ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ทะเบียนครัวเรือนของสวี่จือจือได้ย้ายตามเธอมาอยู่ที่หมู่บ้านผานสือ๻ั้๹แ๻่วันแต่งงานแล้ว

        เช้าตรู่ของวันนี้ เธอต้องไปตามกลุ่มคนงานเพื่อไปจับแมลงในไร่ฝ้าย ซึ่งไม่ใช่เ๹ื่๪๫ง่ายเลย

        เมื่อวานเธอทำงานทั้งวัน พอตกเย็นก็ปวดหลังแทบขาด รู้สึกเหมือนตัวเองเป็๲ยายแก่แปดสิบเก้าสิบ ต้องเดินหลังโก่งถึงจะไหว แถมยังไม่มีหมวกหรืออะไรมากันแดด กลับไปถึงบ้านหน้าก็แดงเรื่อไปหมด

        โชคดีที่ในสวนมีแตงกวาปลูกอยู่ เธอรีบเด็ดมาสองลูก หั่นเป็๞แว่นบางๆ แปะหน้าไว้ แต่พอมาวันนี้เธอมีประสบการณ์แล้ว หาผ้ามาคลุมหน้า ใส่เสื้อแขนยาวตัวเก่าที่มีรอยปะชุน พรางตัวมิดชิดก่อนออกจากบ้าน แล้วก็เจอลู่จิ่งซานกำลังเดินเข้ามาพอดี

        “จะไปไร่เหรอ?” เขาถาม

        “อืม” สวี่จือจือพยักหน้า “วันนี้ไปจับแมลงในไร่ฝ้าย”

        ของที่ลู่จิ่งเหนียนให้มา ลู่จิ่งซานยังหาจังหวะเหมาะสมที่จะให้สวี่จือจือไม่ได้ คิดว่าจะวางไว้บนตู้ข้างเตียง สวี่จือจือคงจะเห็นเอง แต่พอเขากลับจากทำธุระข้างนอก ถุงผ้าก็ยังอยู่ที่เดิมบนตู้ข้างเตียง

        “คุณไปก่อน เดี๋ยวผมตามไปช่วย” เขามองสวี่จือจือแล้วพูด

        “ได้สิ” มีคนมาช่วย สวี่จือจือย่อมยินดี แล้วก็ถามต่อ “มีอะไรจะพูดหรือเปล่า?”

    ไม่อย่างนั้นทำไมถึงมีท่าทีอึกอักกันล่ะ? นี่ไม่เหมือนลู่จิ่งซานเอาเสียเลย

        “ไม่มีอะไร” ลู่จิ่งซานนึกถึงผ้าหลายผืน ใบหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย

        สวี่จือจือกลอกตา ไม่พูดก็ไม่พูด!

        “เมื่อวานผมมีธุระออกไปข้างนอก” เขาพูด

        “หา?” สวี่จือจือเบิกตาโต แล้วรีบโบกมือ “อ้อ ไม่ต้องบอกฉันเ๹ื่๪๫พวกนี้หรอก”

     เขาโตขนาดนี้แล้ว อยากจะทำอะไรก็ไม่ต้องรายงานเธอหรอกมั้ง ถึงจะกลับมาดึกไปหน่อย แต่เธอก็ไม่ได้อยากรู้สักนิด

        ทำไมน่ะเหรอ? ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวน่ะสิ เหมือนกับถุงผ้าที่เขาเอาไปวางไว้บนตู้ข้างเตียง ถึงจะอยากเปิดดูแค่ไหน แต่ก็ควบคุมตัวเองไว้ได้

        นอนหลับไม่ดีกว่าเหรอ? ถ้าเกิดเปิดไปเจออะไรที่ไม่ควรเจอ แล้วโดนฆ่าปิดปากขึ้นมาจะทำยังไง?

        สวี่จือจือที่ได้เกิดใหม่แล้ว เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าชีวิตสุนัขสำคัญกว่า

        “ถ้าไม่มีอะไร ฉันไปทำงานก่อนนะ” เธอพูดจบก็รีบวิ่งออกไป

        หัวหน้ากองงานเป่านกหวีดเป็๞ครั้งที่สามแล้ว แถมวันนี้ลู่จิ่งซานก็แปลกๆ ด้วย เธอไม่อยากอยู่กับเขาสองคน

        ลู่จิ่งซาน “...”

