ขวัญอ่อนขลาดกลัวปวกเปียก คนแบบนี้ไม่เคยอยู่ในการชื่นชอบของหลิงเซียว แต่เกินความคาดหมายที่ไม่เพียงไม่รังเกียจโหยวเสี่ยวโม่ กลับกันเขารู้สึกว่าช่างน่ารักเหลือเกิน บางเวลาจึงอดไม่ได้ที่จะแกล้งแหย่เขา นับเป็่เวลาที่เขาเพลิดเพลินใจ
“ศิษย์น้องเล็ก ถ้าไม่อยากตายก็ต้องเชื่อฟังข้า รู้ไหม?” หลิงเซียวฉีกยิ้มมุมปากพร้อมเอ่ยอย่างสนุกสนาน
โหยวเสี่ยวโม่ผงกหัวราวกับคำนับทันที ตอนนี้ชีวิตเขาอยู่ในเงื้อมมือของหลิงเซียวแล้ว แม้จะสงสัยแต่ต้องแสร้งทำเป็เข้าใจ
หลิงเซียวลุกขึ้นเดินไปไม่กี่ก้าว เหลียวหลังมองโหยวเสี่ยวโม่ที่เดินตามมาแล้วเอ่ย “จากนี้เป็ต้นไป ห้ามให้ใครได้เห็นหยดน้ำสีฟ้าครามบนหน้าอกเ้านอกจากข้าเด็ดขาด ข้อนี้สำคัญมาก เข้าใจไหม?”
“เข้าใจขอรับ” โหยวเสี่ยวโม่พยักหน้าแรง
ถึงแม้เขาอยากจะบอกเขาว่านั่นไม่ใช่หยดน้ำสีฟ้าคราม หากแต่เป็หยดน้ำตาสีฟ้าคราม หากไตร่ตรองดูความคิดนี้กลืนลงท้องดีกว่า ถึงอย่างไรรูปร่างของมันก็คล้าย กันอยู่ดี
“นอกจากนี้ หญ้าเซียนที่ปลูกในนี้ถึงเวลาเ้าสามารถนำออกไปแค่บางส่วน แต่ห้ามเยอะ เพื่อกันคนสงสัย อีกอย่างเ้าสามารถหลอมยาได้ทั้งวันไม่เหน็ดเหนื่อยโดยพึ่งการดื่มน้ำนี่ ถ้ามีคนตามสืบ ย่อมต้องจับสังเกตเห็นพิรุธนี้แน่นอน ฉะนั้นจากวันนี้เป็ต้นไป ใช้แค่พอควรก็พอ” หลิงเซียวกำชับอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงขึงขังอย่างไม่เคยเป็มาก่อน
โหยวเสี่ยวโม่ก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรง พร้อมตกปากรับคำ
เมื่อจดจำทั้งหมดได้แล้ว โหยวเสี่ยวโม่เกิดนึกคำถามขึ้นได้ จึงรีบถาม “ศิษย์พี่หลิง น้ำพลังธาตุนั่นข้ายังดื่มได้หรือไม่?”
หลิงเซียวพินิจพิจารณา “ได้สิ แต่ต่อไปห้ามส่งยาเซียนตันเร็วเกินไป อย่างน้อยก็ควรยืดเวลาสักสองสามวัน”
ไม่ต้องอธิบายละเอียด โหยวเสี่ยวโม่ก็รู้ได้ว่าคำพูดนี้หมายถึงอะไร คราวก่อนเขารับหญ้าเซียนมาหนึ่งพันสองร้อยต้น เพียงแค่สี่วันเขาหลอมมันจนหมดเกลี้ยง ความเร็วนั้นว่องไวเกินไป ศิษย์คุณสมบัติด้อยเช่นเขา มันดูผิดแปลกจริงๆ นั่นแหละ
เมื่อกำชับทุกอย่างเสร็จสิ้น หลิงเซียวมองไปยังทุ่งหญ้าเซียน
หญ้าเซียนหลากสีสันเจริญงอกงามได้ดี แตกต่างจากที่หลิงเซียวเคยเห็นมา
แปลงหญ้าเซียนที่หลินเซียวเคยเห็น เป็แปลงที่เพาะปลูกในทัพ์ เพราะว่าเป็ศิษย์เอกของเ้าสำนัก ส่วนทังอวิ๋นฉีเป็ลูกสาวเ้าสำนัก ดังนั้นในความสัมพันธ์เช่นนี้ หลินเซียวจึงสนิทชิดเชื้อกับทัพ์อยู่บ้าง แต่ก่อนเวลาไปทัพ์ แม้จะเป็ศิษย์แขนงการต่อสู้ แต่เหล่าผู้าุโและศิษย์ต่างก็ไม่ได้เข้มงวดกับเขานัก
ทว่าตอนนี้คงไม่เหมือนเดิมแล้ว
่นี้มีแต่ข่าวลือเื่ที่เขาคลุกคลีอยู่กับโหยวเสี่ยวโม่แพร่สะพัดออกมา รวมถึงโหยวเสี่ยวโม่ตอนนี้เป็ศิษย์อาจารย์ขงเหวิน ยากที่คนจะไม่คิดไปไกล ทว่าหลิงเซียวมี่หนึ่งที่ไม่ได้ไปเหยียบทัพ์เลย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าท่าทีของทัพ์ที่มีต่อเขาจะเปลี่ยนไปหรือไม่
“พื้นที่แห่งนี้ใหญ่ไม่ใช่เล่น เ้าตั้งใจใช้แค่พื้นที่ส่วนนั้นเพาะปลูกหรือ?”
หลิงเซียวตระเวนรอบห้วงมิติ พื้นที่แห่งนี้ไม่นับว่าเล็ก ลำพังทะเลสาบนั่นก็เทียบเท่ากับพื้นที่ลานกว้างของทัพ์แล้ว
“ไม่ใช่ ข้าตั้งใจจะใช้พื้นที่ทั้งหมดปลูกหญ้าเซียน เพียงแต่ เอ่อ…วัชพืชขึ้นเยอะมาก ข้ายังถอนไม่หมดน่ะ”
โหยวเสี่ยวโม่ก้มหน้าเหนียมอายจนหน้าแดง นี่ผ่านมาสิบวันแล้ว เขามีเพียงสองมือ ตลอดเวลานั้นก็ต้องหลอมยา ไม่เหลือเวลาให้มาถอนหญ้า รวมถึงก่อนหน้านั้นสี่วันก็เก็บตัว แม้แต่หญ้าเซียนที่สุกงอมยังไม่มีเวลาเก็บเกี่ยวเลย ถอนหญ้ายิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง
“ลำพังแค่กำลังของเ้า ให้เวลาเ้าหนึ่งปีก็คงไม่มีทางทำสำเร็จหรอก” หลิงเซียงมองเขาสีหน้าเรียบเฉย
โหยวเสี่ยวโม่ปฏิเสธไม่ออก ห้วงมิติกว้างขนาดนี้ ถึงให้เวลาเขาหนึ่งปีก็คงถอนหญ้าพวกนี้ไม่หมดเป็แน่ เขาพิจารณาก่อนถามอย่างระวัง “งั้นท่านมีวิธีอื่นหรือไม่?”
ฉับพลันหลิงเซียวก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นราวสายลมโปรยในฤดูใบไม้ผลิ “ไม่ใช่ว่าใครก็ทำให้ข้าลงมือได้หรอกนะ”
โหยวเสี่ยวโม่ปากบูด “ท่าน้ายาเซียนตันเท่าไหร่?”
“ยี่สิบเม็ด แบบที่ดีที่สุด” หลิงเซียวเอ่ยอย่างไม่ละอาย
โหยวเสี่ยวโม่ปากคว่ำแล้วคว่ำอีก ก็รู้อยู่เต็มอกว่าข้อเรียกร้องของเขาไม่เคยปรานีใคร ยาเซียนตันยี่สิบเม็ด ทั้งยังเป็แบบที่ดีที่สุด จากความสามารถของเขาในตอนนี้ คงต้องหลอมเป็วัน โชคดีที่หญ้าเซียนในห้วงมิติล้วนสุกงอมแล้ว เท่านี้เขาก็ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาขอหญ้าเซียนจากเรือนหญ้าเซียน ทั้งยังไม่ต้องส่งตัวยาครึ่งหนึ่งด้วย คำนวณเวลาเหลือเยอะกว่าเดิมอีก
ท้ายสุด โหยวเสี่ยวโม่ใช้ยาที่ดีที่สุดยี่สิบเม็ดแลกกับการลงมือของหลิงเซียว
ภาพตรงหน้าช่างตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ไม่รู้ว่าเขาเรียกลมพายุมาจากไหน พายุหมุนลูกเล็กๆ หลายลูกผุดขึ้นมากลางอากาศ จากนั้นเริ่มส่งแรงเค้นไปยังเป้าหมาย จุดที่พายุนั้นพัดผ่าน วัชพืชทั้งหมายถูกดึงออกมาทั้งรากจนเหี้ยน ผืนดินก็ไม่ต้องพึ่งโหยวเสี่ยวโม่พรวนอีกต่อไป
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม นอกจากบริเวณที่พวกเขายืนอยู่ รวมถึงแปลงหญ้าเซียนพวกนั้น ที่เหลือนั้นล้วนราวกับพึ่งถูกทำลาย ผืนดินระเกะระกะทั่วไปหมด