ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมาในวันที่อากาศแจ่มใสที่สุด
เสียงอื้ออึงดังก้องอยู่ในหูจนอวิ๋นจื่อไม่ได้ยินสิ่งใด
นางไม่รู้จะพูดอะไร
นางทั้งหวาดกลัวและปวดใจราวกับ่เวลานี้จะไม่มีวันสิ้นสุดลง
หลังจากมาถึงหอจุ้ยฮวน อวิ๋นจื่อก็ได้พบจินเหนียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ด้วยความที่นางต้องใช้เวลาทั้งวันในหอคณิกาแห่งนี้และต้องรับมือกับผู้คนทุกประเภท นางจึงหลีกเลี่ยงเหตุไม่คาดฝันด้วยการไม่ค่อยออกจากห้อง พอได้เจอกันก็มักเป็่เวลาที่นางกำลังเร่งรีบจนไม่มีเวลาได้พูดคุย
เหตุใดถึงเป็เช่นนี้? เมื่อสองสามวันก่อนจินเหนียงยังสบายดีแท้ๆ เหตุใดวันนี้นางถึงได้จากไปอย่างกะทันหัน?
หงจินส่งเสียงเรียกนายหญิงของนางเบาๆ
ในที่สุดอวิ๋นจื่อก็ได้สติ นางพยายามสงบสติอารมณ์และกล้ำกลืนความเศร้าโศกในใจ จากนั้นนางก็เอ่ยถามว่า “นางตายได้อย่างไร?”
สาวใช้ชื่อไป๋เอ๋อเล่าด้วยน้ำเสียงแ่เบาว่านางได้รายงานเ้าหน้าที่แล้ว และจะแจ้งให้อวิ๋นจื่อทราบหากมีเบาะแสเพิ่มเติม
อวิ๋นจื่อโบกมือให้สาวใช้ตัวน้อยออกไปก่อน
จากนั้นนางก็หันมาสั่งหงจินว่า “หงจิน ไปที่โรงเตี๊ยมตรงข้ามแล้วสั่งขนมเหมยกุ้ย เป็ดกรอบ และเกี๊ยวผักให้ข้า”
หงจินตอบรับและจากไปทันที
เมื่อมู่ชิงซ่งมาถึง ขนมเหมยกุ้ยยังคงมีควันลอยกรุ่น
“เกิดอะไรขึ้น?”
มู่ชิงซ่งถามด้วยความใ
อวิ๋นจื่อหยิบขนมเหมยกุ้ยขึ้นมาชิ้นหนึ่งและกล่าวว่า “ขนมเหมยกุ้ยนี้รสชาติดีมาก คุณชายลองชิมสักคำ”
มู่ชิงซ่งหยิบขนมเหมยกุ้ยขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “บอกข้าสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”
อวิ๋นจื่อกระซิบ “จินเหนียงตายแล้ว”
มู่ชิงซ่งถามว่า “ใครเป็คนทำ?”
อวิ๋นจื่อส่ายหน้า
“ข้าจะลองสืบดู ไม่ต้องกังวล” มู่ชิงซ่งยืนขึ้น “ข้าเสียใจ ข้าผิดเองที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดี”
อวิ๋นจื่อพยักหน้า “คุณชาย ถ้าฟังจากคำพูดของซูเจิน ดูเหมือนเขาจะไถ่ตัวข้าให้เย่เช่อ”
มู่ชิงซ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าและกล่าวว่า “เช่นนั้น เหตุใดเ้าไม่ใช้โอกาสนี้ออกจากที่นี่ไปเสีย?”
“่นี้คุณชายเป็อย่างไรบ้าง?” อวิ๋นจื่อเปลี่ยนเื่ ดวงตาของนางฉายแววกังวลเล็กน้อย นางยังจำตอนที่ฮูหยินของเขาตามมาถึงที่นี่ได้เป็อย่างดี
“ฮูหยินของท่านเป็อย่างไรบ้าง?” นางกล่าวเสริม
ดวงตาของมู่ชิงซ่งหรี่ลง “ข้าและฮูหยินสบายดี แต่ดูเหมือน่นี้เ้าจะไม่ค่อยมีความสุขนัก ถ้าเ้าเป็แบบนี้ข้าจะอธิบายกับท่านประมุขอย่างไร?”
หญิงสาวก้มหน้าเงียบ นางแสร้งทำเป็ใจเย็นและกล่าวว่า “ท่านกลัวอะไร? นางไม่มาหาข้าด้วยซ้ำ คราวหน้าท่านส่งจดหมายมาให้ข้าก็ได้ ไม่จำเป็ต้องมาที่นี่ด้วยตนเอง”
มู่ชิงซ่งพยักหน้า “ตอนนี้ถึงเวลาที่เ้าต้องมีผู้คุ้มกันแล้ว ข้าพาพวกนางมาด้วย”
จากนั้นมู่ชิงซ่งก็ะโเบาๆ ว่า “เหยาหวง เว่ยจื่อ”
ทันใดนั้นหญิงสาวสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นในห้อง พวกนางคำนับมู่ชิงซ่งและอวิ๋นจื่อด้วยท่าทางนอบน้อม
อวิ๋นจื่อกล่าวว่า “ขอบคุณท่านมากคุณชายมู่ ว่าแต่อาเหิงเป็อย่างไรบ้าง?”
มู่ชิงซ่งพยักหน้าและกล่าวว่า “เขาสบายดี เ้าไม่จำเป็ต้องกังวล ต่อให้มีอันตรายเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต้องผ่านข้าไปก่อน!”
