ตลอดทางที่ผ่านมาเมื่อสักครู่ทุกอย่างดูราบรื่น ไม่ได้พบเื่เลวร้ายอันใด แต่ยิ่งเป็เช่นนี้จิตใจนางยิ่งไม่สงบ ประสบการณ์บอกกับนางว่า ยิ่งคลื่นลมสงบเท่าใด อันตรายยิ่งมีมากขึ้น
เป็ไปตามที่คาด โรงเตี๊ยมที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้านข้าง คนงานที่ทำงานอยู่บนชั้นสองทำเชือกหลุดมือ เสาที่ผูกติดอยู่กับเชือกนั้นพลันตกลงมา เห็นกับตาว่ากำลังจะตกใส่หัวของม้า!
มู่ชิงเซียวดึงบังเหียนกลับมากะทันหัน ม้าตื่นตระหนกจึงพุ่งทะยานไปข้างหน้า สลัดคนทั้งสองบนหลังม้าจนตกลงมาอย่างแรง!
เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกร่างกายเสียสมดุล คนทั้งคนลอยขึ้นมา จากนั้นกระแทกลงกับพื้นอย่างจัง
นาทีที่ตกลงสู่พื้นมีคนโอบรอบเอวของนาง ร่างของนางจึงตกลงมาบนร่างอ่อนนุ่มร่างหนึ่ง
แคร่ก!
เสียงกระดูกเคลื่อนที่ดังขึ้น
เฟิ่งเฉี่ยนหันกลับไปมองร่างที่รองรับตนไว้ ไม่ใช่คนอื่น เป็มู่ชิงเซียว กระดูกหัวไหล่ของเขาเคลื่อนเสียแล้ว
“พี่ใหญ่มู่ ท่านได้รับาเ็”
“ข้าไม่เป็ไร!” มู่ชิงเซียวฝืนฉีกรอยยิ้มให้นาง มุมปากนั้นค้างอยู่บนริมฝีปาก สายตาของเปลี่ยนไปทันใด ั์ตาของเขามีเงาของเสากลมๆ ต้นหนึ่งร่วงลงมา เขาร้องขึ้นด้วยความใ “ระวัง--”
จากนั้นเขาลุกขึ้นคร่อมร่างของนางไว้
เสียงดัง โครม!
มู่ชิงเซียวและเฟิ่งเฉี่ยนที่อยู่ใต้ร่างตกตะลึงพร้อมกัน
เสาอีกต้นหนึ่งตกลงบนแผ่นหลังของมู่ชิงเซียว
พรืด!
เืสดๆ พ่นออกมาจากริมฝีปากของเขา
ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“พี่ใหญ่มู่!” เฟิ่งเฉี่ยนตกตะลึง
ที่ตกตะลึงมิได้มีเพียงนางเท่านั้น
ชั้นบนของหอสุรา หลานเยว่หรูมองภาพที่มู่ชิงเซียวใช้ร่างกายของตนไปปกป้องเฟิ่งเฉี่ยนอย่างไม่กลัวตาย แขนขาทั้งสี่ของนางแข็งค้าง แทบจะหยุดลมหายใจ!
ศิษย์พี่มู่ปกป้องสตรีนางนั้นถึงขั้นไม่เอาชีวิตของตนเอง เืแห่งความริษยานั้นพลุ่งพล่านในอก นางรับไม่ได้จริงๆ!
เฟิงเฉี่ยน สตรีนางนั้น นางทำได้อย่างไร
ด้านล่างถนนท่ามกลางผู้คน มู่ชิงหว่านเห็นเหตุการณ์นี้เช่นกัน นางพุ่งเข้ามาอย่างร้อนรน!
“พี่รอง! พี่รอง! ท่านเป็อย่างไรบ้าง”
นางประคองมู่ชิงเซียวขึ้นมา และออกแรงผลักเฟิ่งเฉี่ยนออกไป “เ้ามันตัวซวย! เ้าคิดจะทำร้ายพี่รองข้าจนตายใช่หรือไม่ เ้าออกไปไกลๆ เลยนะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนถูกนางผลักจึงล้มลงไปนอนบนพื้นอีกครั้ง
“หว่านเอ๋อร์ อย่า!” มู่ชิงเซียวคิดจะขัดขวางน้องสาว แต่เพราะเมื่อสักครู่เขาได้รับาเ็สาหัส จึงได้แก่กระอักเืไม่หยุด
เฟิ่งเฉี่ยนเห็นเช่นนั้นนางรู้สึกผิดเหลือเกิน “พี่ใหญ่มู่ ท่านไม่ต้องสนใจข้า! คุณหนูมู่พูดถูกต้องแล้ว ข้าเป็ตัวซวย! ใครเข้าใกล้ข้าคนนั้นต้องดวงซวย! ท่านไปเสียเถิด!”
