เมื่อของขวัญตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเธอที่ดีขึ้นหายจากไข้ มองเห็นสภาพร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเองก็ทุบพรดาราเข้าอย่างแรง แล้วพูดว่า
“ขนาดฉันไม่สบายคุณดารายังร่วมรักกับฉันอีกหราคะ ใจร้ายจัง”
พรดาราที่โดนสาวน้อยของเธอทุบหลังเข้าอย่างแรงก็ตื่นขึ้นมา และบอกว่า
“ก็เมื่อคืนเธอเองนะ ที่โน้มฉันลงมากอด ฉันก็เลยสนองให้ก็เท่านั้น ก็เธอมันน่ากินขนาดนี้”
พรดาราพูดหน้าตาเฉยไม่ปฏิเสธอะไรเลย ว่าเมื่อคืนแค่กอดเธอเอาไว้เท่านั้น ทำให้ของขวัญไม่รู้ว่าจะเขินดีหรือจะโกรธดีที่ไม่ยอมปล่อยให้ร่างกายของเธอได้พักเลย
“คุณจะเอาให้คุ้มเลยใช่มั้ยคะ กับเงินที่เสียไปเพื่อเอาฉันมานอนด้วย”
“ยังคิดแบบนั้นอยู่อีกหรานี่ รู้อย่างงี้เมื่อคืนปล้ำเธอทั้งๆ ที่ยังไข้ก็ดีหรอก”
“หือ อะไรนะ สรุปเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรกันงั้นหราคะ” ของขวัญถามแบบไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยินจากปากอีกฝ่าย
“ใครจะไปรังแกคนป่วยได้ลงละ ลองดูร่างกายตัวเองให้ดีสิคะ ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือป่าว”
ของขวัญก็ซื่อเหลือเกิน หลอนทำตามที่เธอบอก ก็ไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ ด้วย ทำให้อายจนหน้าแดง หลบสายตาของเธอทันที
“ทำไม อายเหรอ หรือ เสียดายที่เราไม่ได้มีอะไรกันเมื่อคืน”
“คนบ้า ใครจะไปเสียดายกัน แล้วไม่ได้อายด้วยค่ะ”
พรดาราจับของขวัญให้หันหน้ากลับมาสบตากันยิ่งทำให้ของขวัญหน้าแดงไปกันใหญ่หลบสายตาที่มีแต่ความปรารถนาทำให้เธอยิ่งอาย
“อายอยู่จริงๆ ด้วย น่ารักจัง”
เธอจูบลงไปที่ริมฝีปากน้องเบาๆ ก่อนที่จะเล้าโลมและกระซิบขอว่า
“พี่ขอนะคะ หายดีแล้วใช่มั้ย เมื่อคืนรู้มั้ย พี่ต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหน ที่จะไม่มีอะไรกับเธอ แต่ตอนนี้เธอน่ารักเหลือเกิน ที่ทนไม่ไหวแล้ว พี่ขอ ให้พี่นะคะ”
ไม่ทันที่ของขวัญจะอนุญาตก็โดนเธอจับรีดน้ำถึง 4 รอบ ทำเอาหล่อนแทบอยากจะทุบเธอให้ตายคามือ พอเธอปล่อยหล่อนเป็อิสระ ของขวัญก็ปราม
“เบาหน่อยเถอะคะ ถ้ายังทำแบบนี้บ่อยๆ ขวัญคงได้เป็ไข้ทุกวันแน่ ถึงคุณจะไม่ได้รักขวัญก็ขอให้เมตตากันบ้างนะคะ”
“โถ่ ทำไมคิดแบบนั้นละของขวัญ พี่ทำไปเพราะที่ชอบเธอจริงๆ นะ อาทิตย์หน้าเราก็จะแต่งงานกันแล้วนะคะ ยังไม่เชื่ออีกหรือว่าชอบเธอจริงๆ ถึงได้ทำลงไปแบบนี้”