        ขมวดคิ้วมองตามแผ่นหลังของภรรยาที่วิ่งหนีไป สุดท้ายก็หัวเราะออกมาอย่างจนปัญญา

        กำลังจะเข้าบ้านก็เห็นน้องสาวของตัวเองลู่ซืออวี่ ถืออ่างใส่น้ำมองพวกเขาอยู่

        ลู่ซืออวี่ประหลาดใจที่เห็นพี่ชายตัวเองยิ้มให้สวี่จือจือ หลายปีมานี้เขาอยู่ในกองทัพ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้านที ปีสองปีถึงจะกลับมาสักครั้ง ไม่รู้ตัวเลยว่าน้องสาวที่ขี้อาย๻ั้๫แ๻่เด็กโตขึ้นขนาดนี้แล้ว

        “พี่” ลู่ซืออวี่พูดเสียงเบา “มีเสื้อผ้าอะไรไหม ฉันจะซักให้”

        “ไม่ต้องหรอก” ลู่จิ่งซานลูบจมูก “เธอจะซักในลานหรือไปซักที่แม่น้ำ?”

     ถ้าซักในลาน เขาจะได้ช่วยตักน้ำให้

        “ฉันไปซักที่แม่น้ำ”

     ลู่ซืออวี่พูดอย่างผิดหวัง ทำท่าเหมือนจะร้องไห้

        ลู่จิ่งซานรู้สึกปวดหัว “รีบไปเถอะ” เขาพูดแล้วเหลือบมองเสื้อผ้าในอ่าง “หลิงซานล่ะ? ให้หล่อนไปซักด้วยกันสิ”

        เสื้อผ้าเยอะขนาดนั้น คงไม่ได้มีแค่ของลู่ซืออวี่คนเดียวหรอก

        “หลิงซานปวดท้อง” ลู่ซืออวี่ก้มหน้าพูด “งั้นฉันไปก่อนนะ”

        ถึงตอนนี้เธอจะปวดท้องนิดหน่อยเหมือนกัน แต่พอนึกถึงตรงนี้ ลู่ซืออวี่ก็ก้มหน้าจับอ่างไว้แน่น แต่เสื้อผ้าพวกนี้เป็๲ของที่น้าเหอเปลี่ยนออก ถ้าวันนี้ไม่ซักพรุ่งนี้น้าเหอก็จะไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้ว

        พอนึกถึงสีหน้าของน้าเหอเมื่อกี้ ลู่ซืออวี่ก็ตาเป็๞ประกาย ถึงเธอจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของน้าเหอ แต่น้าเหอก็ดีกับเธอไม่ต่างจากหลิงซาน แถมเมื่อกี้ยังให้ลูกอมกับเธอด้วย แต่เธอไม่ได้กิน และเอามันไปให้ลู่หลิงซานที่ปวดท้อง

        น้าเหอก็ดีใจกว่าเดิม ชมว่าเธอเป็๲พี่สาวที่ดี

        แต่พอนึกถึงสิ่งที่ลู่หลิงซานพูด ลู่ซืออวี่ก็ก้มหน้าลงอีก กัดริมฝีปากมองลู่จิ่งซาน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

        ช่างมันเถอะ ตายก็ตายไป ยังไงในบ้านหลังนี้ก็ไม่มีใครสนใจเธออยู่แล้ว

        เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ในหมู่บ้านกำลังลือกันเ๹ื่๪๫หนึ่งที่เกี่ยวกับเหอเสวี่ยฉิน

        มีเด็กหลายคนไปจับจักจั่นหลังหมู่บ้าน กลับมาดึกมากแล้วเห็นเงาดำๆ พุ่งเข้าไปในสวนหลังบ้านของตระกูลลู่ เด็กพวกนั้นกลับไปเล่าให้ที่บ้านฟังก็ถูกดุด่าไปตามระเบียบ พูดอะไรกันแต่เ๱ื่๵๹เงาดำๆ ในตอนกลางคืน!

        พอตอนเช้ากินข้าวก็เอาเ๹ื่๪๫นี้มาพูดคุยกันที่หน้าหมู่บ้าน ก็พบว่าไม่ได้มีแค่บ้านของพวกเขาที่เห็น แต่ยังมีอีกหลายคนที่เห็นเงาดำๆ นั้น ถ้าเป็๞คนของบ้านตระกูลลู่ ทำไมไม่เข้าประตูหน้า กลับต้องปีนกำแพงเข้าไปด้วย?

        พอนึกถึงวันแต่งงานของลู่จิ่งซาน เหอเสวี่ยฉินก็หายตัวไปทั้งคืน จนตอนเช้าถึงมีคนไปเจอเธอในห้องใต้ดิน หรือว่าคนนั้นจะเป็๲ชู้ของเหอเสวี่ยฉิน? เป็๲ห่วงเหอเสวี่ยฉินเลยต้องปีนกำแพงเข้าไปในตอนกลางคืน?

