หนุ่มผมยาวพาฉินหลางเข้าไปยังร้านเหล้าหลานจ้วนที่อยู่นอกโรงเรียน
ร้านเหล้านี้ เป็กิจการของฮานซานฉาง หนุ่มผมยาวพาฉินหลางเข้าไปยังร้านเหล้าหลานจ้วนที่อยู่นอกโรงเรียน
ฮานซานฉางออกมายืนต้อนรับอยู่หน้าร้านั้แ่ตอนที่ฉินหลางยังเดินมาไม่ถึงร้านด้วยซ้ำ ข้างกายเขาเป็ผู้หญิงหน้าตาดีอายุประมาณ 25-26 ปี ที่อยู่ในชุดกี่เพ้าสีน้ำเงิน
ดูไปแล้วฮานซานฉางเหมือนจะทรุดโทรมลงมาก เขาจึงคิดว่าพิษเริ่มกำเริบแล้ว ทว่าแท้ที่จริงนั้น เขาเพียงพักผ่อนน้อย บวกกับความวิตกกังวลเท่านั้น
เมื่อเห็นฉินหลาง ฮานซานฉางราวกับเห็นโอกาสรอดชีวิตของตนเอง พูดขึ้นอย่างเป็กันเองว่า “น้องฉินหลาง ในที่สุดน้องก็มาจนได้ ใครเป็คนผูกก็ควรจะเป็คนแก้ ชีวิตของพี่ชายคนนี้ ฝากอยู่ในมือน้องฉินแล้ว!”
“พี่ฉาง อะไรคือใครเป็คนผูกก็ต้องเป็คนแก้ พิษของพี่ ฉันไม่ได้เป็คนวางเสียหน่อย” ฉินหลางพูดในใจ… พวกไร้วัฒนธรรมนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ เขายิ้มจางๆ พลางกล่าวขึ้น “พี่สบายใจได้ ในเมื่อฉันรู้อาการพิษของพี่ดี ฉันก็ต้องถอนพิษของพี่ได้เช่นกัน”
ได้ยินดังกล่าว ฮานซานฉางรู้สึกวางใจขึ้นมาทันที เขาเชิญฉินหลางเข้าไปในร้านเหล้า ก่อนที่หญิงสาวที่สวมชุดกี่เพ้าจะเดินไปหยิบไวน์แดงที่เคาน์เตอร์ให้ฮานซานฉาง เขารินไวน์แดงให้ฉินหลางด้วยตัวเอง พลางกล่าวต่อว่า “น้องชาย จะเริ่มถอนพิษให้พี่ได้หรือยัง?”
ฉินหลางดื่มไวน์แดงหมดแล้ว ก่อนจะกล่าวขึ้น “พี่ฉาง ฉันขอคุยกับพี่เป็การส่วนตัวสักหน่อย”
ฮานซานฉางหันไปส่งสายตาให้กับหญิงสาวที่สวมชุดกี่เพ้า เป็นัยให้เธอออกไปยืนห่างๆ
“พี่ฉาง พี่ค่อนข้างจะถูกพิษมาเป็เวลานาน ถึงแม้โรงพยาบาลจะถอนพิษให้ พี่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าอวัยวะภายในของพี่จะไม่ถูกทำลาย พี่มาให้ฉันช่วยถอนพิษให้ นับว่าพี่ทำถูกแล้ว พิษสารหนูถือเป็พิษที่บรรพบุรุษของเราใช้มาเป็เวลานานหลายพันปี ถ้าพูดถึงการถอนพิษล่ะก็ ฉันย่อมมีความเข้าใจมากกว่าการแพทย์สมัยใหม่ แถมยังไม่ทำลายอวัยวะภายในของพี่ด้วย” ฉินหลางตัดสินใจว่าจะถอนพิษให้ฮานซานฉาง แต่เขาจะต้องให้ฮานซานฉางรู้ว่าติดหนี้บุญคุณเขาครั้งใหญ่
“ใช่ๆ การแพทย์แผนจีนของเราย่อมล้ำลึกมากกว่าอยู่แล้ว” ฮานซานฉางเป็คนที่ภูมิใจในความเป็จีน และรู้สึกผยองในความเป็จีนมากกว่าคนทั่วไป “งั้นก็ขอรบกวนพี่ฉินเลยแล้วกันนะครับ บุญคุณที่ได้ช่วยชีวิต ฉันฮานซานฉางจะขอจำไปตลอดชีวิต!”
