ตารางการทำงานและการพักผ่อนของซันนี่ตรงกันข้ามกับคนที่ทำงานไซด์ไลน์ ยิ่งดึก ยิ่งมีชีวิตชีวา เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เธอก็เริ่มง่วง เธอจะโพสต์กำหนดการของวันรุ่งขึ้นในตอนเย็นแล้วจึงกลับไปที่ห้องเพื่อทำงานต่อ หญิงสาวจะหลับั้แ่พระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งบ่าย 3 โมงถึงตื่น จากนั้นก็แต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมออกไปนอกบ้าน เซี่ยวอี๋และเสิ่นิผลัดกันรับบทเป็ ‘คนเลว’
“พี่จะออกไปไหนไม่ได้ มันอันตรายเกินไป เมื่อวานมือสังหารก็เพิ่งจะโทร.มาขอซื้อชีวิตพี่” เซี่ยวอี๋ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ เธอกอดอกพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ไอ้บ้านั่นให้เท่าไร?” ซันนี่ยังจะหันหน้าเข้าหากระจกเพื่อเติมอายแชโดว์อยู่อีก
“เขาไม่ได้บอกจำนวนเงิน เขาให้เราเสนอราคา เท่าไรก็ยอมจ่ายละมั้ง?” เสิ่นิที่ยืนอยู่ข้างๆ เซี่ยวอี๋กล่าวเสริม
“ถือว่าหมอนั่นมีวิสัยทัศน์ พี่เป็แรร์ไอเทมก็ควรจะประเมินค่าไม่ได้” ซันนี่ฝึกยิ้มในกระจก
“สมองพี่มีปัญหาหรือเปล่า? มีคน้าจะฆ่าพี่นะ แต่พี่ยังจะเริงร่าอยู่อีก?” เซี่ยวอี๋ไม่เข้าใจตรรกะความคิดของผู้หญิงคนนี้เลยสักนิด
“น้องสาว พี่อยู่มา 28 ปีแล้ว ก่อนจะ 18 พี่อาศัยอยู่ในชนบท ก่อนจะ 22 พี่ก็อยู่ที่ Foxconn (ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) หลัง 22 มานี้ถึงจะนับได้ว่าได้ใช้ชีวิตของจริง
คนเราเกิดมาก็ต้องตาย จะตายช้าหรือจะสนุกจนตาย พี่เลือกอย่างหลังแน่นอน อย่างน้อยพี่ก็มีความสุข
อีกอย่าง เื่การจัดการกับมือสังหาร มันก็เป็หน้าที่ของพวกเธอไม่ใช่หรือไง? ถ้ามัวแต่หดหัวอยู่แต่ในกระดองแล้วรอดชีวิต เธอจะให้พี่มาหาพวกเธอทำไมกัน?” ซันนี่แสดงเจตจำนงและถกด้วยเหตุผล
“พี่นี่ช่างเอาแต่ใจ เชื่อไหมว่าฉันจะจับพี่มัด?” เซี่ยวอี๋คิดใช้ไม้แข็ง
“ว่ามาดีกว่า พวกเธอเป็บอดี้การ์ดหรือมือสังหารกันแน่? ถึงได้พูดจาหยาบคายใส่ลูกค้า ธุรกิจที่อาศัยการบอกเล่าปากต่อปาก นิสัยแบบนี้แล้วจะทำธุรกิจต่อไปได้ยังไง?” ซันนี่อมยิ้มพลางถอดชุดนอนบนร่างกายออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็ชุดราตรีต่อหน้าเสิ่นิและเซี่ยวอี๋
“ที่พี่พูดมามันก็มีเหตุผล พวกเราไม่มีสิทธิ์ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพของพี่ พวกเราทำได้แค่เพียงปกป้องพี่ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ก็เท่านั้น” เสิ่นิถอนหายใจ
“เฮ้ นายอยู่ข้างใครกันแน่? ยังจะช่วยพูดให้เธออีก เธอจะรนหาที่ตายนะ แล้วจะพาเราตายกันหมดด้วย!” เซี่ยวอี๋มองค้อนด้วยความโมโห
“สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนแปลงไป แม้ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การเคลื่อนย้ายก็เพิ่มระดับความยากให้กับนักฆ่ามืออาชีพผู้แสวงหาความสมบูรณ์แบบด้วย เพราะฉากเดิมๆ มันก็ง่ายต่อการคิดฉากอุบัติเหตุ แต่หากเปลี่ยนฉากไปนับไม่ถ้วน ยิ่งเวลากระชั้นชิด ก็จะยิ่งง่ายต่อการเกิดข้อผิดพลาด” เสิ่นิไม่้าการคุ้มครองแบบตกเป็เป้า มันไม่สามารถทำให้เขาเป็ฝ่ายได้เปรียบ 20 วันมันนานเกินไป การหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความช่องโหว่จึงเป็ไปได้ลำบาก
“พี่เป็ประชาธิปไตยมาก ตอนนี้ 2 ต่อ 1 เธอจะไปทานกุ้งักับพี่ หรือจะอยู่ทานบะหมี่สำเร็จรูปที่บ้าน เลือกเอาเองแล้วกันนะ” ซันนี่แสดงทีท่าของผู้ชนะ
“...พวกนายมันเ้าเล่ห์!” เซี่ยวอี๋ได้แต่กลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเสียไม่ได้
“ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้อยากให้พี่ไป” ในห้องน้ำเหลือเพียงแค่ซันนี่กับเสิ่นิ ชายหญิงคู่นี้เหมือนกับเพื่อนซี้ที่รู้จักกันมานาน แค่มองตาก็รู้เจตจำนงของอีกฝ่าย
“ใช่”
“ทำไมถึงไม่ห้ามพี่ล่ะ?” นี่เป็สิ่งที่ซันนี่ไม่เข้าใจ
“เพราะผมอยากไปเห็นว่าปาร์ตี้แบบไหนกันนะที่ทำให้พี่อยากไปร่วมโดยที่ไม่คำนึงถึงชีวิต?” เสิ่นิกล่าวพลางยิ้มอย่างทรงเสน่ห์
“เด็กน้อย ช่างเอาใจใส่มากขนาดนี้ ไม่กลัวว่าพี่จะตกหลุมรักเธอหรือยังไง?” ซันนี่ยักคิ้วหลิ่วตาให้
“รักผมก็ดี แต่อย่าคิดให้ผม ‘ตกหลุม’ พี่เลย ‘ของเล่น’ ของพี่ ผมเห็นมาหมดแล้ว” เสิ่นิกล่าวพลางเปลี่ยนเสื้อไปด้วย
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบท้องทะเล หญิงสอง ชายหนึ่งก็เดินขึ้นรถแท็กซี่ซึ่งจอดคอยอยู่ซอยถัดจากไปบ้าน 3 ซอย ซันนี่ซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงออกปากบ่นตลอดทาง ส่วนเสิ่นิที่อยู่ในชุดสูทกับรองเท้าหนังนั่นก็ดูขัดตา
แม้แต่แท็กซี่ เขาก็เลือกคนขับที่เป็ผู้หญิง ขึ้นรถก็ต้องถ่ายรูปคนขับและโทร.หาบริษัทเช่ารถเพื่อตรวจสอบประวัติข้อมูลของคนขับ รอบคอบเสียงยิ่งกว่าการสร้างเรืออนุสรณ์
แท็กซี่ถามว่าจะไปไหน? ซันนี่ที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังกำลังจะตอบ กลับถูกเซี่ยวอี๋ปิดปากไว้ เสิ่นิซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับก็ไม่ยอมบอกสถานที่ แค่บอกให้ขับไปตามทาง เดิมทีค่าโดยสารน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20 หยวน แต่กลับบอกให้ขับไปทางที่ค่าโดยสารปาเข้าไป 40 หยวน หนำซ้ำยังเจอกับการจราจรที่ติดขัดอีกสองหน
กระทั่งพวกเขามาถึงที่ท่าเรือส่วนตัวของเมืองหลินไห่ คนขับสาวถึงยื่นหน้าออกมาด่าว่า “พวกแกมันโรคจิต!”
