ครั้นอวี๋เจียวและอวี๋ฝูหลิงกลับมาถึงจวนกับข้าวถูกเตรียมเสร็จเรียบร้อยบุตรสาวของสตรีแซ่จางนามอวี๋กานเฉ่าพาสามีและบุตรสาวกลับบ้านมารดาบอกว่าจะมาช่วยเกี่ยวข้าว
ในห้องโถงตั้งสำรับแล้ว เพราะทำงานจนถึงเที่ยงวันอวี๋ฝูหลิงรู้สึกหิวมาก หลังจากนางล้างมืออย่างขอไปทีเสร็จก็เข้าไปกินข้าวในห้องโถงทันที
ฝ่ามือของอวี๋เจียวถูกกอข้าวทิ่มจนมีจุดแดงจ้ำเือยู่ไม่น้อยง่ามนิ้วมือข้างขวาถูกเคียวถูจนเกิดตุ่มพอง ร่างทั้งร่างชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อนางกินอะไรไม่ลงจริงๆ จึงตักน้ำหนึ่งอ่างกลับไปเช็ดทำความสะอาดร่างกายในห้อง
กระทั่งเช็ดตัวจนสะอาดและออกมาจากในห้องอวี๋ฝูหลิงยกถ้วยหมี่เข้ามา เอ่ยว่า “ล้างตัวเสร็จแล้ว? รีบกินเถิด เส้นหมี่เย็นพอดี”
อวี๋เจียวพยักหน้า นางรับถ้วยมาแล้วเอ่ยขอบคุณจากนั้นนั่งลงกินข้าวอยู่ภายในห้อง
อวี๋ฝูหลิงกำลังจะบอกว่าอวี๋ฉี่เจ๋อเป็คนตั้งใจเก็บหมี่ถ้วยนี้ไว้ให้นางแต่หันไปเห็นอวี๋เฉียวซานกำลังเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าเก้ๆ กังๆ เสียก่อน
ตอนนี้เขายังไม่คุ้นชินกับการเดินด้วยขาเทียมเอ่ยถามอวี๋เจียวพลางแย้มยิ้มว่า “ตอนนี้ขาของข้าสามารถไปเกี่ยวข้าวได้หรือไม่?”
อวี๋เจียวส่ายหน้า “ยังไม่ได้เ้าค่ะ”
อวี๋เมิ่งซานค่อนข้างผิดหวังเขารู้ดีว่าครอบครัวเ้าสามทั้งสองคนไม่ใช่คนทำงานทำการ ทุ่งนาตั้งเก้าไร่ต่อให้ภรรยาของเขาทนเหนื่อยเจียนตายก็ยากจะเกี่ยวจนเสร็จทำได้เพียงไปเกลี้ยกล่อมพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เสียแล้ว
ไม่นานนักอวี๋เจียวกินบะหมี่ในถ้วยจนหมดนางนำถ้วยและตะเกียบไปไว้ในห้องหุงต้ม หลังจากล้างจนสะอาดนางค้นหาจนทั่วห้องหุงต้มก็ยังไม่เห็นกับข้าวที่เหลือไว้ให้สตรีแซ่ซ่ง
เมื่อกลับมาในเรือนฝั่งตะวันออก อวี๋เจียวเอ่ย “ไม่ได้เก็บกับข้าวให้ท่านอาซ่งหรือ?”
อวี๋ฝูหลิงเทน้ำเย็นใส่กาน้ำทั้งสองใบ เอ่ยพลางแย้มยิ้ม “น้องเล็กไปส่งข้าวท่านแม่แล้วเ้าจะพักสักหน่อยหรือไม่ ข้าจะไปที่ทุ่งนาก่อน”
อวี๋เจียวรับกาน้ำในมือของนางมา “ไม่พักแล้วข้าจะไปพร้อมเ้า”
ครั้นคนทั้งสองกำลังจะพ้นประตูจวน อวี๋กานเฉ่าออกมาจากเรือนฝั่งตะวันตกแย้มยิ้มเอ่ยว่า “ฝูหลิง พวกเ้าจะไปทุ่งนาแล้วหรือ? อย่าเพิ่งไป ข้าจะไปพร้อมพวกเ้าด้วย!”
อวี๋กานเฉ่าร้องะโเข้าไปในเรือน “ฮั่นชิว เ้ารีบหน่อย!”
