สี่ทุ่มแล้ว เสิ่นิยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากใช้บ้านเป็ที่คุ้มกันภัย จึงต้องยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้น
เขาติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบ้านทุกทิศทุกมุมด้วยกล้องความละเอียดแบบ HD เป็กล้องรุ่นเดียวกันกับที่ตำรวจใช้ถ่ายป้ายทะเบียนยามที่ไม่มีแหล่งกำเนิดแสง มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัยซึ่งไวต่อแรงกดรอบรั้ว ต่อให้นกตัวหนึ่งมาเกาะ มันก็จะแสดงผลที่หน้าจอโทรศัพท์ของเสิ่นิ
ลวดตาข่ายสีดำถูกลากออกมาไว้ที่กลางสนามหน้าบ้านใน่กลางคืน ที่ปลายของตาข่ายผูกกระดิ่งไว้ หากเหยียบโดนเข้าก็จะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเหมือนการเต้นรำอยู่บนฟลอร์
ส่วนประตู หน้าต่าง เขาได้ติดตั้งอุปกรณ์ะเิซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ผู้บุกรุกชนิดที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
เสิ่นิใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการติดตั้งอาวุธฟันปลาให้กับบ้านพักสองชั้นของเขา พอดูแล้วก็ไม่ได้แตกต่างไปจากตอนที่ยังไม่ได้ติดตั้ง การประจันหน้ากันระหว่างมือสังหารและบอดี้การ์ด จะแพ้หรือจะชนะ มันเกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตา ความประมาทของผู้คุ้มกันเพียงชั่วขณะ อาจเป็ช่องโหว่ให้มือสังหารลงมือได้
ในขณะที่เสิ่นิกำลังง่วนอยู่นอกบ้าน าระหว่างสาวๆ ในบ้านก็ได้ปะทุขึ้น...
“กรี๊ด!” ซันนี่ซึ่งกำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ในชุดนอนลูกไม้สะดุ้งใจากเสียงกรีดร้อง ไม่กี่วินาทีถัดมา ประตูห้องของเธอก็ถูกเซี่ยวอี๋เปิดออก เซี่ยวอี๋ซึ่งมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันตัวอยู่โกรธเสียจนคุมสติไม่อยู่ “พี่! พี่! พี่ใช้อ่างอาบน้ำของฉันเหรอ?!”
“ไม่ได้มีชื่อเธอเขียนติดไว้นี่ พี่ก็เลยใช้ ทำเป็เื่ใหญ่ไปได้?” ซันนี่ทานโยเกิร์ตในถ้วยต่ออย่างไม่ใส่ใจ และเมื่อไม่ทันได้ระวัง ของเหลวหนืดสีขาวพร้อมกับชิ้นผลไม้ก็หยดลงบนร่องอก ไหลลึกลงไปตามทาง คาดว่าอีกเดี๋ยวเธอคงต้องอาบน้ำอีกรอบ
“ใช้เสร็จแล้วก็ช่วยล้างทำความสะอาดด้วยได้ไหม? และกรุณาอย่าตัดผมในอ่างอาบน้ำ! ท่อระบายน้ำจะตันเอานะ! ก้อนดำๆ เป็กระจุก ฉันขยะแขยง!” เซี่ยวอี๋สืบเท้าเข้าไปหาซันนี่ด้วยความโมโห ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่า ผมของซันนี่เป็สีแดงไวน์ แล้วไอ้ที่ดำๆ ...หยิกๆ นี่...เซี่ยวอี๋หน้าซีดลงในทันใด
“น่าเกลียด อย่ามาพูดจาแบบนี้ต่อหน้าผู้ชมของพี่นะ อนาจารเหลือเกิน พี่เพิ่งจะเล็มแต่ง ‘พุ่มหญ้า’ ของพี่ก็เท่านั้นเอง” ซันนี่กล่าวด้วยท่วงท่าอันทรงเสน่ห์
“ฉันล่ะอยากจะสับมือตัวเองทิ้ง...” เซี่ยวอี๋แทบจะร้องไห้ แต่มันก็มีภาพที่น่าใยิ่งกว่าและสามารถทำให้เธอลืมเื่ที่เธอจะร้องไห้ไปได้ เธอเห็นว่าซันนี่มีอุปกรณ์แสดงภาพอยู่สามจอ ติดตั้งกล้องความละเอียดสูงถึง 6 ตัว บนจอเ่าั้เต็มไปด้วยชายน่าสมเพชซึ่งกำลังช่วยตัวเองอยู่
“นี่มันอะไรกัน?”
