เมื่อกำชับเื่ห้วงมิติเสร็จ มีเื่หนึ่งที่ยังคาใจโหยวเสี่ยวโม่อยู่
เื่นั้นเกี่ยวข้องกับห้วงมิติ เช่นเดียวกับที่หลิงเซียวกล่าว ถ้าหากหยดน้ำตาสีฟ้าครามนั้นเป็สมบัติล้ำค่าถึงขั้นทำให้สำนักเทียนซินสั่นคลอนได้ ทำไมเขาถึงนิ่งเฉยไม่รู้สึกอะไรเลย ในสถานการณ์ทั่วไป ควรจะฆ่าคนชิงทรัพย์ไปแล้วไม่ใช่หรือ?
การจินตนาการเช่นนี้ถึงจะรู้สึกผิดกับตัวเองอยู่บ้าง แต่โหยวเสี่ยวโม่ก็อดที่จะคิดไม่ได้ ทว่าั้แ่พวกเขาออกจากห้วงมิติ หลิงเซียวก็ไม่ได้เอ่ยเื่นั้นอีก ค่อยทำให้เขารู้สึกวางใจขึ้นมา
เพราะยังมีธุระต่อข้างนอก พวกเขาเลยไม่ได้อ้อยอิ่งในห้วงมิตินานมากนัก ครั้นหลิงเซียวจัดการใช้ลมพายุขจัดหญ้ารกจนสะอาดเกลี้ยงแล้ว พวกเขาก็ออกจากห้วงมิติ
เพื่อไม่คนอื่นสงสัย โหยวเสี่ยวโม่จึงไม่ได้ใช้น้ำพลังธาตุกับาแของเขา
ไม่นานสองคนก็ออกมา จังหวะเดียวกับสำนักเทียนซินส่งคนจำนวนหนึ่งมา ล้วนเป็ศิษย์แขนงการต่อสู้ คนที่นำทัพมาคือผู้าุโท่านหนึ่งมีผมและหนวดเคราดำมีผมหงอกสีขาวแซมท่าทีมีอายุ ทว่าดวงตาสองข้างนั้นแผ่แสงประกายวิบวับออกมาเป็่ๆ
เขาคืออาจารย์อาของหลินเซียว ผูฉาน และยังเป็ศิษย์ผู้น้องของเ้าสำนักทังฝานผู้ฉลาดหลักแหลม ทว่าขึ้นชื่อในเื่ความโหดร้าย
ดูเหมือนทังอวิ๋นฉีว่องไวพอประมาณ หลังจากกลับไปรีบแจ้งข่าวกับท่านพ่อของนาง
ทังฝานทั้งให้ความสำคัญกับเื่ของเผ่าปีศาจนี้มาก แถมยังเกิดเื่ในเมืองเหอผิง ศิษย์มากมายต่างพากันลงเขาไปเมืองเหอผิง ความปลอดภัยของลูกศิษย์ถือเป็เื่สำคัญลำดับแรก จึงส่งคนสนิทที่ไว้ใจมาจัดการทันที
อย่ามองว่าผูฉานเป็คนฉลาดหรือโหดร้าย เพราะเป็คนสนิทชิดเชื้อของทังฝาน ผูฉานจึงจงรักภักดีมาตลอด
ครั้งนี้ที่พาคนลงเขาเช่นเดียวกับทุกครั้ง ผูฉานพาคนล้อมเมืองเหอผิงไว้ แม้ว่ามนุษย์ปีศาจลั่วซานจะหลบหนีไปแล้ว ก็ใช่ว่าจะไม่มีพรรคพวกซ่อนตัวอยู่ในเมืองเหอผิง จากนั้นผูฉานจึงพาคนมาที่โรงเตี๊ยม
ยามนี้ หลิงเซียวกับโหยวเสี่ยวโม่ก็ออกมาจากห้วงมิติแล้ว
ขณะที่กำลังคุยกันเื่นี้ ประตูห้องก็ถูกคนผลักออกอย่างแรง
เขาคนนั้นก็คือผูฉาน การทักทายกับผู้าุโน้อยกว่าไม่มีความเกรงใจเช่นนี้เสมอ ไม่สูงส่ง รวมทั้งการพูดจาขวานผ่าซาก ลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบยุ่งกับเขา หลินเซียวคนก่อนเองก็ออกจะรำคาญเขา ทว่าเขาไม่เคยเผยมันออกมา เพราะว่าผูฉานคือศิษย์น้องที่ทังฝานไว้เนื้อเชื่อใจที่สุด
“หลินเซียว เ้าจงเล่าเื่ที่พบเจุ์ปีศาจมาให้หมด”
ผูฉานร่างกายกำยำ เฉกเช่น หลังเสือเอวหมี ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา เพียงเดินเข้ามาก็บังประตูเสียมิด คนด้านหลังเดินตามเข้ามาไม่ได้ทีเดียว
