บทที่ 1 คำโกหก...?
“ คุณเจอเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ ช่วยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อย”
ตำรวจในชุดสีกากี 2 คน นั่งบนเก้าอี้ลาก คนซ้ายดูเป็คนมีอายุ หน้าบึ้งตึง เขาดูน่าจะอายุ 50 ปลายๆ แต่ผมและหนวดยังดกดำ ชื่อพ.ต.ท. วัลลภ ด้านขวาเป็ตำรวจหนุ่มที่กำลังพูดพร้อมมือที่จดบางอย่างในสมุดโน้ต ฝั่งตรงข้ามคือเจมส์ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ อายุ 24 ปี ในเสื้อเชิ้ตสีขาว ผมยาวปกปิดใบหน้าเล็กน้อย กำลังนั่งก้มหน้าเจมส์เงยหน้าขึ้น เอามือเสยผมไปด้านหลังเพื่อไม่ให้บังสายตาก่อนเริ่มเล่า
“ ครั้งสุดท้ายคือเมื่อวันที่ 8 ตอนเที่ยงคืนที่เธอกลับมาถึงบ้านครับ ผมสังเกตว่าเธอขึ้นมานอนข้าง ๆ ผม เช้าวันต่อมาผมตื่นประมาณ 9 โมง ซึ่งเป็เวลาปกติที่ผมจะตื่น ปกติฟิลจะตื่นเร็วกว่าผมแม้จะเป็วันหยุดของเธอ ผมคิดว่าเธอคงอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผมอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะออกมา แต่ก็หาเธอไม่เจอ ผมคิดว่าเธออาจจะออกไปฟิตเนส เลยรีบออกจากบ้านตอนประมาณ 10 โมง เพื่อให้ทันเข้างานตอน 11 โมง จึงได้มีเวลาเช็คโทรศัพท์ แต่เธอไม่ได้ไลน์ทิ้งไว้ให้ผมแบบทุกที ผมเลิกงานประมาณ 2 ทุ่ม ระหว่างทางกลับบ้านน่าจะ่ 3 ทุ่ม ผมแวะห้างเพื่อซื้อของ ซื้อเสร็จก็ประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ และถึงบ้านตอน 4 ทุ่มครับ พอมาถึงบ้าน ทุกอย่างในบ้านมืดสนิท ผมพยายามโทรหาเธอหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่รับสาย ผมร้อนใจมาก แต่ผมก็เหนื่อยมากเช่นกัน ผมเลยผล็อยหลับไป และ คิดว่าเธออาจจะโผล่มาในตอนเช้า แต่ผมก็ยังไม่เจอเธออีก ทั้งที่ปกติเธอไม่เคยไม่กลับมานอนที่บ้านเลยสักครั้งเดียว”
ตำรวจหนุ่มนั่งหลังพิงพนัก จดรายละเอียดลงในสมุดโน้ตของเขา ในขณะที่วัลลภเริ่มขมวดคิ้ว
“ เท่ากับว่าเธอน่าจะหายไปในตอนเช้าของวันที่ 8”
ตำรวจหนุ่มยังคงถาม ในขณะที่วัลลภทำเพียงนั่งกอดอก จ้องหน้าเจมส์ด้วยท่าทางไม่เป็มิตร
“ คุณบอกว่าเธอไม่เคยไม่กลับมานอนบ้านเลยสักคืน ทำไมคุณถึงปล่อยให้เลยมาถึงวันที่ 10 ถึงมาแจ้ง!”
วัลลภยังคงนั่งท่าเดิม แต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจนเกือบจะเหมือนการะโ
“ ผมคิดว่าต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงถึงจะสามารถแจ้งความได้ครับ”
เจมส์ก้มหน้าลงก่อนตอบ
“ ตอนนี้เราไม่ต้องรอแบบนั้นแล้วนะค...”
“ คุณบอกว่าเจอเธอครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ตอนเที่ยงคืน ถ้าจะรอให้ครบ 24 ชั่วโมง ก็น่าจะต้องมาแจ้งวันที่ 9 ไม่ใช่หรือ?”
วัลลภพูดแทรกเสียงดัง ก่อนที่ตำรวจหนุ่มจะพูดจบ
เจมส์หยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบ
“ ผมบอกว่าวันที่ 8 หรอครับ?”
