รอยยิ้มบนใบหน้าของอวี๋จิ่นซูเลือนหายไปในพริบตาเขาหันกลับไปมองสตรีแซ่จ้าว สตรีแซ่จ้าวรีบก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
อวี๋จิ่นซูถามเสียงต่ำ "คนสกุลหลิวมาถอนหมั้นหรือขอรับ? ทำไมอยู่ดีๆ ถึงถอนหมั้นเสียแล้ว..."
อวี๋จิ่นซูเคยพบกับแม่นางสกุลหลิวมาก่อนหน้าตาสะอาดสะอ้านน่าเอ็นดู กิริยาท่าทางเพียบพร้อมสง่างามเพราะร่ำเรียนสี่คัมภีร์[1] กับจวี่เหรินแซ่หลิวผู้เป็บิดาของนางมาั้แ่เด็กมีบุคลิกเช่นบุตรสาวสกุลใหญ่มิใช่ผู้ที่หญิงสาวหยาบกระด้างในหมู่บ้านกันดารจะสามารถเทียบเคียงได้อวี๋จิ่นซูรู้สึกพอใจในการหมั้นหมายนี้อย่างมาก
สตรีแซ่อวี๋โจวถอนหายใจ ขณะที่กำลังคิดหาคำพูดมาปลอบใจอวี๋จิ่นซูสตรีแซ่จ้าวกลับอดกลั้นไม่ไหวเสียแล้ว"คือสตรีแซ่หลิวจางผู้เป็มารดาของนางที่มาขอถอนหมั้นด้วยตนเองจวี่เหรินแซ่หลิวพึงพอใจซิ่วไฉผู้หนึ่งที่มีรายชื่อติดประกาศผ่านการสอบขุนนางขั้นต้นในปีนี้เมื่อหลายวันก่อนข้าสอบถามจากคนอื่นแม่นางสกุลหลิวได้หารืองานหมั้นหมายกับซิ่วไฉผู้นั้นแล้ว"
"ซิ่วไฉอะไรกัน? ข้าไม่เห็นด้วยกับการถอนหมั้น!" อวี๋จิ่นซูลุกขึ้นยืนทันใดมือที่วางอยู่ข้างกายกำหมัดแน่น เส้นเืบนหลังมือปูดโปน ใบหน้าดำทะมึน
"จิ่นซู เ้าใจเย็นก่อน ตระกูลหลิวตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะถอนหมั้นไม่ทิ้งช่องว่างอะไรให้พวกเราแม้แต่นิด เอะอะโวยวายจนผู้คนในหมู่บ้านรู้กันจนทั่วใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของแม่นางสกุลหลิวถูกเอากลับไปการหมั้นหมายครั้งนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว เ้าต้องตั้งใจเรียนให้ดี หลังจากนี้พวกเราค่อยหาการหมั้นหมายอันดีเป็พอ"สตรีแซ่อวี๋โจวเอ่ยปลอบ
สีหน้าของอวี๋จิ่นซูยังคงไม่น่ามอง เขาเป็คนห่วงหน้าตามาตลอดเมื่อพบเจอเื่ไร้เกียรติเช่นผู้อื่นมาขอถอนหมั้นถึงหน้าประตูเขาจึงรู้สึกเพียงแค่ว่าศักดิ์ศรีของตนทุกย่ำยี หันหลังเดินไปนอกห้องด้วยความคับแค้นใจพลางเอ่ยว่า“ข้าจะไปถามสกุลหลิวว่าถูกใจซิ่วไฉคนใด จวี่เหรินหลิวคุยโวโอ้อวดว่าตนเป็ปัญญาชนเหตุใดถึงทำเื่ตระบัดสัตย์เช่นนี้”
สตรีแซ่จ้าวรีบเดินไปอยู่ข้างกายอวี๋จิ่นซูแล้วดึงเขาเอาไว้"เ้าจะก่อเื่อะไรกัน? ยังอับอายไม่พอใช่หรือไม่? หากเ้ามุมานะจนได้เป็ซิ่วไฉสกุลหลิวจะมาถอนหมั้นถึงหน้าประตูจวนได้อย่างไร?"
อวี๋จิ่นซูกำหมัดแน่น กัดฟันเอ่ย "แค่ซิ่วไฉ ก็แค่ซิ่วไฉ...ไม่ช้าก็เร็วข้าก็สอบได้!"
สตรีแซ่จ้าวรู้สึกอัดอั้นใจโดยเฉพาะคำพูดที่สตรีแซ่หลิวจางเอ่ยในวันที่นางมาถอนหมั้นนางจึงเอ่ยออกไปอย่างอดไม่ได้ "เ้าสอบมาสามปีติดต่อกันแล้วไม่มีแม้แต่รายชื่อติดอันดับขุนนางขั้นต้นหากเป็เหมือนคนป่วยผู้นั้นของครอบครัวรองที่สอบได้อันดับหนึ่งั้แ่ครั้งแรกมารดาของเ้าคงได้เชิดหน้าชูตาสักครั้ง มีหรือจะถึงขั้นถูกคนสกุลหลิวกล่าวว่าการหมั้นหมายในครั้งนั้นของเ้าสำเร็จได้ก็เพราะเห็นแก่คนป่วยผู้นั้นของครอบครัวรอง!สตรีแซ่หลิวจางหักหน้าครอบครัวสามของพวกเราต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้านเ้าช่างมุมานะเพื่อข้าเสียจริง!"
อวี๋จิ่นซูกำหมัดจนเกิดเสียงเสียดสี ใบหน้าดำทะมึน ทว่ายังคงปากแข็ง“การหมั้นหมายของข้าไปเกี่ยวอะไรกับครอบครัวรอง? ต่อให้อวี๋ฉี่เจ๋อมีความสามารถเช่นไรก็เป็เพียงแค่คนป่วยกระทั่งลงสนามสอบยังทำไม่ได้ ไม่แน่วันใดวันหนึ่งอาจจะสิ้นลมไปเสียข้าจะไปเทียบกับเขาเพื่ออะไร?”
สตรีแซ่อวี๋โจวมองออกไปนอกห้องโถง เอ่ยตักเตือนเสียงเบาว่า“เ้าพูดจาเหลวไหลอะไร? ไฉนบุรุษอกสามศอกต้องกังวลว่าจะไม่มีภรรยา? ก็แค่แม่นางสกุลหลิวเท่านั้น จะเอะอะโวยวายเพื่ออะไร? เมื่อไม่มีการหมั้นหมายในครั้งนี้ ภายหน้ายังมีแม่นางจางแม่นางหลี่ ข้าคิดจะหารือกับท่านปู่ของเ้าให้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้เ้าเข้าไปในสำนักศึกษาระดับอำเภอเช่นกันการสอบขุนนางในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ทั้งเ้าและจิ่นเหยียนจะได้ลงสอบถึงตอนนั้นหากเ้าสอบผ่านได้เป็จวี่เหรินกลับมา สกุลหลิวย่อมต้องเสียใจภายหลัง!”
สตรีแซ่จ้าวรู้สึกตื่นเต้น เอ่ยด้วยความดีใจอย่างอดไม่ได้ “ท่านแม่ท่านจะให้จิ่นซูเข้าไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอเช่นกันหรือเ้าคะ?”
สตรีแซ่อวี๋โจวพยักหน้า “เงินที่หามาได้ภายในจวนยังพอมีอยู่บ้างรอกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูใบไม้ร่วงถึงตอนนั้นก็จะให้จิ่นซูเข้าไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอเมื่อมีรายชื่อเป็ผู้ผ่านการสอบขุนนางขั้นต้นของสำนักศึกษาระดับอำเภอจิ่นซูก็จะลงสอบขุนนางในฤดูใบไม้ร่วงนี้ได้เช่นกัน”
สตรีแซ่จ้าวดึงอวี๋จิ่นซูแล้วเอ่ยว่า“ยังคงเป็ท่านย่าของเ้าที่เอ็นดูเ้า ภายหน้าจงตั้งใจร่ำเรียนอย่าคิดเื่การหมั้นหมายกับสกุลหลิวอีก รอกระทั่งสอบผ่านจนเป็จวี่เหริน ยังต้องกังวลว่าจะไม่มีแม่นางที่ดีกว่าของสกุลหลิวอีกหรือ?”
…………
เชิงอรรถ
[1] สี่คัมภีร์คือคัมภีร์ทั้งสี่จากสี่ตำราห้าคัมภีร์คัมภีร์ทั้งสี่คือ อี้จิง 易经 (คัมภีร์ว่าด้วยเื่โหราศาสตร์)ซ่างซู 尚书 (ตำราประวัติศาสตร์) ซือจิง诗经 (คัมภีร์กวี) หลี่จี้ 礼义 (คัมภีร์ว่าด้วยเื่พิธีกรรม)