เซี่ยโม่เหงื่อแตกพลั่กด้วยความหวาดกลัว แต่พอหันไปมอง เห็นว่าคนทำคือซ่งมู่ไป๋ เธอถึงค่อยผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ปล่อยให้อีกฝ่ายดึงเธอเข้าไปหลังประตู
“พี่ซ่ง พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” เธอถามด้วยความสงสัย
ซ่งมู่ไป๋เอานิ้วชี้แตะที่ริมฝีปาก ก่อนจะชี้มือไปด้านนอก พร้อมทำเสียงชู่ เป็สัญญาณให้เงียบไว้
เซี่ยโม่มองด้วยความตกตะลึง หากคนตรงหน้าทำท่าลากนิ้วตรงริมฝีปากด้วยละก็ คงได้นึกว่าอีกฝ่ายก็กลับชาติมาเกิดใหม่เช่นเดียวกันกับเธอ
ท่าทางต่างๆ ที่ได้รู้จักเมื่อชาติที่แล้วล้วนพัฒนามาจากในอดีต วันนี้พอได้เห็นท่าต้นแบบ เธออดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
เธอเดินตามชายหนุ่มเข้าไปด้านใน พอมั่นใจว่าคนข้างนอกไม่มีทางได้ยินบทสนทนาของพวกเธอทั้งคู่จึงถามต่อด้วยความสงสัย “พี่ซ่ง วันนี้ไม่ทำงานเหรอคะ แล้วบ้านหลังนี้คือบ้านของพี่เหรอคะ”
ซ่งมู่ไป๋พูดด้วยสีหน้าขุ่นเคือง “ฉันลางาน พรุ่งนี้ฉันต้องไปรับเธอกับน้อง ฉันก็เลยขอลาล่วงหน้า ไหนเธอบอกมาสิว่ามาทำอะไรที่นี่ เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ถ้าอยากแลกอะไรหรืออยากซื้ออะไรให้ไปหาฉัน”
“ฉันว่างก็เลยมาเดินเล่น เห็นที่นี่มีคนอยู่เยอะก็เลยเดินเข้ามาดู…” เธอตอบพร้อมหลบสายตา ไม่อยากบอกคนตรงหน้าว่าตัวเองตั้งใจมาที่นี่
เด็กสาวกำลังโกหก! ซ่งมู่ไป๋พูดกับตัวเองในใจ
เขาดึงมือเด็กสาวไปที่เก้าอี้ ก่อนจะกดไหล่ทั้งสองข้างให้นั่งลง สองมือยันพนักเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเด็กสาวไม่ละสายตา “บอกความจริงมา!”
เซี่ยโม่ได้แต่นั่งนิ่ง ใจนทำอะไรไม่ถูก แววตาคมกริบของอีกฝ่ายที่มองมาราวกับสามารถมองเห็นความคิดความอ่านของเธอจนทะลุปรุโปร่ง
เธอเลยต้องพูดความจริงออกไป “ฉันได้ยินว่าในตำบลมีตลาดมืด พอดีฉันว่างก็เลยเดินมาดูด้วยความอยากรู้ ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอ…”
ซ่งมู่ไป๋ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “ตลาดมืดมีอะไรให้น่าเดิน เธอเคยไปที่บ้านฉันแล้วไม่ใช่เหรอ หากอยากได้อะไร ต่อให้ไม่มีของมาแลก ฉันก็ให้เธอได้”
พี่ซ่งกำลังเป็ห่วงเธองั้นหรือ? ทั้งท่าทางยังดูเอาใจใส่เธอเหลือเกิน
ยุคนี้มีของให้กินอิ่มท้องก็นับว่าดีมากแล้ว ไม่มีทางที่จะมีคนพูดกับใครอีกคนหนึ่งว่า ฉันให้เธอได้แน่นอน
หากเป็ผู้หญิงคนอื่นป่านนี้คงะโตัวลอยอย่างปลื้มปริ่มไปแล้ว
แต่เธอไม่ใช่คนที่อยากได้อะไรมาเปล่าๆ จึงรีบเอ่ยออกไปว่า “ตอนนี้ฉันมีหมดทุกอย่างแล้วค่ะ คูปองที่พี่ให้เมื่อครั้งก่อนมีอีกหลายใบที่ยังไม่ได้ใช้…”
ในสมองพลันปรากฏภาพคูปองหลายใบนั้น ใบหน้าเธอแดงเรื่อขึ้นมาในทันใด
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เธอก็เริ่มครุ่นคิด บ้านที่พี่ซ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ที่นั่นคือที่แลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า บ้านหลังนี้ยังอยู่ใกล้ตลาดมืดอีก หรือพี่ซ่งก็มีส่วนร่วมด้วย?
