เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหลานมีนิสัยตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
ความอดทนอะไรนั่นไม่ใช่บุคลิกของเธอ มีแต่ความแค้นต้องชำระทันที ทุกอารมณ์ความรู้สึกต้องได้รับการระบาย ฝืนกลั้นไว้ไม่แสดงออกมา คนที่รู้สึกแย่ไม่ใช่ตัวเธอเองหรอกหรือ?
ในชาติก่อนเธอก็ไม่ได้อาศัยกลเม็ดเด็ดพรายใดในที่ทำงานเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงกว่า ประธานเซี่ยมีความสามารถจริงๆ อาจหาญไม่หวั่นเกรง โครงการที่คนอื่นเจรจาไม่ได้ ประธานเซี่ยทำสำเร็จ กระบวนการนั้นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือผลลัพธ์ คือผลสัมฤทธิ์! เธอทำงานด้วยความเด็ดขาดและว่องไว คณะที่เธอเป็ผู้นำก็เป็เช่นนี้เหมือนกัน ภายหลังตำแหน่งงานสูงขึ้นเรื่อยๆ เวลาในการต่อสู้จริงตัวต่อตัวลดน้อยลง เวลาในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนกลับเพิ่มมากขึ้น ประธานเซี่ยถึงค่อยๆ ควบคุมระดับอารมณ์ให้เบาบางลงกว่าเดิม
เกิดใหม่อีกครั้ง มีร่างกายอันแสนอ่อนเยาว์ ดุจเวลาไหลย้อนกลับ ทำให้สภาพจิตใจของเธออ่อนวัยตามไปด้วย
ดังนั้นตอนนี้เธอเพิ่งอายุ 19 ปีเท่านั้น จะใช้ชีวิตอย่างคนเจนโลกไปเพื่ออะไร ความฉลาดหลักแหลมและเจนจัดควรเก็บไว้ใช้บนสนามธุรกิจ มีความคิดอะไรต่อแฟนหนุ่มของตนเองยังต้องปิดบังอีกหรือ
ดื้อรั้นนิด ปล่อยใจตามปรารถนาหน่อย ความสัมพันธ์นี้อาจผ่อนคลายยิ่งขึ้น
ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานอยากบิดหูของโจวเฉิงเหลือเกิน
เธอวานคังเหว่ยให้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้ บอกจะไปก็ไป หลิวหย่งยังแปลกใจเลย “หลานรีบร้อนขนาดนี้ไปทำไม ลุงตั้งใจว่าจะเลี้ยงอาหารทะเลหลานที่ห้องอาหารเสียหน่อย”
เซี่ยเสี่ยวหลานตอบอย่างเป็เื่ธรรมดา “ลุงจ๊ะ วันเกิดของวัยรุ่นยุคนี้ มันคือการหาเหตุผลฉลอง หาเหตุผลออกไปเที่ยวกับแฟน... ดังนั้น ลุงเข้าใจฉันเถอะนะ”
หลานสาวพูดจาเถรตรงไม่สงวนท่าที หลิวหย่งรู้สึกว่าหัวใจของตนเองถูกแทงด้วยมีดเล็กๆ จำนวนมาก
อะไรคือหัวอกของคนเป็พ่อตาเฒ่า?
ความรู้สึกนี้นี่เอง!
เขารู้ดีว่าไม่ควรเห็นชอบให้เสี่ยวหลานคบหากับโจวเฉิง โจวเฉิงผู้ไม่ซื่อสัตย์ั้แ่พบกันครั้งแรก กลายร่างเป็พังพอนและคาบหญิงสาวบ้านหลิวไปในท้ายที่สุด! สิ่งที่น่าเศร้ากว่านั้นคือหลานสาวของครอบครัวโตแล้ว มีความคิดเป็ของตนเอง และความคิดของเด็กสาวบ้านเขาคนนี้ยังหนักแน่นเด็ดเดี่ยวมากอีกด้วย การคัดค้านย่อมไม่เกิดผลน่ะสิ จะทำเช่นไรหากพวกเขาไม่ได้ลงเอยด้วยกัน?
ก่อนหน้านี้หลิวหย่งกลัวที่โจวเฉิงดูไม่เหมือนจริงจังกับการคบหากับเซี่ยเสี่ยวหลาน รวมถึงกลัวว่าเสี่ยวหลานจะทุกข์ใจและเสียหาย ทั้งสองครอบครัวแตกต่างกันมากเกินไป จะทำเช่นไรหากไม่ได้ลงเอยด้วยกัน?
