ทะลุมิติมาเป็นนักศึกษาแพทย์ในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     

        วันรุ่งขึ้นเป็๞วันจัดงานประกาศเกียรติคุณของโรงเรียน

        เนื่องจากอากาศร้อนจัด อาจารย์ใหญ่โจวกังวลว่านักเรียนที่ร่างกายอ่อนแอจะตากแดดจนเป็๲ลมแดด

        ดังนั้นจึงดำเนินการอย่างรวดเร็ว จบพิธีประกาศเกียรติคุณในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

        สวี่ฮุ่ยรับเงินรางวัลสามร้อยหยวนกับเกียรติบัตรจากโรงเรียนด้วยความยินดี

        ในมือเธอมีเงินเกือบหนึ่งพันหยวนแล้ว เงินจำนวนนี้ไม่ใช่แค่สำหรับเธอเท่านั้น แม้แต่กับครอบครัวทั่วไปก็ถือเป็๞เงินก้อนโต

        คนงานทั่วไปต้องอดออมเกือบสองปีถึงจะมีได้

        เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งพูดแซวขึ้น “สวี่ฮุ่ย ได้เงินรางวัลแล้วต้องเลี้ยงฉลองนะ”

        สวี่ฮุ่ยยิ้มรับ “วันที่เจ็ดสิงหาคม ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกเธอที่ร้านอาหารป้าอ้วนหน้าโรงเรียนนะ เพื่อนๆ ทุกคนต้องมาให้ได้ล่ะ  อาจารย์ใหญ่โจว หัวหน้าฝ่ายหวง อาจารย์ปี้...พวกอาจารย์ก็มาด้วยนะคะ”

        วันที่เจ็ดสิงหาคมเป็๞วันเกิดครบรอบสิบเก้าปีของสวี่ฮุ่ย เธอตั้งใจเลี้ยงฉลองในวันนี้เหมือนเป็๞การฉลองวันเกิดกับเพื่อน ๆ และอาจารย์  เธอโตขนาดนี้ยังไม่เคยฉลองวันเกิดเลยสักครั้ง

        สวี่ฮุ่ยไม่ได้บอกตรง ๆ เพราะกลัวเพื่อนกับอาจารย์จะซื้อของขวัญมาให้

        เรียนจบแล้ว ยังจะรับของขวัญจากเพื่อนและอาจารย์อีก ดูไม่งามนัก

        หลังจากร่ำลากับเพื่อนและอาจารย์ สวี่ฮุ่ยกำลังจะกลับบ้าน

        อาจารย์ใหญ่โจวโบกมือเรียกเธออย่างเอ็นดู “สวี่ฮุ่ย มานี่สิ อาจารย์มีเ๹ื่๪๫สำคัญจะคุยด้วย”

        สวี่ฮุ่ยเดินเข้าไปหา อาจารย์ใหญ่โจวบอกเธอด้วยความยินดีว่า อีกสามวันจะมีการจัดงานประกาศเกียรติคุณที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลให้กับนักเรียนที่ได้อันดับต้น ๆ ของการสอบ

        และอีกห้าวัน ทางมณฑลจะมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลให้กับนักเรียนสิบอันดับแรกที่สอบติดเข้ามหาวิทยาลัย

        อาจารย์ใหญ่จะไปเป็๲เพื่อนเธอทั้งสองงาน

        โอกาสดี ๆ ที่จะได้หน้าแบบนี้ อาจารย์ใหญ่โจวไม่มีทางพลาดแน่ นี่คือเกียรติยศของโรงเรียนพวกเขา

        สวี่ฮุ่ยถามอย่างเขินอายว่าทางจังหวัดและมณฑลจะให้เงินรางวัลเท่าไหร่

        อาจารย์ใหญ่โจวก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเทียบกับเงินรางวัลของผู้ที่สอบได้ที่หนึ่งปีที่แล้ว ทางจังหวัดน่าจะให้หนึ่งพันหยวน ส่วนทางมณฑลน่าจะให้สามพันหยวน

        สวี่ฮุ่ยกระดี๊กระด๊าในใจ เงินมากขนาดนี้ ไม่เพียงไม่ต้องกังวลเ๱ื่๵๹ค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เธอยังมีเงินเหลือเก็บอีกด้วย

        ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่ศาลากลางจังหวัด

        พิธีเริ่มเวลาเก้าโมงครึ่ง จากตำบลเถาฮวาไปเมืองเซี่ยวใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง

        อาจารย์ใหญ่โจวมาถึงบ้านสวี่ฮุ่ย๻ั้๫แ๻่หกโมงกว่า ๆ

        ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากสวี่ฮุ่ย

        เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหา อาจารย์ใหญ่โจวไม่ได้เข้าบ้าน แต่ยืนคุยกับสวี่ฮุ่ยอยู่นอกบ้านอย่างรู้กาลเทศะ

        เขาเห็นสวี่ฮุ่ยสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวซีด ๆ กับกระโปรงสีดำเก่า ๆ จึงถามว่า “เธอจะแต่งตัวแบบนี้ไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่ศาลากลางเหรอ?”

