หลินรั่วซีะโลงจากโซฟาโดยพลัน และจ้องหยางเฉินเขม็ง
"นายไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องตัวฉัน!"
"เฮ้… คุณอย่าโอเวอร์นักสิ"
"ฉันแค่ล้อคุณเล่น ถ้าผมจูบจริงเที่ยงคืนนี้ผมคงถูกหั่นเป็ชิ้นๆ เหมือนในหนังเื่ Psycho แน่ๆ"
หลินรั่วซีไม่สนใจหยางเฉินอีก เธอปิดโทรทัศน์ทันที
"ป้าหวังบอกว่านายกลับไปเอาของที่อพาร์ตเมนต์ นายกล้าเอาของสกปรกพรรค์นั้นเข้ามาในบ้านของฉันอย่างนั้นหรือ?"
"คุณไม่ต้องกังวลน่า แค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุดเอง" หยางเฉินตอบขณะชี้ไปที่กระเป๋าตรงบันได "สิ่งที่ผมกังวลมากกว่าคือ ร้านขายแพะย่างของผมจะเป็ยังไงต่อจากนี้"
"นายยังจะเปิดร้านนั่นอีกงั้นหรือ?" หลินรั่วซีะโเสียงดังขณะจ้องมองหยางเฉินเหมือนเป็ตัวประหลาด เธอไม่เข้าใจความลุ่มหลงมัวเมาในการขายแพะย่างของหยางเฉินนัก
หยางเฉินกะพริบตาปริบๆ ตอบว่า
"อะไรกัน ในสัญญาของเราไม่ได้เขียนว่าห้ามผมขายเนื้อแพะย่างนี่"
หลินรั่วซีกัดฟันของเธอแน่นก่อนรีบตอบไปว่า
"ไม่มีทาง ฉันจะไม่ให้นายขายเนื้ออะไรนั่นอีก พรุ่งนี้เช้านายต้องไปหางานใหม่ทำ!"
หยางเฉินเกาหัวอย่างงงงวย ด้วยปริญญาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็เื่ง่ายมากที่เขาจะหาตำแหน่งสูงๆ ในบริษัทชั้นนำ แต่จะให้เขานั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศน่ะหรือ? ขายแพะย่างยังสนุกกว่าเป็ไหนๆ
"ไม่ต้องคิดหาข้ออ้างเลย นี่เป็คำสั่ง" หลินรั่วซีรีบพูดแทรกทันที
สายตาของเธอกำลังบ่งบอกว่า 'ถ้าแกไม่หางานใหม่ล่ะก็ แกตาย!' ขณะที่หยางเฉินจ้องมองเธอนั้น เขารู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นเยียบ จึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว
"เอาล่ะๆ... ผมเชื่อคุณก็ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปหางานใหม่"
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน หลินรั่วซีพยักหน้า แต่แล้วก็ทำท่าทางคล้ายนึกบางอย่างได้ พลางหยิบสมาร์ตโฟนให้หยางเฉิน
"รับไปสิ... ฉันจะได้ติดต่อนายได้เวลานายออกไปข้างนอก"
หยางเฉินรับมาอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนการแต่งงานครั้งนี้เขาจะได้กำไรมากมาย ทั้งคฤหาสน์ รถสปอร์ต แม้กระทั่งมือถือฟรี แม้ภรรยาของเขาจะเ็าไปบ้าง แต่เธอก็ดูแลเขาดีทีเดียว
หลินรั่วซีเห็นท่าทางมีความสุขของหยางเฉิน เธอไม่อาจทำอะไรได้นอกจากดูถูกด้วยสายตา เธอปิดปากหาวพร้อมบิดตัวเล็กน้อยกล่าวว่า
"ฉันไปนอนก่อน นายเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ล่ะ" พูดจบก็เดินขึ้นบันได พร้อมเสียงออดประตูที่ดังขึ้นกะทันหัน
ป้าหวังซึ่งกำลังยุ่งอยู่ในครัวรีบเช็ดมือที่เปียกของเธออย่างลวกๆ พร้อมเดินมาเปิดประตู
"นายท่าน กลับมาแล้ว..."