“คะ แต่งงาน ขวัญเคยบอกแล้ว ขวัญไม่มีวันแต่งงานกับคุณ ขวัญไม่ได้รักคุณ ที่ยอมอยู่ด้วยเพราะสัญญาซื้อขาย 50 ล้านต่างหาก เมื่อคุณพอใจและเบื่อขวัญเมื่อไหร เราก็ต่างคนต่างไป”
“เธอคงอ่านไม่จบสินะ ในสัญญาเธอต้องแต่งงานกับฉัน และจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็ภรรยาตามกฎหมายของฉันเพียงคนเดียว”
“คะ คุณหลอกขวัญเล่นใช่มั้ย นี่มันผูกมัดกันชัดๆ เลย”
“ใช่คะ ฉันจะผูกมัดเธอให้เป็ของฉันคนเดียวชั่วชีวิต”
“ใจร้ายที่สุดเลย ทำไมถึงเป็คนใจร้ายขนาดนี้ได้ละคะ”
ของขวัญร้องไห้ หันหลังให้เธอ เธอกอดน้องจากข้างหลังแล้วบอกว่า
“สักวันเธอจะเข้าใจนะของขวัญว่าทั้งหมดที่ฉันทำไปเพราะอะไร ตอนนี้ฉันยังบอกอะไรเธอได้ไม่มาก แต่เชื่อใจนะ ฉันจะมีเธอคนเดียวนับั้แ่วินาทีนี้ พรดาราจะเป็คนของ ของขวัญเพียงคนเดียว เธอจะมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวของฉัน รวมถึงทุกอย่างที่เป็ของฉัน ก็จะเป็ของเธอ”
“ปล่อยคะ ขวัญจะไปอาบน้ำ คุณอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะคะ สัญญาถูกเขียนขึ้นมาแบบนั้นแล้วนี่ ขวัญจะทำอะไรได้ ขวัญแค่ไม่อยากเห็นแม่ต้องมาเสียใจถ้ารู้ว่าพ่อขายขวัญให้กับคุณ ขวัญแค่อยากจะขอร้องคุณดาราเื่นี้ อย่าบอกแม่ว่าคุณซื้อขวัญมา”
“ได้ฉันสัญญาว่าจะไม่พูดเื่นี้กับคุณแม่ของเธอ คุณแม่ของเธอก็เป็คุณแม่ของฉันด้วย ฉันจะดูแลท่านอย่างดีไม่ต้องกังวลไปนะ”
ของขวัญลุกขึ้นไปอาบน้ำ เธอก็คิดว่า
**นี่ฉันต้องทนใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่ได้รักได้จริงๆ หรือ แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะจำนวนเงินมันมากเกินกว่าจะใช้คืนได้หมดภายใน 3 เดือน เป็สัญญาที่ช่างเอาเปรียบกันจริงๆ ไม่เหลือทางเลือกให้กันเลย คงได้แต่ทนเป็เมียของคนที่ไม่ได้รักต่อไป รอจนเขาเบื่อและหย่าขาดกันไปเอง**
ของขวัญยังคงมีเสียงสะอื้นอยู่ภายในห้องน้ำ พรดาราก็คิดว่า
**ปล่อยให้เธอคิดว่าพี่กำลังเอาเปรียบไปก่อนนะเด็กน้อย ดีกว่าให้เธอรู้ความจริงๆ แล้วพ่อของเธอไม่ได้ขายเธอให้กับพี่ แต่พี่ต่างหากที่โดนพ่อของเธอโกง และไม่อยากฟ้องร้องพ่อของเธอให้ต้องล้มละลาย พี่กำลังทำเพื่อครอบครัวของเธอนะของขวัญ ทุกอย่างที่ทำไปเพราะพี่รักเธออยากปกป้องเธอ อย่างน้อยด้วยฐานะและหน้าตาทางสังคมของพ่อเธอ ก็ทำให้เธอเหมาะสมกับพี่อยู่ และเมื่อเธอแต่งงานกับพี่เธอก็จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็สะใภ้ของกีรติวัฒนากูล อย่าพึ่งเกลียดฉันไปมากกว่านี้เลย**
เมื่อพรดารากับของขวัญแต่งตัวเสร็จก็พากันลงมาหาพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ของขวัญยกมือไหว้พ่อกับแม่ พรดาราก็แนะนำ