“สบายใจเถอะ ฉันคิดไว้แล้วว่าจะใช้ตัวยาอะไรในการรักษา แต่ว่าตัวยานี้ ฉันต้องเป็คนปรุงเอง เดี๋ยวฉันจะไปซื้อยาจากร้านขายยาในตัวเมืองเองแล้วกัน…”
“เดี๋ยวพี่จะรีบให้คนไปส่ง!”
“ไม่รีบ” ฉินหลางตอบกับฮานซานฉาง “พี่ฉางสบายใจเถอะ เดี๋ยวฉันให้ยาถอนพิษกับพี่แน่นอน เพียงแต่ว่า พี่เคยคิดถึงสาเหตุที่ตัวเองถูกพิษหรือเปล่า?”
“อ้าว เธอบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าฉันถูกพิษเพราะกินอาหารทะเลมากเกินไป?” ฮานซานฉางถามฉินหลางด้วยความสงสัย
“อาหารทะเลเป็เพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น” ฉินหลางส่ายหน้าพลางพูดต่อ “คนที่ร่างกายกำยำอย่างพี่ มีหรือจะถูกพิษด้วยอาหารทะเลเพียงไม่กี่อย่าง โดยทั่วไปแล้ว อาหารทะเลที่ผสมวิตามินซีในปริมาณมากเท่านั้นจึงจะสามารถก่อให้เกิดพิษสารหนูในปริมาณน้อย ตอนที่พี่กินอาหารทะเล พี่ได้ดื่มน้ำผลไม้ในปริมาณที่มากพร้อมกันด้วยหรือเปล่า?”
“ฉันดื่มน้อยมาก เพราะส่วนมากฉันมักจะดื่มเหล้ามากกว่า”
“งั้นก็ยิ่งน่าแปลกเลย” ฉินหลางกล่าว “ถ้าหากไม่เพราะอาหารที่มีวิตามินซีในปริมาณมากเป็ปัจจัยหลัก เป็ไปไม่ได้ที่พี่จะถูกพิษหนักขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้เติมวิตามินซีไปในปริมาณมาก ยังไม่ทำให้ถูกพิษได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เป็ไปได้ว่าอาจมีคนแอบเติมพิษสารหนูลงไปในเครื่องดื่มของพี่ในปริมาณที่น้อยมากๆ เพื่อให้ดูเหมือนพี่ถูกพิษเพราะอาหาร! อืม มันน่าจะเป็อย่างนี้แหละ”
แม้ฮานซานฉางจะไม่ได้มีการศึกษามากนัก แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลา เขาคิดสักพัก แล้วจึงพูดขึ้น “พี่ฉิน พี่หมายความว่า—มีคน้าจะฆ่าฉันเหรอ? เชี่ย ไอ้สารเลวคนไหนมันช่างน่ารังเกียจได้มากถึงเพียงนี้!”
“ตอนแรกฉันแค่สงสัย แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้ว” ฉินหลางกล่าว “เขาไม่เพียงแต่้าที่จะฆ่าพี่เท่านั้น เขายัง้าที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจว่า 'พี่ถูกพิษเพราะอาหาร' เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาไม่ต้องตกเป็ผู้ต้องสงสัยของเ้าหน้าที่ตำรวจ"
“แม่ม เชี่ยทั้งบ้านเลย! ใครที่มันอำมหิตขนาดนั้นวะ!” ฮานซานฉางเกือบจะะเิออกมา ทว่าเขาก็รู้ว่าฉินหลางไม่ใช่คนที่จะวิตกเกินจริง
“เื่พวกนี้ พี่ต้องไปสืบให้ละเอียดเอง” ฉินหลางตั้งใจที่จะกระตุ้นฮานซานฉาง “เริ่มต้นจากคิดหาสาเหตุว่าทำไม่นี้พี่ถึงกินอาหารทะเลมากขนาดนี้ จากนั้นก็คิดว่าพวกวิตามินซีหรือพิษสารหนูเข้าไปปนเปื้อนในอาหารของพี่ได้ยังไง แล้วสุดท้ายค่อยคิดวาพี่ไปมีปัญหากับใครไว้บ้าง”
ฮานซานฉางพยายามสงบสติอารมณ์เพื่อคิด การถอนพิษจะสำคัญ แต่การหาตัวคนที่วางยาตนก็สำคัญมากไม่แพ้กัน เพราะถึงแม้ครั้งนี้เขาจะถอนพิษได้สำเร็จ แต่ครั้งต่อไปไม่มีใครรู้ว่าเขาจะถอนพิษได้สำเร็จอีกรึเปล่า?
