จ้าวซีเหอผลักฉู่เมิ่งเอ๋อร์จนล้ม ยืนตัวโอนไปเอนมาอยู่เช่นนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเซตรงไปที่โต๊ะซึ่งตั้งอยู่ด้านข้าง เขายกกาสุราที่ทำจากกระเบื้องเคลือบชั้นดีขึ้นมา แล้วกรอกสุราลงคอจนหมด
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนได้ก็เข้าไปแย่งกาสุรามาจากจ้าวซีเหอ จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ที่เขาไม่สามารถจะมองเห็นได้ ก่อนจะปลอบโยนด้วยคำพูดและน้ำเสียงหวานหู “ซื่อจื่อ แม้สุรานี้จะรสชาติดี แต่จะโลภมากดื่มหมดเช่นนี้ไม่ได้นะเ้าคะ”
ครั้นจ้าวซีเหอได้ฟังคำที่ฉู่เมิ่งเอ๋อร์มากระซิบข้างหูก็ยิ้มอย่างขมขื่น เขาเอ่ยด้วยเสียงอันดัง “ชักดาบสะบั้นน้ำ น้ำยิ่งไหล ใช้เหล้าดับทุกข์ ทุกข์ยิ่งหนัก ถึงกระนั้นข้าก็ยังอยากจะใช้สุราดับทุกข์อยู่ดี!”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์กอดจ้าวซีเหอเอาไว้ด้วยใจที่เ็ปยิ่ง เอ่ยออกมาอย่างเป็ห่วง “ซื่อจื่อ ท่านยังมีเมิ่งเอ๋อร์อยู่มิใช่หรือเ้าคะ เหตุใดถึงยังต้องดื่มสุราเพื่อดับทุกข์อีกเ้าคะ”
จ้าวซีเหอยิ้มมองฉู่เมิ่งเอ๋อร์ ตาแทบจะลืมไม่ขึ้นอยู่รอมร่อ “เมิ่งเอ๋อร์ เป็เ้าที่เข้าใจข้ามากที่สุด ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไถ่ตัวเ้าออกมาแทนเ้าเอง!”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ได้ฟังก็นึกยินดีเป็อย่างยิ่ง แม้จ้าวซีเหอเคยกล่าวไว้นานแล้วว่าจะไถ่ตัวนางออกไป ทว่านางไม่เคยคิดเป็จริงเป็จังเลยสักครั้ง ทว่าครั้งนี้นางจะฉวยโอกาสตอนเขาเมาทำให้เขาลุ่มหลงนางให้ได้
นางมองจ้าวซีเหอที่เดินโซเซไปทรุดนั่งิ่เหม่ริมเตียง นางก้าวเดินเข้าไปหาเขาอย่างเชื่องช้า ยกยิ้มหวานพลางเอ่ยว่า “ซื่อจื่อ ท่านพูดจริงหรือเ้าคะ!”
“ข้าไม่โกหกแน่นอน บุรุษพูดคำไหนคำนั้น แม้แต่ม้าก็ยังไล่ตามไม่ทัน!” จ้าวซีเหอยิ้มมองฉู่เมิ่งเอ๋อร์ด้วยท่าทางสะลึมสะลือ
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ได้ฟังรีบใช้แรงที่มีทั้งหมดพยุงจ้าวซีเหอให้นอนลงบนเตียง นางถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก จากนั้นขึ้นไปแนบตัวกับเขาพร้อมทั้งกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงยั่วยวน “เช่นนั้นวันนี้ให้ข้าปรนนิบัติท่านนะเ้าคะ”
จ้าวซีเหอไหนเลยจะมีสติ ทันทีที่ขึ้นนอนบนเตียงก็หลับไป ทำให้ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ได้แต่สลด
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ถอดเสื้อผ้าของจ้าวซีเหอและของตัวเองออกจนหมด จากนั้นขึ้นไปนอนหนุนแขนเขา
นางไม่กล้าหลับ ด้วยกลัวว่าตกดึกจ้าวซีเหอจะเป็อันใดไป นางทำเป็หลับตา นอนฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงเป็จังหวะสม่ำเสมอของเขา
รับรู้ได้ว่าจ้าวซีเหอพลิกตัวหลายรอบ นางลืมตา เรียกเขาเสียงเบา “ซื่อจื่อ ยังหลับอยู่หรือเปล่าเ้าคะ”
ครั้นพบว่าจ้าวซีเหอนิ่งเงียบหลับไปอีกครา นางก้มมองสำรวจใบหน้าของเขา คิ้วโก่ง แววตาดอกท้อเปี่ยมเสน่ห์ที่หลับตาพริ้ม ขนตางอนยาวจนเกิดเป็เงาบนแก้ม จมูกโด่งสูง และริมฝีปากบางเฉียบ ทำให้อดไม่ได้ที่ประทับริมฝีปากลงไป
นางใช้มือลูบริมปากเขาอย่างแ่เบา จ้าวซีเหอพลันขมวดคิ้ว ปากขยับขึ้นลง ราวกับจะพูดบางอย่างออกมา
นางเงี่ยหูเข้าไปใกล้เพื่อฟังว่าจ้าวซีเหอพูดคำใด ประโยคอื่นนางไม่ได้ยิน ได้ยินแค่สามคำคือคำว่า “หนิงมู่ฉือ” เท่านั้น
นางขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกปวดร้าว ชื่อหนิงมู่ฉือที่จ้าวซีเหอเอ่ยถึงคงหมายถึงแม่ครัวผู้นั้น