“พี่กำลังไลฟ์สดน่ะ ทุกท่านในนี้ล้วนเป็แฟนๆ ของพี่เอง ไลฟ์ของพี่มีคลาสนะ ถ้าอยากจะเข้าร่วมก็ต้องส่งของขวัญมูลค่าอย่างน้อย 1,000 หยวนมาให้ ไม่ต้องถอดหมด อย่างมากก็แค่เห็นสองจุด เต้นระบำ ทานโยเกิร์ตและบังเอิญทำหกลงไปในร่องอกโดยที่ไม่ตั้งใจ แค่นี้ก็พอ” ในขณะที่ซันนี่อธิบายอยู่นั้น เพลงปลุกใจก็ดังผ่านลำโพงขึ้นมา “โอ๊ย มีคนส่ง ‘เครื่องบินส่วนตัว’ มาให้พี่ มูลค่า 1,000 หยวน! ฮะ? หมอนั่นบอกว่ามอบให้เธอ และบอกว่าถ้าเธอเอาผ้าเช็ดตัวลงล่ะก็ เขาจะส่งมาให้อีก 2 ลำ
น่าเบื่อ หมกมุ่นกับน้องสาวต่อหน้าฉันนี่คิดดีแล้วเหรอ? ฉันจะโกรธแล้วนะ”
ซันนี่หันไปยิ้มให้กล้องก่อนจะหันกลับมาพูดกับเซี่ยวอี๋ “เฮ้ พวกเขาชอบเธออยู่นะ อยากเข้าวงการไหม วันหนึ่งทำเงินได้อย่างน้อย 1 หมื่นเลยนะ!”
“เข้ากับผีน่ะสิ ไอ้พวกโรคจิต! ไปตายซะ ไอ้พวกแก่ตัณหากลับ!” เซี่ยวอี๋ชูนิ้วกลางให้กล้องด้วยความโมโห ก่อนจะกระแทกประตูปิดและเดินจากไป
“เฮ้อ ์ส่งของดีมาให้แท้ๆ เสียของเปล่าๆ” ซันนี่กล่าวอย่างผิดหวัง
เมื่อเสิ่นิกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มก็เห็นว่าเซี่ยวอี๋กำลังกระพือปีกอยู่ใต้อ่างล้างจาน เธอกำลังมองหาอะไรอยู่สักอย่าง เธอยังคงสวมผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว ขาเรียวยาว 105 เิเของเธอออกมาัักับอากาศด้านนอก เสิ่นิจ้องเธอเสียจนไส้กรอกแฮมของเขาตุงกางเกงอีกครั้ง
“คุณหาอะไรอยู่?”