ผ่านไปสักพัก ฮานซานฉางเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้บ้างแล้ว เขาหันไปพูดกับฉินหลาง “มีลูกน้องที่น่าสงสัยหลายคน”
“งั้นก็ไม่ยากแล้ว” ฉินหลางกล่าว “ให้ลูกน้องพวกที่สงสัยไปซื้อยาในเมืองกับฉัน แล้วบอกให้พวกเขารู้ว่านี่เป็ยาที่จำเป็จะต้องใช้ในการถอนพิษให้พี่ ถ้าในกลุ่มนั้นมีคนที่คิดไม่ซื่อกับพี่ มันจะต้องหาวิธีขัดขวางไม่ให้ฉันได้ไปซื้อยาในเมืองแน่”
“พี่ฉิน พี่ช่างฉลาดล้ำเลิศจริงๆ!” ฮานซานฉางพูดขึ้นกับฉินหลางด้วยความนับถือ “แต่ว่า ถ้าทำแบบนี้แล้ว พี่จะไม่ตกอยู่ในอันตรายเหรอ? หรือไม่ เื่ซื้อยา ฉันให้คนอื่นไปดีกว่าไหม?”
“คนอื่นจะดูออกได้ไงว่ายานั้นดีหรือเปล่า?”
ฉินหลางทำเช่นนี้ ด้านหนึ่งเพราะ้าให้ฮานซานฉางติดหนี้บุญคุณตนเอง อีกด้านหนึ่งเพราะ้าให้ฮานซานฉางเห็นเล่ห์เหลี่ยม และวิธีการของตน มีเพียงวิธีนี้ที่จะทำให้ฮานซานฉางเต็มใจทำงานให้ตน เมื่อมีความช่วยเหลือของฮานซานฉางแล้ว ฉินหลางจึงจะสามารถทำภารกิจที่ตาเฒ่าพิษมอบหมายไว้สำเร็จได้ง่ายขึ้น
ฮานซานฉางพูดขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจ “น้องชาย บุญคุณครั้งนี้ พี่จะไม่มีวันลืม!ต่อไป—”
“พี่ฉาง คำพูดพวกนี้ไว้ค่อยพูดทีหลัง พี่รีบไปเตรียมการเถอะ” ฉินหลางพูดตัดบทสนทนาของฮานซานฉาง
ฮานซานฉางพยักหน้ารับ ก่อนจะสั่งให้คนไปตามตัวลูกน้องทั้งสี่คนที่เขาสงสัยมา ก่อนจะพูดขึ้น “พวกแกสี่คน พาพี่ฉินไปซื้อยาในเมืองมาถอนพิษให้ฉัน แม่ม กระตือรือร้นกันด้วยนะ อย่าทำให้ยาของบิดาตกหายเป็อันขาด!”