ความรู้สึกที่นางมีต่อจ้าวซีเหอคือความรู้สึกที่แท้จริง เพียงแต่ด้วยฐานะของนางจึงไม่กล้าฝันสูง ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวที่นางคิดว่า จ้าวซีเหอคือสามีของนาง ทว่าสำหรับคนอย่างนาง สิ่งเหล่านี้เป็ได้แค่ความฝันที่ไม่มีวันเป็จริง
ขณะที่นางกำลังคิดอย่างเหม่อลอยอยู่นั้น จ้าวซีเหอยื่นมือมาโอบเอว ดึงนางลงไปกดลงกับเตียง แล้วประทับริมฝีปากลงมา มือเขาที่จับตัวนางรุนแรงเสียจนผิวของนางปรากฏรอยแดงช้ำ
นางมองการกระทำอันป่าเถื่อนของเขา ขณะที่ในใจรู้สึกหวาดกลัว นางพยายามใช้มือจับแขนของเขาเอาไว้ “ซื่อจื่อ ท่านเมามากแล้ว นอนเถิดเ้าค่ะ”
ตัวของจ้าวซีเหอเต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนา ไหนเลยจะฟังที่ฉู่เมิ่งเอ๋อร์พูด หากแต่ด้วยความที่เมามากเกินไปจึงไม่ได้ทำอันใดต่อ เพียงพลิกตัวลงไปนอนบนเตียงอีกฝั่ง เอามือกอดเอวฉู่เมิ่งเอ๋อร์เอาไว้แน่นพร้อมกับกระซิบที่ข้างหู “เ้าเคยบอกว่าไม่อยากให้ข้าทำเ้าชู้ไก่แจ้ใส่เ้า ก็ได้ ข้าจะยอมฟังเ้าสักครั้ง แต่ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อยเ้าไปง่ายๆ เช่นนี้แน่”
แล้วลมหายใจของจ้าวซีเหอก็สม่ำเสมอ นอนกอดฉู่เมิ่งเอ๋อร์หลับไป ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ใช้มือเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมลงตามหน้าผากให้จ้าวซีเหออย่างปวดร้าว นางหลับตาด้วยความเ็ปในหัวใจสุดแสน ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของจ้าวซีเหอแล้วหลับไป
ทั้งสองตื่นในเช้าวันถัดมาตอนพระอาทิตย์ขึ้น จ้าวซีเหอนวดขมับที่ปวดตุบ เมื่อลืมตาก็พบกับฉู่เมิ่งเอ๋อร์ซึ่งกำลังนอนยิ้มร่างกายเปลือยเปล่าอยู่ด้านข้าง
เขารีบเอาตัวออกห่างจากฉู่เมิ่งเอ๋อร์โดยพลัน ยิ้มแหยพลางเอ่ย “เมื่อคืนข้าล่วงเกินเ้าแล้ว”
สีหน้าฉู่เมิ่งเอ๋อร์เปลี่ยนไปทันที ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า “ซื่อจื่อพูดเื่อันใดเ้าคะ นี่คือ…หน้าที่ของเมิ่งเอ๋อร์อยู่แล้ว” นางกล่าวด้วยแววตาหม่นแสง
จ้าวซีเหอก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน จู่ๆ เขารู้สึกสงสารฉู่เมิ่งเอ๋อร์ขึ้นมา เขาหยิบเสื้อคลุมตัวนอกมาคลุมกายให้นาง ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “อากาศเย็นแล้ว สวมเสื้อคลุมเสีย เ้าหนาวไปเดี๋ยวจะแย่”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนักที่จ้าวซีเหอหยิบเสื้อคลุมมาคลุมให้ นางจึงส่งยิ้มไปให้ “ซื่อจื่อจำได้หรือไม่เ้าคะว่าเมื่อคืนพูดอันใดกับข้า” เขาต้องจำไม่ได้แน่นอน คำพูดของคนเมาไหนเลยจะนับเป็จริงเป็จังได้
กลับคาดไม่ถึงว่าจ้าวซีเหอจะยิ้มพร้อมกับมองนาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าย่อมจำได้แน่นอน ข้าบอกว่าจะไถ่ตัวเ้าออกไป เพื่อให้เ้าได้มีอิสระ”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างอ่อนโยนจากจ้าวซีเหอเช่นนี้มาก่อน ครั้นได้ยินว่าจ้าวซีเหอจะให้อิสรภาพแก่นาง แววตานางแปรเปลี่ยนเป็เศร้าสลด คุกเข่าลงตรงหน้าเขาพร้อมกับเอ่ย “ข้ายินยอมรับใช้ท่านไปตลอดชีวิต หากท่านไถ่ตัวข้าแล้ว อย่าไล่ข้าไปได้หรือไม่เ้าคะ”
จ้าวซีเหอคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าฉู่เมิ่งเอ๋อร์ต้องพูดเช่นนี้ เขาพลันถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ที่น้ำตานองหน้ามองจ้าวซีเหอนิ่ง จับแขนเสื้อเขาเอาไว้พร้อมกับแกว่งไปมาอย่างขอร้อง”ซื่อจื่อ ท่านก็รู้ว่าผู้หญิงเช่นข้า หากออกจากที่นี่ไปแล้วก็ไม่มีที่ใดให้ไปได้อีก เมิ่งเอ๋อร์ไม่้าสิ่งใดมาก ขอแค่ได้อยู่กับท่านก็พอเ้าค่ะ”
จ้าวซีเหอพยุงฉู่เมิ่งเอ๋อร์ให้ลุกขึ้นพลางเอ่ยอย่างสงสารว่า “ก็ได้ ข้าจะให้เ้าอยู่กับข้าก็ได้”