“คุณพ่อ คุณแม่ นี่ของขวัญ ว่าที่เ้าสาวของลูก / ของขวัญนี่คุณพ่อ คุณแม่ของฉัน”
“สวัสดีคะ คุณอาทั้งสอง” พ่อกับแม่รับไหว้จากว่าที่ลูกสะใภ้และบอกว่า
“ไม่ใช่คุณอาสิคะ หนูขวัญต้องเรียกเราตามพี่ดารานะลูก หนูขวัญกำลังจะเป็ลูกสะใภ้บ้านนี้แล้ว ไม่ควรเรียกเราว่าคุณอาอีกนะคะ”
“คะ คุณพ่อ คุณแม่” สถานะที่เธอถูกยัดเยียดให้เธอไม่ได้เต็มใจรับมันเลยแต่เธอก็ไม่อยากขัดใจผู้ใหญ่จึงทำตาม
“เดียววันนี้ พ่อกับแม่จะไปสู่ขอหนูขวัญจากคุณพ่อและคุณแม่ของหนูนะลูก ไม่ต้องกังวลนะ เราจะรับผิดชอบหนูทุกอย่าง” ของขวัญที่กำลังทำหน้าเศร้าและน้ำตาเริ่มคลอเบ้า แต่เธอพยายามกลั้นเอาไว้ยิ้มรับอย่างฝืนๆ
“คะ คุณพ่อ คุณแม่ ขอบพระคุณที่กรุณาขวัญ”
“ไม่เป็ไรลูก แค่หนูขวัญลองเปิดใจนับั้แ่วินาทีนี้ ค่อยๆ เรียนรู้ดูใจพี่ดาราดูนะคะ หนูขวัญจะได้เห็นอะไรอีกมากมาย ในด้านที่ดีๆ ของลูกสาวแม่ อย่าพึ่งปิดกั้นใจตัวเองนะลูก แม่เข้าใจหนูขวัญนะ แม่รู้ว่าลูกสาวของแม่ผิด แต่ให้โอกาสลูกของแม่หน่อยนะ”
แม่ลุกขึ้นมากอดของขวัญไว้เพราะรู้ว่าเธอกำลังจะร้องไห้ ของขวัญถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหวร้องไห้ออกมา กอดแม่ไว้แน่นด้วยความแค้นใจที่ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ยอมรับ พรดาราก็มองด้วยความเสียใจ แต่ก็พร้อมจะพิสุทธิ์ตัวเองให้ของขวัญเห็นว่าที่ทำไปเพียงเพราะรักและอยากปกป้องเธอ
เมื่อคุยกันเสร็จก็พากันไปบ้านของขวัญเพื่อสู่ขอของขวัญอย่างเป็ทางการ แม่ของขวัญก็ใไม่น้อย เพราะของขวัญไม่เคยพูดอะไรถึงเื่พวกนี้ให้แม่ได้รับรู้มาก่อนเลย และแม่ก็เห็นสีหน้าแววตาของลูกสาวที่เศร้าหมองก็พอจะเดาได้ว่าลูกของเธอคงโดนล่วงเกินถึงต้องแต่งงานด่วนแบบนี้ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายออกมารับผิดชอบเื่ทั้งหมดแม่ก็ไม่ขัดข้องอะไรเพราะถึงยังไง ลูกสาวก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ถ้าลูกสาวของเธอปฏิเสธสักคำเธอจะไม่มีทางยกให้ เพราะแม่ของเธอเลี้ยงลูกสาวมาอย่างดีเพื่อให้เจอชีวิตที่ดีๆ แต่แม่ของเธอเมื่อมองตาว่าที่ลูกเขยก็รู้ได้ว่ามีใจให้กับลูกสาว คงไม่ทิ้งขว้างหรือทำให้เสียใจ แค่นี้ก็โล่งใจขึ้นมาก พ่อกับแม่ของพรดารา วางเงินค่าสินสอด 100 ล้าน กับ เครื่องเพชรชุดใหญ่ให้อีก 5 ชุด และทองคำแท่งอีก 50 แท่งที่มีน้ำหนักแท่งละ 762 กรัม หรือ 50 บาท ซึ่งเป็ค่าสินสอดที่สูงมาก ที่พ่อกับแม่ของพรดารานำมาสู่ขอลูกสะใภ้ และบอกว่าของเหล่านี้เป็ของที่พรดาราเตรียมไว้ให้ของขวัญนำมาสู่ขอของขวัญ ทำให้ของขวัญมองตาเธอ อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงให้ค่าสินสอดมากมายขนาดนี้ด้วย เท่ากับทำให้พ่อกับแม่อยู่ได้สบายไปตลอดชีวิตเลย ของขวัญลุกขึ้นจากที่นั่งของตนไปหาว่าที่สามีแล้วกราบเธอลงบนหน้าอก ของขวัญขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักกอดรอบคอของเธอและกระซิบถามต่อหน้าผู้ใหญ่ทุกคนว่า
“ขอบคุณคะ ทำไมต้องให้มากขนาดนี่ด้วย แต่เงิน 50 ล้านที่พ่อเอาไปก็มากพอแล้ว”
คำว่าเงิน 50 ล้านทำให้แม่หันกลับไปมองสามีตนเองแต่ไม่พูดอะไร พรดารากอดเธอไว้แล้วบอกว่า
“ก็น้องเป็ผู้หญิงของพี่ พี่มาสู่ขอเธอจากพ่อแม่ ก็ต้องนำสินสอดมาให้สมหน้าสมตาของเธอสิคะ พี่รู้ว่าเธอรักครอบครัวมากแค่ไหน เงินแค่นี้เอง ถือว่าให้ค่าเลี้ยงดูเธอมาอย่างดี จนเธอได้มาเป็ของพี่ไง เด็กดื้อ”
“ขอบคุณนะ” ของขวัญเริ่มจะรู้สึกดีกับพรดาราขึ้นมาไม่น้อย แต่เธอก็ยังคงไม่กล้าเปิดใจรักคุณดาราของเธอ แต่ก็ไม่ได้มองว่าเป็คนเลวร้ายอะไรมาก ทั้งการแสดงออกทางกาย และการกระทำหลายๆ อย่าง ถึงจะแค่ไม่กี่ชั่วโมง เธอก็พอจะดูออก แค่ไม่เชื่อใจในความเ้าชู้ของพรดารา แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์ไปห้าม
“พี่เคยบอกเธอแล้วไงว่า ของๆ พี่ทุกอย่างก็คือของเธอ ลืมแล้วหรือ ว่าแต่ลงไปนั่งบนโซฟาก่อนดีมั้ยคะ เดียวพี่อดใจไม่ไหวเธอจะได้อาย คุณพ่อคุณแม่ของพวกเราเอานะคะ หรืออยากให้พี่จูบเธอต่อหน้าพวกท่าน”
ของขวัญพึ่งคิดขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่กันตามลำพังก็รีบลุกออกจากตักพรดารา มานั่งลงข้างๆแทนและก้มหน้าลงด้วยความเขินอายจนหน้าแดง พรดาราก็ยังไม่วายจะไปแกล้งน้องกระซิบเบาๆ
“อายอยู่หราคะ น่ารักจัง พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ป่าวนี้คะ” หล่อนยิ่งก้มหน้าหลบตาเธอเข้าไปใหญ่ ทำให้เธอยิ้มในความหน้ารักของน้อง และหันกลับมาคุยกันต่อเื่งานแต่ง แต่พรดาราก็กุมมือของขวัญขึ้นมาวางลงบนหน้าขาของตัวเองไม่ปล่อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้