ลูกน้องทั้งสี่คนพยักหน้ารับด้วยความนอบน้อม ก่อนจะเชิญให้ฉินหลางเดินตามพวกเขาออกไป
หลังจากพวกฉินหลางเดินจากไปแล้ว หญิงสาวที่สวมชุดกี่เพ้าจึงเดินมานั่งข้างฮานซานฉาง พูดขึ้น “พี่ฉางคะ เ้าฉินหลางนั่นเป็แค่เด็กมัธยมคนหนึ่งเท่านั้น พี่จะเชื่อที่เขาพูดจริงๆ เหรอคะ? ”
“เพราะอย่างนี้ เขาถึงพูดกันว่า ผู้หญิงนั้นผมยาวแต่วิสัยทัศน์สั้นไง!” ฮานซานฉางสบถ “ถึงแม้บิดาจะเป็คนเถื่อน แต่ก็ยังดูคนเป็ คนอย่างฉินหลาง จะเป็ศัตรูด้วยไม่ได้เป็อันขาด ตอนแรกฉันคิดว่าเขาเก่งเพียงวิชาการต่อสู้ กับวิชาการแพทย์เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขาเป็คนที่จะมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอีก อนาคตเขาต้องเป็คนที่มีชื่อเสียงในวงการนี้แน่นอน! เพราะฉะนั้น เธออย่าได้มีเื่ผิดใจกับเขาเป็อันขาด ไม่ว่าเขา้าอะไร จะต้องหามาให้เขาให้จงได้!”
“แล้วถ้าหากเขา้าหนูล่ะคะ?” หญิงสาวในชุดกี่เพ้าถามด้วยความน้อยใจ
“งั้นเธอก็ล้างตัวเองให้สะอาดแล้วไปนอนกับเขา!” ฮานซานฉางสบถ
“พี่ฉาง—พี่ใจร้ายจริงๆ เลย!”
“ล้อเล่นเท่านั้นแหละ” ฮานซานฉางหัวเราะร่า “ยิ่งไปกว่านั้นพี่ฉินเขาไม่สนใจเธอหรอก เธอล้างให้สะอาดแล้วรอคนเถื่อนอย่างฉันดีกว่า เดี๋ยวหลังจากฉันถอนพิษเสร็จแล้ว เราก็มาทำอะไรกัน…”
“พี่ฉาง พี่นี่ร้ายกาจจริงๆ เลยนะ…”
※※※
ฉินหลางกับลูกสมุนทั้งสี่ของฮานซานฉางนั่งอยู่บนรถเก๋งคันเดียวกัน 10 นาทีต่อมาก็ขับมาถึงย่านใจกลางเมือง
เวลาตอนนี้ยังเช้าอยู่ ร้านขายยาจำนวนมากจึงยังไม่เปิดร้าน
ในเวลานี้เอง อาหวู่หนึ่งในสมุนของฮานซานฉางกล่าวเสนอขึ้น “พี่ฉินไป 'ร้านยาชุนคัง' มั้ยครับ ผมสนิทสนมกับเ้าของร้านขายยานั้น เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกให้เขาเปิดร้านให้เราก่อน พี่ฉางจะได้ไม่ต้องรอนาน”
“ได้” ฉินหลางพยักหน้าด้วยท่าทีสบายๆ
ไม่กี่นาทีต่อมา รถเก๋งขับเข้าไปในซอยเล็กๆ เมื่อเข้ามาจนสุดซอย ก็พบกับร้านขายยา ที่มีชื่อว่าร้านขายยาชุนคัง
ร้านนี้ม้วนบานประตูขึ้นเพื่อเตรียมเปิดร้านแล้วจริงๆ ด้วย
“พี่ฉิน ถึงแล้วครับ” อาหวู่พาฉินหลางและลูกสมุนอีกสามคนเดินเข้าไปในร้านขายยา
“เฮีย พวกเรามาซื้อยา” ฉินหลางพูดขึ้นทันทีที่เดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์
ทว่าคนที่ยืนอยู่ในเคาน์เตอร์เป็ชายรูปร่างกำยำที่สวมเสื้อกั๊กสีดำ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบว่า “ยาของพวกเธอ เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว!”
“ถ้าอย่างนั้นก็เอามาสิ” ฉินหลางตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ได้ เอาไปสิ—”
หนุ่มที่สวมเสื้อกั๊กสีดำหยิบมีดดาบที่เหน็บอยู่ด้านหลังกางเกงออกมา ทุบลงบนเคาน์เตอร์อย่างแรง
ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศของการฆาตกรรม!