เหนียนยวี่เหลือบมองหลีอ๋องจ้าวเยี่ยนเป็ครั้งคราวดูเหมือนว่าั้แ่ฉู่ชิงขอพระบัญชาให้มีการสืบสวนเื่การลอบสังหารต่อใบหน้าหล่อเหลาซึ่งมักจะแย้มยิ้มราบเรียบ ยามนี้กลับสามารถมองเห็นหน้าตาเศร้าโศกได้อย่างรางเลือนมีจอกสุราก็ดื่มสุราจิตใจไม่ได้อยู่ที่การแสดงศิลปะอันยอดเยี่ยมของเหล่าคุณชายและเหล่าคุณหนูในตำหนักเลย
คิ้วคู่นั้นขมวดไปเล็กน้อย ราวกับมีเื่กังวลเขากำลังกังวลเื่อะไรกันแน่
"หม่อมฉันเหนียนอีหลานขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้และฮองเฮาเพคะวันนี้หม่อมฉันและน้องเหนียนยวี่เตรียมบทเพลงพิเศษมาด้วยกันเพลงหนึ่งเพคะขอถวายแด่ฝ่าาและฮองเฮาเพคะ"
เหนียนยวี่ที่กำลังครุ่นคิดทันใดนั้นเสียงของเหนียนอีหลานก็ดึงสตินางกลับมา
นางพูดว่าอะไรนะ?
"น้องยวี่เอ๋อร์..." เหนียนอีหลานจ้องมองเหนียนยวี่บนใบหน้างดงามนั้นประดับรอยยิ้มอบอุ่น ส่งเสียงเรียกอย่างดีใจ
มิใช่แค่นาง ทว่าสายตาของทุกคนต่างมองตามสายตาเหนียนอีหลานมาหยุดสายตาที่เหนียนยวี่
“เ้าบรรเลงดนตรีได้ด้วยหรือ?”มู่อ๋องจ้าวอี้ที่นั่งถัดจากนางรู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดยากจะปิดบังความอยากรู้อยากเห็น เหนียนยวี่ถูกเลี้ยงเยี่ยงเด็กชายมาตลอดสิบห้าปีจากที่เขารู้ ชีวิตนางที่อยู่ในจวนเหนียนมาตลอดสิบห้าปี ไม่ได้ราบรื่นสมใจปรารถนานักนึกไม่ถึงเลยว่าเหล่าคุณชายคุณหนูพวกนี้จะมีศิลปะความสามารถด้วย
ไม่เพียงแค่จ้าวอี้เหนียนยวี่ยังรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาที่นาง นางจึงมองกลับไปอย่างไม่หลบเลี่ยง
หนานกงฉี่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเหมือนกับคนอื่นที่คิดอยากจะดูการแสดงของนางจ้าวเยี่ยนเองก็ดูเหมือนจะกลับมารู้สึกตัวแล้ว ทว่าสีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาของเขายังคงดูซับซ้อนอยู่บ้างและฉู่ชิง...
ครั้นเหนียนยวี่มองไปก็สบสายตาเข้ากับฉู่ชิงอย่างประจวบเหมาะพอดิบพอดี นางไม่เห็นสีหน้าภายใต้หน้ากากของเขาว่าเป็อย่างไรทว่าสายตาคู่นั้น ดูเหมือนมีความกังวลเคลือบอยู่บางๆ
กังวลเื่อะไรกัน?
แม่ทัพหลวงผู้นี้กังวลว่านางจะทำเื่ขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมายงั้นหรือ?
แต่การทำเื่อับอายขายหน้า...
นี่มิใช่เื่ที่เหนียนอีหลานคาดหวังไว้อยู่หรือ?
เตรียมบทเพลงพิเศษมาหรือ
พวกนางเตรียมด้วยกันั้แ่เมื่อใด?
ตลอดสิบห้าปีในจวนเหนียน เรือนอาศัยและเบี้ยที่นางได้รับทั้งหมดไม่รู้ว่าจะเยอะไปกว่าพวกบ่าวรับใช้เ่าั้หรือเปล่าอีกอย่างหนานกงเยวี่ยจะยอมให้นางเรียนดีดฉินได้หรือ
เหนียนยวี่มองเหนียนอีหลาน เห็นเพียงท่วงท่าสง่างามอ่อนโยนใจดีของนางในใจก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ดูแล้ววันนี้เกรงว่าพี่สาวผู้นี้ของนางคงเก็บความร้อนใจไว้ไม่อยู่อดใจรอที่จะทำให้นางอับอายต่อหน้าทุกคนไม่ไหวแล้ว!
สูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่งเหนียนยวี่กัดริมฝีปาก ในสายตาของทุกคนนางลุกขึ้นและเดินไปหน้าตำหนักอย่างตื่นตระหนกน้อมคำนับฮ่องเต้หยวนเต๋อและฮองเฮาอวี่เหวินที่อยู่บนที่นั่งสูงสุดอย่างนุ่มนวล"ฝ่าาและฮองเฮาเพคะ เหนียนยวี่มุทะลุบุ่มบ่าม ฝีมือเงอะงะตื้นเขินเกรงว่าบทเพลงที่บรรเลง จะทำให้พระกรรณของฝ่าาและฮองเฮาแปดเปื้อนแล้ว"
ทันทีที่เอ่ยจบ ก็มีเสียงหัวเราะเบาๆดังออกมาจากในตำหนักรางๆ
บรรดาเหล่าคุณหนูตระกูลขุนนางที่เคยริษยาเหนียนยวี่มาก่อนหน้านี้ อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเองที่แท้ก็ดีดฉินไม่เป็!
เหนียนอีหลานเองก็ไม่รู้ว่านางคิดอะไร ลากคนที่ดีดฉินไม่เป็มาร่วมบรรเลงดนตรีกับนางกลัวอย่างเดียวว่าเหนียนยวี่จะทำให้นางเดือดร้อนไปด้วย
แต่ก็ดีได้ยินว่าเหนียนอีหลานดีดฉินได้เก่งที่สุด เมื่อเป็เช่นนี้ กลับมีความเป็ไปได้ที่จะทำให้นางเป็ดาวเด่นเป็แน่
ทว่าเหนียนอีหลานกลับไม่คิดถึงเื่นี้เลย นางให้เหนียนยวี่และนางมาบรรเลงด้วยกันโดยแน่ใจอย่างยิ่งว่าจะทำให้ตัวเองโดดเด่นและในขณะเดียวกันก็ทำให้เหนียนยวี่กลายเป็คนโง่เขลาต่อหน้าฝูงชน
"ฝ่าาเพคะ ฮองเฮาเพคะน้องยวี่เอ๋อร์เพิ่งเรียนดีดฉินมาไม่นานนี้ ดังนั้นนางจึงไม่มั่นใจ แท้จริงแล้วน้องยวี่เอ๋อร์มีพร์ไม่กี่วันมานี้ เพื่อเตรียมบทเพลงนี้ จึงทุ่มเทอย่างยิ่งเพคะ"เหนียนอีหลานก้าวไปข้างหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ชื่นชมเยินยอเหนียนยวี่อย่างสุดความสามารถนางที่ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเหนียนยวี่ ดึงมือเหนียนยวี่ขึ้นมาและเอ่ยกระซิบกระซาบด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่คนสองคนเท่านั้น “เ้าไม่ต้องกลัว รอยามที่ดีดฉิน เ้าแค่แสร้งทำเป็ััสายให้เกิดแค่เสียงออกมาก็พอที่เหลือให้ข้าจัดการ ยวี่เอ๋อร์ ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อเ้า หากไม่เช่นนั้นในสถานการณ์เยี่ยงนี้ การแสดงของเ้า...จะผ่านพ้นไปได้อย่างไร?”
เหนียนยวี่ยืนฟังพลางมองไปที่ใบหน้างดงามที่คอยดูแลนางอย่างพิถีพิถันความเย้ยหยันในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
จุดจบชัดเจนมิอาจหลีกเลี่ยงนี่เหนียนอีหลานกำลังช่วยนางแน่หรือ?
นางเป็พี่สาวผู้มีจิตใจงดงามเสียจริง!
“แต่…” เหนียนยวี่ขมวดคิ้วใบหน้ายังคงดูลำบากใจ ต่อหน้าเหนียนอีหลานที่เชี่ยวชาญการแสดงงิ้วผู้นี้วิธีที่ดีที่สุดของนางในการรับมือครานี้ คือต้องแสดงกับนางต่อไป ไม่เช่นนั้นไหนเลยจะมีค่าคู่ควรกับการแสดงที่ทุ่มเทออกมาอย่างหนักของนางได้
เหนียนยวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเอ่ยออกมาอย่างกังวลว่า "ยวี่เอ๋อร์ ไม่ได้เรียนฉินมาหลายวันแล้ว กลัวแค่ว่าจะเป็ภาระให้ท่านพี่แล้ว"
"ระหว่างพี่น้อง เป็ภาระอะไรกันเล่า?หยุดพูดถือสาอะไรเช่นนี้เถิด" เหนียนอีหลานแสร้งทำเป็เอ่ยตำหนิ
ทุกคนมองดูความสัมพันธ์รักใคร่สนิทสนมระหว่างพี่สาวน้องสาวคู่นี้ต่างก็ครุ่นคิดกันไปต่างๆ นานา