        สวี่ฮุ่ยก้มมองชุดตัวเองแล้วพยักหน้า และขานรับเบา ๆ

        นี่เป็๲ชุดที่ดีที่สุดของเธอแล้ว

        เพื่องานในวันนี้ เธอถึงขั้นไปซื้อสบู่กับแชมพูยี่ห้อเฟิงฮวาที่สหกรณ์ตำบลเมื่อวาน และตื่นมาอาบน้ำ๻ั้๫แ๻่ตีห้า

        แล้วเธอยังเล็มผมหน้าม้า กลัวว่าตัวเองจะดูโทรมจนทำให้โรงเรียนและอาจารย์ใหญ่โจวเสียหน้าด้วย

        เพื่อนบ้านที่กำลังเด็ดผักอยู่หน้าบ้านได้ยินบทสนทนาของทั้งสอง  รีบ๻ะโ๷๞บอกคนอื่น ๆ ทั่วบ้านพักว่า “บ้านไหนมีกระโปรงที่ดูดีบ้าง ให้ฮุ่ยฮุ่ยยืมใส่สักวันสิ วันนี้หนูฮุ่ยต้องไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่ศาลากลาง ไม่มีชุดเข้าท่าใส่เลย”

        หลังจากเพื่อนบ้านคนนั้น๻ะโ๠๲บอก หลายบ้านที่มีลูกสาววัยเดียวกันและรูปร่างใกล้เคียงกับสวี่ฮุ่ยก็เอาชุดที่ดีที่สุดของลูกสาวออกมาให้เธอยืม

        สวี่ฮุ่ยรู้สึกตื้นตันใจ เธอเลือกชุดเดรสกลางเก่ากลางใหม่ตัวหนึ่ง

        แต่คุณป้าคนหนึ่งกลับยัดชุดใหม่ที่เพิ่งตัดให้ลูกสาวเมื่อไม่กี่วันก่อนใส่มือสวี่ฮุ่ย “ใส่ของเสี่ยวเหลียนบ้านป้าเถอะ ใส่ชุดใหม่ไปประชุมจะได้ดูดี”

        น้ำใจยากจะปฎิเสธ เธอเลยรับชุดมาพลางกล่าวขอบคุณไม่หยุด

        ป้าคนนั้นโบกมือ “ขอบคุณทำไม? เธอยังช่วยสอนการบ้านเสี่ยวเหลียนอยู่เลย  เพื่อนบ้านก็ควรช่วยเหลือกันสิ! ”

        สวี่ฮุ่ยเปลี่ยนชุดเสร็จก็ถือถังปลาไหลออกเดินทางไปกับอาจารย์ใหญ่โจว

        อาจารย์ใหญ่โจวมองปลาไหลที่ดิ้นอยู่ในถังแล้วถาม “วันนี้ก็ยังขายปลาไหลอีกเหรอ?”

        “ค่ะ! ” สวี่ฮุ่ยพยักหน้า “ทางบ้านไม่ส่งเงินให้หนูเรียนมหาวิทยาลัยหรอกค่ะ”

        อาจารย์ใหญ่โจวพูด “เงินรางวัลจากทางจังหวัดกับมณฑลก็พอให้เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว”

        “มีเงินติดตัวเยอะหน่อยจะสบายใจกว่าค่ะ” สวี่ฮุ่ยยิ้มให้อาจารย์ใหญ่โจว รอยยิ้มนั้นสดใสราวกับแสงตะวัน

        อาจารย์ใหญ่โจวก้มลงมองปลาไหลในถังอีกครั้ง

        เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่กลัวปลาไหลที่น่าขยะแขยง แต่เด็กคนนี้กลับต้องจับมันทุกวัน

        ถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตถูกบีบบังคับ เธอก็คงไม่ทำแบบนี้ เด็กคนนี้ลำบากจริงๆ!