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเห็นว่ามีความเป็ไปได้
เซี่ยโม่นึกถึงหมูป่าที่อยู่ในโกดังสินค้าขึ้นมาได้เลยลองหยั่งเชิงถาม “พี่ซ่ง พ่อของเพื่อนร่วมชั้นฉันล่าหมูป่ามาได้หนึ่งตัว จะเอามาแลกกับพี่ได้ไหมคะ น้ำหนักประมาณสองร้อยกว่ากิโล”
ซ่งมู่ไป๋คิดในใจ ครั้งที่แล้วเด็กสาวอ้างชื่อเพื่อนร่วมชั้น ครั้งนี้ก็อ้างชื่อเพื่อนร่วมชั้นอีก
เขายังคงจ้องมองอีกคนนิ่ง พยายามจับสังเกตสีหน้าท่าทางของเด็กสาว เผื่อจะเจอพิรุธ
ไม่รู้ว่าเป็เพราะเด็กสาวโกหกจนเคยชินหรืออย่างไร สีหน้าท่าทางถึงได้ดูปกติ ไม่พบพิรุธใด มีแค่หลบตาเท่านั้น นั่นทำให้เขารู้สึกแปลกใจ หรืออีกฝ่ายจะพูดความจริง บิดาของเพื่อนร่วมชั้นเป็คนล่าหมูป่ามาได้จริงตามกล่าวอ้าง
หรือเด็กสาวล่ามาได้เอง? แต่เธอแขนขาเล็กเช่นนี้จะล่าเองได้อย่างไร?
เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ได้แน่นอนอยู่แล้ว จะแลกเป็เงินหรือของล้วนได้ทั้งสิ้น รับรองเธอไม่เสียเปรียบแน่นอน”
เซี่ยโม่เชื่อใจอีกฝ่าย แล้วเธอก็คิดวิธีออก “งั้นฉันขอยืมจักรยานหน่อยได้ไหมคะ จะได้ขี่ไปเอาหมูป่ามา”
ซ่งมู่ไป๋จำได้ว่า อีกคนเคยบอกว่าเพื่อนร่วมชั้นมีจักรยาน เด็กสาวลืมหรือไม่สะดวกใช้ของเพื่อนกันแน่ เขาคิดขณะเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”
“ไม่มีค่ะ” เซี่ยโม่ส่ายหน้า ถ้าชายหนุ่มไปด้วย เธอจะเอาหมูป่าออกมาจากโกดังสินค้าได้อย่างไรกัน
เธอจูงจักรยานออกจากบ้าน ก่อนจะขี่ไปในซอยที่ไม่มีคน เอาหมูป่าใส่ในกระสอบใบใหญ่ แล้วค่อยเอาออกมาจากโกดังสินค้า วางไว้บนเบาะนั่งด้านหลังของจักรยาน
วางเสร็จเธอรู้สึกว่ารถจักรยานมันหนักจนปั่นไม่ไป เลยนำมันลงแล้วใส่กลับในโกดังสินค้าเหมือนเดิม คิดหาวิธีอยู่ครู่ พอคิดได้ก็เอาหมูป่าออกมาใหม่ แล้ววางไว้ตรงเบาะหน้าของจักรยาน ส่วนเธอขึ้นไปนั่งเบาะด้านหลังแทน
ที่น่าเศร้าคือ แม้จะวางดีแล้วแต่คงเป็เพราะหมูถูกกดทับ เลยมีเืไหลออกมาจากปาก เืไหลซึมถุงกระสอบหยดลงบนพื้น
เธอปวดหัวเหลือเกิน จะทำอย่างไรดีล่ะเนี่ย
หากปั่นไปทั้งแบบนี้ เืหยดไปตลอดทางไม่พอ กลิ่นคาวจะดึงดูดคนให้มาสนใจด้วย
หากพวกยุวชนแดง[1]มาเห็นเข้า เธอต้องแย่แน่
เธอเอาหมูป่าเข้าไปใส่ในโกดังสินค้าอีกครั้ง ก่อนจะเอาถุงพลาสติกมาคลุมตัวหมู แล้วค่อยใส่ในถุงกระสอบอีกชั้น
เธอมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการจัดการหมูป่าจนรู้สึกปวดหัวไปหมด หรือเป็เพราะใช้แรงเยอะเกินไป?