ทว่าตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานกลายเป็อันดับหนึ่งของมณฑลอวี้หนาน ความเป็ไปได้ในการสอบติดมหาวิทยาลัยหัวชิงมีอยู่เต็มร้อย ความกังวลเหล่านี้ก็เลือนจางหายไปราวกับหมอกควันแล้ว! ทุกวันนี้เถ้าแก่หลิวเริ่มทะนงตนขึ้นมาบ้าง ถ้าทั้งสองไม่คบกันอีกต่อไป หลานสาวของเขาก็ไม่ต้องพะวงเื่แต่งงานอยู่ดี ไม่เคยได้ยินว่านักศึกษาหัวชิงหาสามีไม่ได้เลย อนาคตมีทั้งเงินมีทั้งงาน จะรีบร้อนออกเรือนไปทำไมกัน ควรจะเลือกสรรรอบคอบพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และต้องเลือกคนที่ดีที่สุดให้ได้
หลิวหย่งทำใจได้แล้ว ก็ไม่คิดว่ามีอะไรร้ายแรง
เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งเครื่องบินครั้งแรก หลิวหย่งทำอย่างกับตนเองเป็คนนั่ง ไม่เพียงแต่มาสนามบินเป็เพื่อน ยังยัดกระเป๋าหนึ่งใบใส่มือเซี่ยเสี่ยวหลานอีกด้วย
“บ้านเราตอนนี้ไม่ได้ขัดสนเงินค่าใช้จ่าย หลานไปถึงปักกิ่งเมื่อไรก็ใช้ตามสบายเลย อย่ามารยาทบกพร่อง และอย่า... ช่างเถอะ ลุงรู้ว่าหลานฉลาดออกจะตายไป!”
ไม่ว่าคังเหว่ยหรือหลิวหย่ง พวกเขาต่างยอมรับโดยปริยายว่าการเดินทางของเซี่ยเสี่ยวหลานครั้งนี้เป็การเข้าปักกิ่งเพื่อไป ‘พบผู้ใหญ่’ หลิวหย่งรู้ว่าเงินของเซี่ยเสี่ยวหลานถูกนำไปลงทุนไว้ในธุรกิจใหม่เกือบหมด จึงยัดเงินใส่กระเป๋าให้เธอจำนวน 5000 หยวน เพราะไม่อยากให้เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าปักกิ่งไปโดนใครดูถูก
แม้ธรณีประตูบ้านโจวจะสูงเพียงใด ทว่าแบ่งเงินจากหลายพันหยวนในมือออกมาซื้อของฝากติดมือเล็กๆ น้อยๆ ยังจะถูกมองว่าเสียมารยาทได้อีกหรือ!
เมื่อหญิงสาววัยรุ่นฉลองวันเกิด ก็ต้องใช้เงินเพื่อซื้อของที่ตนเองอยากได้บ้าง เงินนี้จึงถือว่าเป็อั่งเปาวันเกิดที่หลิวหย่งมอบให้
คนข้างๆ ล้วนรับรู้กันโดยไม่ต้องพูดออกมา ตัวเซี่ยเสี่ยวหลานเองกลับไม่คิดอะไร
พวกเขาเหล่านี้ก็เหมือนโจวเฉิง จังหวะย่างก้าวในความสัมพันธ์ของชายหญิงว่องไวเหลือเกิน ไม่อยู่บนเส้นทางเดียวกันกับเซี่ยเสี่ยวหลาน แน่นอน ถ้าโจวเฉิงบอกว่าจะพาเธอไปพบพ่อแม่ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่หวั่นเช่นกัน คนสองคนคบกัน ตอนนี้เธอมีเวลาส่วนนี้แล้ว พอถึงปักกิ่ง แวะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวโจวเฉิงหน่อยก็ได้... แต่ถ้าคาดหวังให้เซี่ยเสี่ยวหลานสงบเสงี่ยมเจียมตัว ้าให้เธอคุกเข่าก่อนถึงจะคลานเข้าประตูบ้านโจวได้ เซี่ยเสี่ยวหลานคงสลัดโจวเฉิงทิ้งอย่างไม่ลังเล
ชอบพอพึงใจเป็อีกเื่หนึ่ง มีมารยาทเคารพผู้ใหญ่เป็อีกเื่หนึ่ง มันควรค่าที่จะละทิ้งศักดิ์ศรีความเป็มนุษย์ของตนเองหรือ?