ซันนี่ไม่สามารถออกความคิดเห็นได้ นี่เป็เงื่อนไขในการออกจากบ้าน ทุกขั้นตอนจะต้องเป็ไปตามที่เสิ่นิจัดแจงไว้ ห้ามมีข้อขัดแย้ง
“ปาร์ตี้ของพวกพี่จัดที่ท่าเรือหรือเปล่า? ไม่ธรรมดาเลยนะ” เซี่ยวอี๋เหยียบย่างไปบนกระดานไม้ ท่าเรืออันมืดมิด นอกจากเรือที่จอดเทียบท่าอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นเงาผู้ใด
“ที่นี่เป็แค่ท่า ยานพาหนะของเรามาโน่นแล้ว” ซันนี้อมยิ้ม เรือยอตช์สุดหรูเป่าแตรและเข้าจอดเทียบท่า มันเดินทางมารับพวกเขาโดยเฉพาะ
“เรือยอตช์นี่แพงมากไหม?” เซี่ยวอี๋กระซิบถามเสิ่นิ
“20 กว่าล้านมั้ง? ของเล่นของคนรวย เกินกว่าที่ชาวบ้านอย่างเราจะเข้าใจ” เสิ่นิอมยิ้มและเดิมตามซันนี่ไป
วันนี้เป็ปาร์ตี้วันเกิดของลูกชายเศรษฐี พ่อของเ้าเด็กนั่นถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่มบริษัทอินเทอร์เน็ต เขาไม่เคยถามลูกชายเลยว่าใช้จ่ายอะไรไปเท่าไร ในวงการไซด์ไลน์ ถือว่าหมอนั่นเป็แหล่งขุดทองเลยก็ว่าได้ คราวนี้เขาถึงขั้นเหมาโรงแรมส่วนตัวบนเกาะหนานซานเพื่อเป็สถานที่จัดงานวันเกิด เขาชวนแขกมาร่วมปาร์ตี้จำนวนไม่น้อย ดาราบางคนก็มาด้วย ค็อกเทลปาร์ตี้จัดั้แ่สองทุ่มถึงห้าทุ่ม อย่างน้อยทุกคนก็กินๆ ดื่มๆ ไม่ต้องเปลือยร่าง
ทีเด็ดก็คือปาร์ตี้ส่วนตัวตอนหลังห้าทุ่ม ซึ่งจะจัดขึ้นภายในห้อง คนส่วนใหญ่จะทำความรู้จักกันใน่ปาร์ตี้ค็อกเทลเพื่อที่จะหาคู่เล่น คอนเฟิร์มราคา วิธีเล่น ข้อมูลจำนวนคนและอะไรต่างๆ นานา
“พี่จะไม่เข้าร่วมปาร์ตี้ตอนท้าย แต่ว่าคุณชายคนนี้นับว่าเป็เพื่อนพี่ จะไม่มาก็กระไรอยู่
พี่เป็สาวไซด์ไลน์คนแรกที่เขาเล่นด้วย เขาไม่ใช่พวกชอบเล่น แค่ไม่อยากถูกเพื่อนๆ หาว่าแปลกแยกจากคนในกลุ่ม ที่น่าขำก็คือครั้งแรกของเขา เขากลับใช้เวลาแค่เพียง 30 วินาทีเท่านั้น แต่พี่กลับทำเงินได้ 3 หมื่น บวกค่าปิดปากอีก 5 หมื่น” ซันนี่เปิดเเชมเปญอย่างคล่องแคล่วราวกับเ้าของบ้าน ก่อนจะรินให้เสิ่นิและเซี่ยวอี๋คนละแก้ว
“ธุรกิจของพี่กำไรได้ดีเหรอ?” เซี่ยวอี๋หยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาพร้อมกับกล่าวด้วยความสงสัย
“ก็ต้องดูเบ้าหน้าด้วยสิ สินค้าเกรดต่ำคงต้องไปเป็นางแบบส่วนตัวอยู่ในห้องตาลุงโรคจิตเท่านั้นแหละ รายได้พันหยวน กว่าจะได้ก็คงต้องบริการกันทั้งวัน ต้องขายหน้าตาด้วย บนอินเทอร์เน็ตถ้าสุ่มค้นหาแล้วเจอรูปภาพพวกสาวๆ ไม่สวมใส่เสื้อผ้า ใครจะอยากเสียเงินดูข้างในเธออีกล่ะ มันต้องหาทางเอาตัวรอด” ซันนี่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ริมกาบเรือ ขณะที่กำลังจะดื่ม แก้วแชมเปญกลับถูกเสิ่นิฉกไป
“ดื่มนี่ดีกว่า ผมชิมแล้ว ไม่มียาพิษ” เสิ่นิยื่นแก้วของตัวเองให้ซันนี่ ก่อนจะถอยไปด้านข้างอย่างเงียบๆ
ซันนี่จับจ้องเขาแล้วกล่าวต่อไป “อย่างพี่ที่ขึ้นชื่อว่า ‘ราชินีสาวไซด์ไลน์’ เดือนหนึ่ง ถ้าทำงานจริงจัง ก็คงทำเงินได้ราวๆ 6 แสน ถึง 1 ล้านหยวน ไม่หย่อนไปกว่านี้ใช่ไหมล่ะ?”
