กงอี่โม่ชมกงเช่ออย่างตรงไปตรงมาจนทำให้เขาหน้าแดงเขาลอบถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมดึงกงอี่โม่ให้นั่งลงอยู่ในห้องผ่านไปชั่วครู่จึงเอ่ยขึ้น
“เ้าเป็เด็กผู้หญิงต้องสงวนกิริยาหน่อย ห้ามไปชมผู้อื่นง่ายดายเช่นนี้โดยเฉพาะบุรุษ”
สงวนกิริยา?
คำนี้ทำให้สีหน้าของกงอี่โม่เปลี่ยนไปในชั่วพริบตาชาติที่แล้วนางตามตื๊อกงเช่อราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟยิ่งไปกว่านั้นนางยังขับไล่หญิงสาวนับไม่ถ้วนสุดท้ายนางจึงวังหลังแต่เพียงผู้เดียว
มีคนจำนวนมากแอบด่าทอนางลับหลังว่าหน้าไม่อาย แต่นางไม่สนใจคำพูดเหล่านี้ นางเป็คนมาจากโลกอนาคต ชอบใครก็แสดงออกอย่างชัดเจนนางไม่อาจทำตัวชักช้าหรือลีลาได้เลยทว่าอาจเป็เพราะกงเช่อได้นางอย่างง่ายดายเกินไปชาติที่แล้วเขาจึงไม่เห็นคุณค่าของนางแต่กลับชอบสตรีงดงามแสดงกิริยาสำรวมอย่างซูเมี่ยวหลันแทน
สีหน้าของนางพลันเคร่งเครียด นางสรุปข้อผิดพลาดของตน เวลานี้กงเช่อพบว่าตัวเองหลุดปากกล่าวไม่ดีออกไปกงอี่โม่อยู่ในตำหนักเย็นั้แ่เด็ก ไม่มีใครช่วยอบรมสั่งสอนเขากล่าวว่านางไม่สงวนกิริยา นั่นก็หมายความว่าเขาบอกว่านางไม่ได้รับการอบรมใช่ไหม? เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของนางกงเช่อรู้สึกสงสารทันที เขาจึงรีบกล่าวแก้ไขสถานการณ์
“เ้าพูดกับข้าไม่เป็ไร เ้าเป็น้องสาวของข้า พูดกับข้าได้ แต่ห้ามพูดเช่นนี้กับคนนอก”
กงอี่โม่เงยหน้ามองเขากงเช่อส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว ทำให้สีหน้าของเขาอ่อนโยนตามไปด้วย
“ข้าเข้าใจแล้ว” กงอี่โม่รู้แก่ใจว่าเขากำลังปลอบนางเขาเป็คนนุ่มนวลละเอียดอ่อนเช่นนี้อยู่เสมอและคนประเภทนี้มักจะเป็ที่สนใจของสาวน้อยไร้เดียงสาที่ยังรู้จักโลกใบนี้ไม่มากนักกงอี่โม่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง
“เ้าเพิ่งหายจากอาการาเ็ ยานี้จะช่วยสร้างผิวและลบรอยแผลเป็เ้านำไปใช้เถิด” ท่าทางน่ารักเชื่อฟังของนางทำให้กงเช่อรู้สึกพอใจเขาหยิบอวี้หรงส่านที่เขาเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ให้กับนาง
กงอี่โม่ลูบขวดหยกเย็นในมือของตน นางจับขวดไว้แน่น ไม่มีทีท่าปฏิเสธเลยสักนิดในใจของนางเริ่มรู้สึกอ่อนไหว นางรู้ดีว่าอวี้หรงส่านมีค่าขนาดไหน อีกทั้งยังรู้อีกว่ากงเช่ออยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาทไม่ได้มีชีวิตราบรื่นมากนักแต่นางคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าการพบหน้ากันเพียงเท่านี้ เขาจะมอบของมีค่าให้กับนาง
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณท่านพี่รัชทายาทแล้ว” ขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้นนางจึงฉีกยิ้มกว้าง
ความตรงไปตรงมาและความจริงใจของเด็กน้อยทำให้กงเช่อรู้สึกสงสารยิ่งกว่าเดิมเขาคลำลำตัวของตน น่าเสียดาย นอกจากยาที่เขาเตรียมมาแล้ว เขาก็ไม่ได้พกสิ่งใดมาอีกมิฉะนั้นเขายังอยากมอบของบางอย่างให้กับนาง
เมื่อได้รับของเยี่ยมแล้วกงอี่โม่จึงวางตัวน่ารักน่าเอ็นดูเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีจากนั้นนางจึงเริ่มส่งแขก นางคิดว่ายังมีเวลาอีกหลายปีกว่าซูเมี่ยวหลันจะปรากฏตัวนางสามารถค่อยๆ วางแผนรับมือ ไม่จำเป็ต้องรีบร้อนในตอนนี้ กงอี่โม่มองเื้ัของกงเช่อนางคลี่ยิ้มหวานพร้อมคิดไปพลาง
ตอนค่ำพอกงเจวี๋ยกลับมา เขาจึงรีบถามถึงเื่ของกงเช่อกงอี่โม่ยังรู้สึกงุนงงว่าเ้าหนูรู้ข่าวรวดเร็วเสียจริง
“เ้าหมายถึงท่านพี่รัชทายาทหรือ
?
