้ครู่หนึ่ง เขาก็ปลดเปลื้องสิ่งตอบโต้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าจุนห่าวพูดถูก นี่คือการลงโทษของ์ที่มีต่อแผ่นดินชางหลาน หานรุ่ยคิดว่า ในเมื่อ์อยากจะตัดหนทางของเขา ถ้าอย่างนั้น เขาจะบินทะยานสู่ท้องฟ้าให้จงได้ และไม่ประนีประนอม การเดินเรือทวนน้ำ ไม่ก้าวหน้าก็คือถอยหลัง เขาต้องเดินไปข้างหน้าอย่าอาจหาญ เมื่อหานรุ่ยคิดได้แล้ว พละกำลังพลันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พลังิญญามหาศาลเกรียวกรูขึ้นมาดั่งฝูงผึ้ง และหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของหานรุ่ยไม่หยุดหย่อน เพียงครู่เดียว หานรุ่ยก็บุกทะลวงเข้าสู่ลมปราณขั้นที่แปด
จุนห่าวกำลังดูราคาของการประมูล เขาพลาดการบุกทะลวงในฉับพลันของหานรุ่ย โชคดีที่ความเร็วในการบุกทะลวงของหานรุ่ยพุ่งเข้ามาในชั่วพริบตาโดยไม่ต้องทำอะไรยิ่งใหญ่
เสี่ยวไป๋พูดกับจุนห่าวอย่างตื่นเต้นว่า “นี่คือการเข้าถึงแก่นแท้ แค่เ้าพูดไม่กี่คำ ภรรยาของเ้าก็เข้าถึงแก่นแท้แล้ว เป็อัจฉริยะจริงๆ”
“จุนห่าว เ้าต้องขยันแล้ว ทักษะของภรรยาของเ้าไม่ดีเท่าเ้า ทว่าเข้าถึงแก่นแท้ได้ดีนัก บัดนี้เขาตามเ้าทันแล้ว หากยังไม่ขยันอีก ต่อไปภรรยาของเ้าคงเก่งเกินเ้า และคงะเิอารมณ์กับเ้าได้”
ได้ยินเสี่ยวไป๋บอกว่าหานรุ่ยเข้าถึงแก่นแท้ การเข้าถึงแก่นแท้เป็ดั่งพรหมลิขิต ไม่เพียงพลังปราณจะเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็การดีสำหรับการบำเพ็ญเพียรในอนาคต สวรรรค์จะมอบของขวัญให้กับนักพรตที่เข้าถึงแก่นแท้โดยเร่งความเร็วและการรับรู้ในการบำเพ็ญเพียร
มีการเข้าถึงแก่นแท้ในครั้งนี้ ต่อไปการบำเพ็ญเพียรของหานรุ่ยจะราบรื่นขึ้นในอนาคต
เมื่อหานรุ่ยตื่นขึ้นมา จุนห่าวพูด กับหานรุ่ยอย่างยิ้มๆ ว่า “ยินดีด้วย เสี่ยวรุ่ย รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
หานรุ่ยพูดกับจุนห่าวอย่างเบิกบานว่า “รู้สึกดียิ่งนัก”
เห็นดวงตาของหานรุ่ยเปล่งประกาย จุนห่าวจึงพูดกับหานรุ่ยว่า “เพื่อแสดงความยินดีที่เ้าเลื่อนขั้น ข้าจะประมูลเข็มขัดเส้นนี้มาให้ได้”
หานรุ่ยได้ยินราคาของเข็มขัดเก็บของเส้นนี้เพิ่มขึ้นเป็ 200 ล้านตำลึงเงิน ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าว่าช่างมันเถอะ ของมือสองยังมีราคาแพงขนาดนี้ ข้าว่ามันไม่คุ้ม”