        ทั้งสองลงรถที่ตัวอำเภอแล้วเอาปลาไหลไปส่งให้ลุงจาง

        ป้าจางเห็นสวี่ฮุ่ยใส่ชุดใหม่จึงถามว่า “วันนี้แต่งตัวสวยเชียว จะไปไหนเหรอ?”

        อาจารย์ใหญ่โจวรีบแย่งตอบป้าจางว่าสวี่ฮุ่ยสอบได้ที่หนึ่งสายวิทย์ของมณฑล ตอนนี้กำลังจะไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่ศาลากลางจังหวัด

        ๻ั้๹แ๻่สวี่ฮุ่ยสอบได้ที่หนึ่งของมณฑล อาจารย์ใหญ่โจวก็อยากป่าวประกาศให้โลกรู้กันทั่ว

        ถึงขั้นคิดจะพิมพ์ใบปลิวรูปสวี่ฮุ่ยไปติดตามเสาไฟฟ้าทุกต้นให้คนทั้งอำเภอรู้ว่าโรงเรียนมัธยมศึกษาชิงซงมีนักเรียนสอบได้ที่หนึ่งของมณฑลอยู่

        แต่พอนึกดูแล้วมันจะเหมือนใบประกาศจับ เลยเลิกความคิดนี้ไปเสียก่อน

        ไม่งั้นตอนนี้รูปถ่ายขาวดำของสวี่ฮุ่ยคงติดเต็มบ้านเต็มเมืองไปแล้ว

        ลุงกับป้าจางต่างประหลาดใจ

        ทั้งสองมอบซองแดงสองหยวนให้สวี่ฮุ่ยเพื่อแสดงความยินดีที่เธอสอบได้ที่หนึ่ง

        งานประกาศเกียรติคุณที่ศาลากลางใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จสิ้น

        ปีนี้ทางจังหวัดยังคงให้เงินรางวัลหนึ่งพันหยวนเหมือนเดิม แต่เพิ่มกระเป๋าเป้สะพายหลังรุ่นใหม่ล่าสุดสีชมพูมาให้ด้วย สวี่ฮุ่ยชอบมาก

        ขนาดกระเป๋าเรียนสะพายข้างสีเหลืองเธอยังไม่เคยใช้เลย นับประสาอะไรกับกระเป๋าเป้

        เกือบสิบเก้าปีในชีวิตเธอ ไม่ว่าจะเป็๞อะไร เธอก็ใช้ต่อจากสวี่เยว่ทั้งนั้น

        หลังจากประชุมเสร็จ อาจารย์ใหญ่โจวไม่ได้รีบกลับ แต่พาสวี่ฮุ่ยไปเดินเล่นในเมือง

        สวี่ฮุ่ยนึกว่าอาจารย์ใหญ่โจวจะซื้อของกลับบ้าน เธอจึงตามเขาไปอย่างว่าง่าย

        จนกระทั่งอาจารย์ใหญ่โจวหยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์ขายเสื้อผ้าผู้หญิงในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ให้พนักงานหยิบชุดเดรสผ้าแดครอน[1] สีอ่อนตัวหนึ่งออกมาให้เธอเทียบ สวี่ฮุ่ยถึงเพิ่งรู้ว่าอาจารย์ใหญ่โจวอยากซื้อเสื้อผ้าให้เธอ

        เธอรีบปฏิเสธ

        อาจารย์ใหญ่โจวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หรือเธอจะยืมชุดเพื่อนบ้านใส่ตอนไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่มณฑลครั้งหน้าอีก?”

        สวี่ฮุ่ยคิด ๆ ดูแล้วก็จริง

        เธอพูดว่า “งั้นหนูจ่ายเองค่ะ”

        พูดจบก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋า นับเงินสามใบแล้วยื่นให้พนักงานขาย

        ชุดเดรสตัวหนึ่งราคาสามสิบหยวน เท่ากับเงินเดือนครึ่งเดือนของคนงาน สวี่ฮุ่ยรู้สึกเสียดายเงินอยู่พักหนึ่ง

        อาจารย์ใหญ่โจวยื่นมือมาขวางเธอไว้ “ฉันจ่ายเอง เธอสอบได้ที่หนึ่ง ทำให้โรงเรียนมีชื่อเสียง ฉันยังไม่ได้ซื้อของขวัญให้เธอเลย”

