เ้าของร้านได้กลิ่นหอมๆ ก็เริ่มคาดหวังแล้ว เมื่อหลี่ชิงหลิงนำจานเนื้อกระต่ายสีสวยกลิ่นหอมออกมา ดวงตาของเขาก็เป็ประกายทันที
เขารับเนื้อกระต่ายจากมือของหลี่ชิงหลิงวางลงบนโต๊ะเอง ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างอดใจรอไม่ไหว
ทันทีที่กินชิ้นแรกก็หยุดไม่ได้
ต้องยอมรับว่าเนื้อกระต่ายตัวนี้ดีกว่าที่พ่อครัวในร้านทำจริงๆ นอกจากเนื้อจะสดและนุ่มแล้ว ยังมีรสชาติที่เขาพูดไม่ออกอีกด้วย พูดสั้นๆ ก็คือมันอร่อยมาก
“เ้าของร้าน นี่กับข้าวอะไรหรือ? หอมมาก ขอข้าสักจานสิ!” ลูกค้าได้กลิ่นหอม บวกกับท่าทางเอร็ดอร่อยของเ้าของร้านแล้วอดไม่ได้
“ข้าขออันนี้ด้วย”
"ข้าด้วย"
ลูกค้าคนอื่นก็เริ่มส่งเสียง
เมนูนี้ยังไม่เปิดตัวก็เป็ที่นิยมแล้ว เ้าของร้านได้ยินแล้วยิ้มจนแทบไม่เหลือตา
หลังจากกินเนื้อกระต่ายไปครึ่งจาน เขาก็ค่อยๆ วางตะเกียบลง และพูดกับลูกค้า "นี่เป็อาหารจานใหม่ พรุ่งนี้จะเปิดตัวอย่างเป็ทางการ พรุ่งนี้เชิญทุกท่านมาชิมได้เลย"
หลังจากพูดจบ เขาก็หันหน้าไปมองหลี่ชิงหลิง และทำท่าทางเชื้อเชิญ "เสี่ยวหลิง เชิญทางนี้ เรามาคุยกันดีกว่า"
หลี่ชิงหลิงพยักหน้าอย่างใจเย็น ดึงแขนเสื้อของหลิวจือโม่และทั้งสองก็เดินตามเ้าของร้านไปที่ห้องส่วนตัว
ทันทีที่พวกเขานั่งลงเ้าของร้านก็พูดขึ้น "เสี่ยวหลิง สูตรอาหารนั้นจะขายเท่าไรหรือ?” เขารู้ทันทีว่าเนื้อกระต่ายนั้นแตกต่างจากพ่อครัวในอาคาร หากได้สูตรมาขาย ธุรกิจจะเฟื่องฟูอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เ้าของร้านก็มองหลี่ชิงหลิงอย่างกระตือรือร้นยิ่งขึ้น
หลี่ชิงหลิงจิบชาจึงพูดช้าๆ "สูตรนี้ไม่ขาย" เมื่อเห็นสีหน้าเ้าของร้านเปลี่ยนก็หัวเราะ "ให้ฝูหมั่นโหลว" หากกอดต้นขาของฝูหมั่นโหลว นางจะได้ประโยชน์มากมาย
"หา?" อารมณ์ของเ้าของร้านขึ้นๆ ลงๆ ชายผู้เฉลียวฉลาดอย่างเขาตกตะลึงเล็กน้อย "ให้… ฝูหมั่นโหลว?"
“อืม ให้ฝูหมั่นโหลว” หลี่ชิงหลิงพยักหน้าย้ำ “แต่ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
เ้าของร้านสงบลง กระแอมและถามหลี่ชิงหลิงว่ามีเงื่อนไขอะไร?
"ข้าหวังว่าฝูหมั่นโหลวจะซื้อกระต่ายทั้งหมดของเรา แต่ท่านไม่ต้องห่วง กระต่ายอ้วนท้วนสมบูรณ์ คุณภาพของเนื้อเหมือนกับที่เพิ่งทำไปแน่"
เมื่อเห็นความมั่นใจเต็มเปี่ยมของหลี่ชิงหลิง เ้าของร้านก็ตาเป็ประกาย เขาหัวเราะ "ทำให้ข้าใจริงๆ ครอบครัวเลี้ยงทั้งไก่และกระต่าย นอกจากนี้เลี้ยงอะไรอีกล่ะ?”