อย่างไรแถวนี้ก็ไม่มีคน เธอหยิบขวดน้ำเปล่าออกมาจากในโกดังสินค้า แล้วเปิดดื่มจนหมดขวด
เมื่อรู้สึกดีขึ้น ถึงค่อยคิดได้ว่าจากตรงนี้ไปบ้านพี่ซ่งระยะทางยังอีกไกล เช่นนั้นปั่นไปใกล้ๆ ค่อยว่าอีกทีก็แล้วกัน
เซี่ยโม่ขี่จักรยานกลับไปที่บ้านซ่งมู่ไป๋ พอใกล้จะถึง เธอเอาหมูป่าออกมาวางตรงเบาะด้านหน้า จากนั้นใช้แรงอันน้อยนิดปั่นต่อไปยังจุดหมาย
ซ่งมู่ไป๋กำลังรอเด็กสาวอยู่ พอเห็นอีกฝ่ายกลับมาก็รีบเข้าไปช่วย
เขารับจักรยานมาจูงเอง น้ำหนักไม่น้อยเลยทีเดียว
เขาหันไปมองเด็กสาวที่มีเหงื่อออกเต็มหน้า ผมเผ้ายุ่งเหยิง เห็นแล้วเขารู้สึกปวดใจไม่น้อย
“ทำไมเพื่อนถึงไม่ช่วยเธอ”
เซี่ยโม่ที่คิดคำอธิบายเอาไว้แล้วเอ่ยตอบ “ทั้งเพื่อนทั้งพ่อของเพื่อนไม่มีใครอยู่บ้านเลยค่ะ มีแค่แม่เธอที่อยู่บ้าน แม่เธอสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ฉันเลยต้องเอามาเองคนเดียว”
เขาจูงจักรยานมาที่หน้าห้องครัวก่อนจะสั่งมาคำหนึ่ง “ต้มน้ำให้หน่อยสิ แล้วเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ค่ะ”
เซี่ยโม่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องครัว หันไปมองซ่งมู่ไป๋ที่ยกตัวหมูป่าลงจากรถจักรยานอย่างง่ายดายราวกับมันเป็ของไร้น้ำหนัก
เธอรู้สึกนับถือชายหนุ่มเหลือเกิน เธอต้องออกแรงแทบตาย แต่พี่ซ่งกลับจัดการได้อย่างสบายๆ ชายหนุ่มแรงเยอะจริงๆ
เธอมองอีกคนยกหมูลงมาวางไว้บนพื้นด้วยแววตาอิจฉา
เซี่ยโม่เดินเข้าไปในห้องครัว ข้างในทั้งสะอาดและเป็ระเบียบ เธอคาดเดาในใจว่า หรือพี่ซ่งจะพักอยู่ที่นี่?
เพิ่งจะเริ่มต้มน้ำ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ซ่งมู่ไป๋ที่เพิ่งวางหมูป่าลงกับพื้นหันมาพูดกับเธอ “สงสัยเพื่อนสองคนของฉันจะกลับมาแล้ว พวกเขาเป็เ้าของที่นี่”
เธอเข้าใจในทันที ที่แท้เ้าของบ้านก็กลับมาแล้วนี่เอง
“พวกเขาจะไม่เห็นด้วยหรือโกรธไหมคะ” เด็กสาวเอ่ยถาม
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่หรอก เดี๋ยวฉันหั่นและชั่งน้ำหนักให้ รับรองเธอไม่เสียเปรียบแน่นอน”
“ค่ะ ฉันเชื่อใจพี่อยู่แล้ว”
แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าประโยคเมื่อครู่มันไม่ถูกต้อง จึงรีบแก้ออกไปทันที “เพื่อนของฉันเชื่อใจคุณค่ะ”
ซ่งมู่ไป๋ยิ้มขณะส่งสายตาให้เด็กสาวรออยู่ในนี้ ส่วนเขาเดินไปที่ประตู มองลอดช่องประตู ก่อนจะเปิดมันออก จากนั้นชายหนุ่มอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีสองคนก็เดินเข้ามาข้างใน
—---------------------
[1] ยุวชนแดง คือ กลุ่มเยาวชนสวมเครื่องแบบทหารและปลอกแขนสีแดง ทำหน้าที่คอยดูแล เป็หูเป็ตาให้พรรคคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้