อย่างไรก็ตาม เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งเครื่องบินไปปักกิ่งแล้ว เธอทั้งไม่ได้พาคนคุ้มกันไปด้วย และไม่อนุญาตให้คังเหว่ยกับเส้ากวงหรงแจ้งให้โจวเฉิงทราบล่วงหน้า
ปล่อยให้โจวเฉิงคิดว่าเธอกำลังสองจิตสองใจเลือกรถอยู่ เมื่อเธอปรากฏตัวกะทันหันต่อหน้าโจวเฉิง ค่อยถามโจวเฉิงดูว่าประหลาดใจหรือเปล่า คาดไม่ถึงใช่หรือไม่!
ระยะทางของรักทางไกลไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเซี่ยเสี่ยวหลาน ตราบใดที่ความสามารถในการหาเงินของเธอไม่หายไปไหน ไม่ว่าห่างไกลกันสักเพียงใด นั่งรถไฟมันชักช้าไม่ทันใจรึ เช่นนั้นซื้อตั๋วเครื่องบินก็หมดเื่แล้วไม่ใช่หรือ?
ปัญหาใหญ่ที่สุดของรักทางไกลคือไม่สามารถสื่อสารกันได้ทันท่วงที และตอนนี้เธอก็จะไปสื่อสารกับโจวเฉิงให้รู้แจ้งกัน!
----------------------------------------
ท่ามกลางฤดูร้อนอบอ้าว โจวเฉิงจามขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
ลูกน้องของโจวเฉิงยิ้มแฉ่ง “หัวหน้า พี่สะใภ้ของพวกเราคิดถึงคุณแน่เลย!”
เื่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานสอบเกาเข่านั้น โจวเฉิงไม่มีทางะโป่าวประกาศใส่ทั้งหน่วยงานผ่านโทรโข่ง ประเมินไว้ 584 คะแนน คะแนนอย่างเป็ทางการคือ 616 คะแนน อันดับหนึ่งสายวิทย์ประจำมณฑลอวี้หนานของปีนี้อะไรนั่น ล้วนเป็ความปลื้มปีติของโจวเฉิงเพียงคนเดียว ทว่าคนรอบข้างโจวเฉิงรับรู้กันทั้งนั้นว่า่นี้โจวเฉิงอารมณ์ดีเป็พิเศษ ลูกน้องถึงกล้าหัวร่อหยอกล้อเช่นนี้
“วันนี้เป็วันเกิดของพี่สะใภ้นายน่ะสิ คงจะดีมากถ้าหัวหน้ายอมอนุมัติวันหยุดให้ฉัน”
โจวเฉิงพูดคุยกับลูกน้องใต้บังคับบัญชาอย่างไม่มีพิธีรีตองเช่นเดียวกัน ปกติลูกน้องคนนี้จะช่วยเขาจัดการธุระกระจุกกระจิกในชีวิตประจำวัน รับพัสดุหรือส่งของ ก็เป็หน้าที่ของลูกน้องคนนี้ทั้งสิ้น แม้เขาไม่รู้สถานภาพของบ้านโจวโดยละเอียด ก็พอทราบว่าผู้บังคับบัญชาของตนเองน่าจะเป็ผู้มีอิทธิพล
อย่าตัดสินเพียงบ้านของพี่สะใภ้ที่อยู่ในชนบทอวี้หนาน บุคลิกท่าทางคราวก่อนนั้น เหมือนหญิงสาวจากชนบทเสียที่ไหน
แค่นาฬิกาข้อมือที่พี่สะใภ้ส่งมาให้หัวหน้าโจวครั้งล่าสุด ก็ทำเอาเกาเฟยคนรักของหัวหน้าฟางขวัญหนีดีฝ่อ ่นี้เกาเฟยไม่กล้าเข้าใกล้โจวเฉิงแล้ว ลูกน้องคิดว่านั่นเป็เพราะเธอรู้ตัวว่าสู้พี่สะใภ้ไม่ได้
แน่นอนว่านาฬิกาข้อมือดูดีมาก ลูกน้องตอบกลับด้วยความแปลกใจ “วันเกิดพี่สะใภ้? คุณไม่ได้สั่งให้ผมส่งของอะไรเลยนี่นา...”
ลูกน้องใช้สายตา “ทำไมคุณขี้งกขนาดนี้” มองเขา โจวเฉิงด่าแกมสัพยอก “นายจะไปรู้อะไร หาแฟนสักคนก่อนค่อยพูดเถอะ!”
