หลังออกจากบาร์โรสมาไม่นาน หยางเฉินรีบเดินทางกลับบ้านทันที เขาเกือบไปผิดทาง เพราะไม่คุ้นเคยกับเส้นทางไปบ้านหลังใหม่ แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าเ็าน่ารักของหลินรั่วซี มันทำให้เขาอยากแกล้งเธอราวกับเป็คู่แค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน
รถหรูขับผ่านชานเมืองตัดเข้าเส้นทางหลวง ทันใดนั้นหยางเฉินสังเกตเห็นรถคันข้างหลังเปิดไฟสูงส่องมาที่รถของเขา หยางเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยขับเปลี่ยนไปเลนอื่น ดังคาดรถคันนั้นเปลี่ยนเลนตามส่องไฟมาที่รถของเขาต่อ แสงไฟสะท้อนกระจกหลังสว่างจ้า
เวลานี้จราจรไม่ติดขัดในถนนเส้นเลี่ยงเมือง ถนนสายนี้เป็วันเวย์สองเลน หยางเฉินรู้สึกว่าเขาคงโดนหมายหัวโดยแก๊งนักซิ่ง
อย่างไรก็ตามรถ BMW M3 นั้นไม่ใช่รถธรรมดา มันเป็รถระดับท็อปคลาส มันไม่ง่ายเลยที่รถธรรมดาจะตามทัน ดูเหมือนว่าแก๊งรถซิ่งนี้จะมีเื้ัไม่ธรรมดา
ไม่รอให้หยางเฉินคิดวิธีรับมือ รถสองคันจากข้างหลังขนาบรถหยางเฉินทั้งซ้ายและขวา
รถสองคัน คันหนึ่งขาวคันหนึ่งดำขับด้วยความเร็วกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แซงหน้าหยางเฉิน ขึ้นไปขวางทางรถของเขา
หยางเฉินเห็นรถคันนี้ได้ถนัดตา สายตาเปลี่ยนเป็ตกตะลึง เป็ Ferrari F430 และ BMW M6 สองคันนี้สามารถชนะรถของเขาได้สบายๆ ถึงแม้ในบรรดา Ferrari รุ่น F430 จะเป็รุ่นที่ปรับปรุงมาจาก F360 แต่อย่างไรก็ตามมันยังคงเป็รถ Ferrari ด้วยความเร็วสูงสุดกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันจึงไม่ได้มีดีแค่ชื่อ
ทางด้าน BMW M6 แม้จะห่างจาก M3 เพียงสามรุ่น แต่ด้วยเครื่องยนต์ 5.OL มันไม่ง่ายเลยที่จะต่อกรกับมัน ด้วยราคาที่มากกว่า 700,000 รถคันนี้เป็รถหรูอย่างแท้จริง
หยางเฉินรู้สึกหืดขึ้นคออยู่บ้าง ถ้าแค่รถสองคันนี้ล่ะก็ เขามั่นใจเปี่ยมล้นว่าสามารถสลัดหลุดได้ แต่ในขณะนี้หยางเฉินได้แต่ยอมแพ้ แสงไฟสีแดงทางด้านหลังของเขาปรากฏเป็รถ Porsche 911!
รถรุ่นนี้ผลิตมาแล้วกว่า 40 ปีภายใต้แบรนด์ Porsche (พอร์เชอ) ด้วยการปรับปรุงมายาวนาน แต่รูปทรงนั้นแทบจะเหมือนเมื่อ 40 ปีที่แล้ว สามารถบอกได้เลยว่าดีไซน์นี้ล้ำนำยุคสมัยอย่างแท้จริง
เมื่อเปรียบเทียบความเร็วระหว่างรถของเขากับพวกนั้นแล้ว ความเร็วนั้นต่างกันถึง 70-80 จุด ความแตกต่างนี้ช่างมโหฬารนัก
ดูจากรถพวกนี้แล้ว หยางเฉินวิเคราะห์ได้ว่ากลุ่มนักซิ่งนี้ไม่ใช่พวกปล้นรถ แต่อาจเป็ลูกคนรวยที่้าเล่นสนุกเสียมากกว่า
หยางเฉินได้แต่ด่าทอ์ แทนที่เด็กพวกนี้จะไปศึกษาเล่าเรียนแต่กลับเอาตัวเข้าหาปัญหา ดังเช่นคราวก่อน หยางเฉินี้เีจะไปยุ่งเกี่ยวด้วย เขาชะลอรถลง ตั้งใจปล่อยให้พวกนั้นผ่านไป
อย่างไรเสีย แผนการทั้งหลายหรือจะสู้ลิขิตฟ้า ทันทีที่หยางเฉินชะลอความเร็ว พอร์เชอด้านหลังเขาบีบแตรเสียงดังทันที ตามด้วยรถสองคันข้างหน้าก็ลดความเร็วตาม ดูเหมือนเด็กพวกนี้จะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ
ตามกฎหมายของจงไห่แล้ว ถ้ารถคันหลังชนคันหน้า รถคันหลังจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ถ้าชนสองคันก็ต้องจ่ายสองคัน แต่ถ้าพอร์เชอมาชนหลังเขา คนขับก็ต้องช่วยจ่ายด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เสียเปรียบอยู่ดี
หยางเฉินเข้าใจลูกเล่นของเด็กพวกนี้แล้ว เขาเผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็อันดับหนึ่งในเื่รถ แต่เขาก็อยู่ในระดับท็อป เมื่อก่อนเขาขับรถหลายสิบคัน ในเยอรมนี 'เนือร์บูร์กริง' เป็สนามแข่งรถสุดท้าทายติด 1 ใน 3 ของโลก และเกือบได้อันดับท็อปของรายการ
เมื่อคำนวณบางอย่างเรียบร้อยแล้ว หยางเฉินตัดสินใจจะให้บทเรียนสำคัญกับเด็กพวกนี้ ถ้าพ่อแม่เด็กพวกนี้ไม่สั่งสอนลูกให้ดีล่ะก็ เขานี่แหละจะสั่งสอนเด็กพวกนี้เอง
หยางเฉินขยับมือในชั่วพริบตา ปล่อยคันเร่งเหยียบเบรกพร้อมหมุนพวงมาลัยให้รถเสียอาการ รถ M3 ของเขาพลันหมุน 180 องศา
"ครืดๆๆ..."
