ถังถังตกตะลึงกับคำพูดของหยางเฉิน แต่ในเวลาต่อมาเสียง 'คิคิ' ก็ดังออกจากปากเธอพร้อมกล่าวด้วยท่าทางประหลาด
"ลุงนี่ตลกจัง"
"ผมไม่รู้ว่ามันตลกหรือไม่ตลก แต่ผม้าให้พวกนั้นเปิดทาง ผมจะกลับบ้าน" หยางเฉินกล่าวพร้อมปลายตาไปทางเด็กหนุ่มทั้งสอง
"เปิดทางให้? แกเกือบจะทำอันตรายพี่สาวถังถัง อีกทั้งยังไม่ก้มหัวขอโทษเธออีก แกยังจะบอกให้พวกเราหลีกทางให้อีกหรือ มันง่ายไปหน่อยมั้ง"
เด็กชายที่ย้อมผมสีเหลืองกล่าวตอบ หลังจากเผชิญเหตุการณ์หวาดเสียวเมื่อครู่ พวกเขายังไม่หายจากอาการตื่นตระหนก
"พี่สาวถังถัง เรียกพวกเรามาเพิ่มเลยไหมครับ?" เด็กชายอีกคนที่มีผมยาวถามด้วยเสียงข่มขู่พลางมองหยางเฉิน
ถังถังเบ้ปากกล่าว "พวกนายกำลังพูดอะไรอยู่? อย่างที่ฉันบอก ฉัน้าคุยกับลุงคนนี้"
"พี่ถังถัง เอ่อ… พี่" ชายหนุ่มทั้งสองพูดด้วยท่าทางประหลาดใจ
"ลุง ลุงขับรถได้เท่มาก อย่างกับในหนังแหนะ ลุงสอนฉันบ้างได้ไหม?" ด้วยท่าทางและน้ำเสียงน่ารักของสาววัยใส สิ่งนี้สามารถทำให้ใจทุกคนยอมสยบให้เธอ
เหล่าเด็กหนุ่มไม่คิดว่าถังถังจะขอให้หยางเฉินสอนขับรถ หลังจากได้เห็นความสามารถของหยางเฉินแล้ว ถึงพวกเขาจะมีรถที่ดีเยี่ยมขนาดไหนก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้
หยางเฉินส่ายหัวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า "ไม่มีทาง มันอันตรายเกินไป อย่างเธอกลับไปนอนได้แล้ว และห้ามมาขับรถซิ่งตอนกลางคืนอีก"
ได้ยินแบบนั้นใบหน้ายิ้มแย้มของถังถังพลันหุบลงทันที เธอทำเสียง 'ฮึ่ม' กล่าวอย่างไม่พอใจ
"ลุง เหตุผลที่ฉันให้ลุงสอนฉัน เพราะลุงขับรถไม่เลวเลย และฉันก็นับถือลุงจริงๆ แต่ลุงอย่าลืมว่าเมื่อกี้ลุงเกือบจะฆ่าฉันนะ"
หยางเฉินไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป "โอ้ แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ จะแก้แค้นหรือเปล่า?"
"ลุงขับรถเก่งไม่ใช่หรือ? ลุงไม่อยากกลับบ้านแล้วใช่ไหม ดีมาก ฉันจะเรียกคนให้มาจัดการรถของลุง ดูซิว่าลุงจะขับมันกลับไปยังไง" พูดจบถังถังก็โบกมือ เด็กหนุ่มหัวสีเหลืองรีบทำตามคำสั่งด้วยสีหน้ายินดีทันที เขาดึงไอโฟนรุ่นใหม่ขึ้นมาโทรอย่างฉับไว
"พี่หยวนเย่ พี่ถังถังมีเื่ครับ รีบมาเลยครับพี่!... ครับ..." เด็กหนุ่มหัวเหลืองะโบอกคนปลายสายอย่างกับไม่เคยใช้โทรศัพท์มาก่อน นั่นทำให้หยางเฉินอดหัวเราะไม่ได้
หยางเฉินดึงบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยสีหน้าสนใจ ราตรีที่ยาวนานนี่ เขาอยากรู้ว่าเ้าเด็กพวกนี้จะทำอย่างไรต่อ
"ลุง! โอกาสสุดท้ายแล้วนะ ลุงจะสอนฉันไหม หรือลุงอยากจะให้ลุงและรถของลุงเละเป็โจ๊ก" วิกผมสีชมพูปลิวเบาๆ ล้อสายลม ใบหน้าสวยใสขณะนี้กลับเหมือนปีศาจตัวน้อยๆ
หยางเฉินไม่สนใจเธอ เขาี้เีเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็ ค่อยๆ หันหัวมองกลุ่มรถที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ด้วยความรวดเร็ว
ชั่วพริบตารถสปอร์ตสามคันหยุดลงตรงหน้าหยางเฉิน รถผู้นำเป็รถ Audi R8 ส่วนคันที่เหลือเป็เครื่องยนต์ V8 ตัวรถเป็สีดำสนิท ในยามค่ำคืนเช่นนี้พวกมันเปรียบเหมือนอัศวินดำยามรัตติกาล
ประตูรถเปิดออกเงาร่างหนึ่งเคลื่อนที่ออกมาอย่างรวดเร็ว เป็ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา สวมเสื้อ Versace (เวอร์ซาเช) ใบหน้าเหลี่ยม สายตาคมกริบเหมือนดาบ และผมสั้นให้ความรู้สึกห้าวหาญ เขาน่าจะอายุประมาณ 20 ปี แต่บุคลิกดูเหมือนผู้ใหญ่กว่า