เขาอยากนำของดีทุกสิ่งทุกอย่างมาถวายตรงหน้าภรรยาเขาใจจะขาด เพียงแต่คุณภรรยามักเกรงใจเขาเหมือนเป็คนนอก เอาแค่ความคิดที่คังเหว่ยเสนอนี้ ไม่รู้ว่าภรรยาของเขาจะยอมรับได้หรือไม่ คังเหว่ยก็ไม่โทร.บอกอะไรเขาหน่อยเลย ซื้อรถหรือไม่ได้ซื้อกันแน่ หากซื้อ เธอเลือกรถแบบไหน?
ตอนนี้มีรถบางประเภทที่เป็ทรงเหลี่ยมตรง ไม่เหมาะกับหญิงสาวนัก
ภายในรถเถื่อนที่ด่านศุลกากรยึดไว้ ไม่รู้ว่ามีแบบที่เซี่ยเสี่ยวหลานถูกใจหรือเปล่า
เมื่อก่อนโจวเฉิงไม่คิดว่าตนเองมีเงินน้อย ทว่าหลังจากทำความรู้จักกับราคาของรถยนต์นำเข้าพวกนั้นบ้างแล้ว เขาคิดว่าตัวเขาเองยังไม่บรรลุความร่ำรวย ของฟุ่มเฟือยอย่างรถยนต์นี้ มีทั้งราคาหลักหมื่นหยวน มีทั้งหลักหมื่นดอลลาร์ ยิ่งแพงยิ่งดี ดังนั้นจึงไม่มีเพดานราคา กระทั่งธุรกิจฝั่งคังเหว่ยก็ไม่สามารถหยุดราคาของรถยนต์เหล่านี้ได้ เขาอยู่ในหน่วยงานได้โดยไม่ลำบากก็จริง แต่ในอนาคตต้องดูแลภรรยาอีกนี่นา
โจวเฉิงคิดว่าเขาจำเป็ต้องขยันหมั่นเพียรมากขึ้นเพื่อเก็บเงินเพิ่ม อีกด้านหนึ่ง เหล่าฟางกลับพาเกาเฟยมาแจกขนมมงคล [1]
วันนี้เหล่าฟางใบหน้าอิ่มเอิบผ่องใส ระหว่างเขากับเกาเฟยเคยระหองระแหงกัน ทว่าเขาเข้าบ้านเกาเพื่อทาบทามเื่วิวาห์ด้วยตนเองแล้ว และบิดามารดาของเกาเฟยก็ตอบตกลงโดยแทบไม่ทำให้เขาลำบากใจ ข้ออ้างของเกาเฟยไม่เป็ผลอีกต่อไป ถ้ายังผัดผ่อนไม่ยอมแต่งงานอีก เหล่าฟางเองก็ไม่ได้โง่เง่า เดือนที่แล้ว เหล่าฟางยื่นรายงานสมรสต่อเบื้องบน ตอนนี้รายงานสมรสได้รับการอนุมัติเรียบร้อย เขากับเกาเฟยก็ต้องแต่งงานกันมิใช่หรือ?
ทางหน่วยงานจะเชิญเหล่าเพื่อนร่วมงานตำแหน่งเทียบเท่าเขา ตำแหน่งสูงกว่าเขา ตลอดจนผู้บังคับบัญชาที่ตำแหน่งต่ำกว่าเขารับประทานอาหารอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากหน่วยงาน บ้านเกาจะจัดงานเลี้ยงมงคลสมรสในโรงแรม บ้านเกิดของเหล่าฟางค่อนข้างแร้นแค้น เหล่าฟางเองก็ไม่อยากกลับไปสักเท่าไร จึงเชิญบิดามารดาเดินทางมาปักกิ่งแทนดีกว่า เื่นี้ทั้งสองครอบครัวสามารถหารือร่วมกันได้ เหล่าฟางหน้าชื่นตาบาน แจกจ่ายขนมมงคลไปทุกที่ สำหรับเื่แต่งงานนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถเดินนำหน้าโจวเฉิงแล้วจนได้
“เฮ้อ คบกับคนต่างถิ่นมันต่างจากคบกับคนปักกิ่งอยู่ดีนั่นแหละ โจวเฉิง ทำไมนายไม่หางานสักงานให้แฟนนายหน่อยเล่า พวกนายสองคนจะคบทางไกลกันแบบนี้น่ะรึ”
เชิงอรรถ
[1]喜糖 ขนมมงคล หรือ ขนมแห่งความยินดี เป็ขนมที่บ่าวสาวแจกให้คนรอบข้างเพื่อแจ้งว่ากำลังจะแต่งงาน ส่วนใหญ่มักเป็ช็อกโกแลต ลูกกวาด หรืออาจเป็ขนมตามวัฒนธรรมดั้งเดิมก็ได้เช่นกัน