หานรุ่ยเพิ่งกล่าวจบ พลันได้ยินสุ่ยเย่ว์หรูหวาเสนอราคา 400 ล้านตำลึงเงิน เมื่อได้ยินเสียงของสุ่ยเย่ว์หรูหวา คนที่มีกำลังน้อยต่างออกจากการประมูลนั้น เหลือเพียงคนที่มีกำลังมากไม่กี่คนที่ยังร่วมประมูลราคา เมื่อครู่นี้พวกเขายอมให้แล้วหนึ่งครั้ง ครั้งนี้จะไม่ยอมเด็ดขาด อุปกรณ์เก็บของใครต่างก็อยากได้
“1,000 ล้าน” จุนห่าวะโออกไป เพิ่มราคา 600 ล้านในครั้งเดียว จุนห่าวคิดว่า แม้ว่าเขาจะไม่้า เขาก็จะไม่ให้สุ่ยเย่ว์หรูหวาได้ของราคาถูกไป
หลังจากจุนห่าวเสนอราคา หานรุ่ยพูดพลางส่ายหัวพร้อมกับรอยยิ้มที่หายไปว่า “ไม่จำเป็มุ่งมั่นพยายามขนาดนี้ เงินของพวกเรายังต้องใช้ตรงที่ควรใช้”
ณ ห้องส่วนตัวขององค์ชายสาม...สุ่ยเย่ว์หรูหวา
เมื่อได้ยินจุนห่าวเรียกราคา สุ่ยเย่ว์หรูหวาเกิดโทสะแรงกล้าจนชกโต๊ะด้วยหมัด และเกิดรูใหญ่ตรงโต๊ะนั้น สุ่ยเย่ว์หรูหวาพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “มันเป็ผู้ใดกัน เพิ่มราคาครั้งนึง 600 ล้าน นี่คือตั้งใจจะประกาศศัตรูกับข้า ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา”
หลังจากไป๋จิ่นอวี้เห็นพฤติกรรมของสุ่ยเย่ว์หรูหวา จึงพูดอย่างทุกข์ใจว่า “ฝ่าา ทรงโกรธก็ทรงอย่าใช้ร่างกายทำร้ายตัวเองเช่นนี้ เห็นท่านทำเช่นนี้ข้าปวดใจนัก” พูดจบ ไป๋จิ่นอวี้ก็ลดหัวลงอย่างอายเขิน จริงๆ แล้วเขาอยากจะคว้ามือขององค์ชายทั้งสามด้วยซ้ำ ทว่ารู้สึกว่าเขาควรสงวนตัวไว้
เมื่อได้ยินคำพูดไป๋จิ่นอวี้ สุ่ยเย่ว์หรูหวาก็แปรเปลี่ยนความโกรธ พูดกับไป๋จิ่นอวี้ด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนว่า “เสี่ยวอวี้ เ้าวางใจได้ ข้าจะประมูลเข็มขัดเก็บของเส้นนี้ให้เ้าให้ได้”
ณ ห้องส่วนตัวของหานเฉิน
ได้ยินการเสนอราคาของจุนห่าว หานเฉินนั่งไม่ติดแล้ว ตอนนี้เขาเป็กังวลแทนหานรุ่ย กังวลว่าจุนห่าวจะประมูลได้ไป แล้วจะไม่มีเงินจ่าย ถึงคนอื่นไม่รู้สึก แต่เขารู้สึกว่าจุนห่าวเชื่อถือไม่ได้ แม้ว่าจะมีความสุขมากที่เห็นสุ่ยเย่ว์หรูหวาถูกกลั่นแกล้ง ทว่ามันควรจบอย่างไร? ให้เขานำเงินหนึ่งพันล้านตำลึงเงินออกมาหรือ? แม้ว่าเขาอยากจะจ่ายเงินแทนพวกเขา ก็ไม่มีเงิน จึงได้แต่ร้อนใจ หานเฉินเดินไปมาในห้องส่วนตัว คนใต้บังคับบัญชาของหานเฉินต่างงงงวยกับพฤติกรรมของหานเฉิน
