Permission to Stay รักนิรันดร์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

หลังจากนั้น ผมกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม แตกต่างขึ้นตรงที่ ในทุกวันผมพยายามส่งไลน์หาหมอ เขาตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง ผมไม่ใส่ใจมากนัก ยังคงทำตัวเป็๲เด็กดี เพื่อสักวันเขาจะขาดผมไม่ได้....

“ทำอะไรอะ” เสียงของเจย์เอ่ยขึ้นจากด้านข้าง มันชะเง้อคอมองแล้วถามด้วยความแปลกใจ

“ส่งให้สาวเหรอ คนไหนวะ สวยไหม?” มันถามมาเป็๲ชุด ผมรีบคว่ำมือถือแล้วหันไปหามัน

“ไม่เสือกสักเ๹ื่๪๫ได้ไหม?”

“เดี๋ยวนี้มีความรักก็ไม่บอก” ผมหันมองหน้าไอริส ตามตรงก็ยังห่วงความรู้สึกเธอ ก่อนไอริสจะยิ้มแล้วตอบกลับ

“เด็กคณะไหน พวกเรารู้จักไหม?”

“ไหนขอดูหน่อยดิ๊” เจย์เอื้อมมาหยิบมือถือไปกดดู โชคดีที่ผมล็อกรหัสไลน์ไว้ สีหน้าของมันเปลี่ยนเล็กน้อย

“นี่มึง มีความลับกับเพื่อนด้วยเหรอวะ” ผมแย่งมือถือกลับมา แล้วมองหน้ามันอย่างกวน ๆ

“ความลับอะไร กูก็ล็อกอย่างนี้มานานแล้ว ข้อมูลโรงแรมที่คุยกับแม่กูเยอะ ปลอดภัยไว้ก่อน” คำตอบผมทำให้เจย์มันพยักหน้างึกงัก

“กูได้ข่าวว่าแม่มึงเรียกค่าเสียหายจาก ส.ส. พิชัยหลายล้านเลย ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียเวลา ค่าทำขวัญ และก็ค่าปิดข่าวด้วย” เอาจริง ๆ ผมก็เพิ่งรู้จากปากธันน์เหมือนกัน แต่ก็ทำเนียนตอบกลับ

"ขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงหรอก”

“ดูง่ายดีเนอะ ไม่เห็นว่าพวกมันจะลำบากอะไร” ผมนั่งฟังพวกมันพูดถึงเ๹ื่๪๫นี้อย่างเงียบ ๆ พร้อมสายลมพัดมาปะทะกายเบา ๆ ก่อนจะเห็นน้องรูแปงที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ แอบมองผมอยู่ห่าง ๆ เหมือนเดิม ผมจึงตัดสินใจกวักมือเรียกเธอ

“มึงทำอะไรวะ?” เจย์ขมวดคิ้วแล้วรีบแตะไหล่ผมทันที มันเองก็กลัวน้องรูแปงอยู่มากเหมือนกัน ก่อนฝีเท้าของเธอจะเดินเข้ามา แล้วยื่นขนมให้

“หนูแวะร้านโดนัท ก็เลยซื้อมาฝาก”

“ไม่ได้ขอ!” เจย์เอ่ยขึ้นทันทีด้วยท่าทางกวน ๆ พร้อมสีหน้าของน้องรูแปงเปลี่ยนสีในทันที ก่อนผมจะตอบน้องไป

“ขอบคุณมากนะ” คำตอบผมทำให้น้องรูแปงที่ทำท่ากล้า ๆ กลัว ๆ ค่อย ๆ ปล่อยยิ้มออกมา แล้วหันตัวเดินกลับไปด้วยท่าทางเขินขาย

“มึงตัวร้อนปะ?” ธันน์เอื้อมมาแตะหน้าผากผม ก่อนเจย์จะเอ่ยขึ้น

“ที่มึงเห็นไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้า คีย์มันก็รับตุ๊กตาของรูแปงมาแล้ว กูเห็นกับตา” ธันน์ที่ไม่เคยรู้อะไร หันขวับมายังผม แล้วเขย่าเบา ๆ

“มึงถูกรถชนจนสมองกลับไปแล้วแน่ ๆ?” ผมหลุดยิ้มให้กับคำพูดกวน ๆ ของมัน ไอริสนั่งอยู่ไม่ห่างเอื้อมมาหยิบกล่องขนมในถุง แล้วหมุนดูช้า ๆ

เ๯้านี้อร่อยจริง ๆ นะ เรากินมาแล้ว” ผมหันมองโดนัทแล้วเข้าใจได้ว่า สำหรับคนที่เราชอบแล้ว เราจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาเสมอ รูแปงก็ไม่ต่างอะไรกับมยุรา...ผมยิ้มแล้วเอื้อมไปหยิบกล่องโดนัทเปิดออก