“ผงซักฟอก! แม่วัวนั่นดันมาตัดหญ้าในอ่างอาบน้ำของฉัน! ฉันจะต้องทำการฆ่าเชื้ออย่างยิ่งใหญ่! บอกนายไว้ก่อนเลยนะ! ั้แ่นี้เป็ต้นไป ฉันจะล็อกห้องน้ำชั้น 2! นอกจากฉันแล้ว ใครหน้าไหนก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ของของฉัน! ฉันกลัวติดโรค!” เซี่ยวอี๋ยังโมโหไม่หาย
“คุณน่ะ อย่าคิดเล็กคิดน้อยสิ ที่จริงแล้วพี่ซันนี่เขาก็ไม่เลวนะ เพิ่งมาถึงก็ให้ของขวัญผมเลย” เสิ่นิหมายถึงขวดน้ำมันหล่อลื่นซึ่งสามารถรับประทานได้
“ยอมรับซะเถอะ พวกผู้ชายอย่างคุณชอบสาวๆ ที่หน้าอกใหญ่ ก้นใหญ่” เซี่ยวอี๋ลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปส่งสายตาเหยียดหยามให้เสิ่นิ
“ในทางทฤษฎีแล้วหน้าอกใหญ่ก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะ ยกตัวอย่างเช่นหากถูกะุยิงเข้า ด้วยขนาดหน้าอก 34F หน้าอกจะช่วยกันะุไว้ได้ ในขณะที่คัพ A ก็จะโดนะุเข้าจังๆ” เสิ่นิเพ้อเจ้อ
“หยุดไร้สาระน่ะ ติดตั้งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” เซี่ยวอี๋หยิบผงซักฟอกและนั่งลงบนโซฟา
“เสร็จแล้ว แต่ทุกเช้าจะต้องไปรื้อออก ตกดึกก็ต้องไปเปลี่ยน layout งานหนักใช่ย่อยเลย” เพื่อชื่อเสียงของบริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลเสิ่น เสิ่นิสู้ตาย
“มันจะเหมือนกับคราวที่แล้วไหม ถ้าเรารวบรวมข่าวกรองได้ก่อน ก็จะได้เตรียมรับมือได้ถูก” วิธีการคิดของเซี่ยวอี๋เริ่มเป็ไปในทิศทางเดียวกันกับเสิ่นิมากขึ้นเรื่อยๆ
“เมื่อเช้าผมให้ไอ้เพื่อนสารเลวที่เอาเงินผมไป 3 แสนช่วยสืบให้แล้ว แต่่นี้ใบสั่งที่ส่งกันในแวดวงนักฆ่าไม่มีคำสั่งในเมืองหลินไห่เลย นั่นอธิบายได้ว่ามือสังหารไม่ได้ฆ่าเพื่อเงิน” นี่คือสิ่งที่เสิ่นิกลัวมากที่สุด
“ไม่ได้ฆ่าเพื่อเงิน? หรือว่าเป็งานอดิเรก?” เซี่ยวอี๋สงสัย
“มีเพียงเ้าฆาตกรเด็กนั่นเท่านั้นที่รู้ความจริง ถ้าหมอนั่นเป็อิสระ ผมก็พอจะเล่นเกมทรมานกับมันได้สักหน แต่ตอนนี้มันถูกตำรวจกุมอยู่ในห้องขัง ผมเชื่อว่าลุงตำรวจคงไม่ยอมให้ผมปฏิบัติต่อนักโทษเช่นนั้น ก็เลยช่วยไม่ได้...” เสิ่นิถอนหายใจเหยียดยาว
และในขณะนั้น โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น กริ๊งกริ๊ง ถึงเขาจะเคยให้เมิ่งฉีช่วยโฆษณาบริษัทด้วยเบอร์นี้ แต่ก็คงไม่มีใครโทร.หาบอดี้การ์ดกลางดึก 5 ทุ่มหรอกมั้ง? บอดี้การ์ดนะไม่ใช่เป็ด...