อวิ๋นจื่อพยักหน้า นางสะอื้นไห้และกล่าวด้วยความเศร้าโศก “ได้โปรดดูแลเขาด้วย ข้ารบกวนคุณชายมากจริงๆ ในฐานะพี่สาวข้าช่างไร้ประโยชน์เหลือเกิน”
มู่ชิงซ่งอยากกอดนางเหมือนที่เขา “สอน” นางตอนนางมาที่หอจุ้ยฮวนเป็ครั้งแรก
สำหรับหญิงสาวที่เปราะบางเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความปรารถนาในใจ แต่เนื่องจากนางกำลังตกอยู่ในความเศร้าโศก เขาจึงไม่้าที่จะทำร้ายนางไปมากกว่านี้
“อย่ากล่าวเช่นนั้น” มู่ชิงซ่งมองหน้านางอย่างรักใคร่ “ปี้เหยียน ขอเพียงเ้ายังมีชีวิตอยู่ ซูฮองเฮาที่อยู่บน์จะต้องมีความสุขมาก ส่วนเื่อื่นเ้าไม่จำเป็ต้องกังวล”
มู่ชิงซ่งหันหลังจากไปทันที
ขนมเหมยกุ้ย เป็ดกรอบ และเกี๊ยวผักร้อนๆ บนโต๊ะอาหารไม่ได้ถูกแตะต้องแม้แต่น้อย
อวิ๋นจื่อรู้สึกว่าหัวใจของนางเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง
นางคีบเกี๊ยวผักเข้าปากและเคี้ยวอย่างแรง น้ำตาค่อยๆ ไหลอาบแก้ม เมื่อลิ้นได้ััความเค็มของน้ำตานางก็ยิ่งเศร้าโศกกว่าเดิม
จินเหนียงตายแล้ว!
อวิ๋นจื่อไม่สามารถยอมรับเื่นี้ได้
จินเหนียงจะตายได้อย่างไร?
‘เสด็จแม่จากไป แต่นางยังอยู่กับข้า เสด็จพ่อจากไป แต่นางก็ยังอยู่กับข้า แม้ว่าครอบครัวของข้าจะพังพินาศ แต่ข้าก็ยังมีจินเหนียง’
แต่วันนี้จินเหนียงจากไปแล้ว
เป็ไปได้อย่างไร?
หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล นางต้องกลับไปที่เมืองอวิ๋นเมิ่ง!
‘จินเหนียง เหตุใดเ้าถึงจากข้าไป?’
์ นี่ต้องเป็แค่ฝันร้ายแน่ๆ
หากเื่นี้เป็เพียงความฝัน เหตุใดน้ำตาของนางจึงไหลไม่หยุด?
ขนมเหมยกุ้ยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา
หงจินที่กลับเข้ามาในห้องใเป็อย่างมาก “คุณหนู ระวังด้วยเ้าค่ะ”
อวิ๋นจื่อหยิบผ้าออกมาซับน้ำตาโดยไม่สนใจว่ามันจะยิ่งทำให้ใบหน้าของนางเปรอะเปื้อน ดวงตาของนางแดงก่ำในขณะที่กล่าวว่า “หงจิน เอาของพวกนี้ออกไปให้หมด หาน้ำให้ข้าล้างหน้าด้วย”
หงจินตอบรับและนำอาหารออกไปอย่างรวดเร็ว นางสั่งให้สาวใช้ตัวน้อยไปเอาน้ำข้างนอก จากนั้นนางก็กลับมาหาอวิ๋นจื่อและปลอบโยนคุณหนูของนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“คุณหนูอย่าเสียใจไปเลยเ้าค่ะ สิ่งที่คุณหนูตั้งตารอกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว”
คำกล่าวของหงจินเหมือนเป็การกระตุ้นเตือนความทรงจำของอวิ๋นจื่อ ทำให้นางฟื้นจากความเศร้าโศกอีกครั้ง
ถูกต้องแล้ว นางต้องทำเพื่อคนที่จากไป นางต้องทำลายศัตรู นางจะปล่อยให้พวกมันเสวยสุขได้อย่างไร?
สาวใช้ตัวน้อยกุลีกุจอนำอ่างน้ำเข้ามา หงจินบิดผ้าเช็ดหน้าอย่างระมัดระวังและเช็ดหน้าของอวิ๋นจื่อเบาๆ
อวิ๋นจื่อนั่งนิ่งราวกับว่านางกลายเป็รูปปั้นไปแล้ว
โชคดีที่น้ำตาหยุดไหลในที่สุด
ทันใดนั้นด้านนอกก็มีลมกรรโชกแรง
หงจินรีบวิ่งไปปิดหน้าต่างแล้วกล่าวเบาๆ “ดูเหมือนฝนกำลังจะตก อากาศเริ่มเย็นแล้ว คุณหนูอยากได้เสื้อคลุมเพิ่มหรือไม่เ้าคะ?”
อวิ๋นจื่อพยักหน้าและปล่อยให้หงจินผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง
หลังจากนั้นไม่นานฝนเม็ดใหญ่ก็เริ่มโปรยปรายลงมา ไม่นานฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นในความว่างเปล่าอันไกลโพ้น ก็มีลำแสงสีขาวส่องประกายระยิบระยับ
ฟ้าแลบ!
ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้อง
หงจินใเล็กน้อย
แต่อวิ๋นจื่อกลับมีสีหน้าเรียบเฉย นางคล้ายกับล่องลอยออกจากโลกแห่งความเป็จริงไปแล้ว
หงจินไม่กล้าพูดอะไร นางเพียงยืนมองอวิ๋นจื่ออยู่ห่างๆ
หลังจากฟ้าร้องดังกึกก้อง ฝนก็ตกหนักขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง
“หงจิน ข้าอยากพักแล้ว” อวิ๋นจื่อกล่าวด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้