เมื่อได้ยินป้าหวังเรียกนายท่าน ใบหน้าของหลินรั่วซีพลันเปลี่ยนเป็ขาวซีด หันไปเห็นชายวัยกลางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน
ชายวัยกลางคนสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้มให้ความรู้สึกภูมิฐาน พร้อมเคราที่โกนหยาบๆ สิ่งเดียวที่สามารถบ่งบอกอายุของเขาได้คือริ้วรอยตีนกากับเส้นผมขาวประปราย เพียงเห็นครั้งเดียวก็สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็พ่อลูกกัน
หลินคุนเดินเข้ามาในบ้านพร้อมใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด เขาส่งสายตาดั่งคมมีดมายังหลินรั่วซี และเหลือบมองหยางเฉิน
"พ่อ..." หลินรั่วซีกล่าวเสียงแ่ การมาของเขาไม่น่าประหลาดใจอันใด ดูเหมือนจะให้ความรู้สึกเฉกเช่นคนแปลกหน้าเสียด้วยซ้ำ
"พ่องั้นเหรอ?"
"แกยังเห็นฉันเป็พ่ออยู่อีกหรือไง" หลินคุนคำรามลั่น "แต่งงานกับไอ้สวะที่ไหนก็ไม่รู้ แกไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยงั้นเหรอ!!!"
เสียงของเขาสั่นะเืไปทั่วบ้าน
ป้าหวังทั้งสับสนและตื่นใ เธอไม่คิดว่าคุณหนูจะแต่งงานโดยไม่บอกพ่อของเธอก่อน
หลินรั่วซีั์ตาเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำและน้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมา เธอสวนกลับทันที "ที่หนูพูดไว้ก่อนหน้านี้ หนูขอเลือกสามีของหนูเอง แม้จะเป็ไอ้สวะนี่ก็ยังดีกว่าแต่งกับซูจื้อหง"
"แก… แกพูดกับพ่อของแกอย่างนี้งั้นหรือ?"
"ดี ไร้ประโยชน์จริงๆ อย่าคิดว่าย่าของแกจะยกบริษัทให้แล้ว ฉันจะไม่สามารถทำอะไรแกได้ อย่าลืมว่าฉันถือหุ้นอยู่ 30% และที่สำคัญฉันเป็พ่อแท้ๆ ของแก!"
"พ่องั้นหรือ?" หลินรั่วซีกัดริมฝีปากแน่น "ั้แ่เด็กๆ หนูก็อยู่กับแม่และย่ามาโดยตลอด ไม่เห็นแม้แต่เงาของพ่อ และที่สำคัญหนูเกลียดซูจื้อหง อย่าเสียเวลามาคุยเื่นี้กันอีกเลย
"แกไม่ชอบเขา? แล้วยังไง? มันไม่เห็นเป็อะไรเลยที่ต้องหมั้นกับ CEO คนต่อไปของตงหัวกรุ๊ป แล้วแกจะบอกว่าแกชอบไอ้สวะนี่" หลินคุนกล่าวพร้อมชี้ไปที่หยางเฉิน
ั้แ่หลินคุนก้าวเข้ามาดั่งจ่าฝูงและเห่าหอนอย่างหมาป่า หยางเฉินจึงทราบเื่ราวของครอบครัวไปด้วย ดูเหมือนภายใต้การบังคับของพ่อ หลินรั่วซีจึงเลือกแต่งกับเขา แต่แน่นอน ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยของพวกเขา เป็เหตุให้เกิดการแต่งงานในครั้งนี้
การถูกเรียกว่า 'สวะ' หลายต่อหลายครั้ง แม้แต่พระเองก็ไม่อาจสงบใจได้ หยางเฉินซึ่งยังไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะลูกเขย ก็จ้องมองหลินคุนพร้อมกล่าวว่า "ลุง ผมขอแนะนำให้ลุงเก็บนิ้วลงไปซะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ มันอาจเป็อันตรายได้"
หลินคุนยิ้มเยาะ "แกรู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร? ฉันรู้ดีว่าแกเป็ใคร แกเป็แค่คนขายแพะย่างในตลาด ฉันไม่รู้ว่าแกทำยังไงถึงได้แต่งงานกับลูกสาวฉัน แต่ในสายตาฉัน แกเป็แค่ก้อนอุจจาระ นี่… แกจะทำอะไร!?"