        ในขณะที่กำลังพูดคุยกันก็เห็นลู่หวยเหรินปั่นจักรยานเหงื่อท่วมตัวกลับมาจากข้างนอก

        “หวยเหริน นี่ไปทำอะไรมาเหรอ?” มีคนถามด้วยรอยยิ้ม

        “เมื่อคืนทำงานกะดึก เพิ่งจะกลับมาเมื่อเช้า ใครจะไปรู้ว่าโซ่จักรยานดันมาขาดซะได้” ลู่หวยเหรินพูดพลางหัวเราะ

        “โซ่จักรยานขาดได้ด้วยเหรอ?” มีคนพูดเบาๆ

     ทำไมถึงมีเ๹ื่๪๫บังเอิญแบบนี้ด้วย?

        ทุกคนมองลู่หวยเหรินด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป แต่ลู่หวยเหรินไม่รู้เ๱ื่๵๹พวกนี้

        สองวันนี้เขาต้องวิ่งไปๆ มาๆ ทั้งต้องดูแลเหอเสวี่ยฉิน ทั้งต้องยุ่งเ๹ื่๪๫งานรักษาความปลอดภัยที่โรงงานหม้อแปลงไฟฟ้า เหนื่อยแทบตาย ไม่มีอารมณ์จะมาพูดคุยกับคนในหมู่บ้าน รีบเข็นจักรยานกลับบ้านไป

        สวี่จือจือรู้เ๱ื่๵๹เหล่านี้ก็จากปากของหลิวเหมียวสะใภ้ใหม่ที่ไปจับแมลงในไร่ฝ้ายด้วยกันเมื่อวาน

        “เธออย่าบอกคนในบ้านนะว่าฉันเป็๞คนบอก” หลิวเหมียวพูด “เ๹ื่๪๫นี้ลือกันทั่วหมู่บ้านแล้ว”

        สวี่จือจือรู้สึกว่าแม่สามีของเธอนี่ช่างร้ายกาจจริงๆ คงจะทนไม่ไหวจริงๆ สินะ

        สวี่จือจือไม่รู้จะใช้คำอะไรมาบรรยายความรู้สึกของตัวเองตอนนี้แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้เห็นใจสักนิด ถ้าตอนนั้นเธอไม่ต่อต้าน ตอนนี้คนที่ถูกชาวบ้านเอาไปนินทาก็คงเป็๞เธอแล้ว แอบตั้งตารอเลยว่าถ้าเหอเสวี่ยฉินได้ยินชาวบ้านพูดแบบนี้ จะมีสีหน้าแบบไหนกัน

        ส่วนเ๱ื่๵๹เงาดำเมื่อคืน? สวี่จือจือว่าเธอพอจะรู้ว่าใคร ถึงเธอจะไม่ได้นอนร่วมเตียงกับลู่จิ่งซาน แต่ถึงแม้ลู่จิ่งซานจะปูเสื่อนอนกับพื้น เวลาเขากลับมาก็เบามากอยู่ดี แต่ถึงยังไงก็อยู่ห้องเดียวกัน เธอจะไม่รู้ได้ยังไง?

        “งั้นเธอก็ต้องบอกทุกคนนะ” สวี่จือจือจับมือของหลิวเหมียวพูดอย่างจริงใจ “ถึงพ่อสามีของฉันจะเข้าเวรบ่อย แต่ฉันก็ไม่เชื่อว่าน้าเหอจะเป็๞คนแบบนั้น”

        เข้าเวรบ่อย? นั่นก็คือกลับบ้านไม่ได้สิ!

     พวกที่แกล้งทำเป็๞จับแมลง แต่แอบเงี่ยหูฟังอยู่ก็รู้สึกว่าพวกเขาจับประเด็นสำคัญได้แล้ว

        “สามีเธอมาแล้ว” หลิวเหมียวเชิดหน้าบอกสวี่จือจือ

        บนคันนา ลู่จิ่งซานกำลังเดินเข้ามาด้วยท่วงทีก้าวยาวๆ “คุณไปพักเถอะ เดี๋ยวผมทำเอง”

        ไร่ฝ้ายอยู่ไม่ไกลจากริมน้ำ เขาช่วยลู่ซืออวี่ยกเสื้อผ้าไปที่แม่น้ำเสร็จก็เลยมา

        สวี่จือจือหน้าแดงเล็กน้อย แต่ก็เชื่อฟังไปนั่งพักใต้ร่มไม้ใหญ่ที่คันนา

        .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้