เขานำยามาให้ข้านิสัยดีทีเดียว
”
กงอี่โม่ยิ้มจนตาหยีพร้อมหยิบขวดยาออกมา
“าแของเสด็จพี่ใช้ยาที่ดีที่สุดจากเสด็จพ่อมานานแล้ว หลังจากตกสะเก็ดแล้วไม่มีทางมีแผลเป็ใดๆอย่างแน่นอน” คำชมของกงอี่โม่ทำให้กงเจวี๋ยไม่พอใจมาก แต่ก่อนเสด็จพี่จะชมเขาเพียงคนเดียวยิ่งไปกว่านั้นเสด็จพี่ยังไม่เคยเรียกใครอย่างสนิทสนมเช่นนี้มาก่อนกงเจวี๋ยจ้องขวดยาด้วยสายตาเ็า
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้สตรีในวังหลังเ่าั้รู้สึกริษยาจนแทบคลั่งที่สุดแต่ละปีอวี้หรงส่านจะถูกทำขึ้นมาเพียงสามขวด แม้ไม่ได้นำมาใช้รักษาาแขอแค่ทาลงไปบนิัก็สามารถทำให้ผิวพรรณผุดผ่องกระจ่างใส ทว่าอวี้หรงส่านสองขวดในมือของฮ่องเต้กลับถูกกงอี่โม่ใช้ไปแล้วความโปรดปรานเช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
กงอี่โม่ย่อมทราบเป็อย่างดี นางดึงกงเจวี๋ยเข้าไปในห้องในขณะเดียวกันก็กล่าวขึ้น “ข้ารู้อยู่แล้ว ดังนั้นข้าจึงให้เ้าเป็ผู้ใช้ยาขวดนี้ไงล่ะ”
เมื่อสิ้นเสียงของนางกงเจวี๋ยที่ตอนแรกแอบโมโหอยู่ในใจจึงตะลึงงัน เขาถูกกงอี่โม่ดึงตัวเข้าไปในห้องนอนเมื่อเขานั่งลงบนเตียงแล้วจึงค่อยได้สติกลับคืนมาที่แท้เสด็จพี่ก็ยังเป็เสด็จพี่คนเดิม นางยังคงคิดถึงเขามาตลอด
เวลานี้นางกำนัลในห้องนอนต่างถอยออกไปทั้งหมดแล้ว จึงเหลือพวกเขาเพียงสองคนพวกเขาไม่ได้อยู่กันตามลำพังเช่นนี้มานานกงเจวี๋ยรู้สึกคิดถึงบรรยากาศเช่นนี้อย่างยิ่ง
“เอาล่ะรีบถอดชุดออก ข้าจะทายาให้เ้า อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะ าแของเ้าไม่ได้ถูกรักษาอย่างดี ตอนนี้ยังไม่หายดีเลยด้วยซ้ำ ดูใบหน้าของเ้าสิ ขาวซีดมาก ข้าก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมจึงขุนเ้าให้อ้วนไม่ได้เสียที” กงอี่โม่ยืนตรงขอบเตียงนางก้มลงมองกงเจวี๋ยด้วยสายตาโมโห
มันช่างน่าโมโหจริงๆ เด็กน้อยตัวขาวอวบจึงจะแข็งแรงไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีแขนเป็ปล้องๆ เป็มัดๆ ย่อมน่ารักน่าเอ็นดูที่สุด
กงเจวี๋ยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หลังจากกงอี่โม่าเ็ในครั้งนี้แล้วราวกับมีบางอย่างในใจของเขาที่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ก่อนเขาอยากใกล้ชิดกงอี่โม่ให้มากยิ่งขึ้นทว่าตอนนี้เมื่อกงอี่โม่เข้าใกล้เขาแล้ว กลับรู้สึกตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูกหัวใจของเขาพลันเต้นรัว
“เสด็จพี่ เดี๋ยวข้ากลับไปแล้วค่อยให้คนอื่นช่วยทายาให้ข้านะ” ตอนนี้กงอี่โม่อยู่ใกล้เขามากเขาจึงถอยไปด้านหลังพร้อมกล่าวอย่างลำบากใจ
“ข้าไม่ไว้ใจคนในวังหลังทั้งนั้น เ้าต้องฟังข้านะ อย่าให้ต้องบังคับเ้าเลยถึงตอนนั้นย่อมไม่ดีแน่” กงอี่โม่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
แม้ว่าคิดจะบังคับกัน ทว่าตอนนี้นางอาจสู้กงเจวี๋ยไม่ได้แล้ว พวกเขาต่างมีวรยุทธ์สายลมและธรรมชาติขั้นสามกันทั้งคู่แต่นางเป็พี่ กงเจวี๋ยจึงต้องยอมลงให้นางต่อไป