หลี่ชิงหลิงยันคางตอบด้วยรอยยิ้ม บอกว่าที่บ้านเลี้ยงแกะและเสือด้วย ในอนาคตนางอาจจะเลี้ยงอย่างอื่นอีก
เ้าของร้านคิดว่าหลี่ชิงหลิงล้อเล่น ใครที่ไหนเขาเลี้ยงเสือ?
ต่อมาเมื่อเขาไปหาหลี่ชิงหลิงเพื่อขอการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้วเห็นอาหวงก็ใมาก ไม่คาดคิดมาว่าเด็กสาวจะเลี้ยงเสือตัวใหญ่จริงๆ
"ตกลง ข้าจะให้คำมั่นสัญญา ไม่ว่าเ้าจะเลี้ยงอะไร ขอแค่กินได้ ฝูหมั่นโหลวจะรับทั้งหมด”
เขาคาดหวังจากหลี่ชิงหลิงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวก็สดใสขึ้น "ข้าจะจำไว้เ้าค่ะ” แม้ว่าฝูหมั่นโหลวจะไม่ยอมรับสิ่งของที่นางเลี้ยง นางก็สามารถไปขายให้กับร้านอาหารอื่นๆ ได้อยู่ดี "มาคุยกันเื่ราคาเถอะเ้าค่ะ เมื่อกี้ท่านลุงก็ได้ลองชิมแล้ว คุณภาพเนื้อของกระต่ายของเราแตกต่างจากกระต่ายทั่วไป สดอร่อยกว่ามาก”
รู้อย่างนี้เหลือไว้สักตัว ทำให้เด็กๆ ที่บ้านลองกิน
ตอนนี้เอามาหมดแล้ว หากจะเอาคืน เ้าของร้านคงไม่ยอม
เ้าของร้านลูบคาง เสนอราคาสามสิบห้าเหวินต่อตัว
นี่เป็ราคาที่สูงมาก สามารถถือเป็รางวัลสำหรับการให้สูตรโดยไม่คิดเงินของหลี่ชิงหลิง
นอกจากนี้ เ้าของร้านยัง้าเก็บหลี่ชิงหลิงไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถขี้เหนียวได้
เมื่อหลี่ชิงหลิงได้ยินราคา นางไม่ปฏิเสธและพยักหน้าโดยตรง
เด็กสาวยังขอให้เ้าของร้านเขียนข้อตกลง โดยระบุว่าฝูหมั่นโหลวจะซื้อและขายกระต่ายทั้งหมดของตน
เ้าของร้านตกลงเขียนข้อตกลงให้นางและลงนาม
หลังจากอ่านเนื้อหาของข้อตกลงแล้ว หลี่ชิงหลิงก็ลงชื่อเอง มอบสำเนาฉบับหนึ่งให้กับเ้าของร้าน อีกฉบับเก็บไว้เอง
"เอาล่ะ ข้าจะไปสอนพ่อครัว” หลี่ชิงหลิงดื่มชาหมดถ้วย และยืนขึ้นอย่างเรียบร้อย
เ้าของร้านขอให้หลิวจือโม่นั่งรอในห้องส่วนตัว ส่วนเขาพาหลี่ชิงหลิงไปที่ห้องครัวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า
เมื่อพ่อครัวเห็นหลี่ชิงหลิงเข้ามาก็มองด้วยตาเป็ประกาย เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งกินเนื้อกระต่ายไป ต้องยอมรับเลยว่าดีกว่าฝีมือพวกเขาอีก
พวกเขา้าให้หลี่ชิงหลิงสอน แต่พวกเขาอายเกินกว่าจะพูด เมื่อเห็นเ้าของร้านพานางเข้ามา หัวใจของพวกเขาจึงเต้นเร็ว
“เ้าเลือกสองคนเลย!”