แค่พริบตาเดียว หลินคุนกุมนิ้วมือตนเองทั้งใบหน้าบิดเบี้ยว เหงื่อไหลเป็ทาง ไม่เหลือคราบความกร่างอีกต่อไป
"หยางเฉิน… นาย" รั่วซีเห็นชัดเจนว่ามือของหยางเฉินบีบไปที่นิ้วของหลินคุน แล้วเขาก็ชักมือกลับอย่างรวดเร็วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หยางเฉินยืนสงบนิ่งหันไปทางหลินรั่วซีแล้วยิ้ม "ไม่มีอะไรต้องกังวล ผมแค่ไม่ชอบให้ใครมาชี้นิ้วใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมเตือนเขาแล้ว นิ้วเขาแค่หักใช้เวลาประมาณ 10 วันเดี๋ยวก็หาย"
หากเป็เขาก่อนหน้านี้ล่ะก็ ป่านนี้หลินคุนคงหัวแตกไปแล้ว
หลินคุนอดทนต่อความเ็ป แล้วคำรามลั่น "รอก่อนเถอะไอ้สารเลว ฉันจะไม่ให้แกตายง่ายๆ แน่ ฉันจะหาคนมาจัดการแก!"
"พ่อ… หยุดพูดก่อนเถอะ นิ้วพ่อเป็ยังไงบ้าง" แม้รั่วซีจะเกลียดพ่อของเธอ แต่เืย่อมข้นกว่าน้ำ ขณะเห็นหลินคุนได้รับาเ็ หัวใจของเธอก็ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"นางแพศยา… อย่ามาแตะ" หลินคุนคำรามแล้วผลักหลินรั่วซีล้มลง
"พ่อ..." หลินรั่วซีหน้าซีดเผือด เธอไม่คิดมาก่อนว่าพ่อจะเรียกเธออย่างนี้ ดวงตาของเธอริบหรี่ เธอเกือบจะสลบไปในทันที
ป้าหวังที่นั่งร้องไห้อยู่มุมหนึ่งรีบไปช่วยพยุงหลินรั่วซีทันที เธอเป็แค่คนรับใช้จึงไม่มีสิทธิพูดอะไรมาก
หลินคุนยืนขึ้นในที่สุด เขาจ้องมองหยางเฉิน "ไอ้หนุ่ม จำไว้แกไม่ได้ตายดีแน่"
หยางเฉินมองหลินรั่วซีล้มลง เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ ถึงแม้จะแต่งด้วยแค่ปากกาและกระดาษ แต่เธอก็คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นในกายของหยางเฉิน
ด้วยท่าทางอันสงบนิ่งของหยางเฉินปรากฏเพียงริมฝีปากดูถูก
"ผมจะพูดครั้งนี้ครั้งเดียว ผมไม่อยากมีปัญหากับใคร ผมไม่สนใจว่าคุณมีปัญหาอะไรกับภรรยาผม แต่ผมมีหลักการและไม่ชอบให้ใครมาข่มขู่"
โดยไม่ให้หลินคุนได้โต้ตอบ แสงสายหนึ่งก็พุ่งกระทบแก้มซ้ายของหลินคุน
"แปะ!!!"
เสียงดังกังวานสะท้อนไปทั่วห้องนั่งเล่น จากนั้นหลินคุนพลันหมดสติทั้งยืนภายในฝ่ามือเดียว
"คุณชาย… นี่..." ป้าหวังกล่าวตะกุกตะกัก เธอไม่ทันสังเกตเห็นการลงมือของหยางเฉิน "เกิดเื่แล้ว เราจะจัดการปัญหาอย่างไรดี" หลินรั่วซีอยู่ภายใต้อ้อมกอดของหยางเฉินด้วยสายตาเลื่อนลอย
"ป้าหวังดูแลรั่วซีให้ดี ผมจะสั่งสอนหมูโง่ตัวนี้หน่อย" หยางเฉินกล่าวอย่างไม่ยี่หระต่อป้าหวัง
หลังจากจบคำ หยางเฉินลากหลินคุนออกจากบ้าน ภายในเวลาไม่นาน เขามาถึงสถานที่ทิ้งขยะ จากนั้นโยนหลินคุนลงไปในนั้นแล้วจึงปิดฝาถังลง ปัง!