ทันทีที่ชายหนุ่มออกมาจากรถ บอดี้การ์ดสี่คนในชุดสูทพลันปรากฏตัวด้านหลังของเขาอย่างฉับไว
ในจงไห่นี้คนที่ขับซูเปอร์คาร์ไม่จำเป็ต้องรวยมาก พวกเขาสามารถผ่อนชำระเอาได้ แต่น้อยคนนักที่จะมีบอดี้การ์ดส่วนตัว ดูเหมือนว่าพวกนี้จะทั้งรวยและมีอำนาจ หรือว่าพวกนี้จะเป็ลูกหลานของพวกบุคคลสำคัญ
หยวนเย่มองหยางเฉินพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ พยายามมองหาคนอื่น
"ถังถัง เกิดอะไรขึ้น?" หยวนเย่ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาทางถังถังพร้อมถาม
ถังถังเบ้ปากอย่างหงุดหงิด เธอไม่สนใจท่าทางของหยวนเย่ พลันส่งสายตาไปทางเด็กหนุ่มข้างหลังให้อธิบายแทน
เด็กหนุ่มทั้งสองสมควรเป็ลูกหลานของบุคคลร่ำรวย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่ชื่อหยวนเย่แล้ว พวกมันต่างรีบทักทายด้วยความสุภาพพร้อมอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เป็อีกครั้งที่หยวนเย่ได้ยินว่าถังถังเกือบถูกฆ่าด้วยรถของหยางเฉิน หยวนเย่พลันส่งสายตาเย็นเยียบมาที่หยางเฉิน
"ไม่ต้องกังวลถังถัง พี่จะจัดการให้เอง" หยวนเย่พูดกับถังถังด้วยน้ำเสียงอบอุ่น จากนั้นส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดข้างหลังของเขา บอดี้การ์ดสี่คนเห็นดังนั้นพลันเคลื่อนตัวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินหัวเราะร่า ดูเหมือนบอดี้การ์ดพวกนี้จะเคยฝึกทหารมาก่อน กลิ่นอายแบบนี้จะมีเฉพาะเหล่าทหารเท่านั้น อย่างไรก็ตามกลิ่นอายพวกนี้ล้วนไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
เหล่าบอดี้การ์ดตั้งใจจะสั่งสอนชายหนุ่มผู้นี้เพียงเล็กน้อยตามคำสั่งของหัวหน้า แต่ทันทีที่เข้าใกล้หยางเฉิน พวกมันพลันรู้สึกถึงกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่เชี่ยวกรากดั่งสึนามิ
เหล่าบอดี้การ์ดซึ่งเคยได้รับการฝึกของทหารต่างหลั่งเหงื่อเย็นที่หลัง พวกมันรับรู้ได้ว่าบุคคลเบื้องหน้านี้อันตรายอย่างยิ่งยวด อยู่ในระดับที่ไม่เคยเจอมาก่อน
เปรียบดั่งพายุขนาดย่อมกระแทกใส่ ความรู้สึกที่ไม่อาจต่อกรส่งตรงจากหัวใจของพวกมัน
หยวนเย่สังเกตว่าบอดี้การ์ดยังไม่เข้าไปจัดการอีก จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ "ทำอะไรอยู่ล่ะ! แค่คนคนเดียวมันจัดการยากนักหรือไง? พวกแกอยากให้ฉันต้องลงมือเองงั้นหรือ?"
เหล่าบอดี้การ์ดต่างมองหน้ากันไปมา หลังจากรับเงินจากเ้านายมาแล้ว แม้ความตายอยู่ตรงหน้า พวกมันจำต้องวิ่งเข้าหา
หมัดเท้าบินว่อนเข้าหาหยางเฉินทั้งบนล่างพร้อมเพรียงกัน หยางเฉินพ่นควันบุหรี่เป็ครั้งสุดท้ายพร้อมโยนก้นบุหรี่ที่มีประกายไฟริบหรี่ขึ้นไปบนอากาศ เขาแตะเท้าขึ้นเบาๆ ะโตีลังกาไปข้างหน้า ปรากฏตัวที่ข้างหลังเหล่าบอดี้การ์ดโดยไม่จำเป็ต้องหลบหลีก
ทันใดนั้นหยางเฉินคว้าหลังคอของบอดี้การ์ดสองคน ร่างกายบอดี้การ์ดสองคนพลันชะงัก พวกมันไม่อาจขัดขืนแรงของหยางเฉินได้ ก่อนจะถูกโยนบินออกไปไกล
ร่างของบอดี้การ์ดปลิวไปเหมือนในหนังไซไฟ เช่นเดียวกับอีกสองคนที่เหลือ แขนของหยางเฉินโค้งงอ ศอกของเขากระแทกกระดูกสันหลังของบอดี้การ์ดที่เหลือ
ชั่วลมหายใจเข้าออก ขณะที่ทั้งสี่มุ่งเข้าหาหยางเฉิน พวกมันพลันล้มลงส่งเสียงครวญครางด้วยความเ็ป ไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก
พร้อมกับก้นบุหรี่ที่หยางเฉินโยนขึ้นไปบนอากาศร่วงกระทบพื้นถนนยางมะตอย ปรากฏประกายไฟเล็กๆ ออกมา