“เงินดีขนาดนั้นเลย?” เซี่ยวอี๋ใ
“คิดว่าเยอะใช่ไหมล่ะ? 10% ถูกหักเข้ากระเป๋านายหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีงานทำต่อ อีก 5% ถูกหักเป็ค่าแป๊ะเจี๊ยะให้กับพวกมาเฟียเ้าถิ่นเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อีก 50% เอามาชอปสินค้าต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองยังอยู่ในระดับไฮ-เอนด์ อีก 10% หมดไปกับสถาบันความงามเพื่อดูแลรูปร่างหน้าตา ส่วนที่เหลือถึงจะเอามาใช้ได้” ซันนี่ถอนหายใจเบาๆ ถือเป็การตัดพ้อ
“นั่นก็ถือว่าเยอะอยู่ดี” เซี่ยวอี๋จิบแชมเปญพลางกล่าว
“ดูท่าว่าน้องสาวคงจะยังไม่เคย เธอรู้ไหมว่าการหาเงินโดยการนอนราบนี่มันเหนื่อยยากแค่ไหน? ผู้ชายตัวเหม็นพวกนั้นคิดแต่จะทำวิตถารอะไรกับเธอ ยิ่งไปเจอพวกโรคจิตหมดสมรรถภาพแต่ก็อยากใช้อุปกรณ์ อะไรก็กล้าเอามาใช้ พี่สาวไม่ขายรูทวาร แต่เพื่อนพี่ไม่รู้กี่คนที่ตอนนี้ผายลมแบบไร้เสียงแล้ว!”
“พอๆๆ ไม่ต้องลงรายละเอียดก็ได้ไหม?” เซี่ยวอี๋หวนนึกถึงภาพยนตร์ที่เคยดูในอดีต
“เคยคิดจะเกษียณไหม?” เสิ่นิกระซิบถาม
“ไม่เกษียณก็ตกงานอยู่ดี วงการไซด์ไลน์เป็วงการของเด็กวัยรุ่น มีคนสวยหน้าใหม่เข้ามาไม่เว้นวัน ทำอะไรก็ได้เพื่อเงิน ไซด์ไลน์สูงวัยอายุ 28 อย่างพี่ คงจะเริงร่าอยู่ได้อีกไม่กี่ปี พี่วางแผนไว้ว่าอีกสักสองปีก็จะกลับบ้านนอกไปเลี้ยงหมูแล้ว” ซันนี่พูดติดตลก
“เลี้ยงหมูก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องฝืนยิ้มให้หมู” ในขณะที่เสิ่นิกล่าว เรือก็จอดเทียบท่าที่เกาะหนานซานแล้ว ปาร์ตี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ชายหาดบริเวณลานจัดงานประดับไปด้วยโคมไฟอันสว่างไสว วงดนตรีแจ๊สบรรเลงเพลงยอดนิยม ชายหญิงในชุดราตรีต่างก็ถือแก้วไวน์จับกลุ่มพูดคุยกันราวสามถึงห้าคน บรรยากาศเหมือนปาร์ตี้การกุศลของบรรดาเหล่าคนดัง ถ้าไม่ได้ตั้งใจเงี่ยหูฟังบทสนทนาของพวกเขา...