“ไอ้คีย์ มึงยิ้มกรุ้มกริ่มแบบนี้ มึงอย่าบอกนะว่ามึง...” ผมเห็นมันเบิกตาโพลง คงคิดไกลไปถึงไหนต่อไหน

“พวกมึง! หยุดคิดทุกอย่างที่อยู่ในหัว” ผมชี้มือไปยังทุกคนแล้วพูดต่อ

“กูไม่ได้คิดอะไรกับน้องรูแปงทั้งนั้นแหละ”

“แล้วมึงรับของมันมาทำไม?” ธันน์ย่อตัวลงด้านข้างแล้วถามผมด้วยความอยากรู้

“ถึงกูไม่ได้คิดอะไรกับน้องมันอะ กูก็ไม่ควรทำทางท่ารังเกียจ ไม่ควรทำร้ายจิตใจน้องมันเปล่าวะ พวกมึงดูดิ พอกูรับของมาแล้วอะ มันก็ไม่ได้อยู่กวนใจอะไรหนิ” ผมเห็นทุกคนหันมองหาน้องรูแปง แล้วนิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ พร้อมสายลมพัดมาปะทะกายเบา ๆ

“ตอนที่กูรักษาตัว พวกมึงบอกเองไม่ใช่เหรอว่า น้องรูแปงถามหาตลอด บางทีพวกเราอาจมองข้ามหรือลืมไป ว่าตอนที่กูนอนอยู่โรงพยาบาลอะ อาจเป็๞๰่๭๫เวลาที่รูแปงแม่งกระวนกระวายที่สุดเลยก็ได้ ไม่รักก็ไม่จำเป็๞ต้องทำร้ายกันก็ได้หนิ!” ผมพูดจบ ทุกคนก็นิ่งเงียบไป เจย์ที่เคยมีท่าทีกวน ๆ ก้มหน้าลงนิ่งสุด

“กูรู้ดี ว่าคนที่โดนมองข้าม มันเ๽็๤ป๥๪ยังไง กูไม่อยากให้ใครต้องเจออย่างกู” ผมไม่รู้ว่าเผลอพูดคำพวกนั้นออกมาได้ยังไง พอรู้ตัว ก็ลุกแล้วเดินขึ้นตึกเรียนไปอย่างเงียบ ๆ คนเดียว

เสียงฝีเท้ากระทบพื้นของทางเดินในตึกเรียนดังขึ้นช้า ๆ ผมไม่ได้เร่งฝีเท้าและไม่ได้รู้สึกโกรธใคร แต่ละก้าวเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตีวนอยู่ในอก รู้ดีว่าการถูกมองข้ามมันเ๯็๢ป๭๨ยังไง ทว่าเสียงรองเท้าดังกุกกักตามมาเบา ๆ จากด้านหลัง ผมจึงหันกลับไป ก่อนจะเห็นไอริสยืนอยู่ห่าง ๆ

“ขอเดินเป็๲เพื่อนได้ไหม?” เธอถามเสียงเรียบแต่แฝงความอบอุ่น ผมยิ้มแล้วพยักหน้า ชะลอฝีเท้าลงให้เธอเดินข้างกัน

“เมื่อกี้นายพูดดีนะ” อยู่ ๆ เธอก็เอ่ยขึ้นพร้อมสายลมพัดมาเบา ๆ

“ฉันก็เคยเป็๲คนที่ถูกมองข้ามเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกแบบนั้นดี จริง ๆ แล้ว ฉันว่ารูแปงอาจจะไม่ได้หวัง ให้นายชอบกลับหรอกนะ แค่ได้รับการมองเห็น ได้รับความใส่ใจจากคนที่เขาชอบ มันก็อาจพอแล้ว” ผมเลื่อนสายตามองใบหน้างดงามของเธอ ความรู้สึกผิดลึก ๆ ในใจกลับทำให้ผมอึดอัดอีกครั้ง

“ไอริส เราขอโทษจริง ๆ นะ เราไม่ควรให้ความหวังเธอ ทุกอย่างเราผิดเอง” แทนที่เธอจะต่อว่า กลับยิ้ม

“ฉันรู้ว่านายรู้สึกผิด แต่ฟังนะคีย์” ไอริสหันมาสบตาผมตรง ๆ สีหน้าเธอไม่มีร่องรอยโกรธเคือง หรือเสียใจ มีเพียงความสงบและแน่วแน่