หลี่ชิงหลิงกวาดตามองพ่อครัวด้วยรอยยิ้ม เห็นแววตาที่คาดหวังและหัวเราะ “ครั้งนี้ข้าไม่เลือกแล้ว สอนต่อหน้าทุกคนหนึ่งรอบ ข้าจะบอกทุกอย่างเกี่ยวกับสูตร แต่จะเรียนได้เท่าไรก็ขึ้นอยู่กับพวกท่านแล้ว"
ทันทีที่นางพูดจบ พ่อครัวทุกคนก็ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
เ้าของร้านชำเลืองมองหลี่ชิงหลิงอย่างชื่นชม ใครๆ ก็ซ่อนสูตรอาหารทั้งนั้น แต่เด็กสาวคนนี้ใจกว้างมาก "ยืนเหม่ออะไรล่ะ ยังไม่ขอบคุณเสี่ยวหลิงกันอีกหรือ"
“ขอบคุณมากขอรับ”
"ไม่เป็ไรเ้าค่ะ"
หลี่ชิงหลิงสอนในครัวหนึ่งรอบ หลังสอนเสร็จก็ถามเหล่าพ่อครัวว่าจำได้หรือไม่ เมื่อเห็นว่าพวกเขาจำได้ทั้งหมดแล้วจึงวางใจเดินออกจากครัว
ทันทีที่นางออกมา เ้าของร้านก็ยื่นเงินให้ นางรับมาเก็บโดยไม่แม้แต่จะนับ
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวกล้าขนาดนี้ เ้าของร้านหัวเราะถามว่าไม่กลัวว่าเขาจะโกงนางหรือ?
หลี่ชิงหลิงหัวเราะและชำเลืองมองเ้าของร้าน บอกว่านางไว้ใจเขา
คำพูดนี้ทำให้เ้าของร้านมีความสุขมาก เมื่อเห็นหลี่ชิงหลิงและหลิวจือโม่เดินออกจากฝูหมั่นโหลว เขาก็หันกลับไปเขียนจดหมายถึงเ้านาย
หลี่ชิงหลิงที่ขายกระต่ายได้ยิ้มกว้าง "ถ้ามีกระต่ายก็ไม่ต้องกังวลเื่เงินค่าเรียนของเสี่ยวเฟิงกับจือเยี่ยนแล้ว" นางต้องดูแลไก่และกระต่ายที่บ้านให้ดี นั่นคือเงิน!
หลิวจือโม่เหลือบมองนาง อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบหัวพลางตอบรับ
"ไปซื้อของกันเถอะ"
"เอาสิ…"
ขอแค่ขายของที่เมืองได้ นางก็จะซื้อของอย่างแน่นอน เขาคุ้นเคยดี
ทั้งสองซื้ออาหารอร่อยๆ กลับไป ทำให้เด็กๆ ในครอบครัวะโด้วยความดีใจ
ั้แ่วันนี้ไป หลี่ชิงหลิงดูแลไก่ตัวน้อยที่บ้านอย่างดี ส่วนกระต่ายอย่างเอาใจใส่ยิ่งกว่า
ตื่นเช้าเพื่อทำความสะอาดคอกไก่และคอกกระต่ายทุกวัน ให้เด็กๆ ที่บ้านขุดไส้เดือนให้ไก่กินอีกด้วย
"เสี่ยว... พี่เสี่ยวหลิง เสี่ยวเฟิงอยู่บ้านหรือเปล่า" วันนี้หลี่ชิงหลิงเพิ่งเปิดประตูบ้านก็เจอเด็กชื่อต้าเหอจากหมู่บ้านถามอย่างอายๆ
หลี่ชิงหลิงยิ้มให้เขา "อยู่บ้าน เข้ามาสิ!" นางหันศีรษะเรียกในบ้าน "เสี่ยวเฟิง ต้าเหอมาหา”
หลี่ชิงเฟิงตอบรับ และวิ่งออกจากบ้าน
ทันทีที่ต้าเหอเห็นหลี่ชิงเฟิงก็ยื่นมือที่อยู่ข้างหลังออกมา เผยกรงเล็กๆ "นี่... ไส้เดือนดินที่ข้าขุดได้ เอ้า” เขายัดให้หลี่ชิงเฟิง หันหลังเตรียมวิ่ง
หลี่ชิงเฟิงลากไว้ บอกให้เขารอ จากนั้นหันหลังวิ่งกลับไปที่บ้านหยิบแป้งทอดมันฝรั่งที่หลี่ชิงหลิงทำออกมายัดใส่มือต้าเหอ "นี่ เอากลับไปกินกับพี่เ้าสิ!”