ณ ห้องส่วนตัวเฉินิ่โหรว
เมื่อเฉินิ่โหรวได้ยินราคาเสนอของจุนห่าว หันมาพูดกับจุนอี้ว่า “ ใช่น้องจุนห่าวของเ้าที่พบวันนั้นไหม? หากเป็น้องของเ้าจริงๆ เขาเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน สู้ราคาครั้งนึงคือ 1,000 ล้าน อีกทั้งยังท้าทายองค์ชายสาม บุญญาธิการของน้องชายเ้าไม่ต่ำต้อยเลย”
จุนอี้ก็คิดไม่ถึงว่าจุนห่าวจะเรียกราคาเช่นนี้ เขาคิดว่าจุนห่าวเจตนาทำตัวเด่นออกหน้าออกตา เขาขมวดคิ้วและพูดกับเฉินิ่โหรวว่า “คือจุนห่าว ข้าจำไม่ผิดแน่ ข้าคิดว่าคงเขียนเสือให้วัวกลัว อีกไม่นานเขาคงยโสโอหังไม่ออกแล้ว”
เฉินิ่โหรวกล่าวว่า “แต่มองก็รู้ว่าเชื่อถือไม่ได้ เหตุใดถึงกล้าทำเื่ที่สร้างแรงกระตุ้นเช่นนี้” เฉินิ่โหรวก็คิดว่าจุนห่าวไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น
จุนอี้พูดด้วยความโกรธว่า “เขาเป็คนไม่เชื่อถือไม่ได้ เ้าก็พบมาครั้งนึงแล้วหนิ”
“1,100 ล้าน” องค์ชายสามเพิ่มราคา
"1,500 ล้าน" จุนห่าวะโ
เมื่อได้ยินเสียงะโของจุนห่าว เขารู้สึกว่าจุนห่าวเจตนาก่อกวน แม้แต่คนที่รับผิดชอบในการประมูลยังขมวดคิ้ว เขาก็เกรงว่าจุนห่าวจะไม่มีเงินจ่าย
“2,000 ล้าน” องค์ชายสามโกรธะโอย่างขบฟัน ความโกรธของเขาครุกกรุ่นแล้ว
“2,500 ล้าน” จุนห่าวสู้ราคาไม่หยุดหย่อน
“3,000 ล้าน” องค์ชายสามะโ คิดในใจ ครั้งนี้จะเป็การสู้ราคาครั้งสุดท้ายของเขา มาดูกันว่า หลังจากบุคคลนี้ประมูลเข็มขัดเก็บของไปได้ จะจ่ายเงินเข็มขัดเส้นนี้ยังไง มิใช่ทุกคนที่จะจ่ายเงิน 3,000 ล้าน ได้หรอกนะ
“องค์ชายสามช่างร่ำรวยสมคำล่ำลือ ใช้เงิน 3,000 ล้าน เพื่อซื้อของมือสอง ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย” เสียงของจุนห่าวได้ยินไปไปทั่วทั้งงานประมูล จุนห่าวกล่าวจบ ทุกคนในงานประมูลต่างเหงื่อตกเพราะความกังวล นี่เป็การยั่วยุองค์ชายสามอย่างเปิดเผย คนดุร้ายคนนี้มาจากไหน
เมื่อหานเฉินฟังคำพูดของจุนห่าวก็คลายความเครียดลง หลังจากคลายความเครียดแล้ว กลับมาเหงื่อตกแทนหานรุ่ย เขาเกรงว่าหานรุ่ยจะถูกติดสอยห้อยตามไปด้วย
องค์ชายสามฟังคำพูดของจุนห่าว โกรธจนตัวสั่น คิดในใจ เขาจะไม่ปล่อยคนๆ นี้เด็ดขาด จากนั้นกำชับคนใต้อาณัติว่าไปให้สืบเื่จุนห่าว