วัลลภไม่ได้ตอบอะไร แต่ยังจ้องหน้าเจมส์แบบเดิม แต่คราวนี้เหมือนเขาจะดูโกรธขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ตำรวจหนุ่มก็ดูไม่กล้าพูดต่อ
เจมส์เงยหน้ามองวัลลภก่อนตอบ
“ ผมน่าจะสับสนเื่เวลาครับ มันน่าจะเป็ตอนเที่ยงคืนเข้าวันที่ 9 ครับ”
นายตำรวจหนุ่มยังไม่ทันจะก้มลงไปจดรายละเอียดในโน้ต เจมส์พูดสวนขึ้นมาอีกครั้ง
“ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเกี่ยวกับเื่ที่เรากำลังทะเลาะกันด้วยหรือเปล่าครับ เลยทำให้เธอไม่กลับบ้าน”
วัลลภกอดอกแน่นกว่าเดิม ขณะที่นายตำรวจหนุ่มรีบพูดแทรกขึ้นมา
“ คุณทะเลาะกันอยู่หรอครับ?”
เจมส์เหลือบตาไปมองวัลลภ ก่อนจะพยักหน้าตอบกลับ
“ ใช่ครับ”
“ ผมขออนุญาต ทราบรายละเอียดที่คุณทะเลาะกันด้วยนะครับ?”
นายตำรวจหนุ่มซักต่อ
“ ผมต้องพูดจริงๆ หรอครับ?”
เจมส์พูด ขณะที่สายตาก็เหลือบไปมองวัลลภที่ตอนนี้ คิ้วทั้งสองข้างติดเป็แผ่นเดียวกัน
“ ทางเราจำเป็ต้องทราบทุกรายละเอียดเพื่อทำเป็รูปคดีครับ”
นายตำรวจหนุ่มพูดขึ้นพร้อมทำท่าเตรียมจดอีกครั้ง
เจมส์พยักหน้า ก่อนเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ ก่อนหน้านี้ประมาณ 2–3 วัน เพื่อนที่ทำงานของฟิลส่งรูปที่ฟิลนั่งอยู่ในรถกับผู้ชายคนอื่นมาให้ผมครั...”
ครื้ดด!!
เจมส์ยังไม่ทันได้พูดจบ วัลลภก็ลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว เก้าลากกระเด็นล้มไปที่ด้านหลัง เขากระชากคอเสื้อเจมส์ให้ยืนขึ้น
“ มึงพล่ามอะไรของมึง! ไอ้แมงดา ลูกกูไม่มีวันทำตัวแบบนั้น!”
วัลลภพูดด้วยน้ำเสียงโมโห ก่อนจะหันไปพูดกับตำรวจหนุ่ม
“ มึงออกไป เดี๋ยวกูคุยกับมันเอง!”
ตำรวจหนุ่มดูกล้าๆ กลัวๆ ที่จะพูด
“ แต่..ท่านครับ ผู้การสั่งให้ผมเป็คน...”“ กูบอกให้มึงออกไป!”
วัลลภตวาดกลับไปอีกครั้ง
“ ครับท่าน”
ตำรวจหนุ่มพูด ก่อนที่จะรีบลุกออกจากห้อง
วัลลภดูให้แน่ใจว่านายตำรวจหนุ่มออกจากห้องไปแล้วก่อนเริ่มพูดอีกครั้ง
“ กูไม่เชื่อมึง มึงมันสารเลว เลวั้แ่ที่คิดจะมาสร้างครอบครัวกับลูกกู”
“ พ่อครับ ฟังผมก่อน”
" ใครพ่อมึง! เรียกกูว่าท่าน มึงรู้อยู่แล้วว่ากูไม่ชอบขี้หน้ามึง และไม่มีวันยกลูกที่กูฟูมฟักมาให้กับมึง มึงเลยลักพาตัวลูกกู มึงมันก็แค่เศษขี้ที่มาเกาะบนผ้าขาวแบบลูกกู!”
เจมส์ก้มหน้าลงเหมือนจะร้องไห้
“ มึงเอาลูกกูไปซ่อนไว้ที่ไหน!”
วัลลภตะคอกใส่หน้าของเจมส์
“ คุณไม่เคยฟังใครเหมือนที่ลูกคุณบอก ไม่แม้แต่จะฟังสิ่งที่ลูกคุณจะพูดก่อนจะหายตัวไป “ มึงพูดอะไรของมึง!”