“ฝ่าาเพคะดูพวกนางสองพี่น้องรักใคร่สนิทสนมกลมเกลียวกันเช่นนี้ก็ให้พวกนางร่วมบรรเลงด้วยกันเถิดเพคะ เทคนิคฝีมือดีดฉินจะละเอียดอ่อนหรือเก้กังก็มิอาจเอาชนะความรักได้ หม่อมฉันคิดว่าพวกนางสองพี่น้องดูไม่ธรรมดา บทเพลงครานี้ต้องทำให้ผู้คนรู้สึกต่างไปจากเพลงอื่นๆ แน่เพคะ" ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยปาก
เมื่อนึกถึงเื่ในตำหนักชีอู๋เมื่อครู่ตระกูลหนานกงจึงยอมปล่อยให้เหนียนอีหลานแข่งขันแย่งตำแหน่งพระชายามู่อ๋องและอี้เอ้อร์กับเหนียนยวี่
ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองเหนียนยวี่นางไม่รู้เลยว่าเหนียนยวี่นางนี้มีเสน่ห์อะไรจึงทำให้บุตรชายของนางปฏิบัติกับเหนียนยวี่แตกต่างจากผู้อื่นความสนิทสนมใกล้ชิดของอี้เอ๋อร์และเหนียนยวี่ ทุกคนล้วนเห็นเหมือนกันหมดนางไม่เชื่อว่าเหนียนอีหลานในฐานะที่เป็พี่สาวคนนี้จะไม่รู้สึกอิจฉาริษยาอะไรเหนียนยวี่เลยสักนิด
หากมีความริษยา เช่นนั้นร่วมบรรเลงบทเพลงครานี้กลัวแค่ว่าเหนียนอีหลานจะมีแผนอื่น ด้วยวิธีเช่นนี้เหนียนยวี่ต้องได้รับาเ็แน่ ทว่าหากเป็ความรักสนิทชิดเชื้อของพี่น้องจริงๆมีเหนียนยวี่ที่เป็ภาระ บทเพลงครานี้ของเหนียนอีหลาน ไหนเลยจะแสดงออกมาดีได้?
ไม่ว่าจะเป็อย่างไรล้วนเป็ผลลัพธ์ที่นางอยากจะเห็น หรือบางที อาจจะเจ็บทั้งสองฝ่าย?
ครานี้จะเป็ผู้ใดกันแน่?
"เช่นนั้นก็ดี"ฮ่องเต้หยวนเต๋อเหลือบมองเหนียนยวี่ มองอารมณ์ในดวงตาคู่นั้นไม่ออก
ฮ่องเต้หยวนเต๋อตรัสอนุญาตออกมาเช่นนี้ใบหน้าเหนียนอีหลานก็ฉายแววมีความสุข ย่อเข้าโค้งคำนับให้ฮ่องเต้และฮองเฮาด้วยท่าฝูเชินแล้วรีบจูงเหนียนยวี่มาเตรียมตัวที่หน้าฉินเมื่อเห็นเหนียนยวี่ที่ยังคงมิอาจสลัดความกังวลออกไปได้เหนียนอีหลานก็เอ่ยปลอบประโลมอีกครั้ง "อย่ากลัว ทำตามที่ข้าบอก"
หึ อย่ากลัว เพราะเมื่อเทียบกับความกลัวและความกังวลในยามนี้ของนางอีกไม่นานสิ่งที่นางจะได้รับก็จะยิ่งกว่านี้อีก
เหนียนอีหลานจัดแจงที่นั่งให้เหนียนยวี่นั่งลงก่อนแล้วก็จะได้นั่งลงหน้าฉินของตัวเอง ทิศทางสายตาของมู่อ๋องจ้าวอี้ที่มองมาก็ยิ่งทำให้ความคิดในใจนางเด็ดเดี่ยวขึ้น
นาง้าให้ท่านอ๋องมู่เห็นว่าเมื่อเทียบกับนางแล้ว แท้จริงแล้วเหนียนยวี่ย่ำแย่แค่ไหน ไม่เหมาะสมแค่ไหน
นาง้าทำให้ผู้คนประหลาดใจทั้งยัง้าทำให้เหนียนยวี่ขายหน้าไปพร้อมๆ กันด้วย
เหนียนยวี่รู้สึกถึงสายตาของทุกคนในสายตาของคนรอบข้าง นางยังคงมีสีหน้าลำบากใจ มือของนางวางลงบนสายฉินร่างกายดูชะงักไปเล็กน้อย นี่นางไม่ได้แตะฉินมานานแค่ไหนแล้ว?
ในชาติก่อนก่อนที่ฮ่องเต้ทรราชผู้นั้นโยนนางให้ราชทูตทั้งห้าแคว้นและเปิดเผยตัวตนนางว่านางเป็สตรี พวกเขายังคงอยู่ในตำหนักชีอู๋เสียงฉินบรรเลงร่วมขับขาน ทว่าเพียงชั่วพริบตาเดียว เขาก็ผลักนางลงสู่ขุมนรก
ชายผู้นี้...
เหนียนยวี่ลูบสายฉินดูเหมือนว่าความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฉินจะเชื่อมโยงไปถึงชายผู้นี้ด้วยหากเป็ไปได้ ในชาตินี้ นางก็ไม่อยากจะแตะต้องฉินอีกเลย ทว่าวันนี้...
"เสด็จพ่อ ในเมื่อร่วมบรรเลงได้เช่นนั้นหม่อมฉันเองก็อยากจะไปร่วมสนุกด้วย"