ยางแอสฟัลท์ไถลไปกับพื้นถนน ปลดปล่อยกลุ่มควันสีขาวกลุ่มใหญ่ซึ่งเห็นได้ชัดในยามค่ำคืน รถของหยางเฉินเปลี่ยนทิศทางการวิ่งและพุ่งเข้าหาพอร์เชอทันใด
คนขับทั้งหมดต่างตกตะลึง เมื่อกี้เขาดริฟต์? เขาคิดว่าตัวเองเป็ทาคุมิ ฟูจิวาระ หรือยังไงกัน?
สัญชาตญาณบอกคนขับรถพอร์เชอว่าคนผู้นี้ตั้งใจกลับรถพุ่งเข้าปะทะด้วยความเร็วมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เงารถสองคันพุ่งเข้าหากันดั่งะุปืนลูกโม่ ในเวลานี้ความเร็วรถมีมากกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนขับพอร์เชอเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี เขาขับเบี่ยงออกข้างทางทันที
เห็นได้ชัดว่ารถ BMW M3 คันนี้ไม่ลดความเร็วลงและไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนทิศทางแต่อย่างใด ความหนาวเหน็บเกาะกุมหัวใจคนขับพอร์เชอทันที
ด้วยความเร็วขนาดนี้ ถ้าเกิดการปะทะกันล่ะก็ แน่นอนว่าไม่ตายก็พิการแน่นอน
พวกคนขับต่างหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ คนผู้นี้เป็คนแบบไหนกัน เขาไม่กลัวตายเลยหรืออย่างไร?
รถ M6 และ F430 หยุดลง ประตูรถทั้งสองเปิดออก ชายหนุ่มสองคนในชุดเสื้อยืดก้าวลงจากรถด้วยท่าทางไม่เป็มิตร
หยางเฉินหยุดรถเช่นเดียวกัน ก้าวเดินไปหาชายหนุ่มสองคนนั้นช้าๆ เขารู้ว่าถ้าไม่เคลียร์เื่นี้ให้จบ พวกนั้นต้องไม่ยอมเลิกราแน่ๆ
ประตูรถพอร์เชอเปิดออก ทำให้หยางเฉินตกตะลึง เป็เด็กสาวผู้หนึ่งสวมหมวกเห็ดสีชมพู เสื้อยืดลายการ์ตูนสีขาวและกางเกงยีนขาสั้น ต่างหูรูปหัวกะโหลกพร้อมสร้อยคอกางเขนสีเงิน
ใบหน้างดงามหมดจด โดยเฉพาะดวงตาคู่งามแสดงออกถึงเสน่ห์ในวัยเยาว์ เพียงแต่ร่างกายยังไม่เติบโตเท่าที่ควร ดูแล้วเธอน่าจะอยู่แค่มัธยมปลาย
ดวงตางดงามจ้องมองหยางเฉินพร้อมเดินเข้ามา แล้วยกมือน้อยๆ ที่มีรอยสักรูปผีเสื้อสีม่วง เธอเผยเขี้ยวเล็กๆ กล่าวอย่างสนุกสนานว่า "ฉันชื่อถังถัง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"
หยางเฉินมองเด็กสาวด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย เขานึกว่าจะเห็นน้ำตามากกว่าการจับมือเป็มิตรแบบนี้
โดยไม่รีรอ หยางเฉินค่อยๆ ยกมือขึ้นจับ กล่าวว่า "ผมชื่อหยางเฉิน ไม่ยินดีที่รู้จักพวกนายทุกคน"