ปัง!! เสียงของแข็งกระแทกเข้ากับโต๊ะสแตนเลส
วัลลภพูดพร้อมจับหัวเจมส์กดลงกระแทกกับโต๊ะ
“ ผมพูดความจริง คุณมันก็แค่คนแก่บ้าอำนาจที่คิดว่าทุกอย่างควบคุมได้ คุณรู้ไหมว่าลูกคุณต้องเ็ปกับคำพูดของคุณกี่ครั้ง เธอต้องเก็บมันไว้มากแค่ไหน เธอต้องทนยอมโดนคุณบงการ จนอายุ 30 ถึงได้มีชีวิตเป็ของตัวเอง ทุกครั้งที่เธอร้องไห้ ผมเป็คนเดียวที่คอยปลอบเธอ อยู่ข้าง ๆ เธอ!”
เจมส์ตวาดกลับทั้งที่หน้ายังแนบอยู่กับโต๊ะ
ปัง!! วัลลภจับหัวเจมส์กระแทกลงบนโต๊ะอีกครั้ง
“ มึงอยู่กับลูกกูเป็คนสุดท้าย มึงนี่แหละที่เอาลูกกูไปซ่อน!วัลลภปล่อยมือจากหัวเจมส์ หันไปยกเก้าอี้ขึ้นเหนือหัว ตั้งท่าจะฟาด”
“ มึงพูดอีกครั้งกูฟาด !”
เจมส์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นก่อนพูดด้วยใบหน้ารอยแดง
“ คุณต่างหากที่เป็คนทำให้เธอหายตัวไ...”
ผลั่ก!!
การกระทำเร็วกว่าคำพูด วัลลภฟาดเก้าอี้ลงไปที่ใบหน้าของเจมส์ ขณะเดียวกันประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 คน พุ่งพรวดเข้ามาล็อคตัววัลลภไว้
เจมส์หงายหลังลงไปนอนกองกับพื้น กุมใบหน้าที่โดนฟาด ในขณะที่ผู้การรีบเดินเข้ามาพร้อมท่าทางโมโห ก่อนจะตวาดนายตำรวจหนุ่ม
“ มึงปล่อยให้เป็แบบนี้ได้ยังไง กูบอกให้มึงเป็คนดูแลคดีนี้ ทำไมมึงไม่ทำตามคำสั่งกู!”
ผู้การเดินตรงเข้าไปหาวัลลภ ซึ่งกำลังสะบัดแขนออกจากนายตำรวจหนุ่มทั้งสองคน
“ ไอ้ลพ ทำไมมึงไม่ฟังกู กูบอกให้มึงทำคดีนี้แบบห่างๆ แต่มึงลงมือกับประชาชนที่มาแจ้งความว่าลูกมึงหาย! เอาตัวนายวัลลภออกไปก่อน!”
นายตำรวจหนุ่มทั้งสองฉุดกระชากวัลลภออกจากห้อง ขณะที่เ้าตัวยังโวยวาย
“ มึงเอาลูกกูไปไว้ที่ไหน ไอ้สารเลว! กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึงจริงๆ แน่ มึงเตรียมตัวไว้ได้เลย!”
ปัง!! เสียงประตูถูกปิดลง... ห้องกลับมาเงียบลงอีกครั้ง
เจมส์ยังนอนนิ่ง กุมใบหน้าที่อาบเื ก่อนผู้การจะเข้ามาประคองให้ลุกขึ้น
“ ทางเราต้องขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ นะครับ ทางเราจะสั่งลงโทษทางวินัยกับนายวัลลภอย่างถึงที่สุดครับ”
เจมส์ปัดฝุ่นที่กางเกง จัดระเบียบเสื้อและติดกระดุมที่หลุดจากการโดนกระชาก ทั้งใบหน้ายังอาบเื
“ ผมคิดว่าเราได้ข้อมูลเพียงพอแล้วครับ ถ้าหากมีความคืบหน้า ทางเราจะรีบแจ้งให้คุณทราบโดยเร็วเลยนะครับ คุณรีบไปทำแผลเถอะครับ”
ผู้การช่วยเก็บปากกาที่ตก และ เอามือปัดฝุ่นออกจากตัวให้กับเจมส์ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ บางครั้งคนเราก็ทำอะไรไม่ทันคิดจริงๆ ครับ พอเป็เื่คนในครอบครัว จะเป็ไปได้ไหมครับ ถ้าเื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันจะอยู่แค่ในห้องนี้”
เจมส์ยกมือขึ้นเช็ดเืออกด้วยแขนเสื้อเชิ้ตสีขาว ยิ้มเล็กน้อยจนฝั่งตรงข้ามไม่ทันสังเกตุเห็น พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ หวังว่าผมคงไม่ต้องกลับมาที่นี่ในฐานะผู้ต้องสงสัยเหมือนครั้งนี้นะครับ”