เมื่อถอดชุดองค์ชายวางไว้ด้านข้างแล้วตอนนี้กงเจวี๋ยจึงอยู่ในชุดขนาดกลางสีขาว ดวงตาเ็า ปลายคิ้วเชิดขึ้นเขาเริ่มมีเค้าโครงความสง่างามรวมทั้งอำนาจบารมีในอนาคตแล้ว ทว่าตอนนี้เขาก้มศีรษะเมื่อหลับตา ขนตาจึงหลุบต่ำลง ใบหน้าด้านข้างงดงามเหมาะเจาะอย่างยิ่ง จนถึงขั้นหากมีบางสิ่งมากกว่านี้อีกสักนิดก็จะดูมากเกินไปหากน้อยกว่านี้อีกสักหน่อยก็จะดูน้อยเกินไปเช่นกัน
หลังจากมองความงามอย่างเต็มตาแล้ว กงอี่โม่จึงคลายชุดของกงเจวี๋ยต่อไปเพียงไม่นาน เขาที่หันหลังให้กงอี่โม่จึงเปลือยเปล่าทั้งแผ่นหลัง ผ้าพันแผลที่ซึมด้วยโลหิตยังคงพันอยู่รอบตัวมันทำลายความงามจนหมดสิ้น
สีหน้าของกงอี่โม่ค่อยๆ เคร่งเครียดมากยิ่งขึ้น นางตัดผ้าพันแผลออกอย่างช้าๆจากนั้นาแที่ยังไม่หายสนิทจึงปรากฏขึ้นในสายตาของนางประกายสงสารสะท้อนขึ้นอยู่ชั่วขณะ
เด็กคนนี้คือเด็กที่นางเลี้ยงจนโตมากับมือแต่กลับถูกคนอื่นทำร้ายเช่นนี้ เขายังเล็กนักไหล่บอบบาง ไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาฝ่าแต่ละด่านบุกเข้าเฝ้าฮ่องเต้จนสำเร็จได้อย่างไร แล้วเขาขอร้องฮ่องเต้ให้ช่วยนางได้อย่างไร
กงอี่โม่รู้อยู่แก่ใจ หากตอนนั้นเขามาช้าเกินไป เกรงว่าชีวิตในชาติที่สามที่นางได้มาไม่ง่ายนักคงจะจบลงในตำหนักเย็นเสียแล้ว
มือของกงอี่โม่เย็นเล็กน้อย ััเบาๆตรงบริเวณบ่ากลับทำให้เขารู้สึกคันยุบยิบ เขาหน้าแดงโดยไม่อาจควบคุมได้เลยเขารู้เป็อย่างดีว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเสด็จพี่แตกต่างจากที่เสด็จพี่รู้สึกต่อเขา
ไม่รู้เป็เพราะเหตุใด ในใจของเสด็จพี่นั้นเขาไม่ใช่น้องชายที่อายุน้อยกว่านางเพียงหนึ่งปี แต่เขาเหมือนเป็เด็กน้อยคนละวัยดังนั้น นางจึงไม่เคยใส่ใจการััผิวกายระหว่างกันเช่นนี้เลย
ทว่าเขารู้สึกใส่ใจในจุดนี้ ในใจของเขามีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ชัดเจน ซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจทว่าสิ่งที่เขารู้ก็คือ มันต้องเกี่ยวข้องกับเสด็จพี่อย่างแน่นอนเนื่องจากในโลกของเขาสิ่งสำคัญที่สุดก็คือนาง
ขณะที่ทายานั้น กงอี่โม่กลับไม่ยอมเอ่ยปากใดๆถือเป็ความแปลกประหลาดที่หาพบได้ยาก ดูเหมือนนางกำลังไม่พอใจอย่างยิ่งบางทีนางอาจรู้สึกโกรธแค้นคนที่ทำลายเขาเ่าั้หรือบางทีนางอาจกำลังโกรธตัวเองที่ไม่ได้ปกป้องเขาอย่างดีตรงจุดนี้มีโอกาสเป็ไปได้มากกว่า นางยู่ปากอย่างไม่พอใจเวลานี้นางจึงมีลักษณะน่ารักน่าชังเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง
“เสด็จพี่ วันนี้อาจารย์ชมข้าด้วย บอกว่าข้าตีโจทย์และตอบคำถามได้อย่างดี” กงเจวี๋ยแอบยิ้มอยู่เงียบๆ
“อ้อ” กงอี่โม่รู้สึกว่าสิ่งนี้คือเื่ปกติเด็กที่นางเลี้ยงมากับมือย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
เวลานี้เมื่อทายาบริเวณแผ่นหลังเรียบร้อยแล้วกงอี่โม่คิดจะทำอะไรอีก?
กลิ่นอายของนางพุ่งเข้าใกล้อย่างรวดเร็วขณะที่กงเจวี๋ยยังคงตั้งตัวไม่ติดนั้น ก็ถูกกลิ่นอายพันล้อมเป็ชั้นๆ เขากลั้นหายใจอย่างอดไม่ได้สายตาของเขาต้องรีบเคลื่อนหนีหันไปมองทางอื่น