มู่ชิงเซียวเช็ดเืบริเวณมุมปากแล้วส่ายหน้า “ข้าไม่เป็ไร ข้าเคยพูดไว้ว่าข้าจะปกป้องเ้าเอง!”
กระบอกตาของเฟิ่งเฉี่ยนแดงก่ำ คลอคลองไปด้วยน้ำตา “พี่ใหญ่มู่ ข้าไม่คู่ควรให้ท่านดีต่อข้าเยี่ยงนี้!”
นางพลันหงายมือขึ้นเป็ใบมีดแล้วฟันฉับลงไปส่งผลให้มู่ชิงเซียวหมดสติทันที
มู่ชิงหว่านเบิกตากว้าง นางถลึงตาใส่เฟิ่งเฉี่ยน “เ้าทำอะไร”
เฟิ่งเฉี่ยนลุกขึ้นพูดอย่างมีสติ “หากเ้าไม่อยากให้เขาเกิดอุบัติเหตุอีก ให้รีบพาเขากลับไป! จำไว้ วันนี้ก่อนเที่ยง ห้ามไม่ให้เขามาข้าอีก!”
มู่ชิงหว่านรู้สึกสับสน แต่นางกวักมือเรียกข้ารับใช้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว “เด็กๆ! รีบประคองพี่รองของข้ากลับจวนสกุลมู่!”
ก่อนจากไปนางยังหันมามองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยสายตาคาดโทษ “เฟิงเฉี่ยน บัญชีนี้ข้าจะกลับมาคิดกับเ้า!”
พูดจบนางและบ่าวรับใช้ก็ประคองมู่ชิงเซียวจากไปพร้อมกัน
กระทั่งคนทั้งหมดเดินห่างไปไกล เฟิ่งเฉี่ยนจึงถอนสายตากลับมามองเสาที่ตกอยู่บนพื้น
หากกล่าวว่าเสาต้นแรกตกลงมาคืออุบัติเหตุ เช่นนั้นเสาต้นที่สองตกลงมานั้นมันบังเอิญเกินไป
เพราะนางสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าบนเสาต้นที่สองมีร่องรอยถูกฟันของเชือกจากกระบี่ คิดจะฉวยโอกาสโจมตี จับปลาในน้ำขุ่น
เป็ใครกันแน่ที่ลอบคิดบัญชีกับนาง
เฟิ่งเฉี่ยนเงยหน้าขึ้น มองขึ้นไปบนชั้นสองของหอสุรา มองเพียงปราดเดียวก็เห็นเงาร่างของหลานเยว่หรูและพี่ชายของนาง หลินไห่เฟิง ทันที นางกระจ่างแจ้งโดยพลัน ที่แท้เป็พวกเขาที่ลอบลงมือในที่ลับ
นางแค่นหัวเราะเสียงเย็นในใจ นางเป็คนไม่หาเื่ใครก่อน แต่กลับมีคนบางคนมือคัน ้าให้นางช่วยเกา นางจะให้อีกฝ่ายผิดหวังได้อย่างไร
พวกเ้ามิใช่อยากจับปลาน้ำขุ่นหรอกหรือ
ข้าจะมอบ “ของขวัญชิ้นใหญ่” ให้พวกเ้าเอง!
ทุกคนมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน!
ถูกต้อง นางจะหาคนมาช่วยรับเคราะห์แทน!
หลานเยว่หรูและหลินไห่เฟิง เป็ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด!
พูดแล้วทำทันที!
เฟิ่งเฉี่ยนเดินขึ้นชั้นสองยิ้มๆ นางเข้าไปโบกมือทักทายคนทั้งสอง “คุณหนูหลาน ไม่พบกันนานมาก! ใบหน้าของเ้าหายดีแล้วหรือไม่”
พูดแล้วก็หันไปทักทายหัวหน้ามือปราบหลิน “มือปราบหลิน เ้าก็อยู่ด้วยหรือ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหน”
มาถึงก็ซ้ำเติมความเ็ปของคนทั้งสอง พวกเขาโมโหเสียจนหน้าเขียว
หลานเยว่หรูร้องฮึ “เ้ามาทำอะไรกัน พวกเราไม่ต้อนรับเ้า!”
เฟิ่งเฉี่ยนไม่แยแสนางแม้แต่น้อย นางยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส “อย่าปฏิเสธคนเช่นนี้สิ! ข้ามาทักทายพวกเ้าด้วยความจริงใจ!”
พูดไปพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้โต๊ะแล้วดูอาหารบนโต๊ะ “ไก่เมาสุรา แกงจืดปลาเหลือง ยังมีกระดูกหมูตุ๋นพุทราแดง...ทั้งสองท่านช่างมีลาภปาก!”
พลันมีเสียง แคร่ก ดังขึ้น!
ขาโต๊ะข้างหนึ่งหัก อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะทั้งหมดนั้นเทกระจาดลงมาเต็มพื้น
“อ๊า!” เสียงร้องด้วยความใดังขึ้น ทว่ากลับมิได้ดังขึ้นจากเฟิ่งเฉี่ยน เพราะนางหลบไปอยู่ด้านหลังหลานเยว่หรูั้แ่แรกแล้ว น้ำแกงจึงกระเด็นเข้าใส่ร่างของหลานเยว่หรู
หลานเยว่หรูหน้าถอดสีด้วยความตื่นตะลึง นางเอนกายไปด้านหลัง
นางหลบหลีกไปได้ครั้งหนึ่ง ทว่าครั้งที่สองกลับหลบหลีกไม่ได้
เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อร์ประคองน้ำแกงร้อนๆ มาหม้อหนึ่ง ััที่หกของเฟิ่งเฉี่ยนบอกตนเองว่าเทพเ้าแห่งความโชคร้ายคงไม่ปล่อยให้นางรอดไปจากโอกาสที่จะโชคร้าย!
เป็ไปตามที่คาดเอาไว้ เสี่ยวเอ้อร์เดินสะดุดอย่างไร้สาเหตุ น้ำแกงร้อนๆ ทั้งหม้อจึงสาดข้ามมา
เฟิ่งเฉี่ยนกดหัวไหล่ทั้งสองข้างของหลานเยว่หรูเอาไว้แน่น นางแสร้งทำทีเป็ใ “ช่วยด้วย ข้ากลัว!”
หลานเยว่หรูรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ นางคิดจะหนีทว่าสายเกินไปแล้ว นางคิดจะยกมือขึ้นบังเอาไว้ ทว่ามือทั้งสองข้างถูกเฟิ่งเฉี่ยนควบคุมเอาไว้ เห็นน้ำแกงร้อนปุดๆ ที่กำลังสาดเข้ามานางส่งเสียงร้องด้วยความใ “อ๊า! ใบหน้าของข้า--”
เมื่อถึงนาทีวิกฤติเฟิ่งเฉี่ยนยังคงใจอ่อนอยู่นั่นเอง นางลากหลานเยว่หรูถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว น้ำแกงเดือดๆ นั้นจึงไม่ได้สาดใส่ใบหน้าของหลานเยว่หรู แต่สาดเข้าไปที่หน้าอกของนาง ความร้อนลวกนั้นส่งผลให้นางกรีดร้องเสียงแหลม
“น้องสาว!” หลินไห่เฟิงดึงกระบี่ออกมาชี้ไปทางเฟิ่งเฉี่ยน “เฟิงเฉี่ยน เ้าจะรังแกกันเกินไปแล้ว!”
เฟิ่งเฉี่ยนปล่อยมือแล้วพูดด้วยสีหน้าท่าทางของผู้บริสุทธิ์ “มือปราบหลิน เ้าพูดอะไรกัน ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น!”
นางก็แค่ใช้ประโยชน์จากเทพเ้าแห่งความโชคร้าย ภัยมาจากทิศบูรพา อบรมสั่งสอนหลานเยว่หรูเท่านั้นเอง
ใครใช้พวกเขาลอบลงมืออย่างเหี้ยมโหด คิดจะใช้เสากระแทกนางให้ตาย ทว่าสุดท้ายกลับทำให้พี่ใหญ่มู่รับาเ็แทนนาง
นี่แหละหนอที่เขากล่าวไว้ว่า ทำร้ายผู้อื่น ผู้อื่นรอดมาได้ แต่ไม่อาจหนีรอดผลกรรมที่ตนเองทำเอาไว้
เมื่อคิดจะทำร้ายผู้อื่น ย่อมควรคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาด้วย!
ริมฝีปากบางนั้นยกยิ้มเ็า นางก้าวเข้าไปหาหลินไห่เฟิง หากนางไม่ได้เดาผิดแล้วละก็ เมื่อสักครู่ผู้ที่ใช้กระบี่ก็คือเขา!
ตอนแรกหลินไห่เฟิงเต็มไปด้วยความดุดัน แต่เมื่อพบว่านางเป็ฝ่ายบีบบังคับเขาให้จนตรอก เขาถึงกับเริ่มรู้สึกลนลานอย่างหาสาเหตุไม่ได้
คิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ราวกับถูกคุณไสยก็ไม่ปาน!
ดูเหมือนนางจะถูกเทพเ้าแห่งความโชคร้ายตามติดตัวจริงๆ ใครเข้าใกล้คนผู้นั้นต้องดวงซวย!
เขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยจึงถอยไปด้านหลัง “หยุดนะ! เ้าอย่าเข้ามา!”