ในที่สุดทั้งห้องก็เหลือแค่เจิ้งหยวนคนเดียว เธอก้มมองนาฬิกาบนข้อมือ ชั่วพริบตาเดียว ร่างของเธอก็หายวับไปโผล่ยังมิติอีกครั้งเธออยู่ในครัวหลังร้านที่ออกไปคราวก่อน ดูท่ามิตินี้ออกจากตรงไหน คราวต่อไปก็จะกลับมาที่เดิมสินะ
เจิ้งหยวนไม่คิดอันใดมาก เธอรีบดูนาฬิกาข้อมือก่อนพบว่าเข็มนาฬิกาตายแล้ว ย่อมหมายความว่าเวลาในมิติหยุดนิ่งโดยสมบูรณ์ สิ่งไร้ชีวิตทุกชนิดที่เข้ามาจะเป็ไปตามกฎของเวลาในมิติ เอาของเข้ามาหน้าตาอย่างไร เอาออกไปก็จะเป็แบบนั้น!
ถ้าอย่างนั้นสิ่งมีชีวิตเล่า? คนเล่า? สัตว์เล่า?
หลังจากจ้วงกินสเต๊กเนื้อวัวที่เหลือเสร็จ ครั้นคำนวณเวลาแล้วคุณแม่น่าจะอุ่นอาหารเรียบร้อยพอดี เธอจึงแวบออกจากมิติ พักเดียวคุณแม่ก็ยกชามโจ๊กข้าวโพดบดเข้ามาตามคาด
“ข้าวเที่ยงกินกันหมดแล้ว ฉันเลยทำโจ๊กบดให้แกแทน แกดื่มรองท้องไปก่อน” เฉินชุ่ยอวิ๋นวางชามลงบนโต๊ะ
เจิ้งหยวนหยัดกายขึ้นเดินไปยังโต๊ะ เธอเอามือแตะชาม มันร้อนจี๋ จึงยังไม่รีบร้อนดื่มมัน
ทันใดนั้น เฉินชุ่ยอวิ๋นก็เอ่ยขึ้น “เมื่อครู่ฉันได้ยินเสียงแกกับพ่อ ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม?”
“อื้อ” เจิ้งหยวนตอบพลางเป่าโจ๊กให้เย็นลง “พ่อได้ยินฉันบอกพี่สะใภ้ว่าจะไปหาหลินเสี่ยวหยางที่อำเภอพรุ่งนี้ แล้วคิดว่าฉันจะแอบหนีไปน่ะ”
เฉินชุ่ยอวิ๋นร้อนรนทันทีที่ได้ยิน เธอหันขวับมา “แกไปหาเ้าคนแซ่หลินทำไมอีกล่ะ ไม่ได้บอกว่าจะตัดสัมพันธ์กับเขาเหรอ!”
“เฮ้อ แม่ ฟังฉันพูดให้จบก่อน ฟังคำแค่ครึ่งเดียวเหมือนพ่อไปได้?” เจิ้งหยวนอธิบาย “ฉันจะไปคุยกับหลินเสี่ยวหยาง ขอเลิกกับเขาให้ชัดเจนน่ะ”
เฉินชุ่ยอวิ๋นวางใจแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนว่าต่อ “ถ้าอย่างนั้นแกรีบไปรีบกลับ คุยกับเขาดีๆ อย่าทำให้ผู้ชายที่ยังหนุ่มยังแน่นอย่างเขาเสียเวลาหาคู่ครองละ”
เจิ้งหยวนพยักหน้า เธอยกชามโจ๊กดื่มต่อ เฉินชุ่ยอวิ๋นทำโจ๊กแป้งข้าวโพดข้นมาก ถึงจะปล่อยเย็นเล็กน้อยแต่ก็ยังหนืดเหมือนกาว เจิ้งหยวนชอบดื่มโจ๊กบดแบบนี้ที่สุดั้แ่เล็ก มันแก้หิวได้ในชามเดียว แต่เฉินชุ่ยอวิ๋นกลับไม่ค่อยทำโจ๊กข้นขนาดนี้นัก เพราะสิ้นเปลืองเสบียง วันนี้คุณแม่คงสงสารที่เธอไม่ได้ทานข้าวก็เลยต้มโจ๊กข้นให้
เธอดื่มพลางเป่าไปพลาง แต่ทว่าอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงะโโหวกเหวกโวยวายจากข้างนอก
“ชุ่ยอวิ๋น ชุ่ยอวิ๋นอยู่บ้านไหม? น้องสามีรอง น้องสามีรองเขาอยู่ไหม?”
เฉินชุ่นอวิ๋นสีหน้าเปลี่ยนฉันพลัน เธอตะเบ็งเสียงตอบรับแล้วหันหลังเดินออกไป “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่มาทำไมเหรอคะ?”
ผู้มาเยือนคือภรรยาคุณลุงใหญ่ของเจิ้งหยวน เจิ้งหยวนมักเรียกเธอว่าป้าสะใภ้ใหญ่เสมอ
ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งเสียงดังมากจนเจิ้งหยวนที่ปิดประตูอยู่ในห้องได้ยินเสียงเธอพูด
“ชุ่ยอวิ๋น เมื่อกี้ฉันได้ยินน้องสามีสามทะเลาะกับลูกสาวคนรองเธออีกแล้วน่ะ? เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่ได้ทะเลาะกัน พี่ฟังผิดแล้วค่ะ” เฉินชุ่ยอวิ๋นรีบบอก พี่สะใภ้เธอคนนี้ปากสว่าง ชื่อเสียงด้านอารมณ์ร้ายของลูกสาวตนก็เป็พี่สะใภ้ใหญ่ของเธอคนนี้ละที่ทำลาย
เฉินชุ่ยอวิ๋นเพิ่งพูดจบ แต่ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งกลับถลันมาหน้าประตูห้องเจิ้งหยวน พยายามจะเปิดประตูเข้าไปให้ได้ เธอไม่เชื่อหรอกว่าไม่มีอะไร เมื่อครู่ทะเลาะกันดังเสียจนเธอเดินผ่านข้างนอกยังได้ยิน ถึงไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน แต่นิสัยเจิ้งหยวนใครบ้างไม่จะไม่รู้ ต้องเพราะสกุลเฝิงแน่นอน!
เฉินชุ่ยอวิ๋นสุขภาพไม่แข็งแรง ไฉนจะมีแรงเท่าป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้ง ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งใช้บั้นท้ายกระแทกนิดเดียวก็ดันเฉินชุ่ยอวิ๋นได้แล้ว กระทั่งเธอเปิดประตูผลัวะเข้าไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้