ทว่าเขาหาได้มีความเกรงใจไม่ จากความทรงจำของโหยวเสี่ยวโม่ คนทั่วไปเมื่อเห็นหลิงเซียว ไม่มีครั้งไหนที่จะไม่ก้มหน้าทำเคารพ เขาก็พึ่งจะเคยเห็นคนที่กล้าออกคำสั่งกับหลิงเซียวอย่างกำเริบเช่นนี้ เขาแอบชำเลืองมองสีหน้าหลิงเซียว ช่างดูแจ่มใส…
เมื่อเห็นภาพจริงเช่นนี้ โหยวเสี่ยวโม่รีบก้มหน้า
หลิงเซียวไม่ได้ให้คำตอบเขาทันที ยกชาที่โหยวเสี่ยวโม่เทให้เขา เป่าลมแ่เบาแล้วจิบชา หาได้มีท่าทีตื่นใ ผูฉานเริ่มขมวดคิ้วจนเกือบมีน้ำโห เขาถึงเอ่ยปาก
“อาจารย์อาผู เื่นี้ท่านควรไปถามศิษย์น้องเฉิน เขารู้เห็นมากกว่าข้านัก”
โหยวเสี่ยวโม่เหวอ ดีที่เขาก้มหน้าอยู่
คิ้วหนาเข้มของผูฉานขมวดปมแน่นเกว่าเดิม ท่าทีคิดไม่ถึงว่าคำตอบที่เขารออยู่ครู่หนึ่งกลับเป็ประโยคเช่นนี้ ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่หลินเซียวละก็ เขาต้องโมโหโกรธาแน่ เสียดายที่ไม่ใช่ ไม่พูดไม่จา ‘ฮึ’ คำเดียวแล้วหันหลังจากไป ส่วนโหยวเสี่ยวโม่ที่อยู่ข้างหลิงเซียวนั้นถูกเขาเมินั้แ่ต้นจนจบ
ตัวโหยวเสี่ยวโม่เองก็คงไม่ทันรู้ตัวว่าแผนวางตัวไม่โดดเด่นของเขานั้น ในที่สุดก็เห็นผลสำเร็จเป็ครั้งแรก
“ศิษย์พี่หลิง ท่านว่าจะยังมีมนุษย์ปีศาจหลงเหลืออยู่ในเมืองเหอผิงหรือไม่?”
เมื่อผูฉานจากไป โหยวเสี่ยวโม่จึงเอ่ยถาม เขารู้สึกว่าผูฉานไม่เห็นจำเป็ต้องวางมาดใหญ่โตขนาดนั้น
เมื่อความจริงที่ว่าเผ่าปีศาจนั้นเป็ศัตรูกับนักฝึกตน หลังจากที่ลั่วซานถูกเปิดเผยตัวตน มนุษย์ปีศาจตนอื่นย่อมไม่กล้าอยู่ต่อ ถึงมี ถ้ารูปกายเหมือนลั่วซาน ก็ยากที่จะแยกออกได้ ไม่งั้นตัวตนมนุษย์ปีศาจของลั่วซานก็ถูกเปิดโปงนานแล้ว
“หึๆ ก็แค่การเสแสร้งให้ผู้คนดูเท่านั้นแหละ” หลิงเซียวเอ่ยสีหน้าเหยียด
โหยวเสี่ยวโม่เข้าใจไม่เข้าใจก็พยักหน้าไว้ก่อน จริงอยู่ที่ว่า เกิดเื่ใหญ่โตเช่นนี้ ถ้าสำนักเทียนซินไม่สอบสวน อีกหน่อยเมืองเหอผิงก็คงโดนผลกระทบ แม้เมืองเหอผิงจะไม่ได้อยู่ในเขตแดนของสำนักเทียนซิน แต่ความจริงก็คือสำนักเทียนซินให้ความคุ้มครองอยู่
เมืองเหอผิงพบมนุษย์ปีศาจปรากฏตัว ก็ต้องตรวจสอบเพื่อให้ผู้คนรู้สึกวางใจ
หลังจากนั้นก็เหมือนที่หลิงเซียวกล่าว ผูฉานเพียงแต่มาเดินตระเวนสอดส่องรอบเดียว หลังจากสอบถามเื่ราวจากเฉินเกาหยางเสร็จสิ้น เขาจึงส่งคนตามไปยังทิศทางที่ลั่วซานหลบหนีไป ปรากฏว่าไม่ได้อะไรกลับมาเลย
เื่ราวหลังจากนี้ไม่เกี่ยวกับพวกหลิงเซียวอีกต่อไป ของก็ซื้อเสร็จสรรพ ดังนั้นจึงนั่งนกขนส่งกลับวันนั้นเลย
เหตุเพราะขาาเ็ โหยวเสี่ยวโม่ต้องแสร้งทำท่าที หลายวันต่อมาจึงไม่ได้ไปรับหญ้าทิพย์ที่เรือนหญ้าทิพย์อีก
ระหว่างนั้น ฟางเฉินเล่อได้มาเยี่ยมเขา พร้อมกับคำทักทายที่ขงเหวินฝากมา