        ถึงแม้สวี่ฮุ่ยจะปฏิเสธหลายครั้ง แต่อาจารย์ใหญ่โจวก็ยืนกรานจะจ่ายให้อยู่ดี

        สวี่ฮุ่ยจึงบอกว่าเธอไม่ชอบใส่ผ้าแดครอน มันไม่ระบายอากาศ ไม่ซับเหงื่อ ใส่แล้วร้อน

        เธอชี้ชุดเดรสผ้าฝ้ายสีแดงกุหลาบที่แขวนอยู่ในตู้แล้วบอกว่าเธอชอบชุดที่ทำจากผ้าฝ้ายมากกว่า ใส่สบาย

        อาจารย์ใหญ่โจวเห็นป้ายราคาสิบห้าหยวนก็เข้าใจเจตนาของสวี่ฮุ่ย

        เขาไม่เพียงซื้อชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีแดงกุหลาบเท่านั้น ยังซื้อชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดลายดอกไม้พื้นขาวอีกตัวหนึ่งด้วย ราคาสองตัวนี้มากกว่าสามสิบหยวน

        สวี่ฮุ่ยอึ้งไปสักพัก เดิมตั้งใจจะให้อาจารย์ใหญ่โจวประหยัดเงิน สุดท้ายกลับทำให้เขาเสียเงินมากขึ้นซะงั้น

        สวี่ฮุ่ยจะเอาชุดเดรสลายดอกไม้ไปคืน มีชุดใหม่ใส่ไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่มณฑลตัวเดียวก็พอแล้ว

        แต่อาจารย์ใหญ่โจวบอกว่าซื้อสองตัวเผื่อเธอเปลี่ยนซัก

        อีกอย่างจ่ายเงินไปแล้ว ไม่มีปัญหาเ๱ื่๵๹คุณภาพ พนักงานขายก็ไม่รับคืนหรอก

        สวี่ฮุ่ยเลยต้องรับชุดทั้งสองตัวนั้นมา

        อาจารย์ใหญ่โจวมองสวี่ฮุ่ย๻ั้๹แ๻่หัวจรดเท้าและบอกกับพนักงานขายด้วยน้ำเสียงเป็๲มิตรให้ช่วยเลือกรองเท้าแตะหุ้มส้นที่เหมาะกับ “นักเรียนจ้วงหยวน” ของเขา พร้อมกับถุงเท้าสีขาวอีกสองคู่

        ตอนแรกพี่พนักงานขายนึกว่าทั้งสองเป็๞พ่อลูกกัน แต่พอได้ยินพวกเขาเรียกชื่อกันถึงรู้ว่าเป็๞อาจารย์กับนักเรียน ผู้ชายคนนั้นยังเป็๞ครูใหญ่อีกด้วย

        พี่พนักงานขายรู้สึกซาบซึ้งใจที่ครูใหญ่ยอมควักกระเป๋าตัวเองซื้อเสื้อผ้าให้นักเรียน เพราะนักเรียนไม่มีชุดที่เหมาะที่จะใส่ไปร่วมงานประกาศเกียรติคุณที่มณฑล

        ตอนนี้พอรู้ว่าสวี่ฮุ่ยสอบได้ที่หนึ่ง พี่พนักงานขายก็ยิ่งชื่นชมเธอ

        ดังนั้นจึงช่วยเธอเลือกรองเท้าแตะกับถุงเท้าอย่างกระตือรือร้น แถมยังอาสาเลือกที่คาดผมสีเดียวกับชุดเดรสสีแดงให้เธอด้วย

        อาจารย์ใหญ่โจวซื้อทั้งหมดอย่างยินดี สวี่ฮุ่ยเห็นว่าจ่ายเงินไปแล้ว ก็ไม่ได้เกรงใจ จึงรับของทั้งหมดมา

        แต่ในใจก็จดจำบุญคุณนี้ไว้  ต่อไปถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่จะต้องตอบแทน และจะตอบแทนให้เป็๲สองเท่า

 

        [1] ผ้าแดครอน หมายถึง  เส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซึ่งถูกค้นพบโดย Dr. W.H. Carothers ชาวสหรัฐอเมริกา ๻ั้๹แ๻่ปี ค.ศ. 1930 ต่อมานักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้ทำการศึกษาค้นคว้าต่อจน ผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ชนิดแรกได้โดยใช้ชื่อว่า Terylene ในปี ค.ศ. 1941 และบริษัทดูปองได้ขอซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1946  โดยใช้ชื่อว่า Dacron (แดครอน)