ต้าเหอหน้าแดงเล็กน้อย หันหลังวิ่งไปพร้อมแป้งทอดมันฝรั่งในมือ
หลี่ชิงหลิงมองจากด้านข้างโดยไม่ส่งเสียง หลี่ชิงเฟิงชำเลืองมองนางและหัวเราะ “ต้าเหอก็น่าสงสาร แม่ไม่เคยให้เขากินอิ่มเลย ก็เลย…” เขากลัวว่าพี่สาวจะไม่เห็นด้วย
หลี่ชิงหลิงมองหลี่ชิงเฟิง นางเองก็รู้ว่าแม่ของต้าเหอเสียชีวิต พ่อแต่งงานกับแม่เลี้ยงที่ไม่ดีต่อเขาและน้องนัก เขามักจะได้กินน้อยทำงานหนัก เอะอะก็โดนทุบตีอีก
สถานการณ์ค่อนข้างเหมือนกับตอนที่พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านของผู้เฒ่าหลี่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสี่ยวเฟิงจะรู้สึกเห็นใจเขา
นางยิ้มให้หลี่ชิงเฟิงพลางลูบหัว "ช่วยเพื่อนเท่าที่ช่วยได้น่ะไม่เป็ปัญหา” ไม่ว่าจะตอนไหน มนุษย์ก็้าเพื่อน นางย่อมไม่ห้ามน้องคบเพื่อน
เมื่อเห็นว่าหลี่ชิงหลิงเห็นด้วยกับการกระทำของเขา หลี่ชิงเฟิงก็ยิ้ม บิดนิ้วและอธิบายอีก "ต้าเหอนิสัยดี มีครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยตอนหลี่ชิงฝูรังแกข้าด้วย!" หากไม่ใช่เพราะเช่นนั้น เขาเองก็คงไม่ช่วยต้าเหอสุ่มสี่สุ่มห้า
หลี่ชิงหลิงรู้สึกยินดีเป็อย่างยิ่งที่น้องชายรู้จักตอบแทนน้ำใจ นางใช้โอกาสนี้สอนเขาอีกครั้ง
“เ้าก็โตแล้ว ตัดสินใจเื่ของตัวเองได้ แต่คบเพื่อนก็ดูนิสัยด้วยนะ ถ้านิสัยดีก็คบ นิสัยไม่ดีก็ต้องอยู่ห่างๆ หน่อย เข้าใจไหม?”
"อืม เข้าใจแล้ว” เขาเองก็แยกออก อย่างเด็กคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน เห็นได้ชัดว่าดูแคลนเขาและจือเยี่ยน แต่แกล้งเป็เป็มิตรกับพวกเขาเพื่อจะกินขนม เขาไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าน้องชายเชื่อฟัง หลี่ชิงหลิงก็ลูบหัวอีกครั้ง ก่อนที่จะไปเอาไม้กวาดมาทำความสะอาดสวน
ไม่รู้ว่าหลี่ชิงเฟิงพูดอะไรกับต้าเหอ ต้าเหอนำไส้เดือนตัวเล็กๆ มารายงานที่บ้านหลี่ทุกวัน
เมื่อเขามาบ่อยและคุ้นเคยกับหลี่ชิงหลิงก็ไม่กลัวนางอีกต่อไป เมื่อเจอหน้า เขาสามารถทักทายนางอย่างสบายใจได้แล้ว
ทุกครั้งที่หลี่ชิงหลิงเห็นใบหน้าซีดเซียวและซูบผอมของเขาจะรู้สึกสงสารมาก หากที่บ้านมีอาหารก็จะแบ่งให้เขาบ้าง ทุกครั้งที่เขารับไปจะรีบช่วยหลี่ชิงหลิงทำงาน
ตอนแรกหลี่ชิงหลิงห้าม แต่เมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆ เด็กสาวก็ได้แต่ปล่อยเขาไป