“มาแล้ว!” ภายในห้องมีเสียงบุรุษดังออกมาบุรุษรูปร่างไม่อ้วนไม่ผอมเดินออกมาจากภายในห้อง อวี๋กานเฉ่าเอ่ยพลางดึงเขา“ข้ากับพี่เขยของเ้ากลับมาก็เพื่อช่วยคนในจวนเกี่ยวข้าว พวกเราไปลงนาพร้อมกัน”
อวี๋ฝูหลิงพยักหน้า ตามด้วยหันไปมองทางเรือนฝั่งตะวันตกเอ่ยเสียงเบาว่า “พี่กานเฉ่า ท่านกับพี่เขยไปทุ่งนา ท่านป้าใหญ่จะไม่โกรธหรือเ้าคะ?”
อวี๋กานเฉ่าได้ฟังสตรีแซ่จางพร่ำรำพันแล้วว่านางโกรธเพราะเื่ส่งอวี๋จือโจวไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอเอ่ยพลางแย้มยิ้มว่า “เฮ้อ ท่านแม่ของข้ากำลังโมโห ทว่าไม่ช้าก็เร็วต้องไปทำนาแน่นอน”
คนทั้งสี่เดินออกจากประตูเรือนมุ่งหน้าสู่ท้องนาทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน
อวี๋กานเฉ่าลอบมองพิจารณาอวี๋เจียวชั่วครู่ แย้มยิ้มเอ่ย“เ้าคือน้องสะใภ้ห้ากระมัง? ตอนเ้าเข้ามาอยู่ในจวนข้าไม่ได้กลับบ้านมารดาพวกเราไม่เคยพบกันมาก่อน ส่วนเขาคือหลี่ฮั่นชิวพี่เขยใหญ่ของเ้า”
อวี๋เจียวยกยิ้มอย่างมีมารยาทเอ่ยไปทางอวี๋กานเฉ่าและสามีว่า “พี่หญิงใหญ่ พี่เขยใหญ่”
หลี่ฮั่นชิวพยักหน้าพร้อมกับยกยิ้มครั้นเห็นอวี๋เจียวหน้าตางดงามจึงมองมากสักหน่อย
บังเอิญพบกับอวี๋ฉี่เจ๋อที่มาส่งข้าวให้สตรีแซ่ซ่งเข้าพอดีเขาจ้องมองหลี่ฮั่นชิวด้วยสายตาเยือกเย็นชั่วครู่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็าว่า“พี่หญิงใหญ่ พี่เขยใหญ่”
หลี่ฮั่นชิวพลันเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเห็นอวี๋ฉี่เจ๋อสกุลของเขาล้วนแต่เป็ชาวไร่ชาวนา ต่างเคารพปัญญาชนมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชายห้าผู้เคยเป็จอหงวนน้อยสามสนามสอบเขายกมือขึ้นประสานมือคารวะ เอ่ยอย่างค่อนข้างยำเกรงว่า “คุณชายห้า”
อวี๋ฉี่เจ๋อเดินไปอยู่ข้างกายอวี๋เจียวอย่างเงียบเชียบบดบังร่างของอวี๋เจียวเอาไว้ นอกจากนั้นยังชำเลืองมองหลี่ฮั่นชิวอย่างเ็าเอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าจะลงนากับพวกเ้าด้วย”
อวี๋เจียวหรี่ดวงตา “ท่านอยากลงนาเกี่ยวข้าว?”
ไม่รอให้อวี๋ฉี่เจ๋อตอบกลับ นางเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า“ไม่ได้ ร่างกายของท่านรับไม่ไหว ควรจะกลับจวนไปพักผ่อนเถิด”
อวี๋ฉี่เจ๋อเก็บสายตากลับมา ไม่เอ่ยสิ่งใดพยักหน้าแล้วมุ่งหน้ากลับจวนไปเสียแล้ว
รอกระทั่งกายของอวี๋ฉี่เจ๋อจากไปไกล อวี๋กานเฉ่าถึงเอ่ยหยอกเย้าทั้งรอยยิ้มว่า“เมื่อครู่น้องห้าแอบพูดอะไรกับเ้า? ความสัมพันธ์ของพวกเ้าทั้งสองคนช่างดีจริงๆ”