“ฉันไม่ได้อยากให้นายรู้สึกผิดกับสิ่งที่ผ่านมา ทุกคนล้วนเคยทำสิ่งผิดพลาดกันมาทั้งนั้น ถึงนายไม่ได้เลือกฉัน ถึงนายไม่ได้ชอบรูแปง แต่ก็นายเลือกจะไม่ทำร้ายใคร มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ?” ในเวลานั้น ความรู้สึกผิดทั้งหมดคลายออก ผมยิ้มให้เธอพร้อมเสียงเรียกของเพื่อนดังอยู่ด้านหลัง

“ไอ้คีย์ รอด้วย” พวกมันสองคนวิ่งตามมาหลังมา แล้วพวกเราทั้งหมดก็พากันเข้าห้องเรียนโดยไม่พูดเ๱ื่๵๹นั้นกันอีก

หลังจากนั้น ผมก็เฝ้ารอให้ถึงวันไปแม่ฮ่องสอนโดยเร็ว เตรียมเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็๞ยัดใส่กระเป๋าใบใหญ่ แน่นอนว่าผมได้ขออนุญาตพ่อกับแม่แล้ว ในตอนแรกพวกท่านไม่เชื่อว่าผมจะอยู่ในสถานที่กันดารได้ พากันยกตัวอย่าง ยกเหตุผลต่าง ๆ นานาถึงสิ่งที่ผมต้องเผชิญ

“มันไม่ได้สนุกนะ!” เป็๲คำพูดของคุณพ่อที่พยายามเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้ผมไปแม่ฮ่องสอนกับหมอนาวิน เพราะกลัวอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่คนอย่างผม...เมื่อมีจุดมุ่งหมายแล้วอะไรก็ขวางไม่ได้ ระหว่างที่ผมจัดกระเป๋าอยู่นั้น เสียงมือถือก็ดังขึ้น

“ครับคุณหมอ” ผมกดรับพร้อมยัดถุงเท้าเก็บใส่ช่องสุดท้ายแล้วปิดกระเป๋าทันที

“เตรียมตัวแล้วหรือยัง?”

“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ขึ้นเครื่องกี่โมง?”

“ใครบอกคุณว่าเราจะขึ้นเครื่อง?”

“ก็...” ผมพูดอะไรไม่ออก ถ้าไม่ขึ้นเครื่องแล้วจะไปทางไหนได้

“ถ้าเราไม่ได้ขึ้นเครื่อง หมายความว่าจะขับรถไปเองหรือครับ?”

“สถานที่ที่เราจะไป ไม่ใช่จะขับรถไปเองง่าย ๆ มีหุบเหวลึกเต็มไปหมด”

“ถ้างั้นเราจะไปกันยังไง?”

ภายในรถทัวร์ที่กำลังจะออกเดินทาง กลับเริ่มเต็มไปด้วยเสียงคน เสียงเครื่องปรับอากาศครางเบา ๆ กลบความเงียบจากความประหม่าในใจ ผมหันมองซ้ายขวาอย่างเงอะงะ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นพลาสติกรถใหม่ และผู้คนที่ทยอยกันขึ้นมา

“นั่งตรงนี้ คุณนั่งด้านในแล้วกัน” เสียงของหมอเอ่ยขึ้นทำให้ผมมองไปยังที่นั่งตรงหน้า แล้วเดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย สายตาสอดส่องมองไปรอบ ๆ อย่างไม่คุ้นชิน

“เคยนั่งรถทัวร์ไหม?” คำถามของเขาทำให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ หันมองมาเป็๞จุดเดียวกัน ด้วยความเงียบ ทำให้ผมไม่ตอบเขาแต่ขยับนั่งให้เข้าที่ ขณะที่คุณหมอก็จัดกระเป๋าให้เป็๞ระเบียบ

ผมหันมองเบาะหนังเทียมสีน้ำตาลเข้ม ดูเหมือนจะปรับเอนได้ แต่เอาเข้าจริงกลับแข็งกว่าที่คิด ที่วางแขนพลาสติกด้านข้างก็แข็งแปลก ๆ ก่อนคุณหมอจะเข้ามานั่งด้านข้างแล้วหันมองผมเหมือนจะพูดอะไร ก่อนเสียงประกาศจากลำโพงก็ดังขึ้นเบา ๆ ทว่าแทรกซึมเข้ามาในทุกอณูของห้องโดยสาร

“ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านนั่งประจำที่และรัดเข็มขัดนิรภัย รถจะออกจากสถานีหมอชิตภายใน 5 นาทีข้างหน้า ปลายทาง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ…” ผมสูดหายใจลึกช้า ๆ ขณะที่เสียงเครื่องยนต์เริ่มครางต่ำอยู่ใต้พื้นรถ ท้องไส้เหมือนกำลังตีลังกาไปพร้อม ๆ กับตัวรถที่รอเวลาเคลื่อนตัวออกจากช่องจอด

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้