เสิ่นิส่งสัญญาณบอกให้เซี่ยวอี๋เปิดโหมดดักฟัง ส่วนตัวเองเขาเอง เขานิ่งไป 5 วินาที ก่อนจะรับสาย
“สวัสดีครับ ที่นี่บริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลเสิ่นครับ” เสิ่นิกล่าวอย่างผ่าเผย
“ผมมีงานให้คุณทำ ไม่ทราบว่าคุณเสิ่นิสนใจหรือไม่?” ปลายสายใช้เครื่องดัดเสียงอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเน้นเสียงราวกับนักรบฝ่ายอธรรมในเื่ Star Wars
“ขอแค่ทำกำไรได้ ผมสนใจทั้งนั้นแหละ” เสิ่นิหยิบโทรศัพท์ไร้สายเดินไปที่หน้าต่างพลางมองลอดผ่านช่องว่างระหว่างผ้าม่านออกไป
“ผมได้จับตามองการรักษาความปลอดภัยของคุณเสิ่นิมาหนึ่งวันเต็ม บอกได้เลยว่ายอดเยี่ยมไม่มีช่องโหว่ ปกติแล้วผมจะรับมือกับบอดี้การ์ดได้ไม่ถึง 100 ชีวิต อย่างมากก็แค่ 80 คนเท่านั้น คนที่สามารถทำงานได้พิถีพิถันอย่างคุณเสิ่นินั่นมีไม่เกิน 5 คน” คนในสายไม่อ้อมค้อมอีกต่อไปแล้ว “ผม้าซื้อชีวิตของผู้หญิงคนนั้น เสนอราคามา”
“คุณสุภาพบุรุษครับ ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดแล้ว ถ้าผมขายชีวิต นั่นก็เท่ากับว่าผมขายตัวเองด้วย ผมไม่ขายนายจ้าง พ่อสอนผมมาั้แ่เล็ก ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องหามาด้วยตัวเอง คุณอยากได้ชีวิตเธอ คุณก็มาเอาไปเอง แต่ระวังไว้ด้วยว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของคุณ” เสิ่นิพูดแทงใจอย่างเยือกเย็น
“คิดไม่ถึงเลยว่า ‘มือสังหารหนุ่ม’ จะถูกครอบงำได้มากขนาดนี้ อันที่จริงผมไม่ได้คิดที่จะเป็ปรปักษ์กับนิรวานเลย แต่ในเมื่อพวกคุณร้ายกาจมากขนาดนั้น คราวนี้ไม่ว่าจะเสี่ยงมากแค่ไหนก็จะขอลองดูสักตั้ง” คนในสายถอนหายใจ
“สะดวกฝากชื่อไว้ไหม? พอคุณตาย ผมจะได้รู้ว่าป้ายหลุมศพของคุณควรจะสลักชื่อว่ายังไง” เสิ่นิกล่าวอย่างยั่วยุ
“ผมจะไม่บอกชื่อแซ่จริงและเลขประจำตัว แต่คุณเรียกผมว่า ‘จิติญญาผูกพัน’ ก็ได้” คนในสายพูดยิ้มๆ
“ถ้าอย่างนั้นคุณจิติญญาผูกพัน อยากฟังในสิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับตัวคุณไหม? คุณน่าจะอายุมากกว่า 60 ปี เป็คนญี่ปุ่น อยู่ในแวดวงมือสังหารมานานหลายปี แต่ไม่เป็ที่รู้จัก เป็มือสังหารระดับสูงแต่ไม่ได้อยู่แนวหน้า คุณอุทิศตนให้กับอาชีพนักฆ่า เป็ผลให้ละเลยและไม่ได้อบรมสั่งสอนลูกชายของตัวเอง จนกระทั่งปัจจุบัน ลูกชายของคุณมีความผิดปกติ เขาปลิดชีวิตผู้อื่นเพื่อระบายอารมณ์
ในฐานะคนเป็พ่อ คุณจึงรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ดังนั้นจึงได้ตามล้างตามเช็ดให้เขาอย่างเงียบๆ เสมอมา” เสิ่นิเล่าพล็อตเื่ซึ่งเหมือนกับในละครทีวี