“คืนหนึ่งคุณคิดเท่าไร? ควบสองได้ไหม? เล่นเกมอะไรเป็บ้าง? เล่นเต่าโดนมัดได้หรือเปล่า?”
“ราคาคุยกันได้นะ ควบสองต้องดูคนก่อน เกมเล่นได้หลายแบบแต่คิดราคาต่างหาก เต่าโดนมัดไม่ต้องพูดถึงเลย กลัวว่าฝีมือของคุณไม่ดี มันจะทิ้งรอยเอาไว้เปล่าๆ กลับบ้านเดี๋ยวสามีจะด่าเอาได้”
...
“น้องสาว น่ารักจัง ขอราคาหน่อย”
“พี่ชายเอาให้ชัวร์ นี่มันโซนเกย์ ฉันเป็รุกนะ”
“ผมรู้ วันนี้พี่ชายอยากลองเปลี่ยนรสนิยมน่ะ”
...
เกาะหนานซานตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเป๋ยไห่ เป็พื้นที่ส่วนบุคคล ไม่ได้เปิดสู่โลกภายนอก พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทท่องเที่ยวชื่อดังระดับนานาชาติ เชี่ยวชาญในด้านการจัดปาร์ตี้ส่วนตัวและงานโชว์ หรืองานแต่ง ราคาไม่แพง
คุณชายของซันนี่ผลาญเงินไป 3 ล้านเพื่อจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ เพื่อหน้าตา เพื่อให้เพื่อนห่าเพื่อนเหวได้นั่งเครื่องบินมาร่วมงาน ชื่อเสียงของตนจะได้ขจรขจาย
“พวกเธอก็กินดื่มกันตามใจชอบนะ พี่จะไปทักทายคุณชายสักหน่อย แล้วก็อาจจะแวะทักทายคนรู้จักสักสองสามคน” เมื่อซันนี่มาถึงงาน เธอก็ทิ้งเซี่ยวอี๋และเสิ่นิไว้ที่โต๊ะบุฟเฟต์
“จำที่ผมบอกได้หรือเปล่า?” เสิ่นิคว้าแขนของซันนี่ไว้
“จำได้ อย่าดื่มเหล้าของคนอื่น อย่ากินของที่คนอื่นให้ อย่าอยู่ห่างสายตาเธอเกิน 10 เมตร อย่าเสวนากับคนแปลกหน้า อย่าพกถุง” ซันนี่กลอกตา ระหว่างทางเสิ่นิย้ำเธอไม่ต่ำกว่า 100 รอบอย่างกับพระสวดมนต์
“ข้อสุดท้ายพี่เพิ่มขึ้นมาเอง ข้ออื่นถูกหมด” ว่าจบเสิ่นิถึงปล่อยซันนี่ไปได้
เซี่ยวอี๋เปลี่ยนความไม่พอใจให้เป็ความอยากอาหารแทน ไม่นานเธอก็ตักมาจนพูนจาน พอมองไปที่เสิ่นิ พ่อนักชิมกลับมีแค่เพียงของว่างแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
“นายทำอะไรน่ะ? แสร้งเป็สุภาพบุรุษ?” เมื่อเทียบกับเสิ่นิแล้ว เซี่ยวอี๋ช่างดูน่าอาย เธอแอบเขี่ยอาหารในจานทิ้งไปครึ่งหนึ่ง
“เวลางาน ทานเยอะไม่ได้ หากถึงเวลาต้องออกโรง เดี๋ยวจะเดินไม่ไหว จะโดนคนหัวเราะเยาะเอา” เสิ่นิกินองุ่นแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ซันนี่ซึ่งเดินเข้าไปในกลุ่มผู้ชายที่อยู่ไม่ไกล พวกนั้นดูอายุราวๆ 30 กว่า พอพวกเขาเห็นซันนี่ สายตาที่แสนหื่นกามก็เอาแต่เพ่งอยู่ที่ร่องอกของเธอ อยากจะโอบเอว ลูบก้น โดยที่ไม่เก็บอาการ