“...” จิติญญาผูกพันนิ่งเงียบไป “ภายใน 20 วันนี้ ผมจะไปรับชีวิตของคุณ ของคู่หูคุณ และผู้หญิงคนนั้นด้วยตัวเอง”
พูดจบ เขาก็ตัดสายไป
“ผมเดาถูกล่ะสิ...” เสิ่นิเผยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
“นายรู้เื่พวกนี้ได้ยังไง?” เซี่ยวอี๋ซึ่งได้ยินั้แ่ต้นจนจบรู้สึกประหลาดใจ
“ง่ายมาก มือสังหารไม่ได้ฆ่าเพื่อเงิน แต่เป็เพราะความเสน่หา ที่ผมให้เพื่อนตรวจสอบไม่ใช่แค่เื่ใบสั่งฆ่าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเื่ปูมหลังของคุโด้ คินดะอิจิมาชิด้วย
เ้าเด็กนั่นผลการเรียนไม่ดี ไม่มีพ่อั้แ่เล็ก ใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง พอเขาอายุได้ 20 ปีแม่ก็เสียชีวิตลงด้วยความชราภาพ ั้แ่นั้นเป็ต้นมา คุโด้ก็ได้รับเงินสดจำนวนไม่น้อยในทุกๆ เดือน และเริ่มต้นใช้ชีวิตอันน่าบัดซบและสมเพช
ผมได้ตรวจสอบชีวิตแม่ของเขาซึ่งเป็พยาบาลในตลาดมืด เชื่อว่าครั้งหนึ่งเธอเคยช่วยชีวิตพ่อของเด็กนั่นไว้ ั้แ่นั้นมาด้วยชะตาฟ้าลิขิต เธอก็ได้ให้กำเนิดเด็กน้อยคุโด้
ถ้ามือสังหารไม่ได้รักงานก็คงจะเกษียณไปนานแล้ว ถ้ามือสังหารอายุยังน้อยก็คงไม่ได้โอ๋ลูกหรือสปอยลูกจนเสียคนแบบนี้
ความจริงแล้วจิติญญาผูกพันนั่นเผยให้เห็นจุดบกพร่องั้แ่เริ่ม ข้อบกพร่องของเขาก็คือเ้าลูกชายตัวแสบ”
“ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ทำไมจู่ๆ สมองของนายถึงได้มีประสิทธิภาพขึ้นมา?” เซี่ยวอี๋เปลี่ยนประเด็นเอาเสียดื้อๆ
“บ๊ะ อย่าลืมสิว่าผมเริ่มกินซาลาเปาเป็มื้อเย็นแล้ว! ผมไม่ได้เป็เสิ่นิผู้กินหญ้าอีกต่อไปแล้ว!” เสิ่นิชกหน้าอกเป็เชิงโอ้อวด
“ถ้าอย่างนั้นคุณบอดี้การ์ดผู้กินซาลาเปา คุณมีวิธีจัดการกับเขาไหม?” เซี่ยวอี๋พลิกสลับขา
“วิธีที่ค่อนข้างรัดกุมก็คือรีบจัดการกับลูกชายของเขาั้แ่ตอนนี้ เขาก็จะไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายคุณกับพี่ซันนี่ เขาจะพุ่งเป้ามาที่ผม แล้วนั่นก็สบายล่ะ” ท่าทางที่สงบนิ่งของเสิ่นิบ่งบอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่นเลยแม้แต่น้อย
“เปลี่ยนแผนเถอะ”
“รอให้มือสังหารโจมตีในอีก 20 วันข้างหน้า เราก็มีโอกาสเหลือเฟือที่จะตั้งรับ ขอแค่รวบตัวมันให้ได้สักครั้ง มันก็จบแล้ว” ในขณะที่เสิ่นิพูด ซันนี่ซึ่งอยู่ชั้นบนก็เดินออกมาจากห้อง พร้อมกับกล่าวขึ้นในขณะที่ยืนพิงระเบียง
“จริงสิ พรุ่งนี้จะมีปาร์ตี้วันเกิดลูกคนรวย พี่ได้รับเชิญด้วย พรุ่งนี้พวกเธอก็ไปด้วยกันนะ อย่าลืมใส่ชุดที่มีคลาสหน่อยล่ะ นั่นเป็ปาร์ตี้ระดับไฮโซเลยนะ”
“บ้าเอ๊ย หาเื่อีกแล้ว…” เซี่ยวอี๋สบถเพื่อระบายความแค้น